3 พฤษภาคม 2553 22:51 น.
ASTVผู้จัดการรายวัน-“ธาริต”ควง”พญ.คุณหญิงพรทิพย์” ขนอาวุธปืน-ระเบิด-กระสุน-มีด นับร้อยโชว์ผลงานจับกุมการ์ด นปช.
ผลสืบเนื่องสอบยิงฮ.ทหาร 10 เมษาฯ “พญ.คุณหญิงพรทิพย์”เผยอาวุธ กระสุนบางส่วนเป็นของทางราชการ เชื่อแย่งมาในช่วงเหตุการณ์ก่อความไม่สงบ ส่วนระเบิดต้องรอสอบสวนก่อน ด้าน”สรรเสริญ”แย้งระเบิดไม่ได้แย่งระหว่างก่อความไม่สงบ ยันทหารไม่ได้ใช้ระเบิดควบคุมฝูงชนเสื้อแดง
วานนี้ (3 พ.ค.) เวลา 17.20 น.ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ในฐานะโฆษกศอฉ. พันตำรวจเอกสยาม บุญสม ผกก.4 บก.ปคม ทีมงานของพล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ชุดทำงาน พ.ต.อ.ณรัช เศวตรนันท์ รองอธิบดีดีเอสไอ ร่วมกันแถลงความคืบหน้าจากกรณีที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นำชุดปฎิบัติการกองบังคับการสายตรวจปฎิบัติการพิเศษ (191) สน.คลองตัน และกองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 (กก.สส.บก.น.5) สนธิกำลังเข้าตรวจค้นจับกุมบุคคลเป้าหมาย ลักลอบสะสมอาวุธสงคราม ที่ทาวน์เฮาส์ เลขที่ 231 หมู่บ้านฮอริวูด ซอยอ่อนนุช 17 แยก 9 แขวง-เขตสวนหลวง กทม.
นายธาริต แถลงว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และชุดปฏิบัติการของศอฉ. รายงานผลการจับกุมอาวุธร้ายแรงที่เกี่ยวกับการก่อความไม่สงบในขณะนี้ วันที่ 3 พ.ค.
เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารได้ทำการตรวจค้น และยึดอาวุธ และวัตถุระเบิดจำนวนมาก ดังรายการต่อไป อาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนจำนวน 480 นัด อาวุธปืนคาบิล 1 กระบวน พร้อมกระสุน จำนวน 115 นัด อาวุธปืนอาก้า จำนวน 5 กระบอก พร้อมกระสุน จำนวน 247 นัด ลูกระเบิดชนิดขว้าง ชนิดเอ็ม 67 จำนวน 3 ลูก ลูกระเบิดขว้างเอ็ม 26 จำนวน 5 ลูก ลูกระเบิดชนิดยิง เอ็ม 79 จำนวน 4 ลูก ประทัดยักษ์ จำนวน 20 ลูกกระสุนปืนลูกซอง จำนวน 18 นัด หนังสติก พร้อมลูกแก้วใช้ยิงจำนวนมาก ระเบิดขว้างไม่ทราบชนิด จำนวน 1 ลูก พร้อมขวดแก้วเครื่องดื่มบรรจุน้ำมันไว้แล้ว ซึ่งมีหลายยี่ห้อ รวมไปถึงเครื่องดื่ม “ทักษิณสู้” เพื่อใช้เป็นระเบิดเพลิง จำนวนถึง 107 ลูก เครื่องหมายสัญญาลักษณ์กลุ่มคนเสื้อแดงหรือ นปช. ผ้าพันคอ ปลอกแขน เสื้อ ธงสัญญาลักษณ์ที่เขียนข้อความว่า “ไทยรู้ทัน” หมวก และแผ่นซีดีที่ใช้ในการปลุกระดมจำนวนมาก ทั้งซีดีรัฐบาลทรราช ซีดีฆ่าประชาชน รถยนต์ยี่ห้อฮอลด้าติดทะเบียนปลอม ภธ. 9117 กรุงเทพฯ และ อาวุธมีดขนาดต่างๆ อีกจำนวนมาก
นายธาริต กล่าวต่อว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2553 คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงเฮลิคอปเตอร์บริเวณที่จุดปะทะการชุมนุมเป็นเหตุทำให้พันเอกมานะ ปัญญาศิริ ได้รับบาดเจ็บ จาก
การสืบสวนตลอดมา นำโดยพลตำรวจโทอัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และชุดปฏิบัติการพิเศษ ซึ่งประกอบด้วยทหารและตำรวจ ศอฉ. ทำให้สามารถจับกุมผู้ต้องการได้จำนวนหนึ่ง และทำการสืบสวนขยายผลจนสามารถทำการตรวจค้นและ
ยึดของกลางตามรายการดังกล่าวได้เป็นจำนวนมากขั้นต้น และยังอยู่ระหว่างการสืบสวนเพื่อขยายผลสอบอย่างต่อเนื่อง ผลการสืบสวนและการสอบปากคำกลุ่มผู้เป็นคนร้ายในเบื้องต้น ได้ความว่า อาวุธปืน และระเบิดดังกล่าวเป็นชนิดเดียวกับที่ใช้ก่อเหตุขึ้นหลายครั้ง กับความไม่สงบที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ และขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อยืนยันและจับกุมผู้กระทำความผิดเพิ่มขึ้นอีกต่อไป ซึ่งถือเป็นโชคดีที่ทำการตรวจยึดและจับกุมได้ มิฉะนั้นจะเกิดภัยร้ายแรงเกิดขึ้นได้อีก ดังที่ปรากฏต่อเนื่องอยู่ในขณะนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เมื่อถามว่า อาวุธที่จับได้ทั้งหมดจากบุคคลไหน ที่ไหน นายธาริต กล่าวว่า เป็นการตรวจยึดจับได้แห่งเดียว แต่ได้ผู้ต้องหาหลายคน ส่วนสถานที่จับ และบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกำลังขยายผล การให้รายละเอียดสาธารณะต้องขอไว้ก่อน แต่จะให้โดยเร็วสุด แต่ขอทำการขยายผล ขณะนี้กำลังทำอยู่ ผ เมื่อช่วงเช้ามืดของวันนี้ ส่วนที่ไหนเรากำลังทำการขยายผล ในที่สุดเราต้องเปิดเผยต่อสาธารณชนแน่ สำหรับจำนวนผู้ต้องหากำลังทำการสอบสวนขยายผล คดีความไม่สงบที่เกี่ยวกับการใช้อาวุธหรือการเตรียมการเพื่อทำร้ายประชาชน เจ้าหน้าที่ ยกเจ้าคดีสามัญเป็นคดีพิเศษ
ผู้สื่อข่าวถามว่า อาวุธที่จับได้นำเข้าหรือซื้อมาจากบริเวณชายแดน พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า ในส่วนของอาวุธ กระสุนปืนบางส่วนนำมาจากทางราชการ บางส่วนที่เป็นอาวุธไม่ได้มีใช้ในหน่วยงานราชการ และอีกส่วนที่เป็นหน้ากาก หรืออีกหลายอย่างเป็นลักษณะแย่งมาจากเหตุการณ์ในการก่อความไม่สงบ ซึ่งไปเอามาจากเจ้าหน้าที่ทหาร ซึ่งเป็นหน้ากากที่เจ้าหน้าที่เขาใช้ เมื่อถามต่อว่า รวมลูกระเบิดด้วยหรือไม่แย่งมาจากทหาร พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า ลูกระเบิดกำลังตรวจสอบเพราะว่าต้องตรวจสอบหมายเลขจะได้ทราบว่า มาจากที่ใด ทางด้านพันเอกสรรเสริญ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับอาวุธระเบิดคงต้องติดตามสอบสวนต่อไปว่านำมาจากไหน แต่คงไม่ได้แย่งจากเจ้าหน้าที่ทหารมา เพราะว่าเราไม่ได้มีลูกระเบิดไปใช้กรณีของการควบคุมม็อบหรือฝูงชน
เมื่อถามว่า จนถึงนาทีนี้ เราเชื่อมั่นได้หรือไม่ว่า ระเบิด อาวุธต่างๆ เหล่านี้เป็นของพวก นปช นายธาริต กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ต้องขยายผลต่อไปว่า ในเบื้องต้นไม่ว่าจะเป็นลักษณะของอาวุธ มีขวดใส่น้ำมันเพื่อทำระเบิดเพลิง หนังสติก ลูกแก้ว ดาบ และสัญญาลักษณะที่เกี่ยวกับการเข้าชุมนุมของคนเสื้อแดง บ่งชี้เบื้องต้นว่า เกี่ยวข้องครับ ซึ่งทั้งหมดเป็นการจับกุมได้เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 3 พ.ค.
พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวต่อว่า สำหรับอาวุธที่ได้ทั้งหมด รวมถึงรถอยู่ในบ้าน และเป็นรถที่เรามีข้อมูลว่าก่อเหตุ สำหรับกระบวนการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ก็จะทำเช่นเดียวกับกรณีของนายเมธี เมื่อถามว่า กรณีวันนี้เป็นการขยายผลจากเมธีหรือไม่ นายธาริต กล่าวว่า ก็เป็นข้อมูลส่วนหนึ่ง สำหรับอาวุธที่ตรวจค้นได้ทั้งหมด ในส่วนของอาวุธปืน กระสุนปืน อุปกรณ์ที่เป็นของทหารก็จะให้ทางทหารเป็นผู้จัดเก็บ ส่วนอื่นที่ตรวจยึดมาได้ก็จะนำไปไว้ที่ดีเอสไอ เมื่อคดีเสร็จสิ้นแล้วก็จะมีการทำลาย
**191 บุกจับคลังแสงโจรเสื้อแดง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนี้ ตำรวจชุดปฎิบัติการ กองบังคับการตำรวจปฎิบัติการพิเศษ (191) ตำรวจ สน.คลองตัน และกองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 สนธิกำลังเข้าตรวจค้นทาวน์เฮ้าส์ในหมู่บ้านฮอริวูด ซอยอ่อนนุช 17 แยก 9 แขวงและเขตสวนหลวง กทม. จากการตรวจค้น
พบระเบิดเพลิงบรรจุขวดน้ำมัน 107 ขวด อาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนอาร์ก้า 5 กระบอก อาวุธปืนคาร์บิน 1 กระบอก เครื่องกระสุนใช้กับอาวุธปืนชนิดต่างๆจำนวนมาก แม็กกาซีน พร้อมซองใส่ ระเบิดลูกเกลี้ยง 10 ลูก ระเบิดควัน และระเบิดแก๊สน้ำตา จึงนำตัว นายสุรชัย นิลโสภา อายุ 33 ปี และนายชาตรี ศรีจินดา อายุ 28 ปี ซึ่งพักอาศัยอยู่ในทาวน์เฮ้าส์ดังกล่าวส่งไปยังศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมนั้น เป็นการ์ดกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) อย่างไรก็ตาม การตรวจค้นจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากได้รับแจ้งว่ามีกลุ่มบุคคลลักลอบนำอาวุธปืนสงคราม และระเบิดเพลิงจำนวนมากมาเก็บซุกซ่อนไว้เพื่อก่อเหตุ และสร้างสถานการณ์ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จึงได้นำกำลังเข้าตรวจค้นดังกล่าว
**DSI เผยคดีก่อการร้ายอยู่ระหว่างให้ศาลออกหมายจับ
นายธาริต กล่าวถึง กรณีที่ดีเอสไอเตรียมออกหมายจับพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ว่า คดีความผิดฐานก่อการร้ายของ พล.ต.ขัตติยะ เป็นอีกหนึ่งคดีที่ต้องทำการสอบสวนด้วยวิธีพิเศษ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อนำไปสู่การออกหมายจับผู้กระทำความผิด อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะมีบุคคลใดบ้าง และการอนุมัติการออกหมายจับเป็นอำนาจของศาล จึงไม่เหมาะสมที่จะเปิดเผยให้สาธารณชนรับทราบไปก่อนว่าจับใครหรือไม่ เพราะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9530000061105
*********************************************************************
เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2554 ศาลชั้นต้นได้มีคำส่งยกฟ้องคดีนี้ ทำให้จำเลยทั้ง 3 คนได้รับการปล่อยตัว หลังจากถูกคุมขังมาตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2553 โดยศาลชั้นต้นให้เหตุผลว่าโดยให้เหตุผลว่าบันทึกการแจ้งความของกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ ดีเอสไอไม่สอดคล้องกับพยานหลักฐานที่ตรวจพบ เนื่องจากในบันทึกใบแจ้งความของดีเอสไอกล่าวหาว่าจำเลยทั้ง 3 คนมีอาวุธสงครามกว่า 500 ชิ้นซุกซ่อนอยู่ในถุงกอล์ฟและยัดไว้ในท่อระบายน้ำในบ้านพักของนางนฤมล
แต่เนื่องจากหลักฐานที่ทางตำรวจมีนั้นไม่มีแม้แต่ภาพถ่ายอาวุธสงครามรวมถึงไม่สามารถยึดถุงกอล์ฟดังกล่าวมาได้ ทำให้หลักฐาน มีกับข้อกล่าวหาของโจทก์มีความขัดแย้งกัน
อีกทั้งตำรวจที่ดำเนินคดีนี้ก็ไม่ได้เข้าไปในบ้านพักของนางนฤมล ด้วยตนเองเพียงแต่ฟังจากคำให้การของโจทก์เพียงฝ่ายเดียว ส่งผลให้การสืบหาพยานหลักฐานในคดีนี้ไม่มีน้ำหนัก จึงต้องยกผลประโยชน์ให้แก่จำเลย
http://prachatai.org/journal/2013/10/49136
**************************************************************
สรุปว่า ออกข่าวใหญ่โต จับอาวุธเพียบ
แต่พอขึ้นศาล อย่าว่าแต่อาวุธ รูปถ่ายก็ยังไม่มี
หรือแค่ถุงกอล์ฟก็ยังไม่เห็น
ออกข่าวตำรวจร่วมกับทหาร ทลายคลังแสง
พอขึ้นศาล ตำรวจบอกฟังทหารมา ไม่ได้ไปเอง
ถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถ
ตะลึง!คลังแสงกลางกรุง บุกรังนปช.พบอาวุธอื้อ
ASTVผู้จัดการรายวัน-“ธาริต”ควง”พญ.คุณหญิงพรทิพย์” ขนอาวุธปืน-ระเบิด-กระสุน-มีด นับร้อยโชว์ผลงานจับกุมการ์ด นปช. ผลสืบเนื่องสอบยิงฮ.ทหาร 10 เมษาฯ “พญ.คุณหญิงพรทิพย์”เผยอาวุธ กระสุนบางส่วนเป็นของทางราชการ เชื่อแย่งมาในช่วงเหตุการณ์ก่อความไม่สงบ ส่วนระเบิดต้องรอสอบสวนก่อน ด้าน”สรรเสริญ”แย้งระเบิดไม่ได้แย่งระหว่างก่อความไม่สงบ ยันทหารไม่ได้ใช้ระเบิดควบคุมฝูงชนเสื้อแดง
วานนี้ (3 พ.ค.) เวลา 17.20 น.ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ในฐานะโฆษกศอฉ. พันตำรวจเอกสยาม บุญสม ผกก.4 บก.ปคม ทีมงานของพล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ชุดทำงาน พ.ต.อ.ณรัช เศวตรนันท์ รองอธิบดีดีเอสไอ ร่วมกันแถลงความคืบหน้าจากกรณีที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นำชุดปฎิบัติการกองบังคับการสายตรวจปฎิบัติการพิเศษ (191) สน.คลองตัน และกองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 (กก.สส.บก.น.5) สนธิกำลังเข้าตรวจค้นจับกุมบุคคลเป้าหมาย ลักลอบสะสมอาวุธสงคราม ที่ทาวน์เฮาส์ เลขที่ 231 หมู่บ้านฮอริวูด ซอยอ่อนนุช 17 แยก 9 แขวง-เขตสวนหลวง กทม.
นายธาริต แถลงว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และชุดปฏิบัติการของศอฉ. รายงานผลการจับกุมอาวุธร้ายแรงที่เกี่ยวกับการก่อความไม่สงบในขณะนี้ วันที่ 3 พ.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารได้ทำการตรวจค้น และยึดอาวุธ และวัตถุระเบิดจำนวนมาก ดังรายการต่อไป อาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนจำนวน 480 นัด อาวุธปืนคาบิล 1 กระบวน พร้อมกระสุน จำนวน 115 นัด อาวุธปืนอาก้า จำนวน 5 กระบอก พร้อมกระสุน จำนวน 247 นัด ลูกระเบิดชนิดขว้าง ชนิดเอ็ม 67 จำนวน 3 ลูก ลูกระเบิดขว้างเอ็ม 26 จำนวน 5 ลูก ลูกระเบิดชนิดยิง เอ็ม 79 จำนวน 4 ลูก ประทัดยักษ์ จำนวน 20 ลูกกระสุนปืนลูกซอง จำนวน 18 นัด หนังสติก พร้อมลูกแก้วใช้ยิงจำนวนมาก ระเบิดขว้างไม่ทราบชนิด จำนวน 1 ลูก พร้อมขวดแก้วเครื่องดื่มบรรจุน้ำมันไว้แล้ว ซึ่งมีหลายยี่ห้อ รวมไปถึงเครื่องดื่ม “ทักษิณสู้” เพื่อใช้เป็นระเบิดเพลิง จำนวนถึง 107 ลูก เครื่องหมายสัญญาลักษณ์กลุ่มคนเสื้อแดงหรือ นปช. ผ้าพันคอ ปลอกแขน เสื้อ ธงสัญญาลักษณ์ที่เขียนข้อความว่า “ไทยรู้ทัน” หมวก และแผ่นซีดีที่ใช้ในการปลุกระดมจำนวนมาก ทั้งซีดีรัฐบาลทรราช ซีดีฆ่าประชาชน รถยนต์ยี่ห้อฮอลด้าติดทะเบียนปลอม ภธ. 9117 กรุงเทพฯ และ อาวุธมีดขนาดต่างๆ อีกจำนวนมาก
นายธาริต กล่าวต่อว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2553 คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงเฮลิคอปเตอร์บริเวณที่จุดปะทะการชุมนุมเป็นเหตุทำให้พันเอกมานะ ปัญญาศิริ ได้รับบาดเจ็บ จากการสืบสวนตลอดมา นำโดยพลตำรวจโทอัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และชุดปฏิบัติการพิเศษ ซึ่งประกอบด้วยทหารและตำรวจ ศอฉ. ทำให้สามารถจับกุมผู้ต้องการได้จำนวนหนึ่ง และทำการสืบสวนขยายผลจนสามารถทำการตรวจค้นและยึดของกลางตามรายการดังกล่าวได้เป็นจำนวนมากขั้นต้น และยังอยู่ระหว่างการสืบสวนเพื่อขยายผลสอบอย่างต่อเนื่อง ผลการสืบสวนและการสอบปากคำกลุ่มผู้เป็นคนร้ายในเบื้องต้น ได้ความว่า อาวุธปืน และระเบิดดังกล่าวเป็นชนิดเดียวกับที่ใช้ก่อเหตุขึ้นหลายครั้ง กับความไม่สงบที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ และขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อยืนยันและจับกุมผู้กระทำความผิดเพิ่มขึ้นอีกต่อไป ซึ่งถือเป็นโชคดีที่ทำการตรวจยึดและจับกุมได้ มิฉะนั้นจะเกิดภัยร้ายแรงเกิดขึ้นได้อีก ดังที่ปรากฏต่อเนื่องอยู่ในขณะนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
**191 บุกจับคลังแสงโจรเสื้อแดง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนี้ ตำรวจชุดปฎิบัติการ กองบังคับการตำรวจปฎิบัติการพิเศษ (191) ตำรวจ สน.คลองตัน และกองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 สนธิกำลังเข้าตรวจค้นทาวน์เฮ้าส์ในหมู่บ้านฮอริวูด ซอยอ่อนนุช 17 แยก 9 แขวงและเขตสวนหลวง กทม. จากการตรวจค้นพบระเบิดเพลิงบรรจุขวดน้ำมัน 107 ขวด อาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนอาร์ก้า 5 กระบอก อาวุธปืนคาร์บิน 1 กระบอก เครื่องกระสุนใช้กับอาวุธปืนชนิดต่างๆจำนวนมาก แม็กกาซีน พร้อมซองใส่ ระเบิดลูกเกลี้ยง 10 ลูก ระเบิดควัน และระเบิดแก๊สน้ำตา จึงนำตัว นายสุรชัย นิลโสภา อายุ 33 ปี และนายชาตรี ศรีจินดา อายุ 28 ปี ซึ่งพักอาศัยอยู่ในทาวน์เฮ้าส์ดังกล่าวส่งไปยังศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9530000061105
*********************************************************************
เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2554 ศาลชั้นต้นได้มีคำส่งยกฟ้องคดีนี้ ทำให้จำเลยทั้ง 3 คนได้รับการปล่อยตัว หลังจากถูกคุมขังมาตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2553 โดยศาลชั้นต้นให้เหตุผลว่าโดยให้เหตุผลว่าบันทึกการแจ้งความของกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ ดีเอสไอไม่สอดคล้องกับพยานหลักฐานที่ตรวจพบ เนื่องจากในบันทึกใบแจ้งความของดีเอสไอกล่าวหาว่าจำเลยทั้ง 3 คนมีอาวุธสงครามกว่า 500 ชิ้นซุกซ่อนอยู่ในถุงกอล์ฟและยัดไว้ในท่อระบายน้ำในบ้านพักของนางนฤมล แต่เนื่องจากหลักฐานที่ทางตำรวจมีนั้นไม่มีแม้แต่ภาพถ่ายอาวุธสงครามรวมถึงไม่สามารถยึดถุงกอล์ฟดังกล่าวมาได้ ทำให้หลักฐาน มีกับข้อกล่าวหาของโจทก์มีความขัดแย้งกัน อีกทั้งตำรวจที่ดำเนินคดีนี้ก็ไม่ได้เข้าไปในบ้านพักของนางนฤมล ด้วยตนเองเพียงแต่ฟังจากคำให้การของโจทก์เพียงฝ่ายเดียว ส่งผลให้การสืบหาพยานหลักฐานในคดีนี้ไม่มีน้ำหนัก จึงต้องยกผลประโยชน์ให้แก่จำเลย
http://prachatai.org/journal/2013/10/49136
**************************************************************
สรุปว่า ออกข่าวใหญ่โต จับอาวุธเพียบ
แต่พอขึ้นศาล อย่าว่าแต่อาวุธ รูปถ่ายก็ยังไม่มี
หรือแค่ถุงกอล์ฟก็ยังไม่เห็น
ออกข่าวตำรวจร่วมกับทหาร ทลายคลังแสง
พอขึ้นศาล ตำรวจบอกฟังทหารมา ไม่ได้ไปเอง
ถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถ