ตัดสินใจลงกระทู้พันทิปเพราะเห็นในหลาย ๆ กระทู้ ตามหาคนดูนั่งที่นั่งข้าง ๆ เขายังมีโอกาสได้เจอและได้การตอบกลับและหวังว่าความหวังของฉันครั้งนี้ก็อาจจะสมหวังได้เหมือนคนอื่นๆ มันไม่ใช่เรื่องเพ้อเจ้อนะ เริ่มเลยแล้วกัน
29/03/59 สายbts บางหว้า เวลาประมาณ 16.30 เป็นต้นไป ฉันเดินทางด้วยรถไฟฟ้า bts มาจากสายสุขุมวิทต้องไปเปลี่ยนเส้นทางที่สยามเพราะต้องลงสถานีวงเวียนใหญ่ เรื่องมันเกิดขึ้นตอนเปลี่ยนสถานีนั่นแหละ ถ้าจำไม่ผิดคือฉันขึ้นโบกี้ที่ 1 ประตูทางเข้าที่สอง คนค่อนข้างบางตาแต่ที่นั่งก็เต็มที่ยืนเกาะราวก็มีคนเต็มแต่ไม่ถึงขนาดแออัด หลังจาดเข้ารถไฟฟ้ามาแล้วก็ต้องหาทำเลให้ตัวเองฉันยืนเกาะห่วงที่ปลายโบกี้ที่ 1 จากนั้น ก็เริ่มทำสิ่งที่คุ้นเคยคือจะสำรวจสิ่งแวดล้อมรอบ ๆ ตัวเองว่ามีใครทำอะไร แสกนงานนั่นเอง มองไปรอบ ๆ โบกี้ที่หนึ่งและ เห้ยยย งานดีอะ หน้าเนียนใสกิ๊ง หน้ายาวขาว ตี๋ มันใช่เลยอะแก (คิดในใจแล้วฉันก็อมยิ้ม คือ เขิน นี่เป็นบ้าอะไร) โหหุ่นดีอะสูง แต่ไม่ใช่คนหุ่นล่ำบึ๊กออกแนวผอมบาง เขาอยู่หัวขบวนที่ประตูหนึ่ง (นี่ก็ตาดีจริง ๆ มองทะลุทุกคนไปหมด มีคนยืนอยุ่บ้างนะ แต่มีช้ช่องพอให้มองเห็นใบหน้า) เราก็เนียน ๆ เลยค่ะ ที่จริงคือมองหน้าเขาแหละแต่ว่า เสแสร้งแกล้งแบบสำรวจรอบ ๆ สายตาไม่ได้โฟกัสหยุดที่หน้าเขาแต่มองผ่าน ๆ และบ่อยมั้ง ใจหนึ่งก็ลุ้นเขาจะลงสถานีไหนว้ะเนี่ย อย่าพึงลงนะนะอย่าพึ่งลงมาเป็นอาหารตาอาหารใจให้ก่อน 555+++ สถานีช่องนนทรีคนก็ลงบ้างแล้วแล้วแบบเห้ยมองเขาได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นแบบขนาดสวมเสื้อยืดธรรมดากางเกงขาสั้นสะพายเป้สีดำเฉย ๆ แต่ตัวธรรมดามากยังดูดีอะ ปากนิด จมูกหน่อย (โอ้ยตายฉันอมยิ้มกับตัวเองอีกแล้ว) แต่แบบฉันมองเธอบ่อยไปเหรอ ฉันว่าเขาคงรู้ตัวมั้ง เขามองฉันกลับมาด้วนนะรู้สึกว่าเป็นแบบนั้น (เอ๊ะ หรือฉันมโนไปเอง บ้าไปแล้ว) เขามองมองที่ฉันบ้างแหละเพราะสายตาเราสบกันนิดนึงแต่แบบฉันหลบสายตา ตอนนั้นฟังเพลงอยู่แต่เพลงอะไรไม่รู้แต่รู้ตอนนี้หัวใจเต้นแรงมาก เพราะสรศักดิ์คนก็ลงไปอีกคนยืนบางตาที่ราวเกาะมีสัก 5 คน แล้วเขาจากยืนแถวประตูก็ขยับเข้ามาเกาะห่วงแต่เราอยู่คนละด้าน (เขาอยู่แถวต้นฉันท้ายแต่ก็ห่วงกันประมาณแค่ 8 ราวเกาะมั้ง) เห้ยยยย เขาสนใจฉันเหมือนกันเหรอ คืออะไร ทั้ง ๆ ที่มีที่ว่างตั้งมากมายเขาย้ายเข้ามาเกาะราวทำไมว้ะ (เพราะคิดว่าถ้าได้ที่ยืนที่เหมาะ ๆ แล้วก็มักจะไม่ย้ายที่) เขาขยับเข้ามา สะพานตากสินก็ลงไปอีกคนเกาะที่ราวมีสัก 4 คนรวมเขาและฉัน แล้วเขาก็ย้ายห่วงเกาะเข้ามาใกล้ฉันอีกหนึ่งห่วง ในใจตอนนี้คือเห้ยเขามองฉันตอบด้วยเหรอ ทำไงว้ะจะปล่อยให้มันผ่านไปหรือว่าจะเข้าไปขอไลน์ดี แต่น่าเกลียดมั้ง ผญ จีบ ผช นี่นะ บ้าไปแล้ว เรานี่ไม่เคยมีแฟนเลยนะแล้วแบบคนนี้มันเป็น first impression จริง ๆ ) ทำไง ๆ หรือที่เขามองคือเราแต่งตัวแปลก ปากชมพูเกินไปหรือเปล่า หรือสีผมมันแดงเกินไป (เราแต่งตัวชุดดำล้วน เสื้อเชิ้ตสีดำแขนสั้น กางเกงขายาว มัดผมขึ้นย้อมสีผมและแบกกระเป๋าเป้สีน้ำเงินลายดอกไม้) สแต่แล้ว...เสียงดังขึ้น วงเวียนใหญ่ ต้องลงแล้วอะหรือฉันจะตามเขาไปดีนะจะได้รู้ว่าลงสถานีไหน เฮ้จะโรคจิตเกินไปหรือเปล่านี่ วงเวียนใหญ่ อื้ออออ ลงๆ พอลงเท่านั้นล่ะก็คิดว่าเขาจะตามเรามาหรือเปล่าเนี่ย หันหลังไปดูปุ๊บ เฮ้ยยยย ไม่มี นี่ฉันต้องจาก ผช ในฝันไปโดยที่ไม่ลงมือทำอะไรเลยเหรอเนี่ย ทำไมป๊อดแบบนี้ มีโอกาสแต่ไม่คว้า แล้วฉันก็เก็บเรื่องนี้ไปเล่าให้เพื่อนสนิทฟัง
ฉัน ; ๆ กูเจอ ผช ใน ฝันบนรถไฟฟ้า บลา ๆ เพื่อน; มดนค่เพื่อน
ฉัน ; กูไม่ได้มโนนะ กูว่าเขามองกูกลับมาจริง ๆ แล้วอฃแบบกูรู้สึกว่ากูต้องได้เจอเขาอีกแน่ ถ้ากูเจอเขาอีกรอบนะ หมายถึงว่านั่นคือพรหมลิขิตของกู ชัดเจน กูจะต้องได้เฟสบุ้คเว้ย
30/30/59 ประมาณ 11.30 เป็นต้นไป
มาโดยสารรถฟ้าอีกฉันชอบเดินขึ้นบันไดฝั่งแรกถือเป็นการออกกำลังกายอยู่แล้วจึงมักได้ขึ้นรถไฟฟ้าโบกี้ต้น ๆ เสมอ ในใจก็คิดจะได้เจออีกไหมว้ะ ถ้าได้เจอนี่คือ มันแบบต้องได้เฟสบุคหรืออะไรเอาไว้ติดต่อนะเว้ย เอ๊ะ ถ้าเขาเป็นเกย์ล่ะว้ะ ม่ายยยย ยังไงต้องลองขอก่อนโอเคมะ ถ้าเจอต้องได้ค่ะ เขามาในขบวนปุ๊บก็เข้าโบกี้แรกประตุที่สองเหมืองเดิม ฉันก็หาทำเลที่นั่งเต็มหมดแล้วต้องยืนและเกาะห่วงเหมืองเดิม แต่ไปเกาะที่ราวกลางโบกี้ที่ 2 กิจวัตรเช่นเดิมคือได้ที่เหมาะแล้วก็เริ่มมองสำรวจๆ สิ่งแวดล้อมรอบตัว ฉันหันหน้าไปทางโบกี้ที่หนึ่งคนไม่แน่นมากแต่ก็เกาะกันเต็มราวเลย มองผ่านคนที่ยืนเกาะทั้งหมดแล้วมองไปถึงแถวที่นั่งฝั่งขวาที่นั่งที่สองของขบวน ร้องเห้ยหนักมากแบบ คนเมื่อวาน นี่ เขานั่งกดโทรศัพท์อยู่แต่ตัวคล้าย ๆ เมื่อวานเลย เสื้อยืดสีเขียวกางเกงขาสั้นสีครีมและสะพายเป้ (ขนาดมีช่องเล็ก แค่นั้นฉันยังมองเห็นเขาได้ชัดเจน แต่เขามองไม่เห็นฉันแน่เลย แนแต่งตัวด้วยเสื้อสวมสีส้มกระโปรงสีดำเลยเข่า แบกเป้เหมือนเมื่อวาน และมีกระเป๋ษสะพายข้างด้วย) เขานั่งกดโทรศัพท์ ฉันก็มองเขามากับใครว่าแต่ท่าทางน่าจะมาคนเดียว (คือแบบเขินมากรู้เลยว่ายี่เป็นบ้ายิ้มอยู่คนเดียว) ใจมันเต้นรัว ๆ ไลน์ก็ยังดี ทำไง ๆ คนก็เริ่มเข้ามาในขบวนแน่นกว่าเดิมอีก เขาก็มัวแต่กดโทรศัพท์ เขาจะลงสถานีไหนว้ะ สาธุขอให้ลงสยาม นี่เขาลงหรือยังฉันก็มอง ๆ เห้ย ยังไม่ลงเว้ย มีลุ้นแฮะ สยาม...ท่านสามารถ บลา ๆ เขาออกไหมเนี่ย หรือเขาไหนแล้วฉันจะตามเขาไปดี (เข้าขั้นคลั่ง) ปรากฏว่าเขาลงที่สยามเขาเดินออกประตูโบกี้แรกไปแล้ว ฉันต้องตามไปสิฉันออกประตูที่สอง ชะเง้อไปไหนแล้วว้ะ หา... เขาเดินมาทางนี้เราก็รอจังหวะ เดินมาแล้วเราก็แกล้ง ๆ เดินไปกับเขาแต่เราไปกันคนละทางทำไงดี เขาคือขวดน้ำด้วยล่ะเทียบกันแล้วเขาสูงจังขาเล็ก เนียน ดูดีจัง ไหนล่ะจะขอไลน์อะ เขาไปแล้ว เดินลงไปฝั่งประตูทางแถวข้างล่างเห้ออ หรือเขาจะอยู่ที่สยามนะ หรือจะเป็นนักศึกษาแถวนี้หรือเขาจะไปไหนต่อเนี่ยยยยย สุดท้ายก็ได้แต่โบกมืออำลาสินะ พรหมลิขิตของฉันจะเจอกันแค่นั้นเองเหรอ (ใจนี่ก็ป๊อดไป) โอกาสมีมาตั้งสองครั้งแล้วฉันก็พลาดเหรอ? ม่ายยจะไม่เป็นแบบนี้ใช่ไหมฉันยังไม่ได้พยายามเลย ฉันต้องได้เจอเธออีกแน่ (แต่รู้สึกเหมือนอกหักเลย) อยากให้ทุกคนที่มีโอกาสเช่นนี้ให้ลงมือทำเลยอย่างน้อยก็จะได้ไม่ต้องรู้สึกค้างคาถึงเขาจะปฏิเสธมาแต่คือยังไงเราคงไม่ได้เจอเขาบ่อยขนาดนั้นมั้งเดี๋ยวก็ลืม แต่ถ้าได้รับการตอบรับกลับมาสิ หื้มมมมม มันก็น่าเสี่ยงนะ โอกาสมาให้ไขว่คว้าเอาไว้ค่ะอย่าปล่อยให้มันหลุดมือ
แล้วฉันจะได้เจอเธออีกไหม? ตามหาชายในฝัน บนรถ bts มันไม่ใช่แค่คนที่สวนทางกันแต่มันคือพรหมลิขิต
29/03/59 สายbts บางหว้า เวลาประมาณ 16.30 เป็นต้นไป ฉันเดินทางด้วยรถไฟฟ้า bts มาจากสายสุขุมวิทต้องไปเปลี่ยนเส้นทางที่สยามเพราะต้องลงสถานีวงเวียนใหญ่ เรื่องมันเกิดขึ้นตอนเปลี่ยนสถานีนั่นแหละ ถ้าจำไม่ผิดคือฉันขึ้นโบกี้ที่ 1 ประตูทางเข้าที่สอง คนค่อนข้างบางตาแต่ที่นั่งก็เต็มที่ยืนเกาะราวก็มีคนเต็มแต่ไม่ถึงขนาดแออัด หลังจาดเข้ารถไฟฟ้ามาแล้วก็ต้องหาทำเลให้ตัวเองฉันยืนเกาะห่วงที่ปลายโบกี้ที่ 1 จากนั้น ก็เริ่มทำสิ่งที่คุ้นเคยคือจะสำรวจสิ่งแวดล้อมรอบ ๆ ตัวเองว่ามีใครทำอะไร แสกนงานนั่นเอง มองไปรอบ ๆ โบกี้ที่หนึ่งและ เห้ยยย งานดีอะ หน้าเนียนใสกิ๊ง หน้ายาวขาว ตี๋ มันใช่เลยอะแก (คิดในใจแล้วฉันก็อมยิ้ม คือ เขิน นี่เป็นบ้าอะไร) โหหุ่นดีอะสูง แต่ไม่ใช่คนหุ่นล่ำบึ๊กออกแนวผอมบาง เขาอยู่หัวขบวนที่ประตูหนึ่ง (นี่ก็ตาดีจริง ๆ มองทะลุทุกคนไปหมด มีคนยืนอยุ่บ้างนะ แต่มีช้ช่องพอให้มองเห็นใบหน้า) เราก็เนียน ๆ เลยค่ะ ที่จริงคือมองหน้าเขาแหละแต่ว่า เสแสร้งแกล้งแบบสำรวจรอบ ๆ สายตาไม่ได้โฟกัสหยุดที่หน้าเขาแต่มองผ่าน ๆ และบ่อยมั้ง ใจหนึ่งก็ลุ้นเขาจะลงสถานีไหนว้ะเนี่ย อย่าพึงลงนะนะอย่าพึ่งลงมาเป็นอาหารตาอาหารใจให้ก่อน 555+++ สถานีช่องนนทรีคนก็ลงบ้างแล้วแล้วแบบเห้ยมองเขาได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นแบบขนาดสวมเสื้อยืดธรรมดากางเกงขาสั้นสะพายเป้สีดำเฉย ๆ แต่ตัวธรรมดามากยังดูดีอะ ปากนิด จมูกหน่อย (โอ้ยตายฉันอมยิ้มกับตัวเองอีกแล้ว) แต่แบบฉันมองเธอบ่อยไปเหรอ ฉันว่าเขาคงรู้ตัวมั้ง เขามองฉันกลับมาด้วนนะรู้สึกว่าเป็นแบบนั้น (เอ๊ะ หรือฉันมโนไปเอง บ้าไปแล้ว) เขามองมองที่ฉันบ้างแหละเพราะสายตาเราสบกันนิดนึงแต่แบบฉันหลบสายตา ตอนนั้นฟังเพลงอยู่แต่เพลงอะไรไม่รู้แต่รู้ตอนนี้หัวใจเต้นแรงมาก เพราะสรศักดิ์คนก็ลงไปอีกคนยืนบางตาที่ราวเกาะมีสัก 5 คน แล้วเขาจากยืนแถวประตูก็ขยับเข้ามาเกาะห่วงแต่เราอยู่คนละด้าน (เขาอยู่แถวต้นฉันท้ายแต่ก็ห่วงกันประมาณแค่ 8 ราวเกาะมั้ง) เห้ยยยย เขาสนใจฉันเหมือนกันเหรอ คืออะไร ทั้ง ๆ ที่มีที่ว่างตั้งมากมายเขาย้ายเข้ามาเกาะราวทำไมว้ะ (เพราะคิดว่าถ้าได้ที่ยืนที่เหมาะ ๆ แล้วก็มักจะไม่ย้ายที่) เขาขยับเข้ามา สะพานตากสินก็ลงไปอีกคนเกาะที่ราวมีสัก 4 คนรวมเขาและฉัน แล้วเขาก็ย้ายห่วงเกาะเข้ามาใกล้ฉันอีกหนึ่งห่วง ในใจตอนนี้คือเห้ยเขามองฉันตอบด้วยเหรอ ทำไงว้ะจะปล่อยให้มันผ่านไปหรือว่าจะเข้าไปขอไลน์ดี แต่น่าเกลียดมั้ง ผญ จีบ ผช นี่นะ บ้าไปแล้ว เรานี่ไม่เคยมีแฟนเลยนะแล้วแบบคนนี้มันเป็น first impression จริง ๆ ) ทำไง ๆ หรือที่เขามองคือเราแต่งตัวแปลก ปากชมพูเกินไปหรือเปล่า หรือสีผมมันแดงเกินไป (เราแต่งตัวชุดดำล้วน เสื้อเชิ้ตสีดำแขนสั้น กางเกงขายาว มัดผมขึ้นย้อมสีผมและแบกกระเป๋าเป้สีน้ำเงินลายดอกไม้) สแต่แล้ว...เสียงดังขึ้น วงเวียนใหญ่ ต้องลงแล้วอะหรือฉันจะตามเขาไปดีนะจะได้รู้ว่าลงสถานีไหน เฮ้จะโรคจิตเกินไปหรือเปล่านี่ วงเวียนใหญ่ อื้ออออ ลงๆ พอลงเท่านั้นล่ะก็คิดว่าเขาจะตามเรามาหรือเปล่าเนี่ย หันหลังไปดูปุ๊บ เฮ้ยยยย ไม่มี นี่ฉันต้องจาก ผช ในฝันไปโดยที่ไม่ลงมือทำอะไรเลยเหรอเนี่ย ทำไมป๊อดแบบนี้ มีโอกาสแต่ไม่คว้า แล้วฉันก็เก็บเรื่องนี้ไปเล่าให้เพื่อนสนิทฟัง
ฉัน ; ๆ กูเจอ ผช ใน ฝันบนรถไฟฟ้า บลา ๆ เพื่อน; มดนค่เพื่อน
ฉัน ; กูไม่ได้มโนนะ กูว่าเขามองกูกลับมาจริง ๆ แล้วอฃแบบกูรู้สึกว่ากูต้องได้เจอเขาอีกแน่ ถ้ากูเจอเขาอีกรอบนะ หมายถึงว่านั่นคือพรหมลิขิตของกู ชัดเจน กูจะต้องได้เฟสบุ้คเว้ย
30/30/59 ประมาณ 11.30 เป็นต้นไป
มาโดยสารรถฟ้าอีกฉันชอบเดินขึ้นบันไดฝั่งแรกถือเป็นการออกกำลังกายอยู่แล้วจึงมักได้ขึ้นรถไฟฟ้าโบกี้ต้น ๆ เสมอ ในใจก็คิดจะได้เจออีกไหมว้ะ ถ้าได้เจอนี่คือ มันแบบต้องได้เฟสบุคหรืออะไรเอาไว้ติดต่อนะเว้ย เอ๊ะ ถ้าเขาเป็นเกย์ล่ะว้ะ ม่ายยยย ยังไงต้องลองขอก่อนโอเคมะ ถ้าเจอต้องได้ค่ะ เขามาในขบวนปุ๊บก็เข้าโบกี้แรกประตุที่สองเหมืองเดิม ฉันก็หาทำเลที่นั่งเต็มหมดแล้วต้องยืนและเกาะห่วงเหมืองเดิม แต่ไปเกาะที่ราวกลางโบกี้ที่ 2 กิจวัตรเช่นเดิมคือได้ที่เหมาะแล้วก็เริ่มมองสำรวจๆ สิ่งแวดล้อมรอบตัว ฉันหันหน้าไปทางโบกี้ที่หนึ่งคนไม่แน่นมากแต่ก็เกาะกันเต็มราวเลย มองผ่านคนที่ยืนเกาะทั้งหมดแล้วมองไปถึงแถวที่นั่งฝั่งขวาที่นั่งที่สองของขบวน ร้องเห้ยหนักมากแบบ คนเมื่อวาน นี่ เขานั่งกดโทรศัพท์อยู่แต่ตัวคล้าย ๆ เมื่อวานเลย เสื้อยืดสีเขียวกางเกงขาสั้นสีครีมและสะพายเป้ (ขนาดมีช่องเล็ก แค่นั้นฉันยังมองเห็นเขาได้ชัดเจน แต่เขามองไม่เห็นฉันแน่เลย แนแต่งตัวด้วยเสื้อสวมสีส้มกระโปรงสีดำเลยเข่า แบกเป้เหมือนเมื่อวาน และมีกระเป๋ษสะพายข้างด้วย) เขานั่งกดโทรศัพท์ ฉันก็มองเขามากับใครว่าแต่ท่าทางน่าจะมาคนเดียว (คือแบบเขินมากรู้เลยว่ายี่เป็นบ้ายิ้มอยู่คนเดียว) ใจมันเต้นรัว ๆ ไลน์ก็ยังดี ทำไง ๆ คนก็เริ่มเข้ามาในขบวนแน่นกว่าเดิมอีก เขาก็มัวแต่กดโทรศัพท์ เขาจะลงสถานีไหนว้ะ สาธุขอให้ลงสยาม นี่เขาลงหรือยังฉันก็มอง ๆ เห้ย ยังไม่ลงเว้ย มีลุ้นแฮะ สยาม...ท่านสามารถ บลา ๆ เขาออกไหมเนี่ย หรือเขาไหนแล้วฉันจะตามเขาไปดี (เข้าขั้นคลั่ง) ปรากฏว่าเขาลงที่สยามเขาเดินออกประตูโบกี้แรกไปแล้ว ฉันต้องตามไปสิฉันออกประตูที่สอง ชะเง้อไปไหนแล้วว้ะ หา... เขาเดินมาทางนี้เราก็รอจังหวะ เดินมาแล้วเราก็แกล้ง ๆ เดินไปกับเขาแต่เราไปกันคนละทางทำไงดี เขาคือขวดน้ำด้วยล่ะเทียบกันแล้วเขาสูงจังขาเล็ก เนียน ดูดีจัง ไหนล่ะจะขอไลน์อะ เขาไปแล้ว เดินลงไปฝั่งประตูทางแถวข้างล่างเห้ออ หรือเขาจะอยู่ที่สยามนะ หรือจะเป็นนักศึกษาแถวนี้หรือเขาจะไปไหนต่อเนี่ยยยยย สุดท้ายก็ได้แต่โบกมืออำลาสินะ พรหมลิขิตของฉันจะเจอกันแค่นั้นเองเหรอ (ใจนี่ก็ป๊อดไป) โอกาสมีมาตั้งสองครั้งแล้วฉันก็พลาดเหรอ? ม่ายยจะไม่เป็นแบบนี้ใช่ไหมฉันยังไม่ได้พยายามเลย ฉันต้องได้เจอเธออีกแน่ (แต่รู้สึกเหมือนอกหักเลย) อยากให้ทุกคนที่มีโอกาสเช่นนี้ให้ลงมือทำเลยอย่างน้อยก็จะได้ไม่ต้องรู้สึกค้างคาถึงเขาจะปฏิเสธมาแต่คือยังไงเราคงไม่ได้เจอเขาบ่อยขนาดนั้นมั้งเดี๋ยวก็ลืม แต่ถ้าได้รับการตอบรับกลับมาสิ หื้มมมมม มันก็น่าเสี่ยงนะ โอกาสมาให้ไขว่คว้าเอาไว้ค่ะอย่าปล่อยให้มันหลุดมือ