[CR] Let's go " alone trip >> Jeonju-Seoul Korea <<คนเดียวเที่ยวแล้วไง " ภาค 1


   
         สวัสดีชาวพันทิปทุกคนนะคะ ก่อนอื่นเราขอแนะนำตัวก่อน เรามีชื่อว่า แก๊ป ตอนนี้อายุก็ 24 ปีแล้ว  นิสัยเราส่วนตัว เป็นคนชอบอิสระเอามาก ชอบเจออะไรใหม่ๆ คิดอะไรใหม่ๆ อยู่กับที่เดิมๆไม่ค่อยได้ ไม่ชอบให้ใครมาจุ๊กจิ๊กกับชีวิตนัก 55 ชอบกินๆๆๆ ชอบฟังเพลง สะสมแผ่นซีดีเพลง ชอบทำอาหาร ชอบภาษา ชอบดนตรี ชอบมีเพื่อนใหม่ๆ และที่ชอบที่สุดตอนนี้ คือ ชอบท่องเที่ยวล่ะเพราะมันตอบโจทย์ทุกอย่างของความชอบจริงๆนะ
        วันนี้เราจะมีแชร์ประสบการณ์ท่องเที่ยวของเราค่ะ ส่วนตัวเรามีโอกาสได้ไปเที่ยวต่างประเทศอยู่เหมือนกัน ส่วนใหญ่ก็ไปแบบ แบคแพค เน้นถูก ประหยัด กินข้างทาง เข้ามินิมาร์ท แต่ไปครั้งนั้นก็ไปกับเพื่อนค่ะ ก็มีเพื่อนลุยไปด้วยกัน ก็เลยพร้อมที่จะอึดได้ทุกสถานการ์ณ (ไว้วันหลังจะมารีวิว ให้ทุกคนได้ดูความอึดไปแบบ แบคแพค กันนะ ) กลับมาต่อๆๆ ประสบการณ์ที่เราจะมาแชร์วันนี้ไม่ได้ไปกับเพื่อนแล้วนะ คราวนี้ไปคนเดียว ไปด้วยใจที่ไม่รู้สึกกลัวอะไรจริงๆ เป็นการไปที่เจอทั้งเรื่อง สนุกมากๆ ตกใจมากๆ ช๊อคเบาๆก็มี หน้าแหกก็มี เซงก็มี แก้ปัญหาเฉพาะหน้าแบบสุดๆก็มี 55 คือเพิ่งรู้ว่าการไปเที่ยวคนเดียวเนี้ย มันต้องใช้ทุกส่วนของร่างกายเลย ไปอ่านประสบการณ์ของเราดีกว่า เผื่อใครมีโอกาสได้ไป ก็ไว้เป็นอุทาหรณ์นะคะ ว่าแล้วไปลุยด้วยกันเลย
*ถ้ามีภาษาไม่สุภาพอย่าว่ากันนะ เราอยากสื่ออารมณ์และความรู้สึกของเราตอนนั้นจริงๆ 55+

       วันที่ 14 พฤศจิกายน 2558 เวลา 21.30 น. เราเดินทางไปที่สนามบินดอนเมือง ไปเช็คอินเพื่อที่จะเดินทางไป สนามบินอินชอนประเทศเกาหลีใต้ คะ
ภาพแรกที่เห็นในช่องเช็คอินคือ คนเยอะมากก เป็นคนเกาหลี 70% คนไทยประมาณ 30 % ต่อคิวนี้ ภาษาเกาหลีเริ่มมา ความตื่นเต้นมันก็เริ่มมา มีทั้ง อาจุมม่า อาจอชี โอปป้า นูน่า มาหมดค่าา แล้วคนไทยที่ไปเที่ยว ส่วนใหญ่ก็ไปกับเพื่อน หรือไม่ก็กรุ๊ปทัวร์เล็กๆ ง่อวว์ กุเหงามากค่ะ อารมณ์ตอนนั้น แต่ไม่แคร์ เพราะความรู้สึกสนุกตื่นเต้นมันมากกว่าอารมณ์เหงาซะอีก

หลังจากเช๊คอินอะไรเรียบร้อยแล้ว ก็จะเข้าไปใน Gate แล้วนะคะ เข้าไปจะมีช่อง ตม. ของไทย ของเราตอนนั้นยังเจอแบบคน ปั๊มพาสปอรต์อต่ตอนนี้เหมือนเปลี่ยนมาเป็นแบบสแกนแบบสุวรรณภูมิแล้วมั่งค่ะไม่แน่ใจ *เวลากรอกใบ ตม. ควรกรอกเป็นภาษาอังกฤษตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมดนะค่ะ มีน้องคนไทยเดินมาถามแล้วดันไปกรอกเป็นภาษาไทยทั้งหมด เราก็ไม่แน่ใจว่าได้หรือเปล่า เลยพาน้องเดินไปถาม ตม.เลย จริงๆไม่ได้นะ แต่ก็ปล่อยไป ถ้าตามหลักควรกรอกเป็นอังกฤษนะคะ*** เข้ามาแล้วว เงียบมว๊ากกก เพราะมันดึกแล้วเนาะ เดินๆๆคนเดียว เปลี่ยวๆไป Gate 15 แล้วก็เข้ามารอข้างในค่ะ

**เรื่องเล่าเรื่องแรก ชวนแก้ปัญหามาแล้วคะเรื่องแรก นี่ขนาดยังไม่ออกประเทศไทย มาแล้วว กูโดนแล้วเรื่องแรก....ตอนที่เช็คอินค่ะ พนง.เอาปากกาเน้นข้อความ สีเหลืองเขียวสะท้อนแสง มาร์คลงบนตั๋ว แล้วสอดเข้า พาสปอนต์ทันทีจ้าา เป็นไงละกู เปิดออกมา อีหมึกปากกา ติดหน้าประวัติ พาสปอนต์ค่าาา พอเข้ามา Gate พนง.ทักคะว่า ไปโดนอะไรมาค่ะ ? ต้องลบออกนะค่ะ ไม่งั้น ตม.ที่โน้นไม่ให้เข้าค่ะ !!! ช๊อคสิ งานนี้ แหกก เปิดออกมา พาสปอร์ตกู !! เหลืองเชียวววสะท้อนแสงด้วย ทำไงดีหว่ะๆๆๆๆ ถูกับกางเกงนี้แหละ เจ้าพระคุณ ออกค่า หมึกออกค่า ดีนะที่ยังไม่แห้ง ไม่งั้นซวยๆอารมณ์ตอนนั้นคือ แบบ --- คิดภาพไปที่ พนง.เชคอินน  เอิ่มมมากกก แต่ก็รอดมาได้ *** เวลาเช๊คอินดูพาสปอนต์ของท่านดีดีนะค่ะ ****
รอมาได้สักชั่วโมง ก็ขึ้นเครื่องแล้วค่า เราเดินทางด้วยสายการบินแอร์เอเชียเอ๊กซ์ เพราะตั๋วราคาไม่แพงมาก ลำใหญ่ นั่งสบายอยู่นะ แต่ก่อนขึ้นเครื่องก็ต้องเตรียมท้องดีดีล่ะ หิวมา ซื้อกินบนเครื่อง ได้น้อยแถมแพงอี้กกก

เรานั่งตรงโซนเงียบ อัพราคาขึ้นมา ประมาณ 300 บาท ไม่แน่ใจว่า เป็นโซนต่อจาก BUSINESS CLASS หรือเปล่านะ แต่โชคดีมากที่ข้างๆไม่มีใครนั้งข้างเราเลย นอนยาวสิ แต่แอบเซงอ่ะ ฝรั่งที่นั้งโซนกลาง เล่นคอมทั้งคืน อ่านหนังสือ กินเบียร์ เอิ่ม---หลับๆตื่นๆค่าาา เรานั่ง 10A นะ สบายๆๆ เพื่อใครไปนั้งที่เดียวกับเรา  5 ชั่วโมงครึ่ง ผ่านไป ตื่นมาเจอแบบนี้ เกาะ น้ำ เกาะ น้ำ เกาะ สวยมากกก ท้องฟ้าก็สวยมากๆ

สักพัก แอร์ - สจ๊วต ก็ประกาศ มี 3 ภาษานะ ไทย-อังกฤษ-เกาหลี อุณหภูมิ 10 องศาจ้าา ความรู้สึกตอนนั้นคือแบบ กุพร้อมรับค่ะ 10 องศา 555+  
แล้วก็แลนด์ดิ้ง เห็นเครื่องบินของ โคเรียแอร์ไลน์ นี่กุถึงแล้วโว้ยย เกาหลีใต้ อันยองฮาเซโย

วูบแรกที่เดินออกมาจากประตูเครื่อง เชื่อมกับประตูสนามบิน คำแรกที่บอกตัวเอง คือ โครตหนาวโว้ยยยย 10 องศา บ้านเราทางเหนือกับเกาหลี นี่มันต่างกันมากก ที่เกาหลีมันเหมือนลมผ่านน้ำแข็งอ่ะ หน้าชาเลย สนามบินเปิดฮิตเตอร์งี้ ไม่เหมือนบ้านเรา ที่ลมผ่านดอยนะ 555 เตรียมเสือดีดี น้ำหนักเบากันลม
หลังจากออกมาจากเครื่อง ก็มุ่งหน้าไปที่ ตม.ทันที ความรู้สึกตอนนั้น ไม่ได้ตื่นเต้นนะ เฉยๆมา แต่พอต่อคิวเท่านั้นแหละ เริ่มคิดล่ะ กุจะโดนถามอะไรบ้างว่ะ มาคนเดียวอีกต่างหาก !!! แต่ไม่กลัวนะ แค่รู้สึกตื่นเต้น 55
*** ประสบการณ์ ตม. เกาหลี *** หลังจากที่เราไปยืนหน้า ตม. ซึ่งพนง.บนเครื่องบินจะแจกใบตม.ให้เรากรอกบนเครื่องนะคะ แต่ถ้าใครไม่ได้ ที่ ตม.ก็จะมี ใบหยิบให้กรอก *** ตม.เกาหลีเนี้ย มีประมาณ 7-8 ช่องเนี้ยมั่ง ถ้าจำไม่ผิดด้วยสายตา แล้วตอนที่เรายืนอ่ะ มันเช้าคนไทยก็น้อย โซนเข้าเมืองต่างชาติคือน้อยอ่ะ น้อยจน ตม. มีเวลาถามจ้าาาา 5555+ แล้วในที่สุด กูก็โดนถาม 555+
ตม : มองหน้า สแกนพาส  เรา : มองหน้า ยิ้ม สู้ตาย (มองสิ กุไม่กลัว) 55+  ตม : YOUR COME TO KOREA ALONE ?  เรา : YES ! ALONE  ตม: มองหน้าแรงว์ ถามต่อ YOUR COME TO KOREA FIRST TIME ?  เรา : yes ! first time --- เราเห็นท่าไม่ดีตอบแบบนี้กูห้องเย็นแน่ เลยตอบต่อไปว่า  but i have friend live in korea 1 person .he is korea people !! (เราลืมบอกไป เรามีเพื่อนเป็นคนเกาหลี คนนึง ซึ่งเคยมาเที่ยวเมืองไทยและรู้จักกันผ่านเว็ปแลกเปลี่ยนภาษา) ตม : มองหน้าแรงว์ คราวนี้นางถาม ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร เพื่อนคนเกาหลีของเราเลยค่า เรา: (ชิหายล่ะ กุไม่มีเบอร์โทรเพื่อน ไม่มีที่อยู่ รู้แต่ชื่อ และมีแต่ Kakao talk id และ E-mail ที่คุยผ่านกันเท่านั้น) ไม่รีรอ ใช้เวลาคิด 3 วิ กูจะทำไงดีว่ะ เอาหว่ะ ยิ้มบอก ตม.ตรงๆนี้แหละ เราเลยบอกไปว่า Sorry ! i don t have tel and add friend but i have kakao id and e-mail only ) 555+ ตม : นาง ทำหน้าแบบ เอิ่ม ค่ะ (ความรู้สึกเราคือขำนะ แต่มันต้องเร็วป่ะว่ะ แซรกสุดริด) นางเลยขอแต่ชื่อเพื่อน เรากลัว ตม.ไม่เชื่อ เลยเปิด ข้อความใน Kakao Talk โชว์เลยค่ะ 555 หลังจากนั้น ก็ข้อดูข้อมูลอื่นๆ เราพร้อมมาก ทุกสิ่ง ทั้งใบจองโรงแรม แพลนท่องเที่ยว บุ๊คไกด์ สำเนาตั๋วไป กลับ โชว์หมด ทั้งเนื้อทั้งตัว กูมาเที่ยวจริงๆๆๆ ตม.ก็ดูๆๆๆๆๆ หลังจากนั้น คงขี้เกียจถามละ ก็เลย โอเค สแกน นิ้ว แล้วก็ผ่านตม.มาได้ค่าาา เย้ๆๆๆ *สแกนนิ้วตม.มีภาษาไทยนะจ๊ะ*ควรเตรีมแพลนทุกอย่างที่เป็นสำเนาเผื่อตม.ถามและเป็นประโยชน์แก่ตัวเราเองนะ **** ภาษาอังกฤษเราไม่ได้สวยงามมาก ไม่เน้นแกรมม่าแต่เอาเข้าใจ และนี่คือสิ่งที่เราพูดกับ ตม.จริง ไม่ว่ากันนะ 55
อันยองฮาเซโยโว้ยยยยยย วู้ววว มาแล้วนะเกาหลี คำแรกที่บอกกับตัวเอง คือ อากาศดีมากกกก ดีสุดๆ ออกจากรับกระเป๋ามาเสร็จ แล้วก็ไปแลกตังค์ก่อนคะ เราไม่ได้แลกเงิน วอนจากประเทศไทยมานะตอนนั้น เพราะเหมือนจะขาดทุน ถ้าแลกเงินวอนมาเลย ตอนนั้นเลยแลก จากไทยเป็นเงิน ดอนล่าก่อน แล้วค่อยมาแลกดอนล่า ที่อินชอน ซึ่งเราว่ามันดีมากนะ เรทก็ดีอีกอย่าง ไม่ต้องพก ธนบัตรเยอะติดตัว

หลังจากที่เราออกมาจากสนามบิน แพลนของเรา คือ เดินทางไปที่ เมือง ชอนจู  คะ ชอนจู เป็นเมืองเก่านะ อยู่ทางตอนใต้ของเกาหลี ที่อยากไปเมืองนี้ เพราะ เป็นต้นตำหรับของอาหารเกาหลี อยากไปดูหมู่บ้านเก่าๆ อยากไปลองสัมผัสเมืองที่คนไม่ค่อยไปกัน เพื่อนเราเองก็อยู่เมืองนี้ค่ะ และที่ชอนจูเนี้ย ยังเป็นบ้านเกิดของ แทยอน เกิรล์เจนด้วยนะ คุณพ่อคุณแม่ของแทยอน มีร้านแว่นที่ ชอนจูด้วย แอบติ่ง

ออกมาจากสนามบิน ข้างหน้าจะมีเคาท์เตอร์ ซื้อตั๋วค่ะ ไปแทบทุกเมืองเลย ดีมาก สะดวกมาก สายตรงจากสนามบิน เราซื้อเดินทางไป ชอนจูคะ ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่งโมง โดยรถบัส

รถบัสที่เกาหลี ออกตรงเวลามาก เปะมาก ตามเวลาในตั๋วคือ ล้อหมุนนะ คนไม่เต็มไม่รอ ตามนั้น มีกี่คน ล้อก็หมุน แล้วไม่มีการจอดระหว่างทางด้วย ดีมาก
กำลังขับผ่านแม่น้ำคั่นระหว่าง เกาหลี กับ เกาะอินชอน สุดยอดดด แทบัก

ภายในรถ เห็นมั้ย คนน้อย ในรถแทบไม่มีคนเลย รอบนี้ ประมาณ 8-9 คนเอง ล้อก็หมุนค่า เบาะก็นุ่ม สบายสุดๆ แต่เราหลับตลอดทางเลย เพลียอ่ะ อดดูวิว
     
ถ้าใครไปชอนจู รถบัสจะจอด 1 ครั้ง นะ อย่าเพิ่งลง !! เหมือนจอดให้คนเข้าห้องน้ำจ้า แต่เราไม่ลง คือแบบง่วงมาก
   
เริ่มเข้าชอนจูแล้ว 3 ชั่วโมงผ่านไป เย้ ๆ
   
พอเราถึงชอนจู เทอร์มินอร์ เราก็ต่อ แท๊กซี่ไปที่พักค่ะ แท๊กซี่เกาหลี รับหมดนะจ๊ะ ไม่มีปฎิเสธส่ายหัวดุ๊กดิ๊ก ใช้จีพีเอสนำนางเป็นหลัก คือดีอ่ะ รู้สึกอุ่นใจ

สังเกตในมือ คุณลุง แท๊กซี่ มีกระดาษอยู่ นั้นคือ สำเนาบุ๊คกิ้งที่พักเราค่ะ มีแผนที่ ภาษาเกาหลี และลุงกำลังคิดอยู่ว่ามันอยู่ตรงไหน เพราะที่พักเรามันโครตจะอยู่ในซอกเลยค่ะ 5555 เราเพิ่งมารู้ตอนไปกับลุงเนี้ยแหละ ลุงพูดอังกฤษไม่ได้นะ แต่ใจดีมาก ช่วยเต็มที่ เราก็พูดเกาหลี คำง่ายๆใส่ลุง ลุงก็ยิ้ม ลุงโทรถามศูนย์แท๊กซี่เลยนะว่ามันอยู่ตรงไหนที่พัก คือช่วยสุดๆอ่ะ เราย้ายมานั่งหน้ากับลุง แล้วไปหาด้วยกันเลยค่ะ 555 สุดท้ายก็เจอ

ที่พักของเราชื่อว่า Seosunya เป็นเกสเฮาท์ที่เปิดในบริเวณพื้นที่บ้านเจ้าของค่ะ เล็กๆ แต่อบอุ่นและปลอดภัยมากๆเลยนะ ไม่วุ่นวายเงียบสงบ เจ้าของเป็นครอบครัวหนุ่มสาว น่ารักมากๆ ใจดีมากๆ สุภาพมากๆด้วยคะ แล้ววันที่เราไป เจ้าของออกมารับเราที่น่าปากซอยเลยนะ เจอพร้อมๆลุงแท๊กซี่อ่ะแหละ ที่พักเป็นสไตล์เกาหลี ห้องเล็กๆนอนพื้น ผ้าหม่อุ่นมาก พื้นสามารถปรับความร้อนให้อุ่นได้ ห้องแน่นหนา เราไม่ชอบนอนโรงแรมคะ มันเดิมๆอ่ะ ดูไม่เข้าถึงวิถี 55


อ่าส์--- เดี๋ยวเรามาต่อ ภาค 2 กันนะ ว่าจะเป็นยังไง ตอนนี้อยู่ ชอนจูแล้ว มีเรื่องเล่าอีกเยอะ ฝากติดตามกันด้วยนะคะ ----
Let's go " alone trip >> Jeonju-Seoul Korea <<คนเดียวเที่ยวแล้วไง " ภาค 2 http://ppantip.com/topic/35032257
ชื่อสินค้า:   Let's go " alone trip >> Jeonju-Seoul Korea <<คนเดียวเที่ยวแล้วไง "
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่