The Five Secrets You Must Discover BEFORE YOU DIE : John Izzo Ph.D
เราต่างก็ใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้มาเป็นเวลาหลายปีอาจจะน้อยหรือมากก็ขึ้นอยู่กับแต่ละตัวบุคคล เราใช้ชีวิตเพื่อค้นหาบางสิ่งบางอย่างที่คิดว่ามีความหมายและอยากที่จะได้พบเจอกับสิ่งนั้น มุมมองในการใช้ชีวิตของคนแต่ละวัยก็ต่างกันไป
หนังสือเล่มนี้คัดสรรค์บุคคลที่อายุ 59-105 ปีและขึ้นชื่อว่าเป็นบุคคลผู้ทรงปัญญา มาสัมภาษณ์เพื่อถามถึงมุมมองของการใช้ชีวิตที่ผ่านมาและจวบจนวันที่ทุกคนก็ต้องมาถึงนั่นคือ"วันตาย"
เป็นหนังสือที่อ่านแล้วรู้สึกอิ่มเอมใจ อุ่นใจ เหมือนได้คุยกับญาติผู้ใหญ่คุณตา คุณยายที่เปี่ยมล้นไปด้วยความเมตตา ทุกท่านที่ได้รับการสัมภาษณ์ล้วนมีบางสิ่งที่แนะนำเราเหมือนๆ กัน ซึ่งสรุปออกมาได้เป็น 5 ข้อดังนี้
1. ซื่อสัตย์กับตัวเอง : มุ่งตามหาหัวใจและซื่อสัตย์กับตัวตนของเรา ตั้งคำถามกับตัวเองเสมอ ทั้งชีวิตของเราอยู่บน "เส้นทาง" ของเราจริงๆหรือเปล่า เรากำลังเป็นคนในแบบที่เราอยากเป็นในโลกนี้หรือไม่?
2. อย่าปล่อยให้เสียดาย : เราไม่มีทางจะรับประกันได้เลยว่าชีวิตเราจะสำเร็จเสมอไป เพราะทุกครั้งที่เราพยายามย่อมเป็นไปได้ว่าเราจะล้มเหลว ถ้าเราเดินตามความฝัน ก็มีความเป็นไปได้ที่จะผิดหวัง เรารับประกันความสำเร็จไม่ได้ แต่เราจะล้มเหลวแน่นอนหากเราเลือกตัดสินใจที่จะไม่ลงมือทำ การเลือกที่จะเสี่ยงสามารถส่งผลเกินคาดคิดต่อเส้นทางชีวิตของเรา
3. ใช้ชีวิตด้วยความรัก : วิธีที่สำคัญวิธีกนึ่งคือ เราเลือกที่จะรักตัวเองได้ด้วยการใส่ใจสิ่งที่เราป้อนให้ตัวเอง ว่าเรากินอะไรลงไปเราก็เป็นแบบนั้น ทัศนะทางความคิดจิตวิญญาณจะกล่าวว่า ชีวิตเราจะเป็นไปตามสิ่งที่เราคิด มนุษย์เกิดความคิด 45,000-55,000 ความคิดต่อวัน เป็นการสนทนาทางจิตใจที่ไม่มีวันหยุด เราพูดกับตัวเองทั้งวัน ความคิดของเราส่วนมากไปในทางที่ดี แต่ในหลายครั่งที่ความคิดจะส่งผลต่อวิธีการที่เรามองตนเอง "ฉันเป็นคนขี้แพ้" "ฉันไม่ใช่คนดี" เรากำลังบ่อนทำลายความรักตนเองลง เราต้องเลือกว่าจะปลูกดอกไม้หรือวัชพืชลงไปในใจของเรา
4. อยู่กับปัจจุบัน : หากชีวิตผันผ่านรวดเร็ว เราควรใช้ประโยชน์จากเวลาที่มีอยู่ให้มากกว่านี้ หาวิธีทำให้แต้ละวันละเวลากลายเป็นของขวัญ ใช้ชีวิตให้เต็มที่ทุกขณะ ให้เราไม่ต้องตัดสินชีวิตแต่จงใช้ชีวิตให้เต็มที่เราต้องไม่จมอยู่กับอดีตหรืออนาคต แต่ผ่านทุกห้วงเวลาอย่างรู้คุณค่าและมีเป้าหมาย
5. ให้มากกว่ารับ : โลกคาดหวังอะไรจากเราอยู่ มีสิ่งที่ดีบางอย่างที่เราสามารถทำได้ต่อไปในชีวิต เป็นคำถามที่เชลยในค่ายกักกันชาวยิวเมื่อคราวสมัยสงครามโลกครั้งที่สองเฝ้าถามตัวเอง และสุดท้ายเลือกที่จะมีชีวิตรอดออกมาแทบทุกราย "ผู้ที่เชื่อว่าโลกคาดหวังอะไรจากเขาจะไม่มีวันโยนชีวิตของตนทิ้ง" หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้การให้มีความสุขมากกว่าการรับ และเราสามารถที่จะกำหนดการให้ได้(แต่เกือบควบคุมการรับไม่ได้เลย)
หนังสือเล่มนี้อ่านแล้วรู้สึกตื้นตันใจ มีความหมายลึกซึ้งอย่างมาก ได้ข้อคิดในย่างก้าวของเราต่อจากนี้ที่จะเดินต่อไป เป้าหมายของชีวิตจะชัดเจนขึ้น มีความหวังความปรารถนาที่ต่างออกไปจากเดิม ในขณะอ่านนั้นส่วนตัวพยายามนั่งทำความเข้าใจถึงความหมายที่แท้จริงที่ซ่อนอยู่หลังตัวอักษรที่แปลมา ต้องอ่านด้วยใจคะ 😌😌😌
ติดตามกันต่อได้ที่
https://www.facebook.com/Womanandbooks/ จ้าาา
ชวนอ่านหนังสือคะ "The Five Secrets You Must Discover BEFORE YOU DIE : John Izzo Ph.D"
เราต่างก็ใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้มาเป็นเวลาหลายปีอาจจะน้อยหรือมากก็ขึ้นอยู่กับแต่ละตัวบุคคล เราใช้ชีวิตเพื่อค้นหาบางสิ่งบางอย่างที่คิดว่ามีความหมายและอยากที่จะได้พบเจอกับสิ่งนั้น มุมมองในการใช้ชีวิตของคนแต่ละวัยก็ต่างกันไป
หนังสือเล่มนี้คัดสรรค์บุคคลที่อายุ 59-105 ปีและขึ้นชื่อว่าเป็นบุคคลผู้ทรงปัญญา มาสัมภาษณ์เพื่อถามถึงมุมมองของการใช้ชีวิตที่ผ่านมาและจวบจนวันที่ทุกคนก็ต้องมาถึงนั่นคือ"วันตาย"
เป็นหนังสือที่อ่านแล้วรู้สึกอิ่มเอมใจ อุ่นใจ เหมือนได้คุยกับญาติผู้ใหญ่คุณตา คุณยายที่เปี่ยมล้นไปด้วยความเมตตา ทุกท่านที่ได้รับการสัมภาษณ์ล้วนมีบางสิ่งที่แนะนำเราเหมือนๆ กัน ซึ่งสรุปออกมาได้เป็น 5 ข้อดังนี้
1. ซื่อสัตย์กับตัวเอง : มุ่งตามหาหัวใจและซื่อสัตย์กับตัวตนของเรา ตั้งคำถามกับตัวเองเสมอ ทั้งชีวิตของเราอยู่บน "เส้นทาง" ของเราจริงๆหรือเปล่า เรากำลังเป็นคนในแบบที่เราอยากเป็นในโลกนี้หรือไม่?
2. อย่าปล่อยให้เสียดาย : เราไม่มีทางจะรับประกันได้เลยว่าชีวิตเราจะสำเร็จเสมอไป เพราะทุกครั้งที่เราพยายามย่อมเป็นไปได้ว่าเราจะล้มเหลว ถ้าเราเดินตามความฝัน ก็มีความเป็นไปได้ที่จะผิดหวัง เรารับประกันความสำเร็จไม่ได้ แต่เราจะล้มเหลวแน่นอนหากเราเลือกตัดสินใจที่จะไม่ลงมือทำ การเลือกที่จะเสี่ยงสามารถส่งผลเกินคาดคิดต่อเส้นทางชีวิตของเรา
3. ใช้ชีวิตด้วยความรัก : วิธีที่สำคัญวิธีกนึ่งคือ เราเลือกที่จะรักตัวเองได้ด้วยการใส่ใจสิ่งที่เราป้อนให้ตัวเอง ว่าเรากินอะไรลงไปเราก็เป็นแบบนั้น ทัศนะทางความคิดจิตวิญญาณจะกล่าวว่า ชีวิตเราจะเป็นไปตามสิ่งที่เราคิด มนุษย์เกิดความคิด 45,000-55,000 ความคิดต่อวัน เป็นการสนทนาทางจิตใจที่ไม่มีวันหยุด เราพูดกับตัวเองทั้งวัน ความคิดของเราส่วนมากไปในทางที่ดี แต่ในหลายครั่งที่ความคิดจะส่งผลต่อวิธีการที่เรามองตนเอง "ฉันเป็นคนขี้แพ้" "ฉันไม่ใช่คนดี" เรากำลังบ่อนทำลายความรักตนเองลง เราต้องเลือกว่าจะปลูกดอกไม้หรือวัชพืชลงไปในใจของเรา
4. อยู่กับปัจจุบัน : หากชีวิตผันผ่านรวดเร็ว เราควรใช้ประโยชน์จากเวลาที่มีอยู่ให้มากกว่านี้ หาวิธีทำให้แต้ละวันละเวลากลายเป็นของขวัญ ใช้ชีวิตให้เต็มที่ทุกขณะ ให้เราไม่ต้องตัดสินชีวิตแต่จงใช้ชีวิตให้เต็มที่เราต้องไม่จมอยู่กับอดีตหรืออนาคต แต่ผ่านทุกห้วงเวลาอย่างรู้คุณค่าและมีเป้าหมาย
5. ให้มากกว่ารับ : โลกคาดหวังอะไรจากเราอยู่ มีสิ่งที่ดีบางอย่างที่เราสามารถทำได้ต่อไปในชีวิต เป็นคำถามที่เชลยในค่ายกักกันชาวยิวเมื่อคราวสมัยสงครามโลกครั้งที่สองเฝ้าถามตัวเอง และสุดท้ายเลือกที่จะมีชีวิตรอดออกมาแทบทุกราย "ผู้ที่เชื่อว่าโลกคาดหวังอะไรจากเขาจะไม่มีวันโยนชีวิตของตนทิ้ง" หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้การให้มีความสุขมากกว่าการรับ และเราสามารถที่จะกำหนดการให้ได้(แต่เกือบควบคุมการรับไม่ได้เลย)
หนังสือเล่มนี้อ่านแล้วรู้สึกตื้นตันใจ มีความหมายลึกซึ้งอย่างมาก ได้ข้อคิดในย่างก้าวของเราต่อจากนี้ที่จะเดินต่อไป เป้าหมายของชีวิตจะชัดเจนขึ้น มีความหวังความปรารถนาที่ต่างออกไปจากเดิม ในขณะอ่านนั้นส่วนตัวพยายามนั่งทำความเข้าใจถึงความหมายที่แท้จริงที่ซ่อนอยู่หลังตัวอักษรที่แปลมา ต้องอ่านด้วยใจคะ 😌😌😌
ติดตามกันต่อได้ที่ https://www.facebook.com/Womanandbooks/ จ้าาา