๏ เหงาลมโชยโบยโบกสะบัดหวิว
หัวใจปลิวตามแรงไปแห่งไหน
ฤๅเคว้งคว้างอย่างนั้นหรือหัวใจ
วับหวามไหวในทรวงใครล้วงมาน
๏ ทั้งแผ่นอกรกร้างเปรียบเรือนเก่า
มีผงเถ้าถมทับคงเป็นถ่าน
รอยสะสมหยากไย่อยู่ช้านาน
เป็นวันวานผ่านพ้นจนลืมเลือน
๏ เห็นใบไม้แก่กรอบมันร่วงหล่น
ก็สับสนหดหู่อยู่กลางเถื่อน
ทำไมเจ้าใจร้ายคล้ายย้ำเตือน
ให้ฉันเหมือนร่วงคว้างอย่างใบไม้
๏ พอถึงพื้นคนเหยียบยิ่งเจ็บหนัก
เพราะความรักของเราเอาใจใส่
เก็บถนอมยอมวางไว้ข้างใน
ดวงฤทัยใต้เท้าเขาย่ำยี
๏ จนกระทั่งแตกสลายกลายเป็นเศษ
ดูทุเรศเวทนาหาศักดิ์ศรี
อย่างเมื่อก่อนโน้นเลยฉันเคยมี
ก็สุดที่จะหาได้ไว้ครอบครอง
๏ เหงาลมโชยโบยโบกสะบัดหาย
มันพัดพายหัวใจไปสี่ห้อง
ในดวงตาเคยมีเพียงภาพน้อง
บัดนี้ต้องหมองช้ำเป็นน้ำตา
๏ ทั้งแผ่นอกรกร้างไร้วิถี
จนชีวี วกวน เหมือนคนบ้า
จนต้องหยิบแผ่นกระดาษดึงปากกา
ขีดเส้นฆ่าความเหงาที่เร้ารุม
ระบายเหงา
หัวใจปลิวตามแรงไปแห่งไหน
ฤๅเคว้งคว้างอย่างนั้นหรือหัวใจ
วับหวามไหวในทรวงใครล้วงมาน
๏ ทั้งแผ่นอกรกร้างเปรียบเรือนเก่า
มีผงเถ้าถมทับคงเป็นถ่าน
รอยสะสมหยากไย่อยู่ช้านาน
เป็นวันวานผ่านพ้นจนลืมเลือน
๏ เห็นใบไม้แก่กรอบมันร่วงหล่น
ก็สับสนหดหู่อยู่กลางเถื่อน
ทำไมเจ้าใจร้ายคล้ายย้ำเตือน
ให้ฉันเหมือนร่วงคว้างอย่างใบไม้
๏ พอถึงพื้นคนเหยียบยิ่งเจ็บหนัก
เพราะความรักของเราเอาใจใส่
เก็บถนอมยอมวางไว้ข้างใน
ดวงฤทัยใต้เท้าเขาย่ำยี
๏ จนกระทั่งแตกสลายกลายเป็นเศษ
ดูทุเรศเวทนาหาศักดิ์ศรี
อย่างเมื่อก่อนโน้นเลยฉันเคยมี
ก็สุดที่จะหาได้ไว้ครอบครอง
๏ เหงาลมโชยโบยโบกสะบัดหาย
มันพัดพายหัวใจไปสี่ห้อง
ในดวงตาเคยมีเพียงภาพน้อง
บัดนี้ต้องหมองช้ำเป็นน้ำตา
๏ ทั้งแผ่นอกรกร้างไร้วิถี
จนชีวี วกวน เหมือนคนบ้า
จนต้องหยิบแผ่นกระดาษดึงปากกา
ขีดเส้นฆ่าความเหงาที่เร้ารุม