พิษณุโลก - ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 บอกดูหลักฐาน-พยาน-คลิปแล้ว สั่งให้ 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจพิษณุโลก ไล่ยิง-ปืนขู่ซ้อม นศ.มหา’ลัยราชภัฏ ออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมดำเนินคดี 5 ข้อหาหนักทั้งพยามฆ่า ยันพกปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร พบรถผู้เสียหาย มีรอยกระสุนถึง 7 รู
วันนี้(24 มี.ค. )ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าของคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดงานสืบสวนภูธรจังหวัดพิษณุโลก ก่อเหตุขับรถยนต์ไล่ยิง และทำร้ายนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย เมื่อวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุดช่วงบ่ายที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 6 ได้มาตรวจสอบรถยนต์ที่เกี่ยวข้องทั้ง 3 คัน เพื่อตรวจสอบถึงพิสูจน์วิถีกระสุนที่ ตำรวจไล่ยิงรถยนต์ของนักศึกษา ร่องรอยการเฉี่ยวชน พร้อมกับจำลองเหตุการณ์การเฉี่ยวชนของคู่กรณี ทั้งการชนของรถเจ้าหน้าที่ตำรวจ รถนักศึกษา และการเฉี่ยวชนรถประชาชน ( พยาน ) ที่ขับตามมาอีก 1 คัน
โดยพบว่า รถยนต์ของนักศึกษาคือรถฮอนด้าบริโอ้ สีขาว ทะเบียน กพ 3660 พิษณุโลก มีร่องรอยคล้ายกระสุนปืนบริเวณท้ายรถใกล้กับป้ายทะเบียน และกันชนหลัง จำนวน 6 รอย ทะลุไปในรถ 1 รู แต่ยังไม่สามารถตรวจหาหัวกระสุนพบ เพราะต้องรื้อภายในตรวจสอบ และยางล้อหลังด้านขวา มีร่องรอยถูกยิงอีก 1 รอย ยังไม่พบหัวกระสุน ต้องถอดยางล้อออกมาตรวจสอบอีกครั้ง แต่ทั้ง 7 รอย ได้ทดสอบเบื้องต้นด้วยชุดทดสอบ โดยใช้กระดาษทาบกับรอยกระสุน แล้วพ่นสารเคมีใส่ พบมีร่องรอยของหัวกระสุน
ขณะที่รถยนต์ของกลุ่มตำรวจคันก่อเหตุ คือ ฮอนด้าซิตี้สีขาว ทะเบียน กง 2325 พิจิตร มีร่องรอยเฉี่ยวชนทั้งกันชนหน้าด้านซ้าย และขวา ส่วนรถของพยานที่ถ่ายคลิปวิดีโอ และถูกรถของตำรวจชนด้วยคือ รถยนต์เล็กซัสป้ายแดง สีดำ ทะเบียน ก-5211 ปทุมธานี มีร่องรอยเฉี่ยวชนด้านท้ายขวา
ต่อมาพล.ต.ท.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 เดินทางมาประชุมพนักงานสอบสวน และนักศึกษาทั้ง 5 คน โดยมีอาจารย์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏร่วมประชุมสังเกตการณ์ด้วย โดยให้นักศึกษาที่ถูกทำร้าย ได้ชี้ตัวตำรวจทั้ง 3 ราย ประกอบด้วย ส.ต.อ.สุบิณ นุชขำ ผบ.หมู่ กก.สส.ภ.จ.พิษณุโลก , ร.ต.ท.ธนาคาร ชัยพิพัฒน์ สังกัดกลุ่มงานสืบสวน ภ.จ.พิษณุโลก และ ร.ต.อ.วุฒิภัทร บัวอุไร สังกัดกลุ่มงานสืบสวน ภ.จ.พิษณุโลก ซึ่งผู้เสียหายชี้ตัวได้ย่างถูกต้อง
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ได้ให้สัมภาษณ์ว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทั้งการสอบปากคำพยาน ตรวจสอบรถยนต์ ตลอดจนร่องรอยกระสุนที่รถยนต์ของนักศึกษา รวมถึงการชี้ตัวของนึกศึกษาผู้เสียหาย ที่ชี้ตัวตำรวจทั้ง 3 นายอย่างถูกต้อง ประกอบกับคลิปวิดีโอที่พยานบันทึกไว้ วันนี้ ตนจึงออกคำสั่งให้ตำรวจทั้ง 3 นาย ให้ออกจากราชการไว้ก่อน เนื่องจากทำให้ภาพลักษณ์ของข้าราชการตำรวจเสื่อมเสีย พร้อมให้พนักงานสอบสวนเร่งดำเนินการตั้งข้อหากับตำรวจทั้ง 3 นายในทุกข้อหาที่เกี่ยวข้อง
ขณะที่พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก เตรียมตั้งข้อหา 5 ข้อหา กับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 นาย คือ 1.พยายามฆ่า 2.กักขังหน่วงเหนี่ยว 3.บังคับข่มขืนใจ 4.ทำร้ายร่างกายให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส และ 5.พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
นายชัยธวัช ธำรงศักดิ์คุณ นักศึกษาชั้นปี 3สาขาวิชารัฐศาสตร์ ม.ราชภัฏพิบูลสงคราม เจ้าของรถยนต์ที่ถูกตำรวจไล่ยิง และถูกทุบหัวด้วยปืน กล่าวว่า รู้สึกพอใจกับคำสั่งของ ผบช.ภ.6 ที่ให้ตำรวจทั้ง 3 นายออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมกับช่วยดูเรื่องความปลอดภัยของนักศึกษา ส่วนเรื่องคดีก็ขอให้ดำเนินการไปตามกฎหมาย
ขณะที่อาจารย์พิมล เกษมเสาวภาคย์ รองคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ที่มาร่วมดูแลนักศึกษาในการสอบปากคำวันนี้ กล่าวว่า พอใจกับการดูแลของ ผบช.ภ.6 และนายตำรวจทุกท่าน มีความมั่นใจว่าการดำเนินคดีจะเป็นไปตามขั้นตอน
สำหรับตำรวจ 3 นาย ประกอบด้วย ส.ต.อ.สุบิณ นุชขำ ผบ.หมู่ กก.สส.ภ.จ.พิษณุโลก ร.ต.ท.ธนาคาร ชัยพิพัฒน์ สังกัดกลุ่มงานสืบสวน ภ.จ.พิษณุโลก และ ร.ต.อ.วุฒิภัทร บัวอุไร สังกัดกลุ่มงานสืบสวน ภ.จ.พิษณุโลก ในช่วงเช้าวันนี้พล.ต.ต.อดิศักดิ์ น้อยประเสริฐ ผบก.ภ.จว. ได้มีคำสั่งย้ายไปช่วยราชการที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 6 ต่อมา ผบช.ภ.6 จึงมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนในวันเดียวกัน
ไล่สามตำรวจที่ยิง นศ.ออกจากราชการไว้ก่อนแล้วครับ
วันนี้(24 มี.ค. )ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าของคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดงานสืบสวนภูธรจังหวัดพิษณุโลก ก่อเหตุขับรถยนต์ไล่ยิง และทำร้ายนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย เมื่อวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุดช่วงบ่ายที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 6 ได้มาตรวจสอบรถยนต์ที่เกี่ยวข้องทั้ง 3 คัน เพื่อตรวจสอบถึงพิสูจน์วิถีกระสุนที่ ตำรวจไล่ยิงรถยนต์ของนักศึกษา ร่องรอยการเฉี่ยวชน พร้อมกับจำลองเหตุการณ์การเฉี่ยวชนของคู่กรณี ทั้งการชนของรถเจ้าหน้าที่ตำรวจ รถนักศึกษา และการเฉี่ยวชนรถประชาชน ( พยาน ) ที่ขับตามมาอีก 1 คัน
โดยพบว่า รถยนต์ของนักศึกษาคือรถฮอนด้าบริโอ้ สีขาว ทะเบียน กพ 3660 พิษณุโลก มีร่องรอยคล้ายกระสุนปืนบริเวณท้ายรถใกล้กับป้ายทะเบียน และกันชนหลัง จำนวน 6 รอย ทะลุไปในรถ 1 รู แต่ยังไม่สามารถตรวจหาหัวกระสุนพบ เพราะต้องรื้อภายในตรวจสอบ และยางล้อหลังด้านขวา มีร่องรอยถูกยิงอีก 1 รอย ยังไม่พบหัวกระสุน ต้องถอดยางล้อออกมาตรวจสอบอีกครั้ง แต่ทั้ง 7 รอย ได้ทดสอบเบื้องต้นด้วยชุดทดสอบ โดยใช้กระดาษทาบกับรอยกระสุน แล้วพ่นสารเคมีใส่ พบมีร่องรอยของหัวกระสุน
ขณะที่รถยนต์ของกลุ่มตำรวจคันก่อเหตุ คือ ฮอนด้าซิตี้สีขาว ทะเบียน กง 2325 พิจิตร มีร่องรอยเฉี่ยวชนทั้งกันชนหน้าด้านซ้าย และขวา ส่วนรถของพยานที่ถ่ายคลิปวิดีโอ และถูกรถของตำรวจชนด้วยคือ รถยนต์เล็กซัสป้ายแดง สีดำ ทะเบียน ก-5211 ปทุมธานี มีร่องรอยเฉี่ยวชนด้านท้ายขวา
ต่อมาพล.ต.ท.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 เดินทางมาประชุมพนักงานสอบสวน และนักศึกษาทั้ง 5 คน โดยมีอาจารย์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏร่วมประชุมสังเกตการณ์ด้วย โดยให้นักศึกษาที่ถูกทำร้าย ได้ชี้ตัวตำรวจทั้ง 3 ราย ประกอบด้วย ส.ต.อ.สุบิณ นุชขำ ผบ.หมู่ กก.สส.ภ.จ.พิษณุโลก , ร.ต.ท.ธนาคาร ชัยพิพัฒน์ สังกัดกลุ่มงานสืบสวน ภ.จ.พิษณุโลก และ ร.ต.อ.วุฒิภัทร บัวอุไร สังกัดกลุ่มงานสืบสวน ภ.จ.พิษณุโลก ซึ่งผู้เสียหายชี้ตัวได้ย่างถูกต้อง
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ได้ให้สัมภาษณ์ว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทั้งการสอบปากคำพยาน ตรวจสอบรถยนต์ ตลอดจนร่องรอยกระสุนที่รถยนต์ของนักศึกษา รวมถึงการชี้ตัวของนึกศึกษาผู้เสียหาย ที่ชี้ตัวตำรวจทั้ง 3 นายอย่างถูกต้อง ประกอบกับคลิปวิดีโอที่พยานบันทึกไว้ วันนี้ ตนจึงออกคำสั่งให้ตำรวจทั้ง 3 นาย ให้ออกจากราชการไว้ก่อน เนื่องจากทำให้ภาพลักษณ์ของข้าราชการตำรวจเสื่อมเสีย พร้อมให้พนักงานสอบสวนเร่งดำเนินการตั้งข้อหากับตำรวจทั้ง 3 นายในทุกข้อหาที่เกี่ยวข้อง
ขณะที่พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก เตรียมตั้งข้อหา 5 ข้อหา กับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 นาย คือ 1.พยายามฆ่า 2.กักขังหน่วงเหนี่ยว 3.บังคับข่มขืนใจ 4.ทำร้ายร่างกายให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส และ 5.พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
นายชัยธวัช ธำรงศักดิ์คุณ นักศึกษาชั้นปี 3สาขาวิชารัฐศาสตร์ ม.ราชภัฏพิบูลสงคราม เจ้าของรถยนต์ที่ถูกตำรวจไล่ยิง และถูกทุบหัวด้วยปืน กล่าวว่า รู้สึกพอใจกับคำสั่งของ ผบช.ภ.6 ที่ให้ตำรวจทั้ง 3 นายออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมกับช่วยดูเรื่องความปลอดภัยของนักศึกษา ส่วนเรื่องคดีก็ขอให้ดำเนินการไปตามกฎหมาย
ขณะที่อาจารย์พิมล เกษมเสาวภาคย์ รองคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ที่มาร่วมดูแลนักศึกษาในการสอบปากคำวันนี้ กล่าวว่า พอใจกับการดูแลของ ผบช.ภ.6 และนายตำรวจทุกท่าน มีความมั่นใจว่าการดำเนินคดีจะเป็นไปตามขั้นตอน
สำหรับตำรวจ 3 นาย ประกอบด้วย ส.ต.อ.สุบิณ นุชขำ ผบ.หมู่ กก.สส.ภ.จ.พิษณุโลก ร.ต.ท.ธนาคาร ชัยพิพัฒน์ สังกัดกลุ่มงานสืบสวน ภ.จ.พิษณุโลก และ ร.ต.อ.วุฒิภัทร บัวอุไร สังกัดกลุ่มงานสืบสวน ภ.จ.พิษณุโลก ในช่วงเช้าวันนี้พล.ต.ต.อดิศักดิ์ น้อยประเสริฐ ผบก.ภ.จว. ได้มีคำสั่งย้ายไปช่วยราชการที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 6 ต่อมา ผบช.ภ.6 จึงมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนในวันเดียวกัน