ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก ตะลุยหิมะญี่ปุ่น นั่งรถไฟ 15 วัน จากเหนือสุดถึงใต้สุด
ตอนที่ 6 แหล่งขุดค้นทางประวัติศาสตร์ชาว Jomon, Sannai Muruyama, Aomari
ทางรถไฟจากฮาโกดาเตะ (Hakodate) ไปเอามาริ (Aomari) เลียบริมทะเล สลับกับภูเขาที่มีหิมะและต้นสน ผ่านอุโมงค์สั้นๆ หลายอุโมงค์ ก่อนที่จะมุดอุโมงค์ยาว 53.85 กม. น้ำลึก 140 เมตร อุโมงค์อยู่ลึกจากระดับน้ำ 100 เมตร ข้าม ช่องแคบ Tsugaru Straits ของเกาะฮอกไกโด กว้าง 23.30 กม.ข้ามจาก Shiruchi ไป Imabetsu ของเกาะฮอนชู
รถขบวนที่เรานั่งใช้เวลา 22 นาที เริ่มเข้าอุโมงค์ที่เกาะฮอกไกโด 11.10-11.32 ที่เกาะฮอนชู โผล่ขึ้นมาเจอซอกเขาแล้วก็เข้าอุโมงค์หินสั้นๆ ข้างทางเป็นป่าสนใบออกสีน้ำตาล มีที่ราบเชิงเขาที่ขาวโพลนไปด้วยหิมะเหมือนไอศกรีมกะทิ อย่างที่บอกในซัปโปโร เราเป็นนักท่องเที่ยวเราก็ดูว่าสวยงามน่าหลงใหล แต่พวกเขาคงเบื่อบรรยากาศแบบนี้เพราะมันลำบากไปหมด ตอนอยู่บนรถไฟ อยากจะถอดเสื้อผ้าออก แต่พออยู่นอกรถ หรือนอกอาคารแม้จะใส่เต็มที่ เวลาพูดยังบังคับปากยากเย็น ทำให้คิดว่า คงเป็นเพราะหนาวเกินไปรึเปล่าที่ทำให้ภาษาญี่ปุ่นไม่ค่อยมีตัวสะกด
เรายังไม่ได้ไปอังกฤษ มุดอุโมงค์ไปฝรั่งเศส ก็จินตนาการว่าน่าจะเหมือนกัน เทคโนโลยี ช่างล้ำเลิศเหลือเกิน
ถึงสถานี Aomari เวลา 12.15 น. คนยังลงไม่หมด ยังมีสถานี Shin Aomari อีกสถานีหนึ่ง เราถามผู้โดยสารที่ยังไม่ลง เขาก็พูดอังกฤษไม่ได้ แต่บอกให้เราลงที่นี่ ลุงลังเลไม่ยอมลง ป้าตัดสินใจเสี่ยงลงไปก่อน ลุงจึงโดดตามลงไป ก่อนรถไฟเคลื่อนออก
เราถามหา ซันนาอิมูรุยะมะ (Sannai Muruyama) ไม่มีใครฟังภาษาอังกฤษออก พอดีมีสาววัยรุ่นโผล่มา เธอฟังรู้เรื่อง แต่พูดไม่ได้ เธอพาเดินไปอ่านที่บอร์ดนอกสถานี ชี้ให้ดูว่ารถเมล์จะมาเวลา 12.45 ป้าลอกตัวหน้าสุดไว้ พอรถมาถามเธอบอกว่าใช่ จึงขึ้นรถไปถามคนขับ คนขับได้แต่พยักหน้า เขาให้แลกเหรียญเป็นค่ารถคนละ 310 เยน เราจับเวลา 30 นาที คอยดูเวลาเพื่อจะลงรถ
ปรากฏว่า มันเป็นรถประจำทางสายที่จัดขึ้นเพื่อไปโบราณสถาน Sannai Miruyama แต่ก่อนที่จะถึงป้ายสุดท้ายรถเข้าไปอ้อมวงเวียนแล้วออกไปทางเดิม เพื่อที่จะเลี้ยวขวาไปโบราณสถาน ที่นั่นจนท.ต้อนรับดีมาก พอรู้ว่าเราไม่ใช่ยุ่น เธอก็รีบกลับไปเปลี่ยนแผ่นพับฉบับภาษาอังกฤษให้ ที่นี่ไม่มีค่าเข้าชม
จนท.บอกให้เดินตรงไป แล้วเลี้ยวซ้ายออกไปที่ชุมชนที่สถานที่จริงของบรรพบุรุษโจมน (Jomon) ยุคหินใหม่ มีเสาไม้สูงเป็นสัญลักษณ์ และมีบ้านหลังที่ยาวที่สุดอยู่ข้างหน้า สถานที่ยังขุดค้นไม่หมด ทุกที่ถูกหิมะหนาเกือบ 1 เมตรปกคลุม ตรงทางเดินเขาขูดหิมะออก แต่ยังมีบางที่ที่ยังคงมีแผ่นหิมะให้ผู้คนได้สัมผัส กลับเข้าไปด้านในข้างทาง เดินออกมีร้านอาหารและเครื่องดื่ม ดูเหมือนว่านักท่องเที่ยวไม่นิยมเท่าใดนัก
รถประจำทางสายนี้จัดไว้สำหรับรับ-ส่งคนไป-กลับสถานีรถไฟ กับโบราณสถานแห่งนี้โดยเฉพาะอยู่แล้ว ขนาดวันเสาร์ยังแทบจะไม่เห็นผู้คน รถรับ-ส่งออกเป็นเวลา ขากลับเราจึงได้กลับรถคันเดิม ออกเวลา 14.15-14.45 น.
ถึงสถานี Aomari รีบไป ขอตั๋วที่นั่งไป Hirosaki แต่จนท.บอกว่าเป็นรถท้องถิ่นที่จัดไว้สำหรับสถานี Hirosaki โดยเฉพาะ ขึ้นได้เลย
[CR] ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก ตะลุยหิมะญี่ปุ่น นั่งรถไฟ 15 วัน จากเหนือสุดถึงใต้สุด ตอน6 แหล่งขุดค้นชาว Jomon, Sannai Muruyama
ตอนที่ 6 แหล่งขุดค้นทางประวัติศาสตร์ชาว Jomon, Sannai Muruyama, Aomari
ทางรถไฟจากฮาโกดาเตะ (Hakodate) ไปเอามาริ (Aomari) เลียบริมทะเล สลับกับภูเขาที่มีหิมะและต้นสน ผ่านอุโมงค์สั้นๆ หลายอุโมงค์ ก่อนที่จะมุดอุโมงค์ยาว 53.85 กม. น้ำลึก 140 เมตร อุโมงค์อยู่ลึกจากระดับน้ำ 100 เมตร ข้าม ช่องแคบ Tsugaru Straits ของเกาะฮอกไกโด กว้าง 23.30 กม.ข้ามจาก Shiruchi ไป Imabetsu ของเกาะฮอนชู
รถขบวนที่เรานั่งใช้เวลา 22 นาที เริ่มเข้าอุโมงค์ที่เกาะฮอกไกโด 11.10-11.32 ที่เกาะฮอนชู โผล่ขึ้นมาเจอซอกเขาแล้วก็เข้าอุโมงค์หินสั้นๆ ข้างทางเป็นป่าสนใบออกสีน้ำตาล มีที่ราบเชิงเขาที่ขาวโพลนไปด้วยหิมะเหมือนไอศกรีมกะทิ อย่างที่บอกในซัปโปโร เราเป็นนักท่องเที่ยวเราก็ดูว่าสวยงามน่าหลงใหล แต่พวกเขาคงเบื่อบรรยากาศแบบนี้เพราะมันลำบากไปหมด ตอนอยู่บนรถไฟ อยากจะถอดเสื้อผ้าออก แต่พออยู่นอกรถ หรือนอกอาคารแม้จะใส่เต็มที่ เวลาพูดยังบังคับปากยากเย็น ทำให้คิดว่า คงเป็นเพราะหนาวเกินไปรึเปล่าที่ทำให้ภาษาญี่ปุ่นไม่ค่อยมีตัวสะกด
เรายังไม่ได้ไปอังกฤษ มุดอุโมงค์ไปฝรั่งเศส ก็จินตนาการว่าน่าจะเหมือนกัน เทคโนโลยี ช่างล้ำเลิศเหลือเกิน
ถึงสถานี Aomari เวลา 12.15 น. คนยังลงไม่หมด ยังมีสถานี Shin Aomari อีกสถานีหนึ่ง เราถามผู้โดยสารที่ยังไม่ลง เขาก็พูดอังกฤษไม่ได้ แต่บอกให้เราลงที่นี่ ลุงลังเลไม่ยอมลง ป้าตัดสินใจเสี่ยงลงไปก่อน ลุงจึงโดดตามลงไป ก่อนรถไฟเคลื่อนออก
เราถามหา ซันนาอิมูรุยะมะ (Sannai Muruyama) ไม่มีใครฟังภาษาอังกฤษออก พอดีมีสาววัยรุ่นโผล่มา เธอฟังรู้เรื่อง แต่พูดไม่ได้ เธอพาเดินไปอ่านที่บอร์ดนอกสถานี ชี้ให้ดูว่ารถเมล์จะมาเวลา 12.45 ป้าลอกตัวหน้าสุดไว้ พอรถมาถามเธอบอกว่าใช่ จึงขึ้นรถไปถามคนขับ คนขับได้แต่พยักหน้า เขาให้แลกเหรียญเป็นค่ารถคนละ 310 เยน เราจับเวลา 30 นาที คอยดูเวลาเพื่อจะลงรถ
ปรากฏว่า มันเป็นรถประจำทางสายที่จัดขึ้นเพื่อไปโบราณสถาน Sannai Miruyama แต่ก่อนที่จะถึงป้ายสุดท้ายรถเข้าไปอ้อมวงเวียนแล้วออกไปทางเดิม เพื่อที่จะเลี้ยวขวาไปโบราณสถาน ที่นั่นจนท.ต้อนรับดีมาก พอรู้ว่าเราไม่ใช่ยุ่น เธอก็รีบกลับไปเปลี่ยนแผ่นพับฉบับภาษาอังกฤษให้ ที่นี่ไม่มีค่าเข้าชม
จนท.บอกให้เดินตรงไป แล้วเลี้ยวซ้ายออกไปที่ชุมชนที่สถานที่จริงของบรรพบุรุษโจมน (Jomon) ยุคหินใหม่ มีเสาไม้สูงเป็นสัญลักษณ์ และมีบ้านหลังที่ยาวที่สุดอยู่ข้างหน้า สถานที่ยังขุดค้นไม่หมด ทุกที่ถูกหิมะหนาเกือบ 1 เมตรปกคลุม ตรงทางเดินเขาขูดหิมะออก แต่ยังมีบางที่ที่ยังคงมีแผ่นหิมะให้ผู้คนได้สัมผัส กลับเข้าไปด้านในข้างทาง เดินออกมีร้านอาหารและเครื่องดื่ม ดูเหมือนว่านักท่องเที่ยวไม่นิยมเท่าใดนัก
รถประจำทางสายนี้จัดไว้สำหรับรับ-ส่งคนไป-กลับสถานีรถไฟ กับโบราณสถานแห่งนี้โดยเฉพาะอยู่แล้ว ขนาดวันเสาร์ยังแทบจะไม่เห็นผู้คน รถรับ-ส่งออกเป็นเวลา ขากลับเราจึงได้กลับรถคันเดิม ออกเวลา 14.15-14.45 น.
ถึงสถานี Aomari รีบไป ขอตั๋วที่นั่งไป Hirosaki แต่จนท.บอกว่าเป็นรถท้องถิ่นที่จัดไว้สำหรับสถานี Hirosaki โดยเฉพาะ ขึ้นได้เลย
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น