๗. โธวนสูตร
ว่าด้วยการล้างของพระอริยะ
[๑๐๗] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ในทักษิณาชนบท มีธรรมเนียมการ
ล้างกระดูกแห่งญาติผู้ตาย ในธรรมเนียมการล้างกระดูกนั้น มีข้าวบ้าง
น้ำบ้าง ของขบเคี้ยวบ้าง ของบริโภคบ้าง เครื่องลิ้มบ้าง เครื่องดื่มบ้าง
การฟ้อนบ้าง เพลงขับบ้าง การประโคมบ้าง ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม-
เนียมการล้างนั้นมีอยู่ เรามิได้กล่าวว่า ไม่มี แต่ว่าการล้างนั้นแลเป็นของ
เลว เป็นของชาวบ้าน เป็นของปุถุชน ไม่เป็นของพระอริยะ ไม่ประกอบ
ด้วยประโยชน์ ย่อมไม่เป็นไปเพื่อความเบื่อหน่าย เพื่อความคลายกำหนัด
เพื่อความดับ เพื่อความสงบ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อตรัสรู้ เพื่อนิพพาน
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็เราจักแสดงการล้างอันเป็นของพระอริยะ ซึ่งเป็น
ไปเพื่อความเบื่อหน่าย เพื่อความคลายกำหนัด เพื่อความดับ เพื่อความ
สงบ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อตรัสรู้ เพื่อนิพพานโดยส่วนเดียว ที่สัตว์ทั้ง-
หลายมีความเกิดเป็นธรรมดาอาศัยแล้ว ย่อมพ้นจากความเกิด ผู้มีความ
แก่เป็นธรรมดา ย่อมพ้นจากความแก่ ผู้มีความตายเป็นธรรมดา ย่อม
พ้นจากความตาย ผู้มีความโศก ความร่ำไร ความทุกข์ ความโทมนัส
และความคับแค้นใจเป็นธรรมดา ย่อมพ้นจากความโศก ความร่ำไร
ความทุกข์ ความโทมนัส และความคับแค้นใจ เธอทั้งหลายจงฟัง จงใส่
ใจให้ดี เราจักกล่าว ภิกษุเหล่านั้นทูลรับพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว พระ-
ผู้พระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็การล้างที่เป็นของพระอริยะ
ย่อมเป็นไปเพื่อความเบื่อหน่าย เพื่อความคลายกำหนัด เพื่อความดับ
เพื่อความสงบ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อตรัสรู้ เพื่อนิพพานโดยส่วนเดียว ที่สัตว์
ทั้งหลายผู้มีความเกิดเป็นธรรมดาอาศัยแล้ว ย่อมพ้นจากความเกิด . . .
จากความโศก ความร่ำไร ความทุกข์ ความโทมนัส และความดับแค้นใจ
ได้นั้น เป็นไฉน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้มีความเห็นชอบ ย่อมล้าง
ความเห็นผิด ล้างอกุศลบาปธรรมเป็นอันมาก ที่เกิดขึ้นเพราะความเห็นผิด
เป็นปัจจัย และกุศลธรรมเป็นอันมาก ย่อมถึงความเจริญบริบูรณ์ เพราะ
ความเห็นชอบเป็นปัจจัย.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้มีความดำริชอบ ย่อมล้างความดำริผิด . . .
ไม่รู้ว่า ธรรมเนียมการล้างกระดูก มีความสนุกสนานแบบไหน ทำไมพระพุทธเจ้าถึงกล่าวว่าเป็นของเลว
ว่าด้วยการล้างของพระอริยะ
[๑๐๗] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ในทักษิณาชนบท มีธรรมเนียมการ
ล้างกระดูกแห่งญาติผู้ตาย ในธรรมเนียมการล้างกระดูกนั้น มีข้าวบ้าง
น้ำบ้าง ของขบเคี้ยวบ้าง ของบริโภคบ้าง เครื่องลิ้มบ้าง เครื่องดื่มบ้าง
การฟ้อนบ้าง เพลงขับบ้าง การประโคมบ้าง ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม-
เนียมการล้างนั้นมีอยู่ เรามิได้กล่าวว่า ไม่มี แต่ว่าการล้างนั้นแลเป็นของ
เลว เป็นของชาวบ้าน เป็นของปุถุชน ไม่เป็นของพระอริยะ ไม่ประกอบ
ด้วยประโยชน์ ย่อมไม่เป็นไปเพื่อความเบื่อหน่าย เพื่อความคลายกำหนัด
เพื่อความดับ เพื่อความสงบ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อตรัสรู้ เพื่อนิพพาน
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็เราจักแสดงการล้างอันเป็นของพระอริยะ ซึ่งเป็น
ไปเพื่อความเบื่อหน่าย เพื่อความคลายกำหนัด เพื่อความดับ เพื่อความ
สงบ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อตรัสรู้ เพื่อนิพพานโดยส่วนเดียว ที่สัตว์ทั้ง-
หลายมีความเกิดเป็นธรรมดาอาศัยแล้ว ย่อมพ้นจากความเกิด ผู้มีความ
แก่เป็นธรรมดา ย่อมพ้นจากความแก่ ผู้มีความตายเป็นธรรมดา ย่อม
พ้นจากความตาย ผู้มีความโศก ความร่ำไร ความทุกข์ ความโทมนัส
และความคับแค้นใจเป็นธรรมดา ย่อมพ้นจากความโศก ความร่ำไร
ความทุกข์ ความโทมนัส และความคับแค้นใจ เธอทั้งหลายจงฟัง จงใส่
ใจให้ดี เราจักกล่าว ภิกษุเหล่านั้นทูลรับพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว พระ-
ผู้พระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็การล้างที่เป็นของพระอริยะ
ย่อมเป็นไปเพื่อความเบื่อหน่าย เพื่อความคลายกำหนัด เพื่อความดับ
เพื่อความสงบ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อตรัสรู้ เพื่อนิพพานโดยส่วนเดียว ที่สัตว์
ทั้งหลายผู้มีความเกิดเป็นธรรมดาอาศัยแล้ว ย่อมพ้นจากความเกิด . . .
จากความโศก ความร่ำไร ความทุกข์ ความโทมนัส และความดับแค้นใจ
ได้นั้น เป็นไฉน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้มีความเห็นชอบ ย่อมล้าง
ความเห็นผิด ล้างอกุศลบาปธรรมเป็นอันมาก ที่เกิดขึ้นเพราะความเห็นผิด
เป็นปัจจัย และกุศลธรรมเป็นอันมาก ย่อมถึงความเจริญบริบูรณ์ เพราะ
ความเห็นชอบเป็นปัจจัย.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้มีความดำริชอบ ย่อมล้างความดำริผิด . . .