แม้จะเป็นวันหยุดช่วงสั้น เสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา
พอสพโอกาสเวลาช่วงเช้าวันที่ 12 มีนาคม 59 ก็คว้าเป้แบกกระเป๋า
และที่ขาดไม่ได้ก็จะเป็นกล้องโทรศัพท์คู่ใจ
ควบคู่กับเพาเวอร์แบงค์ที่อัดไฟเต็มทะลัก มุ่งหน้าตรงสู่จุดนัดหมายกับเพื่อนๆ เตรียมพร้อมเต็มที่
กับการล่องแพกินลมชมบรรยากาศชิลล์ๆ ณ จังหวัดกาญจนบุรี
-----------------
ถึงจุดนัดหมาย ก็ไม่รีรอมุ่งหน้าสู่จังหวัดกาญจนบุรีทันที ทริปนี้พวกเราเลือกเส้นทาง ไปทางเส้นกาญจนาเข้าสู่บางเลน
หลังจากนั้นไม่นาน ก็เกือบถึงจุดหมาย พวกเราก็แวะข้างทางพักผ่อน ซื้อของกินของใช้ต่างๆ
ที่จำเป็นบ้างไม่จำเป็นบ้าง เผื่อไว้บ้าง ณ ร้าน 7-11 ซึ่งเห็นป้ายตัวโตๆ ว่าเป็นร้านสุดท้ายก่อนถึงจุดหมายจริง

ในระยะใกล้ๆ กันก็มีร้านค้าต่างๆ ทั้งขายอาหารและขายอุปกรณ์เล่นน้ำ
ซึ่งถ้าเป็นทริปที่มีเด็กๆ มา คงไม่พลาดจุดนี้แน่นอน

เมื่อเราใช้เวลาตรงนี้สักพักก็ออกเดินทางต่อ เป้าหมายวันนี้คือ..... แพลุงรินทร์
เลยมาจากจุดร้านค้าไม่ไกลมากนัก รถก็เลี้ยวเข้าสู่ทางแยกใหญ่และก็ลงสู่ถนนลูกลัง

ถนนอาจไม่เหมาะกับรถเก๋งเพราะมีทั้งเนินใหญ่เล็ก หลุมบ่อ หลายจุด

แต่พอถึงด้านในก็ยังเห็นคนนำรถเก๋งขับเข้ามาได้อยู่บ้าง
พอถึงจุดหมายปั๊บ เตรียมจัดแจงของลงแพ ก็มีรถขายอาหารทะเลมาจำหน่ายให้ถึงที่
ณ เวลานี้ ยังไงก็รู้แล้วว่า ที่ขาดไม่ได้สำหรับอาหารมื้อเย็น ต้องเป็น กุ้งเผาตัวโตๆ แน่นอน

จะเลือกเองก็ได้ หรือจะให้พ่อค้าหยิบให้ก็ได้ ตามสะดวกเลย สุดท้ายก็ควักเงินชำระและก็แยกย้ายกัน

ถึงจุดหมายแล้วก็เก็บรถเข้าที่ให้เรียบร้อย

เก็บภาพสถานที่นิดหน่อย

แพลำนี้จำได้ว่าเคยมาแล้วเมื่อปีก่อน ใหญ่ดีมาก จุคนได้จุใจ

เก็บภาพเสร็จสรรพก็มาช่วยกันขนของต่างๆ เตรียมลงแพ

ช่วยกันคนละไม้คนละมือ แล้วก็เดินลงแพ โดยแพที่พวกเราจองไว้จะจอดอยู่ถัดจากแพลำใหญ่
ซึ่งลำจะเล็กกว่าลำใหญ่นิดหน่อย เนื่องจากเรามากันแค่ 10 คนเศษ ก็เลยไม่ได้จองลำใหญ่มาก

ในที่สุดก็ขึ้นมาอยู่บนแพ """ลุงรินทร""" เรียบร้อย เตรียมมุ่งหน้า ล--อ--ย--แ--พ ต่อไป

อีกมุมนึงบนแพลุงรินทร์

มีเปลญวนให้นอนพักผ่อนชิลล์ด้วยนะ

พักผ่อนสบายๆ เตรียมตัวออกแพ

เก็บภาพสมาชิกร่วมทริป ไปพลางๆ ก่อนเตรียมพร้อมพบกับความสนุกสนานต่อไป

ภาพอีกมุมนึงน่ารักๆ บนแพ ก็มี ศาลาคนเศร้า...คนสุข ก็นั่งได้หมดดด

ในที่สุด เมื่อพวกเราพร้อม คนนำแพพร้อม ทุกอย่างพร้อมก็ออกเดินทางสู่เวิ้งน้ำกว้าง
ของเขื่อนศรีนครินทร์

ตอนนี้พวกเราไม่รู้จะทำอะไร ก็ได้แต่นั่งมองหนทางข้างหน้า... ตามผู้นำแพออกไป

มองฝั่งซ้ายก็เจอแพของเจ้าของคนอื่นอีกหลายลำ ซึ่งนักท่องเที่ยวก็
ทะยอยเดินทางมาเช่า เพื่อพักผ่อนวันเสาร์-อาทิตย์ ช่วงสั้นๆ

หันไปฝั่งขวาอีกที เจอแพสีลูกกวาด สวยงามมุ้งมิ้ง น่ารักน่าเอ็นดู

นั่งไปสักพัก เริ่มเมาคลื่นนิดหน่อย ก็เลยลุกเดินรอบๆ แพ ก็เลยเจอแพลำเล็กๆ น่ารัก
ผูกติดไว้ข้างแพลำใหญ่ แว็ปแรก เดาเอาว่าคงเป็นแพชูชีพมีไว้ช่วยเหลือพวกเรา
หากแพใหญ่เกิดอะไรขึ้นมา.... เหมือนไททานิค 555 (เดาเพื่อขำๆ เฉยๆ)

ไม่นานเกินรอ ก็มาถึงริมฝั่งเขา (((ช่วงไหนไม่รู้))) เจ้าของแพก็นำแพมาผูกติดกับโขดหิน
รู้ทันทีว่า ...พวกเราก็ต้องอยู่ตรงนี้ไปทั้งคืนแหล่ะ
เพื่อไม่ให้เสียเวลา ไหนๆ ก็อยู่ริมฝั่ง (เขา) แล้ว ก็ลงเล่นน้ำกันเลยละกัน

นี่แหล่ะประโยชน์ของแพลำเล็ก (((ไม่ได้มีไว้กู้ชีพตามที่เดาไว้เลย 555)))

และนี่ก็เป็นประโยชน์อีกข้อนึง เอาไว้ลากกกก จูงงงง นั่งชมวิว ก็ได้นะ

ระหว่างนั้น ก็ได้ยินเสียงบีบแตร ปุ๊นๆ จึงหันไปดู
...อ้าวไหนบอกว่ามี 7-11 เมื่อกี๊ร้านสุดท้ายไง 555
มีเรือ 7-11 มาบริการถึงที่เลย เยี่ยมมมมมากกก

มีทุกสิ่งให้เลือกสรรค์ จริงๆ มีครบทุกอย่างขาดเหลืออะไรสั่งได้ทันที

แต่ตอนนี้ไม่รอช้า บ่ายคล้อยๆๆๆ ขอสั่งส้มตำประเดิมก่อนเลยย

พอตกเย็นย่ำ เวลาอาหารค่ำก็มาถึง อะไรๆ ที่ซื้อมาก็งัดออกมาทำกินกันไป

คอหมูย่าง มื้อนี้อร่อยมาก ชิ้นใหญ่ นุ่ม รสชาติเยี่ยม

พอตกดึก ก็สนุกสนานกันไป เผลอแปบเดียว เช้าแล้วววว
รีบตื่นมา ขอเก็บภาพบรรยากาศ ตอนเช้ามาฝากเลยล่ะกัน

ช่วงสายๆ ก็บอกลาสถานที่ เก็บข้าวของเสร็จ เจ้าของแพก็มาลากแพพาเที่ยว วนรอบเขาให้กินบรรยากาศสดชื่น
แล้วได้เวลาก็ลากแพกลับเข้าฝั่ง บอกลาเจ้าของเสร็จ ก็เตรียมตัวเดินทางกลับกัน
ก่อนกลับ ... ขอแวะไปเยี่ยมชม สันเขื่อน นิดนึง พร้อมเก็บภาพสมาชิกผู้ร่วมทริปมาฝาก

เขื่อนศรีนครินทร์

มีมุมสวยๆ ให้เก็บภาพกันด้วย

เขื่อนศรีนครินทร์เต็มๆ ใหญ่มากกก

จบทริป โบกมือบายๆๆๆ เจอกันโอกาศหน้านะครับบบ