ห้ามฟุ่มเฟือยสุรุ่ยสุร่าย
มีรายงานจากท่านอัมรฺ บุตรของท่านชุอัยบฺ จากบิดาของท่าน จากปู่ของท่านกล่าวว่า ท่านรอซูล กล่าวว่า :
كل واشرب والبس وتصدق من غيرإسراف ولامخيلة
จงกิน จงดื่ม จงสวมใส่ จงให้ทาน แต่อย่าฟุ่มเฟือย และอย่าโอ้อวด
(บันทึกโดย ท่านอิมามอะห์หมัด และท่านอิมามอบูดาวู๊ด)
คำอธิบาย
ท่านรอซูล บอกให้พวกเราหาความสุขกับของที่ฮะล้าลได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะกินจะดื่ม หรือเสื้อผ้าอาภรณ์
อัลเลาะห์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ก็ทรงอนุมัติให้พวกเราเลือกกิน เลือกดื่มเฉพาะของดีๆดังที่พระองค์ตรัสไว้ว่า :
ลูกหลานของอาดัมเอ๋ย ! จงเอา(คือให้ถือปฏิบัติเป็นเนืองนิจ)เครื่องประดับกาย(หมายถึงการสวมเครื่องนุ่งห่มให้เรียบร้อยขณะไปมัสยิดทุก ๆ มัสยิด)ของพวกเจ้า ณ ทุกมัสยิด และจงกินและจงดื่ม และจงอย่าฟุ่มเฟือย แท้จริงพระองค์ไม่ชอบบรรดาผู้ที่ฟุ่มเฟือย (อัลอะอฺรอฟ 7 : 31)
และพระองค์ทรงชมเชยปวงบ่าวที่พระองค์ทรงรักพวกเขา ซึ่งเรียกเป็นภาษาอาหรับว่า عبادالرحمان (อิบาดุรเราะห์มาน) “ปวงบ่าวของพระผู้ทรงปราณี” ว่า :
และบรรดาผู้ที่เมื่อพวกเขาใช้จ่าย พวกเขาก็ไม่สุรุ่ยสุร่าย และไม่ตระหนี่ และระหว่างทั้งสองสภาพนั้น พวกเขาก็อยู่สายกลาง (อัลฟุรกอน 25 : 67)
ศาสนาอิสลามห้ามฟุ่มเฟือย สุรุ่ยสุร่าย และห้ามตระหนี้ถี่เหนียว เช่นถึงคราวจำเป็นต้องจ่าย ก็อิดออดไม่ค่อยอยากจะจ่าย เป็นต้น นอกจากนี้แล้วอิสลามยังห้ามมิให้ภาคภูมิใจในตัวเอง ทำตัวยิ่งใหญ่ โอ้อวดผู้อื่นที่เป็นบ่าวของอัลเลาะห์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ด้วยกัน ซึ่งการกระทำอย่างนั้นเป็นการกระที่เลียนแบบ ฟิรเอาวน์ กอรูน และฮามาน ซึ่งพวกนี้อัลเลาะห์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงกริ้วโกรธ อันเนื่องจากพวกเขาหยิ่งยโสโอหัง และทำให้เกิดมีการบ่อนทำลายบนหน้าแผ่นดิน
ท่านรอซูล ก็เตือนประชาชาติของท่านอย่าให้มีลักษณะดังกล่าว ดังโอวาทของท่านที่ว่า :
لايدخل الجنة أحد فى قلبه مثقال حبةخردل من كبرياء
ผู้ใดที่ในหัวใจของเขามีความยโสโอหัง แม้จะเพียงน้ำหนักเท่าเพียงผงธุลี เขาจะไม่ได้เข้าสวรรค์
(บันทึกโดย ท่านอิมามมุสลิม และท่านอิมามอบูดาวู๊ด)
ดังนั้น พี่น้องมุสลิมทุกท่านจะต้องระมัดระวังในเรื่องดังกล่าวนี้ไว้ให้มาก จงกินจงดื่มกันแต่พอควร สวมใส่เสื้อผ้าก็เลือกหามาแต่พอเหมาะ และจะต้องไม่ตระหนี่ถี่เหนียว ไม่สุรุ่ยสุร่าย
การที่เราจะรู้ตนเองว่าสุรุ่ยสุร่ายหรือไม่นั้น ก็วัดได้จากรายได้ของเราว่าเรามีรายได้เท่าไหร่ และจ่ายไปเท่าไหร่ ถ้าหากว่าเราจ่ายเกินกว่ารายได้นั้น ก็เท่ากับว่าเราเป็นคนฟุ่มเฟือย และสุรุ่ยสุร่ายแล้ว (หรือในกรณีที่ว่าเราซื้อหาสิ่งของที่ไม่มีประโยชน์ไร้สาระ ก็นับได้ว่าฟุ่มเฟือยเหมือนกัน)
การที่เราจะจ่ายนั้น ก็ให้จ่ายไปตามสิทธิและหน้าที่ เช่น จ่ายซะกาต จ่ายค่าครองชีพของครอบครัว จ่ายไปในการติดต่อสัมพันธ์เยี่ยมเยียนญาติพี่น้อง เป็นต้น นอกจากนี้ยังควรพิจารณาผู้ที่เขาเอ่ยปากขอ และไม่เอ่ยปากขอ เช่น เพื่อนบ้านที่ขาดแคลน คนยากจน และคนเดินทาง ในกรณีนี้ถ้าหากเรายังไม่มีกำลังทรัพย์ที่จะหยิบยื่นให้เขาได้ก็บอกเขาไปดีๆว่า ตอนนี้ยังไม่มี จนกว่าอัลเลาะห์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา จะทรงประทานริสกีย์ให้ด้วยความโปรดปรานของพระองค์
สิ่งที่ได้รับจากฮะดีษนี้
ให้มุสลิมจับจ่ายทรัพย์ไปในทางที่มีประโยชน์ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า
อิสลามประณามความฟุ่มเฟือยที่มีเจตนาโอ้อวด และแสดงความโก้หรู
มุสลิมทุกคนควรกำหนดค่าครองชีพให้พอเหมาะ อย่าจ่ายเกินขอบเขตความสามารถ และอย่าได้ทำลายตัวเองด้วยความตระหนี่ ไม่ยอมซื้ออาหาร เครื่องดื่ม มาบริโภค หรือไม่ยอมซื้อเสื้อผ้าสวยๆมาสวมใส่ ทั้งๆที่มีกำลังทรัพย์พอที่จะซื้อหามาได้โดยไม่เดือดร้อน
อัลเลาะห์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ไม่ทรงรักบรรดาผู้ที่หยิ่งยโส
นรกญะฮันนัมเป็นที่อยู่อาศัยของบรรดาผู้ที่หยิ่งยโส
การห้ามฟุ่มเฟือยและความโลภกับคำสอนศาสนาอิสลาม
มีรายงานจากท่านอัมรฺ บุตรของท่านชุอัยบฺ จากบิดาของท่าน จากปู่ของท่านกล่าวว่า ท่านรอซูล กล่าวว่า :
كل واشرب والبس وتصدق من غيرإسراف ولامخيلة
จงกิน จงดื่ม จงสวมใส่ จงให้ทาน แต่อย่าฟุ่มเฟือย และอย่าโอ้อวด
(บันทึกโดย ท่านอิมามอะห์หมัด และท่านอิมามอบูดาวู๊ด)
คำอธิบาย
ท่านรอซูล บอกให้พวกเราหาความสุขกับของที่ฮะล้าลได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะกินจะดื่ม หรือเสื้อผ้าอาภรณ์
อัลเลาะห์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ก็ทรงอนุมัติให้พวกเราเลือกกิน เลือกดื่มเฉพาะของดีๆดังที่พระองค์ตรัสไว้ว่า :
ลูกหลานของอาดัมเอ๋ย ! จงเอา(คือให้ถือปฏิบัติเป็นเนืองนิจ)เครื่องประดับกาย(หมายถึงการสวมเครื่องนุ่งห่มให้เรียบร้อยขณะไปมัสยิดทุก ๆ มัสยิด)ของพวกเจ้า ณ ทุกมัสยิด และจงกินและจงดื่ม และจงอย่าฟุ่มเฟือย แท้จริงพระองค์ไม่ชอบบรรดาผู้ที่ฟุ่มเฟือย (อัลอะอฺรอฟ 7 : 31)
และพระองค์ทรงชมเชยปวงบ่าวที่พระองค์ทรงรักพวกเขา ซึ่งเรียกเป็นภาษาอาหรับว่า عبادالرحمان (อิบาดุรเราะห์มาน) “ปวงบ่าวของพระผู้ทรงปราณี” ว่า :
และบรรดาผู้ที่เมื่อพวกเขาใช้จ่าย พวกเขาก็ไม่สุรุ่ยสุร่าย และไม่ตระหนี่ และระหว่างทั้งสองสภาพนั้น พวกเขาก็อยู่สายกลาง (อัลฟุรกอน 25 : 67)
ศาสนาอิสลามห้ามฟุ่มเฟือย สุรุ่ยสุร่าย และห้ามตระหนี้ถี่เหนียว เช่นถึงคราวจำเป็นต้องจ่าย ก็อิดออดไม่ค่อยอยากจะจ่าย เป็นต้น นอกจากนี้แล้วอิสลามยังห้ามมิให้ภาคภูมิใจในตัวเอง ทำตัวยิ่งใหญ่ โอ้อวดผู้อื่นที่เป็นบ่าวของอัลเลาะห์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ด้วยกัน ซึ่งการกระทำอย่างนั้นเป็นการกระที่เลียนแบบ ฟิรเอาวน์ กอรูน และฮามาน ซึ่งพวกนี้อัลเลาะห์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงกริ้วโกรธ อันเนื่องจากพวกเขาหยิ่งยโสโอหัง และทำให้เกิดมีการบ่อนทำลายบนหน้าแผ่นดิน
ท่านรอซูล ก็เตือนประชาชาติของท่านอย่าให้มีลักษณะดังกล่าว ดังโอวาทของท่านที่ว่า :
لايدخل الجنة أحد فى قلبه مثقال حبةخردل من كبرياء
ผู้ใดที่ในหัวใจของเขามีความยโสโอหัง แม้จะเพียงน้ำหนักเท่าเพียงผงธุลี เขาจะไม่ได้เข้าสวรรค์
(บันทึกโดย ท่านอิมามมุสลิม และท่านอิมามอบูดาวู๊ด)
ดังนั้น พี่น้องมุสลิมทุกท่านจะต้องระมัดระวังในเรื่องดังกล่าวนี้ไว้ให้มาก จงกินจงดื่มกันแต่พอควร สวมใส่เสื้อผ้าก็เลือกหามาแต่พอเหมาะ และจะต้องไม่ตระหนี่ถี่เหนียว ไม่สุรุ่ยสุร่าย
การที่เราจะรู้ตนเองว่าสุรุ่ยสุร่ายหรือไม่นั้น ก็วัดได้จากรายได้ของเราว่าเรามีรายได้เท่าไหร่ และจ่ายไปเท่าไหร่ ถ้าหากว่าเราจ่ายเกินกว่ารายได้นั้น ก็เท่ากับว่าเราเป็นคนฟุ่มเฟือย และสุรุ่ยสุร่ายแล้ว (หรือในกรณีที่ว่าเราซื้อหาสิ่งของที่ไม่มีประโยชน์ไร้สาระ ก็นับได้ว่าฟุ่มเฟือยเหมือนกัน)
การที่เราจะจ่ายนั้น ก็ให้จ่ายไปตามสิทธิและหน้าที่ เช่น จ่ายซะกาต จ่ายค่าครองชีพของครอบครัว จ่ายไปในการติดต่อสัมพันธ์เยี่ยมเยียนญาติพี่น้อง เป็นต้น นอกจากนี้ยังควรพิจารณาผู้ที่เขาเอ่ยปากขอ และไม่เอ่ยปากขอ เช่น เพื่อนบ้านที่ขาดแคลน คนยากจน และคนเดินทาง ในกรณีนี้ถ้าหากเรายังไม่มีกำลังทรัพย์ที่จะหยิบยื่นให้เขาได้ก็บอกเขาไปดีๆว่า ตอนนี้ยังไม่มี จนกว่าอัลเลาะห์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา จะทรงประทานริสกีย์ให้ด้วยความโปรดปรานของพระองค์
สิ่งที่ได้รับจากฮะดีษนี้
ให้มุสลิมจับจ่ายทรัพย์ไปในทางที่มีประโยชน์ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า
อิสลามประณามความฟุ่มเฟือยที่มีเจตนาโอ้อวด และแสดงความโก้หรู
มุสลิมทุกคนควรกำหนดค่าครองชีพให้พอเหมาะ อย่าจ่ายเกินขอบเขตความสามารถ และอย่าได้ทำลายตัวเองด้วยความตระหนี่ ไม่ยอมซื้ออาหาร เครื่องดื่ม มาบริโภค หรือไม่ยอมซื้อเสื้อผ้าสวยๆมาสวมใส่ ทั้งๆที่มีกำลังทรัพย์พอที่จะซื้อหามาได้โดยไม่เดือดร้อน
อัลเลาะห์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ไม่ทรงรักบรรดาผู้ที่หยิ่งยโส
นรกญะฮันนัมเป็นที่อยู่อาศัยของบรรดาผู้ที่หยิ่งยโส