เมื่อตอนเป็นเด็ก เคยทะเลาะกับแม่บ่อย
เพราะเรารู้สึกว่า แม่ไม่ยุติธรรมกับเราทำไม
เราคิดดี เราเป็นห่วงแม่ ไม่อยากให้แม่เหนื่อย
พยายามช่วย ให้แม่เหนื่อยน้อยที่สุด
แต่ทำไม เรากลับเป็นคนถูกด่าตลอด
คำชม ไม่เคยมี ชมแต่น้องน้อง
ทำให้ เราเริ่มแอนตี้แม่ เถึยงแม่
ไม่ทำตามคำสอนของแม่
ทำให้ แม่เสียใจ
จนแม่โกรธ สาปแช่งเราว่า
" kru ขอให้เมิง ship หาย "
ปัจจุบัน เรารับราชการ มานาน จะเป็น 20 ปีแล้วล่ะ
แต่ก็ อยู่แค่นี้ ไม่ก้าวหน้าไปกว่านี้
ท้ง ๆ ที่ตั้งใจทำงาน หลาย ๆ คนบอกว่า เราตั้งใจทำงาน
ทำงานดี คิดงานเป็น รับผิดชอบสูง ผลงานดี
แต่ไม่เคยมี เจ้านายคนไหน สนับสนุน หรือ ผลักดันเราเคย
แต่กับเพื่อนร่วมงานรุ่นเดียวกัน ทำงานไม่เป็น คิดไม่เป็น
อะไร ก็แล้วแต่นาย มีอะไร มาปรึกษาเรา เราให้คำแนะนำ
เขาเอาคำแนะนำนั้นไปทำ
งานได้ผล นายก็ชมเขา ใคร ๆ ก็ชื่นชมเขา
หรือบางเรื่อง เราเป็นคนต้นคิด
งานนั้น โด่งดัง ระดับประเทศ
แต่เราก็ไม่เคยได้เครดิตเลย
มันเหมือนกับ ที่เราอยู่กับแม่
คือ เราทำเท่าไร แม่ก็ไม่มอง มองแต่น้อง ห่วงแต่น้อง
เวลา เพื่อน ๆ หรือ ญาติพี่น้อง มีปัญหา
น้องเรา ( คนที่แม่รัก )
เราช่วยได้ทุกอย่าง กู้หนี้ ยืมสิน เพื่อเขา
แต่เขาก็ไม่เคยคืน
เราต้องเป็นคนใช้หนี้ตลอด
ทำไป ทำมา หนี้สิน พอกพูน
มันเยอะมาก
เราหมดปัญหา ส่ง
เจ้านี้ โทรทวงทุกวัน
บ้านที่เราอยู่ ธนาคารก็จะยึด เพราะว่า เราไม่เคยส่งเลย สองปีแล้ว ดอกเบี้ยทบต้นตลอด
เรากู้เงินสองทาง
กู้สหกรณ์มาสร้างบ้าน แต่ระหว่างนั้น น้องมายืมเงินไป
เงินสร้างบ้านไม่พอ
เราเลยไปกู้ ธนาคารซ้ำ
หนำซ้ำ เราไปค้ำสหกรณ์ให้เพื่อน
เพื่อนกลับหนีไปซะอีก
เลยต้องรับผิดชอบแทนเพื่อน อีก หนักไปอีก
อิออน อีซีบาย ก็ไม่มีเงินจ่าย โดนโทรตามทวงทุกวัน
โทรเข้ามือถือเรา เราไม่รับ ก็โทรเขาที่ทำงาน เกรงใจคนรับมาก
เอารถไปเข้าไฟแนนซ์ ไม่มีเงินจ่าย เขาก็ตามทวงตลอด
หาอาชีพเสริม ทั้งตอนเช้าก่อนทำงาน และ หลังทำงาน
ก็ไม่ประสบผล ขายได้ แต่เสมอแค่ทุนเท่านั้น
มานั่งคิด ว่าเราอยู่ไปทำไม อยู่ไปเพื่อใคร
มันเหนื่อย มันท้อแท้
เข้าวัด สวดมนต์ ทำบุญ
ก็มีคนในวัด มากระซิบบอกว่า นี่ ถ้าไม่มีเงิน อยู่วัดไม่ได้นะ
แก่ ก็แก่ มาลำบากตอนแก่
ท่านใด พอจะมีพิเศษให้ทำ บ้างไหมคะ
งานด้านการพิมพ์ การแปล ก็ได้ค่ะ
อยากลาออกจากงาน ไปนั่งขาย ขนมครก ขายกล้วยแขกทอด ค้าขายเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้แค่วันละ 300 - 500 ก็พอแล้ว
เพราะตอนนี้ ไม่มี ความจำเป็นต้องใช้อะไร นอกจาก ปัจจัยสี่
ป่วยก็จะใช้บัตรทองเอา
หมดแรงบันดาลใจ ในการมีชีวิตอยู่จริง ๆ ค่ะ
เพื่อนฝูง ที่เราเคยช่วยเหลือก็ไม่กล้าไปหา หรือ เอ่ยคำขอความช่วยเหลือ
หลาย ๆ มองเรา ด้วยสายตาสมเพช แต่ไม่เก็บมาใส่ใจ ( เล่าให้ฟังว้าเจออะไร )
ด้วยความเป็นอาวุโส งานสังคมก็มาก ซอง การ์ด ต่าง ๆ มีมาตลอด
ก็ใส่ให้ไป ตามความสำคัญ ของเจ้าภาพ ใส่ไม่เยอะหรอกค่ะ ใส่น้อย มากกกกกกกกกกกกกกกก
หรือบางงาน ก็ทำการ์ดตายไปเลย ต้องขอโทษ คนที่มาเชิญด้วย ไปไม่ได้จริง ๆ
รู้สึก หมดอาลัย ตายอยาก กับการมีชีวิตอยู่
เพราะเรารู้สึกว่า แม่ไม่ยุติธรรมกับเราทำไม
เราคิดดี เราเป็นห่วงแม่ ไม่อยากให้แม่เหนื่อย
พยายามช่วย ให้แม่เหนื่อยน้อยที่สุด
แต่ทำไม เรากลับเป็นคนถูกด่าตลอด
คำชม ไม่เคยมี ชมแต่น้องน้อง
ทำให้ เราเริ่มแอนตี้แม่ เถึยงแม่
ไม่ทำตามคำสอนของแม่
ทำให้ แม่เสียใจ
จนแม่โกรธ สาปแช่งเราว่า
" kru ขอให้เมิง ship หาย "
ปัจจุบัน เรารับราชการ มานาน จะเป็น 20 ปีแล้วล่ะ
แต่ก็ อยู่แค่นี้ ไม่ก้าวหน้าไปกว่านี้
ท้ง ๆ ที่ตั้งใจทำงาน หลาย ๆ คนบอกว่า เราตั้งใจทำงาน
ทำงานดี คิดงานเป็น รับผิดชอบสูง ผลงานดี
แต่ไม่เคยมี เจ้านายคนไหน สนับสนุน หรือ ผลักดันเราเคย
แต่กับเพื่อนร่วมงานรุ่นเดียวกัน ทำงานไม่เป็น คิดไม่เป็น
อะไร ก็แล้วแต่นาย มีอะไร มาปรึกษาเรา เราให้คำแนะนำ
เขาเอาคำแนะนำนั้นไปทำ
งานได้ผล นายก็ชมเขา ใคร ๆ ก็ชื่นชมเขา
หรือบางเรื่อง เราเป็นคนต้นคิด
งานนั้น โด่งดัง ระดับประเทศ
แต่เราก็ไม่เคยได้เครดิตเลย
มันเหมือนกับ ที่เราอยู่กับแม่
คือ เราทำเท่าไร แม่ก็ไม่มอง มองแต่น้อง ห่วงแต่น้อง
เวลา เพื่อน ๆ หรือ ญาติพี่น้อง มีปัญหา
น้องเรา ( คนที่แม่รัก )
เราช่วยได้ทุกอย่าง กู้หนี้ ยืมสิน เพื่อเขา
แต่เขาก็ไม่เคยคืน
เราต้องเป็นคนใช้หนี้ตลอด
ทำไป ทำมา หนี้สิน พอกพูน
มันเยอะมาก
เราหมดปัญหา ส่ง
เจ้านี้ โทรทวงทุกวัน
บ้านที่เราอยู่ ธนาคารก็จะยึด เพราะว่า เราไม่เคยส่งเลย สองปีแล้ว ดอกเบี้ยทบต้นตลอด
เรากู้เงินสองทาง
กู้สหกรณ์มาสร้างบ้าน แต่ระหว่างนั้น น้องมายืมเงินไป
เงินสร้างบ้านไม่พอ
เราเลยไปกู้ ธนาคารซ้ำ
หนำซ้ำ เราไปค้ำสหกรณ์ให้เพื่อน
เพื่อนกลับหนีไปซะอีก
เลยต้องรับผิดชอบแทนเพื่อน อีก หนักไปอีก
อิออน อีซีบาย ก็ไม่มีเงินจ่าย โดนโทรตามทวงทุกวัน
โทรเข้ามือถือเรา เราไม่รับ ก็โทรเขาที่ทำงาน เกรงใจคนรับมาก
เอารถไปเข้าไฟแนนซ์ ไม่มีเงินจ่าย เขาก็ตามทวงตลอด
หาอาชีพเสริม ทั้งตอนเช้าก่อนทำงาน และ หลังทำงาน
ก็ไม่ประสบผล ขายได้ แต่เสมอแค่ทุนเท่านั้น
มานั่งคิด ว่าเราอยู่ไปทำไม อยู่ไปเพื่อใคร
มันเหนื่อย มันท้อแท้
เข้าวัด สวดมนต์ ทำบุญ
ก็มีคนในวัด มากระซิบบอกว่า นี่ ถ้าไม่มีเงิน อยู่วัดไม่ได้นะ
แก่ ก็แก่ มาลำบากตอนแก่
ท่านใด พอจะมีพิเศษให้ทำ บ้างไหมคะ
งานด้านการพิมพ์ การแปล ก็ได้ค่ะ
อยากลาออกจากงาน ไปนั่งขาย ขนมครก ขายกล้วยแขกทอด ค้าขายเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้แค่วันละ 300 - 500 ก็พอแล้ว
เพราะตอนนี้ ไม่มี ความจำเป็นต้องใช้อะไร นอกจาก ปัจจัยสี่
ป่วยก็จะใช้บัตรทองเอา
หมดแรงบันดาลใจ ในการมีชีวิตอยู่จริง ๆ ค่ะ
เพื่อนฝูง ที่เราเคยช่วยเหลือก็ไม่กล้าไปหา หรือ เอ่ยคำขอความช่วยเหลือ
หลาย ๆ มองเรา ด้วยสายตาสมเพช แต่ไม่เก็บมาใส่ใจ ( เล่าให้ฟังว้าเจออะไร )
ด้วยความเป็นอาวุโส งานสังคมก็มาก ซอง การ์ด ต่าง ๆ มีมาตลอด
ก็ใส่ให้ไป ตามความสำคัญ ของเจ้าภาพ ใส่ไม่เยอะหรอกค่ะ ใส่น้อย มากกกกกกกกกกกกกกกก
หรือบางงาน ก็ทำการ์ดตายไปเลย ต้องขอโทษ คนที่มาเชิญด้วย ไปไม่ได้จริง ๆ