มีโอกาสย้อนกลับไปอ่านกลอนที่ตัวเองเคยแต่งไว้ในอดีต
เลยเอากาพย์เห่เรือที่เคยแต่งไว้เมื่อ ๕ ปีที่แล้วมาแบ่งปันครับ
ตอนนั้นผมใช้นามปากกา "บัณฑิตเมืองสิงห์"
กาพย์เห่เรือ "ยอพระเกียรติ ๘๔ พรรษา มหาราชา"
๏ เรือลอยล่องเพริศแพร้ว นารายณ์ฯ
พลอยเก็จเพชรหลากหลาย เทียบไท้
งามสง่าเด่นกำจาย ธเสก สรรค์แฮ
รูปสัตว์หัวโขนใช้ ยิ่งริ้วปลิวไสว ๚
๏ ภูวไนยบพิตรเจ้า ภูมิพล
ยอพระเกียรติคำรณ ประพัฒน์กว้าง
เถลิงศกพระชนม์ แปดสิบสี่ ปีเฮย
ปวงราษฎร์นบน้อมสร้าง เกียรติเจ้ากษัตรา ๚ะ๛
๏ งามเรืองามเมื่อสินธุ์ ไหลรวยรินถิ่นสายชล
มากหมู่ผู้กองพล ช้าลวะเห่เสน่ห์เรือ
๏ ลอยล่องท่องท้องน้ำ ดูชื่นฉ่ำสำราญเหลือ
ลิ่วลิ่วปลิวพร้อมเครือ สดับก้องเสียงกังวาน
๏ พู่ห้อยระย้าย้อย ไกวตามสร้อยร้อยขับขาน
ชื่นชมสมสำราญ พระผ่านฟ้าเกียรติคุณ
๏ "สุพรรณหงส์"ลอย ตะวันคล้อยเป็นรอยบุญ
แสงสาดพบน้ำหนุน สะท้อนเนตรวิเศษตา
๏ "นารายณ์ทรงสุบรรณ" ลอยกระชั้นชิดข้างหน้า
ปลิวลมสมราชา พระที่นั่งสง่างาม
๏ "อเนกชาติภุชงค์" ประดับธงทิวสยาม
หลังคาเหมือนอาราม ทองสว่างกระจ่างจินต์
๏ "อนันตนาคราช" ดูองอาจวาดลายศิลป์
ลอยตามอย่างระบิล นาคเจ็ดเศียรเขียนลายทอง
๏ เรือ"เอกไชยเหินหาว" ลิ่วลมราวคราวน้ำนอง
พลเรือต่างช่ำชอง ฝีพายพร้อมเพรียงทุกคน
๏ เรือ"เอกไชยหลาวทอง" พลโห่ร้องพ้องสายชล
กระหึ่มเสียงอึงอล แลไพเราะเสนาะกรรณ
๏ เรือ"ครุฑเหินเห็จ"เปรียว ลัดเลาะเลี้ยวเอี้ยวเสกสรรค์
ว่องไวดุจแสงอัน สาดส่องพื้นคลื่นสาคร
๏ เรือ"ครุฑเตร็ดไตรจักร" รอยสลักสักอักษร
ลายไทยใส่ลงลอน ทั้งสองข้างของตัวลำ
๏ "พาลีรั้งทวีป" ดูเหมือนรีบเร่งถลำ
เส้นลายเหมือนร่ายรำ ขุนกระบี่สีเขียวพราว
๏ เรือ"สุครีพครองเมือง" นามลือเลื่องแลหาญห้าว
พื้นเรือสีดำวาว หัวกระบี่มีสีแดง
๏ "กระบี่ปราบเมืองมาร" งามตระการทุกแขนง
กระบี่ขาวสำแดง บนหัวโขนแอ่นอาจอง
๏ "กระบี่ราญรอนราพณ์" ลอยขนาบใกล้เรือหงส์
ปราดเปรียวลำมั่นคง สง่างดยศบอกลาย
๏ "อสุรปักษา" ไหลเอื่อยมาท่ากำจาย
นกเขียวเปรียวธารสาย หลังขบวนชวนพิศดู
๏ "เรือดั้งหนึ่งและสอง" ท่าผยองลำพองคู
เรื่อยเรื่อยเอื่อยเอื่อยชู ความโสภากระบวนยาน
๏ "เรือดั้งสามสี่ห้า" ลอยล่องมาหาขนาน
เส้นตรงประสงค์ปาน แถวทำเนียบเพียบศาตรา
๏ "เรือดั้งหกครัดเคร่ง" จังหวะเก่งบรรเลงมา
ฉิ่งกรับประทับท้า ดั่งฆ้องลั่นคั่นนที
๏ "เรือดั้งเจ็ดและแปด" ผ่านแสงแสดตอนแผดสี
เหมือนหนึ่งซึ่งนารี นั่งสองข้างช่างน่าชม
๏ "เรือดั้งเก้าและสิบ" เห็นลิบลิบลอยตามลม
"เรือดั้งสิบเอ็ด"สม ทหารแกร่งแข่งขันกัน
๏ "สุรวายุภักษ์" บนเป็นยักษ์ล่างปักษัน
เหมือนเทพมาเสกครัน เวทย์มนต์ขลังเรือว่องไว
๏ เรือ"ทองขวานฟ้า"นั้น เหมือนสวรรค์เสกไสว
สวยงามอร่ามไกล มีกระจกประดับทอง
๏ เรือ"เสือทะยานชล" เรือ"คำรณสินธุ์"ผยอง
ลอยเด่นน่านน้ำกอง "ทองบ้าบิ่น"ลอยตามมา
๏ "เรือดั้งสิบสอง"เพรียว ทั้งปราดเปรียวเชี่ยวตรึงตรา
"เรือดั้งสิบสาม"ท้า "สิบสี่"เข้าประชิดรอย
๏ เรือดั้งสิบห้า"ขาน แต่เบาราณไม่มีถอย
แข็งแรงดุจเพชรพลอย กระทบฝั่งยังไม่จม
๏ "เรือดั้งสิบหก"เลื่อง "เรืออีเหลือง"ลอยผสม
มูลเห่คลอพรม ชลมารคอยู่ปากทาง
๏ "เรือดั้งสิบเจ็ด"ชิด แสงอาทิตย์ทอกระจ่าง
เฉกรุ้งพุ่งแนวพราง เรืออำไพวิไลจริง
๏ "เรือแซง"ทั้งเจ็ดลำ ลอยเคียงค้ำนำเรือสิงห์
"เรือดั้งสิบแปด"ชิง ลอยขึ้นหน้าสง่างาม
๏ เรือเสือ"เรือแตงโม" ตระการโสภาอร่าม
เสนาบังคับตาม อยู่ด้านท้ายออกลายเงา
๏ มีคนให้สัญญาณ ใกล้ทหารงานถือเส้า
นายเรือเอื้อบรรเทา คอยบอกสั่งดังบัญชา
๏ "เรือดั้งสิบแปด"แกร่ง ลอยสำแดงแจ้งพระบา-
รมีกษัตรา องค์ประมุขคลุกเสียงคลอ
๏ "เรือดั้งสิบเก้า"รี่ "เรือดั้งยี่สิบ"มารอ
วิจิตรสัมฤทธิ์ยอ พระเกียรติธภูวไนย
๏ "เรือดั้งยี่สิบเอ็ด" ดูสำเร็จเด็ดเดี่ยวใจ
พวกพลผลเกรียงไกร ขยันพายตามสายลม
๏ "เรือดั้งยี่สิบสอง" มีนายกองจ้องมองข่ม
ทหารจึงเกลียวกลม รับห้าไฮ่พัลวัน
๏ "เรือตำรวจทั้งสอง" ลอยตามกองเรือหลวงลั่น
หลายสิบลิบลิบครั้น "เรือกรมวัง"หน้าขบวน
๏ ทั้งหมดห้าสิบสอง ลอยเต็มท้องสายชลหวน
ตระการผ่านผองมวล ยอพระเกียรติกษัตริย์ไทย
๏ วิจิตรศิลป์สร้างสรรค์ สถาบันชั้นผู้ใหญ่
ประชาแสนสุขใจ กล่าวอวยชัยทรงพระเจริญ
๏ ทรงเป็นร่มโพธิ์ฉัตร นามประพัฒน์น่าสรรเสริญ
บารมีล้นพ้นเกิน เจ้าอยู่หัวจอมราชัน ๚ะ๛
กาพย์เห่เรือ "ยอพระเกียรติ ๘๔ พรรษา มหาราชา"
เลยเอากาพย์เห่เรือที่เคยแต่งไว้เมื่อ ๕ ปีที่แล้วมาแบ่งปันครับ
ตอนนั้นผมใช้นามปากกา "บัณฑิตเมืองสิงห์"
กาพย์เห่เรือ "ยอพระเกียรติ ๘๔ พรรษา มหาราชา"
๏ เรือลอยล่องเพริศแพร้ว นารายณ์ฯ
พลอยเก็จเพชรหลากหลาย เทียบไท้
งามสง่าเด่นกำจาย ธเสก สรรค์แฮ
รูปสัตว์หัวโขนใช้ ยิ่งริ้วปลิวไสว ๚
๏ ภูวไนยบพิตรเจ้า ภูมิพล
ยอพระเกียรติคำรณ ประพัฒน์กว้าง
เถลิงศกพระชนม์ แปดสิบสี่ ปีเฮย
ปวงราษฎร์นบน้อมสร้าง เกียรติเจ้ากษัตรา ๚ะ๛
๏ งามเรืองามเมื่อสินธุ์ ไหลรวยรินถิ่นสายชล
มากหมู่ผู้กองพล ช้าลวะเห่เสน่ห์เรือ
๏ ลอยล่องท่องท้องน้ำ ดูชื่นฉ่ำสำราญเหลือ
ลิ่วลิ่วปลิวพร้อมเครือ สดับก้องเสียงกังวาน
๏ พู่ห้อยระย้าย้อย ไกวตามสร้อยร้อยขับขาน
ชื่นชมสมสำราญ พระผ่านฟ้าเกียรติคุณ
๏ "สุพรรณหงส์"ลอย ตะวันคล้อยเป็นรอยบุญ
แสงสาดพบน้ำหนุน สะท้อนเนตรวิเศษตา
๏ "นารายณ์ทรงสุบรรณ" ลอยกระชั้นชิดข้างหน้า
ปลิวลมสมราชา พระที่นั่งสง่างาม
๏ "อเนกชาติภุชงค์" ประดับธงทิวสยาม
หลังคาเหมือนอาราม ทองสว่างกระจ่างจินต์
๏ "อนันตนาคราช" ดูองอาจวาดลายศิลป์
ลอยตามอย่างระบิล นาคเจ็ดเศียรเขียนลายทอง
๏ เรือ"เอกไชยเหินหาว" ลิ่วลมราวคราวน้ำนอง
พลเรือต่างช่ำชอง ฝีพายพร้อมเพรียงทุกคน
๏ เรือ"เอกไชยหลาวทอง" พลโห่ร้องพ้องสายชล
กระหึ่มเสียงอึงอล แลไพเราะเสนาะกรรณ
๏ เรือ"ครุฑเหินเห็จ"เปรียว ลัดเลาะเลี้ยวเอี้ยวเสกสรรค์
ว่องไวดุจแสงอัน สาดส่องพื้นคลื่นสาคร
๏ เรือ"ครุฑเตร็ดไตรจักร" รอยสลักสักอักษร
ลายไทยใส่ลงลอน ทั้งสองข้างของตัวลำ
๏ "พาลีรั้งทวีป" ดูเหมือนรีบเร่งถลำ
เส้นลายเหมือนร่ายรำ ขุนกระบี่สีเขียวพราว
๏ เรือ"สุครีพครองเมือง" นามลือเลื่องแลหาญห้าว
พื้นเรือสีดำวาว หัวกระบี่มีสีแดง
๏ "กระบี่ปราบเมืองมาร" งามตระการทุกแขนง
กระบี่ขาวสำแดง บนหัวโขนแอ่นอาจอง
๏ "กระบี่ราญรอนราพณ์" ลอยขนาบใกล้เรือหงส์
ปราดเปรียวลำมั่นคง สง่างดยศบอกลาย
๏ "อสุรปักษา" ไหลเอื่อยมาท่ากำจาย
นกเขียวเปรียวธารสาย หลังขบวนชวนพิศดู
๏ "เรือดั้งหนึ่งและสอง" ท่าผยองลำพองคู
เรื่อยเรื่อยเอื่อยเอื่อยชู ความโสภากระบวนยาน
๏ "เรือดั้งสามสี่ห้า" ลอยล่องมาหาขนาน
เส้นตรงประสงค์ปาน แถวทำเนียบเพียบศาตรา
๏ "เรือดั้งหกครัดเคร่ง" จังหวะเก่งบรรเลงมา
ฉิ่งกรับประทับท้า ดั่งฆ้องลั่นคั่นนที
๏ "เรือดั้งเจ็ดและแปด" ผ่านแสงแสดตอนแผดสี
เหมือนหนึ่งซึ่งนารี นั่งสองข้างช่างน่าชม
๏ "เรือดั้งเก้าและสิบ" เห็นลิบลิบลอยตามลม
"เรือดั้งสิบเอ็ด"สม ทหารแกร่งแข่งขันกัน
๏ "สุรวายุภักษ์" บนเป็นยักษ์ล่างปักษัน
เหมือนเทพมาเสกครัน เวทย์มนต์ขลังเรือว่องไว
๏ เรือ"ทองขวานฟ้า"นั้น เหมือนสวรรค์เสกไสว
สวยงามอร่ามไกล มีกระจกประดับทอง
๏ เรือ"เสือทะยานชล" เรือ"คำรณสินธุ์"ผยอง
ลอยเด่นน่านน้ำกอง "ทองบ้าบิ่น"ลอยตามมา
๏ "เรือดั้งสิบสอง"เพรียว ทั้งปราดเปรียวเชี่ยวตรึงตรา
"เรือดั้งสิบสาม"ท้า "สิบสี่"เข้าประชิดรอย
๏ เรือดั้งสิบห้า"ขาน แต่เบาราณไม่มีถอย
แข็งแรงดุจเพชรพลอย กระทบฝั่งยังไม่จม
๏ "เรือดั้งสิบหก"เลื่อง "เรืออีเหลือง"ลอยผสม
มูลเห่คลอพรม ชลมารคอยู่ปากทาง
๏ "เรือดั้งสิบเจ็ด"ชิด แสงอาทิตย์ทอกระจ่าง
เฉกรุ้งพุ่งแนวพราง เรืออำไพวิไลจริง
๏ "เรือแซง"ทั้งเจ็ดลำ ลอยเคียงค้ำนำเรือสิงห์
"เรือดั้งสิบแปด"ชิง ลอยขึ้นหน้าสง่างาม
๏ เรือเสือ"เรือแตงโม" ตระการโสภาอร่าม
เสนาบังคับตาม อยู่ด้านท้ายออกลายเงา
๏ มีคนให้สัญญาณ ใกล้ทหารงานถือเส้า
นายเรือเอื้อบรรเทา คอยบอกสั่งดังบัญชา
๏ "เรือดั้งสิบแปด"แกร่ง ลอยสำแดงแจ้งพระบา-
รมีกษัตรา องค์ประมุขคลุกเสียงคลอ
๏ "เรือดั้งสิบเก้า"รี่ "เรือดั้งยี่สิบ"มารอ
วิจิตรสัมฤทธิ์ยอ พระเกียรติธภูวไนย
๏ "เรือดั้งยี่สิบเอ็ด" ดูสำเร็จเด็ดเดี่ยวใจ
พวกพลผลเกรียงไกร ขยันพายตามสายลม
๏ "เรือดั้งยี่สิบสอง" มีนายกองจ้องมองข่ม
ทหารจึงเกลียวกลม รับห้าไฮ่พัลวัน
๏ "เรือตำรวจทั้งสอง" ลอยตามกองเรือหลวงลั่น
หลายสิบลิบลิบครั้น "เรือกรมวัง"หน้าขบวน
๏ ทั้งหมดห้าสิบสอง ลอยเต็มท้องสายชลหวน
ตระการผ่านผองมวล ยอพระเกียรติกษัตริย์ไทย
๏ วิจิตรศิลป์สร้างสรรค์ สถาบันชั้นผู้ใหญ่
ประชาแสนสุขใจ กล่าวอวยชัยทรงพระเจริญ
๏ ทรงเป็นร่มโพธิ์ฉัตร นามประพัฒน์น่าสรรเสริญ
บารมีล้นพ้นเกิน เจ้าอยู่หัวจอมราชัน ๚ะ๛