สวัสดีค่าาา จริงๆ เรากลับมาจากเกาหลีสักพักแล้วล่ะ แต่อยากขอแชร์ประสบการณ์
ในห้องเย็นกับตม.เกาหลีที่เขาว่าโหดนักหนากันหน่อย
ด้วยความที่บินคนเดียวเปรี้ยวๆ หน้าพาสปอร์ตว่าง ไปเกาหลีเป็นครั้งแรกก็โดนไปจ้า
วันนี้ว่างๆ ก็ขอมาเล่าประสบการณ์สู่กันฟังแบบเท่าที่จำได้นะ แต่จริงๆ ก็จำได้เกือบหมดอ่ะ
เพราะมันตื่นเต้น มันเป็นครั้งแรกของเรา 55555555555
อะเริ่ม!
10 มีนาคม 59 เวลาประมาณ 9 โมงกว่า ลงจากเครื่องมาด้วยสภาพผักมาก คือไม่สบายอยู่พอดี
แมสปิดปากปิดจมูกมาเลย พอถึงตม. ก็ยื่นพาสปอร์ต เปิดหน้าให้แกดู เป็นลุงตม.หน้านิ่งๆ
เปิดพาสสลับกับดูหน้านี่ที ทีนี้ก็เอาล่ะ
ตม. : มาคนเดียว? (พูดด้วยภาษาอังกฤษสำเนียงเกาหลีสุด)
เรา : ใช่ มาคนเดียว แต่เพื่อนกำลังบินตามมาอีกไฟลท์นึง
ตม. : มาคนเดียวใช่มั้ย? (อะมีย้ำ)
เรา : มาคนเดียว
ตม. : แล้วพักที่ไหน?
เรา : (ยื่นเอกสารจองที่พักให้ดู)
ตม. : ปิดพาสปอร์ตแล้วพาเข้าห้องเย็น
ณ จุดนั้นคือ เออ เข้าก็เข้า ก็เตรียมใจมาแล้วว่าต้องโดนอยู่แล้ว 555555555
ทีนี้ก็ไปเจอตม.อีกคนนึง ใส่แว่นเป็นโอปป้านิดนึง
ตม.โอปป้า : มาคนเดียว? (เก๊กขรึมด้วยภาษาอังกฤษเกาหลีมาก)
เรา : ใช่ มาคนเดียว แต่เพื่อนกำลังตามมาอีกไฟลท์
ตม. โอปป้า : แล้วพักที่ไหน เขียนในนี้ด้วยสิ
เราก็รับใบขาเข้าประเทศจากเขามาแล้วก็เออ ลืมเขียนนี่ ก็เลยเอาใบจอง Airbnb ให้นางดูเลยทีนี้
เรา : พักที่นี่ พักสองที่นะ (นางก็หยิบใบจองไปดู)
ตม. โอปป้า : มากี่วัน จะกลับเมื่อไหร่?
เรา : 5 คืน 6 วัน 4วันแรกพักที่นี่ ส่วน 2 วันหลังพักอีกที่นึง (นางดูประกอบ)
ตม. โอปป้า : แล้วตกลงพักกี่วัน?
เรา : 5 คืน 6 วัน (ในใจนี่แบบ ก็บอกไปเมื่อกี้แล้วแงะ)
ทีนี้ก็มีตม.ลุงอีกคนนึงมา นางก็เอาใบจองที่พักไปเม้ามอยด้วยภาษาเกาหลีกัน
นางหันไปคุยภาษาเกาหลีกับตม.โอปป้าว่าไม่เคยเห็นใบแบบนี้
แต่เดี๋ยวก่อนฉันเรียนภาษาเกาหลีมาสักพักแล้ว พอฟังออกนาจา
ตม.โอปป้า : ทำไมในนี้ไม่มีชื่อคุณล่ะ?
เรา : มันเป็น confirmation mail ของ Airbnb พอพริ้นท์ออกมาแล้วมันก็เป็นแบบนี้
ตม. ลุง : ไม่เคยเห็น (พูดภาษาเกาหลีอีกล่ะ นึกว่าฟังไม่ออกเหรอลุง)
เรา : เอาอีเมลจาก Airbnb ดูก็ได้ (เปิดเมลแล้วยื่นให้นางดู)
ตม.ลุง : อาชิบ อาชิบๆ
เราก็นั่งนึกแปปนึง ทำไมมาบอกว่า เสียดาย คือภาษาเกาหลีเสียดายมันคือ อาชิบตา เราก็เออนี่ภาษาเกาหลีหรืออะไร ก็งงๆ
ตม. โอปป้า : เขาหมายถึง อาชีพอะไร
เรา : อ๋อ อาชีพ (ก็หัวเราะกันร่วน เพราะตม.ลุงแกพูดภาษาไทย แต่เราฟังเป็นเกาหลี 5555 นี่นางมีแอบเก๊กขรึมกลับด้วยนะ)
เรา : เป็นพนักงานออฟฟิศ ทำงานอยู่ที่นี่ (เอาบัตรพนักงาน กับเอกสารรับรองการทำงานให้นางดู)
ตม. โอปป้า : เดินเอาบัตรพนักงานกับใบรับรองไปให้ตม.อีกกลุ่ม อีกห้องนึงดู
แล้วนางก็กลับมาพร้อมกับใบที่ให้กรอกข้อมูลรายละเอียดว่ามาทำอะไรที่เกาหลี แล้วใบนี่มีภาษาไทยด้วยจ้า
นี่แสดงว่ามีคนโดนเยอะสินะ ถึงทำเวอร์ชั่นภาษาไทยกำกับมาขนาดนี้
ตม.โอปป้า : มาคนเดียวหรอ (แหนะ เอาอีกล่ะ)
เรา : มาคนเดียว แต่เพื่อนกำลังตามมาอีกไฟลท์นึง
ตม.โอปป้า : แล้วทำไมไม่มาด้วยกัน
เรา : เพื่อนเพิ่งตัดสินใจว่าจะมาด้วยกัน ฉันจองก่อนไปแล้ว ก็เลยจองแยกกัน
ตม.ลุง : บริษัท อะไร (พูดเกาหลีกับตม.โอปป้า ฉันอยู่ตรงนี้ ฉันฟังออก
คือก่อนหน้านั้นนางถามตม.โอปป้าว่าบริษัทที่เราทำงานอยู่บริษัทอะไร)
เรา : ก็ตอบนางไปว่าบริษัทเราเป็นไง เราทำงานอะไร (แล้วตม.ลุงก็เอาบัตรพนักงานมาคืน)
ตม.โอปป้า : เขียนด้วยว่าพักที่ไหน (อะเขียน เขียนในใบขาเข้าที่เราลืมเขียนไป)
สักพักนางก็เดินทยอยเอาเอกสารมาคืนเรา นางก็เจอกับไอเทมใบรับบัตรคอนเสิร์ตจ้า
ซึ่งหลังจากนี้ก็เป็นความหวีดของติ่งล้วน 55555555
เรา : เนี่ยๆ มาดูวงนี้แหละ
ตม. โอปป้า : นางหยิบใบจองไปพิจารณาแล้วพึมพำว่า วินเนอร์?
เรา : เขาจะมีคอนเสิร์ตอาทิตย์นี้แหละ ฉันมาที่นี่เพื่อมาดูคอนเสิร์ต รู้จักวินเนอร์มั้ยล่ะ
ตม. โอปป้า : ทำหน้างง
ตม.ลุง : คือใคร (พูดภาษาเกาหลี)
เรา : วินเนอร์ไง วายจี ไม่รู้จักเหรอ ทำไมถึงไม่รู้จักกันล่ะ (ตรงนี้คือหวีดใส่แรงมาก ไม่รู้จักโอปป้าของฉันได้ไง!!!)
เรา : วินเนอร์ ที่มีซงมินโฮ มิโน Show me the money fear อาปอจี!! ไม่รู้จักเหรอ? (แอบร้องเพลงให้นางฟังนิดนึง
คือขรรมตัวเองมาก ทำไมถึงติ่งใส่ขนาดนี้ได้ ฮือออออ)
ตม.โอปป้า : อ๋อออ รู้จักๆ
ตม.ลุง : ซงมินโฮใคร? (พูดเกาหลีเหมือนเดิม)
เรา : ซงมินโฮ วินเนอร์ ทำไมไม่รู้จักล่ะ T___T!!!! (หวีดแรงใส่อีก)
ตม.โอปป้า : ผมรู้จัก แต่เขาไม่รู้จัก (นางก็หัวเราะใส่)
เรา : ที่ต่างประเทศวินเนอร์ดังมากนะ ทำไมถึงไม่รู้จักกันอ่ะ
ตม. โอปป้า : เหรอครับ?
เรา : ใช่ ดังมาก เนี่ยอีซึงฮุน วินเนอร์เหมือนกัน โอปป้าฉันเอง (เอาล็อคสกรีนพี่ฮุนในไอโฟนคลุงให้นางดู)
ตม. ลุง : อีซึงฮุน?
เรา : ไม่รู้จักอีกเหรอ ทำไมถึงไม่รู้จักกกกก!!! (หวีดอีก)
ตม.โอปป้า : โอเคๆ (หัวเราะใส่อีกรอบ)
หลังจากนั้น นางก็ให้แสกนนิ้ว ถ่ายรูป ปั๊มผ่านเข้าประเทศให้ พร้อมเดินไปเปิดประตูพาออกจากห้องเย็น
เราก็เดินผ่านเข้าเกาหลีไปอย่างสวยๆ เลยจ้า แถมก่อนจากตม.โอปป้ายังบอกว่า ขอให้สนุกนะ ด้วยแหละ
สรุปว่าความติ่งก็มีประโยชน์ และตม.เกาหลีไม่โหดอย่างที่คิดนาจา 555555555555
เตรียมตัวดี มีสติ ก็รอดปลอดภัยแล้วล่ะจ้า
สำหรับคอนเสิร์ตที่เราไปดู ดีงามมากอ่ะ อยากจะดูซ้ำ อ่านรีวิวได้ที่นี่ ขายตรงมาก 5555555
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://livemomenthere.wordpress.com/2016/03/19/winner-exit-tour-in-seoul/
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สำหรับคนที่ไปเที่ยวเกาหลี แล้วต้องเดินทางคนเดียวหรือไปกับเพื่อน แล้วโดนเข้าห้องเย็น
จริงๆ คืออย่าไปกลัวอ่ะ ก็สู้นางไป ถามมาก็ตอบไปตามจริง ถามย้ำอีกสักกี่รอบก็ตอบนางไป อย่าไปกังวลเลย
เราไม่ได้มาทำอะไรไม่ดีในประเทศเขานี่ อย่าไปลนให้เขาสงสัยเราว่ามาไม่ดี ภาษาอังกฤษ ไม่ค่อยแข็งแรง
เกาหลีก็ไม่ได้ก็ไม่ต้องกลัว เขาก็ใช้คำศัพท์ง่ายๆ คุยกับเราอยู่แล้ว อีกอย่างนึงเตรียมเอกสารไปให้พร้อมด้วย
เช่น
1. ใบรับรองการทำงาน หรือ ใบรับรองการเป็นนักเรียนนักศึกษา ที่ยืนยันได้ว่าไม่ชิ่งแน่นอน
2. ใบจองที่พัก
3. แพลนท่องเที่ยว
4. เงินวอน แลกติดตัวไปก็ดี
5. บัตรเครดิต มีก็ดีเผื่อโดนถามหา แต่เราไม่โดนนะ
6. เอกสารอะไรก็ตามที่ระบุว่าเรามาทำอะไรที่เกาหลี อย่างเช่นใบจองบัตรคอนฯ ที่เราพกไปด้วย
ปล. ขอแจงเรื่องที่เราลืมกรอกใบขาเข้านิดนึง เราลืมกรอกแค่ส่วนที่บอกว่าพักที่ไหนเท่านั้นค่ะ
นอกนั้นเรากรอกครบหมด คือตอนเขียนตอนนั้นเครื่องกำลังจะแลนดิ้ง แล้วเราพักโฮสเทลสองที่ ที่อยู่มันยาว
ช่องมีนิดเดียว เราก็เลยกะว่า ให้เครื่องแลนก่อน เดี๋ยวลงไปเขียนต่อที่สนามบิน เราก็เลยเก็บของใส่กระเป๋า
ทีนี้ลงมาก็ลืมไปว่าคืนปากกาให้แอร์ไปแล้ว พอมาถึงหน้าตม.เราเลยกะเอาใบจองให้เขาดูเลยทั้งสองที่พักค่ะ
พอเขาดูเสร็จ เขาก็ส่งเราเข้าห้องเย็นเลย ตรงนี้ก็ยอมรับนะว่าเราไม่รอบคอบเองค่ะ
ไปคราวหน้าจะต้องเตรียมพร้อมกว่านี้แน่นอน
แชร์ประสบการณ์ ติ่งกับตม.เกาหลี (ที่เขาว่าโหด)
ในห้องเย็นกับตม.เกาหลีที่เขาว่าโหดนักหนากันหน่อย
ด้วยความที่บินคนเดียวเปรี้ยวๆ หน้าพาสปอร์ตว่าง ไปเกาหลีเป็นครั้งแรกก็โดนไปจ้า
วันนี้ว่างๆ ก็ขอมาเล่าประสบการณ์สู่กันฟังแบบเท่าที่จำได้นะ แต่จริงๆ ก็จำได้เกือบหมดอ่ะ
เพราะมันตื่นเต้น มันเป็นครั้งแรกของเรา 55555555555
อะเริ่ม!
10 มีนาคม 59 เวลาประมาณ 9 โมงกว่า ลงจากเครื่องมาด้วยสภาพผักมาก คือไม่สบายอยู่พอดี
แมสปิดปากปิดจมูกมาเลย พอถึงตม. ก็ยื่นพาสปอร์ต เปิดหน้าให้แกดู เป็นลุงตม.หน้านิ่งๆ
เปิดพาสสลับกับดูหน้านี่ที ทีนี้ก็เอาล่ะ
ตม. : มาคนเดียว? (พูดด้วยภาษาอังกฤษสำเนียงเกาหลีสุด)
เรา : ใช่ มาคนเดียว แต่เพื่อนกำลังบินตามมาอีกไฟลท์นึง
ตม. : มาคนเดียวใช่มั้ย? (อะมีย้ำ)
เรา : มาคนเดียว
ตม. : แล้วพักที่ไหน?
เรา : (ยื่นเอกสารจองที่พักให้ดู)
ตม. : ปิดพาสปอร์ตแล้วพาเข้าห้องเย็น
ณ จุดนั้นคือ เออ เข้าก็เข้า ก็เตรียมใจมาแล้วว่าต้องโดนอยู่แล้ว 555555555
ทีนี้ก็ไปเจอตม.อีกคนนึง ใส่แว่นเป็นโอปป้านิดนึง
ตม.โอปป้า : มาคนเดียว? (เก๊กขรึมด้วยภาษาอังกฤษเกาหลีมาก)
เรา : ใช่ มาคนเดียว แต่เพื่อนกำลังตามมาอีกไฟลท์
ตม. โอปป้า : แล้วพักที่ไหน เขียนในนี้ด้วยสิ
เราก็รับใบขาเข้าประเทศจากเขามาแล้วก็เออ ลืมเขียนนี่ ก็เลยเอาใบจอง Airbnb ให้นางดูเลยทีนี้
เรา : พักที่นี่ พักสองที่นะ (นางก็หยิบใบจองไปดู)
ตม. โอปป้า : มากี่วัน จะกลับเมื่อไหร่?
เรา : 5 คืน 6 วัน 4วันแรกพักที่นี่ ส่วน 2 วันหลังพักอีกที่นึง (นางดูประกอบ)
ตม. โอปป้า : แล้วตกลงพักกี่วัน?
เรา : 5 คืน 6 วัน (ในใจนี่แบบ ก็บอกไปเมื่อกี้แล้วแงะ)
ทีนี้ก็มีตม.ลุงอีกคนนึงมา นางก็เอาใบจองที่พักไปเม้ามอยด้วยภาษาเกาหลีกัน
นางหันไปคุยภาษาเกาหลีกับตม.โอปป้าว่าไม่เคยเห็นใบแบบนี้
แต่เดี๋ยวก่อนฉันเรียนภาษาเกาหลีมาสักพักแล้ว พอฟังออกนาจา
ตม.โอปป้า : ทำไมในนี้ไม่มีชื่อคุณล่ะ?
เรา : มันเป็น confirmation mail ของ Airbnb พอพริ้นท์ออกมาแล้วมันก็เป็นแบบนี้
ตม. ลุง : ไม่เคยเห็น (พูดภาษาเกาหลีอีกล่ะ นึกว่าฟังไม่ออกเหรอลุง)
เรา : เอาอีเมลจาก Airbnb ดูก็ได้ (เปิดเมลแล้วยื่นให้นางดู)
ตม.ลุง : อาชิบ อาชิบๆ
เราก็นั่งนึกแปปนึง ทำไมมาบอกว่า เสียดาย คือภาษาเกาหลีเสียดายมันคือ อาชิบตา เราก็เออนี่ภาษาเกาหลีหรืออะไร ก็งงๆ
ตม. โอปป้า : เขาหมายถึง อาชีพอะไร
เรา : อ๋อ อาชีพ (ก็หัวเราะกันร่วน เพราะตม.ลุงแกพูดภาษาไทย แต่เราฟังเป็นเกาหลี 5555 นี่นางมีแอบเก๊กขรึมกลับด้วยนะ)
เรา : เป็นพนักงานออฟฟิศ ทำงานอยู่ที่นี่ (เอาบัตรพนักงาน กับเอกสารรับรองการทำงานให้นางดู)
ตม. โอปป้า : เดินเอาบัตรพนักงานกับใบรับรองไปให้ตม.อีกกลุ่ม อีกห้องนึงดู
แล้วนางก็กลับมาพร้อมกับใบที่ให้กรอกข้อมูลรายละเอียดว่ามาทำอะไรที่เกาหลี แล้วใบนี่มีภาษาไทยด้วยจ้า
นี่แสดงว่ามีคนโดนเยอะสินะ ถึงทำเวอร์ชั่นภาษาไทยกำกับมาขนาดนี้
ตม.โอปป้า : มาคนเดียวหรอ (แหนะ เอาอีกล่ะ)
เรา : มาคนเดียว แต่เพื่อนกำลังตามมาอีกไฟลท์นึง
ตม.โอปป้า : แล้วทำไมไม่มาด้วยกัน
เรา : เพื่อนเพิ่งตัดสินใจว่าจะมาด้วยกัน ฉันจองก่อนไปแล้ว ก็เลยจองแยกกัน
ตม.ลุง : บริษัท อะไร (พูดเกาหลีกับตม.โอปป้า ฉันอยู่ตรงนี้ ฉันฟังออก
คือก่อนหน้านั้นนางถามตม.โอปป้าว่าบริษัทที่เราทำงานอยู่บริษัทอะไร)
เรา : ก็ตอบนางไปว่าบริษัทเราเป็นไง เราทำงานอะไร (แล้วตม.ลุงก็เอาบัตรพนักงานมาคืน)
ตม.โอปป้า : เขียนด้วยว่าพักที่ไหน (อะเขียน เขียนในใบขาเข้าที่เราลืมเขียนไป)
สักพักนางก็เดินทยอยเอาเอกสารมาคืนเรา นางก็เจอกับไอเทมใบรับบัตรคอนเสิร์ตจ้า
ซึ่งหลังจากนี้ก็เป็นความหวีดของติ่งล้วน 55555555
เรา : เนี่ยๆ มาดูวงนี้แหละ
ตม. โอปป้า : นางหยิบใบจองไปพิจารณาแล้วพึมพำว่า วินเนอร์?
เรา : เขาจะมีคอนเสิร์ตอาทิตย์นี้แหละ ฉันมาที่นี่เพื่อมาดูคอนเสิร์ต รู้จักวินเนอร์มั้ยล่ะ
ตม. โอปป้า : ทำหน้างง
ตม.ลุง : คือใคร (พูดภาษาเกาหลี)
เรา : วินเนอร์ไง วายจี ไม่รู้จักเหรอ ทำไมถึงไม่รู้จักกันล่ะ (ตรงนี้คือหวีดใส่แรงมาก ไม่รู้จักโอปป้าของฉันได้ไง!!!)
เรา : วินเนอร์ ที่มีซงมินโฮ มิโน Show me the money fear อาปอจี!! ไม่รู้จักเหรอ? (แอบร้องเพลงให้นางฟังนิดนึง
คือขรรมตัวเองมาก ทำไมถึงติ่งใส่ขนาดนี้ได้ ฮือออออ)
ตม.โอปป้า : อ๋อออ รู้จักๆ
ตม.ลุง : ซงมินโฮใคร? (พูดเกาหลีเหมือนเดิม)
เรา : ซงมินโฮ วินเนอร์ ทำไมไม่รู้จักล่ะ T___T!!!! (หวีดแรงใส่อีก)
ตม.โอปป้า : ผมรู้จัก แต่เขาไม่รู้จัก (นางก็หัวเราะใส่)
เรา : ที่ต่างประเทศวินเนอร์ดังมากนะ ทำไมถึงไม่รู้จักกันอ่ะ
ตม. โอปป้า : เหรอครับ?
เรา : ใช่ ดังมาก เนี่ยอีซึงฮุน วินเนอร์เหมือนกัน โอปป้าฉันเอง (เอาล็อคสกรีนพี่ฮุนในไอโฟนคลุงให้นางดู)
ตม. ลุง : อีซึงฮุน?
เรา : ไม่รู้จักอีกเหรอ ทำไมถึงไม่รู้จักกกกก!!! (หวีดอีก)
ตม.โอปป้า : โอเคๆ (หัวเราะใส่อีกรอบ)
หลังจากนั้น นางก็ให้แสกนนิ้ว ถ่ายรูป ปั๊มผ่านเข้าประเทศให้ พร้อมเดินไปเปิดประตูพาออกจากห้องเย็น
เราก็เดินผ่านเข้าเกาหลีไปอย่างสวยๆ เลยจ้า แถมก่อนจากตม.โอปป้ายังบอกว่า ขอให้สนุกนะ ด้วยแหละ
สรุปว่าความติ่งก็มีประโยชน์ และตม.เกาหลีไม่โหดอย่างที่คิดนาจา 555555555555
เตรียมตัวดี มีสติ ก็รอดปลอดภัยแล้วล่ะจ้า
สำหรับคอนเสิร์ตที่เราไปดู ดีงามมากอ่ะ อยากจะดูซ้ำ อ่านรีวิวได้ที่นี่ ขายตรงมาก 5555555
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ปล. ขอแจงเรื่องที่เราลืมกรอกใบขาเข้านิดนึง เราลืมกรอกแค่ส่วนที่บอกว่าพักที่ไหนเท่านั้นค่ะ
นอกนั้นเรากรอกครบหมด คือตอนเขียนตอนนั้นเครื่องกำลังจะแลนดิ้ง แล้วเราพักโฮสเทลสองที่ ที่อยู่มันยาว
ช่องมีนิดเดียว เราก็เลยกะว่า ให้เครื่องแลนก่อน เดี๋ยวลงไปเขียนต่อที่สนามบิน เราก็เลยเก็บของใส่กระเป๋า
ทีนี้ลงมาก็ลืมไปว่าคืนปากกาให้แอร์ไปแล้ว พอมาถึงหน้าตม.เราเลยกะเอาใบจองให้เขาดูเลยทั้งสองที่พักค่ะ
พอเขาดูเสร็จ เขาก็ส่งเราเข้าห้องเย็นเลย ตรงนี้ก็ยอมรับนะว่าเราไม่รอบคอบเองค่ะ
ไปคราวหน้าจะต้องเตรียมพร้อมกว่านี้แน่นอน