สวัสดีครับทุกท่าน ผมพฤตเอง ไม่นานมานี้ผมเพิ่งได้มีโอกาสไปเที่ยวระแวกลำตะคอง-เขายายเที่ยงอีกครั้ง จะสนุกมันส์แค่ไหน ตามมาชมกันเลยครับ
จากทริปปากช่อง
"ทริปนี้ครับ" เมื่อช่วงปลายปีที่แล้วที่ผมยังคงติดค้างเรื่องการถ่ายดาวยามค่ำคืน ผมก็เฝ้าคิดอยู่ตลอกว่าจะต้องกลับไปซ้ำอีกสักทริปให้ได้ ไม่งั้นมันจะรู้สึกติดอยู่ในใจไม่หายไปไหน หลังจากได้กำหนดการณ์วันออกทริปแล้ว เช่นเคย ผมก็เฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ จนมาถึงเวลาที่ล้อหมุน เด้งจากเตียงตอนตี 3 กว่า ๆ พาตัวเองหอบสังขารและสัมภาระทั้งหลาย วิ่งออกไปบนเส้นทางสู่จุดหมายที่ใจปรารถนา โดยทริปนี้เป็นทริป 3 วัน 2 คืน จะได้ไม่ต้องรีบซัดรถแบบไม่คิดชีวติแบบทริปที่แล้ว เหนื่อยเกินครับแบบนั้น
ออกจากบ้าน วิ่งเข้านครอินทร์มาทะลุแคราย เพื่อไปเลี้ยวออกวิภาวดีรังสิต เมื่อเทียบกันแล้ว เส้นทางนี้อาจจะไม่ได้ลัดกว่าการวิ่งเส้นกาญจนาฯ เท่าไหร่นัก แต่อย่างน้อยก็ไม่ต้องเสียสุขภาพจิตเท่า เพราะอย่างน้อยพื้นผิวถนนก็ดีกว่ากันเยอะ ก่อนจะวิ่งยิงยาว จากวังน้อยมาสู่หินกอง มาถึงตัวเมืองสระบุรีแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนมิตรภาพ บิดไปเรื่อย ๆ เอื่อย ๆ ไม่ต้องรีบ ผ่านแก่งคอยที่แร้งมันบินวนดูผู้เดินทางรอนแรมสัญจร จะข้ามป่าเขาดงพญาไฟ... หื้มมม ไม่ใช่ละ ๆ อิ_อิ พอเห็นป้ายกลางดง ก็แปลว่าเราใกล้ถึงจุดหมายแรกของเราแล้ว ทันทีที่เข้าเขตกลางดง อากาศหนาวก็เข้าปะทะ หนาวเหน็บ หนาวจัด ๆ คงเป็นเพราะผมใส่แค่เสื้อแจ็กเก็ตคลุมไว้บาง ๆ บวกกับลมที่ปะทะเข้าตัวตลอดเวลา ทำให้อากาศที่หนาวอยู่แล้วยิ่งหนาวเข้าไปใหญ่ หนาวจนแอบสั่นนิด ๆ เลยแหละครับ ขนาดว่าผมไม่ใช่คนขี้หนาวอะไรนะ และเมื่อเห็นป้ายปากช่อง ก็ได้เวลาที่เราจะเลี้ยวเข้าสู่ปากทางเข้าเขื่อนลำตะคอง จุดหมายแรกสุดของทริปนี้
เมื่อเทียบกับทริปที่แล้ว ทริปนี้ผมออกจากบ้านช้ากว่าเดิมนิดหน่อย ทำงานเหนื่อยครับ นอนเพิ่มขึ้นหน่อย จะได้ไม่รู้สึกเพลียมากตอนบิดรถ เพราะงั้น เมื่อมาถึงฟ้าก็สว่างพอดี สูดหายใจลึก ๆ ให้ฉ่ำปอด ให้สมกับที่หวดงานหนักมาทั้งสัปดาห์ เห้ออออ สดชื่นนนนนนนนนนนนน
เช็กอินสักเล็กน้อย ม้าศึก Mustang R15 คู่มือผม ตุลาคมปีนี้เขาก็จะครบ 10 ขวบแล้ว จบทริปนี้ไมล์เขาก็ครบแสนโลพอดี เดี๋ยวเร็ว ๆ นี้ต้องเอาไปโอเวอร์ฮอลเครื่องแล้ว
มาดูรูปฟิล์มกันหน่อย ทริปนี้ผมเอากล้องมา 2 ตัว 1300D เป็นกล้องหลักที่จะเน้นใช้งานให้บ่อยขึ้น L3 พร้อมฟฟิล์ม Ultramax 400 เป็นกล้องอาร์ท ส่วนเจ้า IXUS 135 ตอนนี้กลับบ้านเก่าเรียบร้อยแล้วครับ เปิดติดนะ แต่ว่าจอมืด เหมือนกับว่าน่าจะเกิดอะไรขึ้นกับสายแพระหว่างจอกับเลนซ์ ซึ่งถ้าจะซ่อมก็คงจะแอบหลายตังค์อยู่ ไม่น่าคุม ก็เลยจำต้องปลดระวางเขา ซึ่งผมก็ไม่ได้ทิ้งคว้างไปไหน เขาก็ยังนอนอยู่ในตู้ข้างหลังผมนี่เอง กล้องตัวแรกที่ทำให้ผมหัดออกไปถ่ายรูป จะให้ทิ้งกันได้ยังไงล่ะ ฉนั้น กล้องสแนปในทริปนี้จะเป็นกล้องจากโทรศัพท์ผมนี่เอง
หมดพอดี เปลี่ยนฟิล์มแป้บบบบบบ
อากาศสดชื่นดีก็จริง แต่ดูขมุกขมัวยังไงชอบกล เหมือนมีฝุ่นควันในอากาศอยู่เยอะ
ทำให้ผมไม่สามารถซูมให้เห็นต้นน้ำของลำตะคองจากตรงนี้ได้ ทั้งที่ทริปที่แล้วทำได้
โฟกัสดูดอกไม้ใบหญ้ากันสักหน่อย
ก่อนจะจับยัดเลนส์ซูมส่องดูระยะไกล
มันดูขมุกขมัวจริง ๆ นะ ฝุ่นควันพวกนี้เป็นตัวกระจายแสง ซึ่งฟิล์มมันถ่ายสู้แสงตรง ๆ ได้ไม่ดีอยู่แล้ว ถ้าจะสู้แสงย้อนแสงก็ต้องกดโอเวอร์ นั่นทำให้ทริปนี้ผมถ่ายค่อนข้างจะติดโอเวอร์เกินไปครับ มาเห็นเอาตอนที่ได้ไฟล์รูปหลังจากส่งฟิล์มไฟล้าง เสียดายจัง
หันมาดูรอบ ๆ นั่นคคือแซงแซวหางปลา
มองขึ้นฟ้าเผื่อจะเห็นเหยี่ยวหรือนกนักล่าสักตตัว ไม่มีครับ มีแต่เจ้าพวกนี้บินวนไปวนมาแทน
แดดเริ่มแรงแล้ว เดี๋ยวเราขึ้นเขายายเที่ยงเข้าไปที่พัก เอาสัมภาระไปฝากกันก่อนดีกว่า
และนี่คือที่พักของเราในทริปนี้ อาจจะไม่ได้หรูหราอะไรมาก แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าทริปปากช่องทริปที่แล้วเยอะละนะ
จัดแจงฝากข้าวของเรียบร้อยก็ล่องลงจากเขาไปเที่ยวกันต่อ ระหว่างทางสายตาก็เหลือบไปเห็นป้ายร้อนกาแฟ แวะสิครับ เดี๋ยวจะหลับจากแฮนด์ซะก่อน
จุดหมายต่อไปของเราก็คือที่พักสงฆ์พระพุทธบาทคีรีวัน อยู่บนเขาพลิก มองลงมาวิวน่าจะสวย ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการ แค่ความเป็นโลคอลแบบนั้น คือสิ่งที่กำลังถวิลหาอยู่พอดี
ระหว่างทางผ่านไร่มันสำปะหลัง แวะกดสักรูป
บิดขึ้นไปเรื่อย ๆ เกทวัดน้ำมันเริ่มต่ำจนน่ากังวล ถ้ามันเป็นแถวบ้านอาจจะไม่น่าวิตกเท่าไหร่ แต่กับต่างจังหวัดแบบนี้ มีเต็มถังอุ่นใจกว่าเยอะ ฉนั้น เดี๋ยวเสร็จจากที่นี่เดี๋ยวเราตต้องวิ่งหาปั้มน้ำมันกันหน่อย แล้วเราก็ขึ้นมาถึงจุดหมายในเวลาไม่นาน
ถ้าเป็นหน้าฝนแถวนี้น่าจะเขียวชะอุ่มดี ตอนนี้กำลังเข้าหน้าร้อน ก็เลยดูร้อนแล้งไปทั่ว แต่วิวก็ยังดูสวยอยู่
เห็นลำตะคองอยู่ไกล ๆ
ทิวเขาแผงม้าอยู่มุมซ้าย
แมททีเรียลไซท์กับโครงการก่อสร้างทางด่านอยู่อีกมุม
ขึ้นมาแล้วทั้งทีก็ควรจะไหว้นมัสการสะการะกันสักนิด
ก่อนจะหันกลับมาถ่ายเช็กอินสักที
ระหว่างที่กำลังชมนกชมไม้เพลิน ๆ ผมก็เห็นเจ้าตัวนี้เขากระโดดโลดเต้นอยู่ในพุ่มไม้
ตัวดำ ๆ ตาฟ้า ๆ กาแว่นครับ
ยังมีทางเดินขึ้นยอดเขาอยู่อีก แต่ผมขอบายละ ขับมอไซค์มาเหนื่อย ๆ แถมยังมีกล้อง 2 ตัวพร้อมเลนส์เสริมอีก 2 ไม่ไหวจริง ๆ
สมควรแก่เวลาแล้ว เดี๋ยวเรากลับลงไปเติมน้ำมันกันก่อนดีกว่านะ
ผ่านทางรถไฟ แวะกดสักรูป
หลังจากลงมาถึงถนนใหญ่ ผมก็บิดเอื่อย ๆ ไปเรื่อย ๆ ก่อนจะเลี้ยวฉับเข้าทันทีที่เห็นป้ายปั้มน้ำมัน กดมาเต็มถัง ค่อยอุ่นใจถึงไหนถึงกัน สายโด่งงแล้ว ยังไม่หิวแต่ก็ควรกินอะไรตุนไว้ก่อน มองไปมองมา เห็นข้าวจี่วางขายอยู่ เอาวะ มาเที่ยวอีสานทั้งทีมันก็ต้องชิมขนมท้องถิ่นกันหน่อย ตัวผมเองก็พอจะรู้อยู่แล้วล่ะว่าข้าวจี่จริง ๆ ก็คือข้าวเหนียวนวดย่างไฟ ทาน้ำมันหมูทาไข่ก่อนย่างต่อให้สุก แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะอร่อยกว่าที่คิดขนาดนี้ แถมมันยังเป็นข้าวเหนียวทั้งชิ้น อิ่มนานดีด้วย ชอบสิครับ
จุดหมายต่อมาก็คือจุดชมวิวเขื่อนลำตะคอง
ฝั่งตรงข้ามเป็นไซท์ก่อสร้างอะไรสักอย่าง เดาว่าคงจะเป็นทางด่วนไม่ก็ทางรถไฟฟความเร็วสูง
มีเรือชาวบ้านวางข่ายดักปลาวิ่งไปวิ่งมา
และที่ตรงนั้น มีกลุ่มควันลอยคละคลุ้งขึ้นมา ดูท่าจะมีใครจุดไฟเผาพื้นที่รกชัฏแน่เลย เดี๋ยวเราไปต่อกันดีกว่า
จุดหมายที่ต่อมาก็คือ COOK & COFF ของเรือนจำคลองไผ่
จากบนนี้สามารถเห็นวิวเขื่อนลำตะคองได้กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา
มาดูรูปฟิล์มกันหน่อย
เช็กอินสักเล็กน้อย
ตอนเรียนกำลังจะจบป.ว.ช. ผมเคยได้ไปเที่ยวอีสานกับที่บ้าน เคยวิ่งผ่านทางยกระดับช่วงนั้นเหมือนกัน จำได้ว่าตอนนั้นเป็นช่วงเช้าตรู่ มองลงมาเห็นสายน้ำลำตะคองตัดกับแดดยามเช้าที่เพิ่งโผล่พ้นภูเขา เป็นโมเม้นที่ไม่มีวันลืมจริง ๆ
ข้างล่าง พวกน่าจะมาเฝ้าปลากัน ซึ่ง กินดีไหมไม่รู้ แต่จากประสบการณ์ อากาศนิ่ง ๆ แบบนี้ปลาเกล็ดอย่างพวกยี่สกหรือตะเพียนน่าจะกินดี คือถ้าอากาศเหวี่ยง เดี๋ยวแดดเดี๋ยวฝนปลาเกล็ดไม่ค่อยชอบครับ แต่ถ้าอากาศนิ่ง ร้อนอย่างเดียวเลยแบบนี้ มีลุ้นมากกว่า
เห็นอะไรสวยก็กดชัตเตอร์ไว้ก่อน
เมื่อเช้าหนาวจัด ตกกลางวันร้อนตับแตก ชาเย็น ๆ สักแก้วช่วยได้เยอะ
ตอนนี้บ่ายแล้ว เดี๋ยวเรากลับที่พักก่อนดีกว่า พักผ่อน รอเวลาขึ้นไปกังหันลมเขายายเที่ยงช่วงเย็น
ก่อนเข้าที่พัก แวะหามื้อเที่ยงกันที่ร้านใกล้ ๆ ชื่อร้านบ้านไร่ปลายเนิน หอมทอดกรอบ ๆ
และจานหลัก T-Bone สักจาน อร่อยใช้ได้
เสร็จจากมื้อเที่ยง ผมก็เลี้ยวเข้าที่พักในทันที และนี่คือที่พักของเรา
มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเพียงพอ
และนี่คือสภาพของคนที่เด้งจากเตียงตั้งแต่ต 3 กว่า ๆ เพื่อมาเที่ยวโดยเฉพาะ
[CR] บิดไปเรื่อย เหนื่อยก็พัก : ลำตะคอง-เขายายเที่ยง กับทริปใหญ่ทริปแรกของปี 2025
จากทริปปากช่อง "ทริปนี้ครับ" เมื่อช่วงปลายปีที่แล้วที่ผมยังคงติดค้างเรื่องการถ่ายดาวยามค่ำคืน ผมก็เฝ้าคิดอยู่ตลอกว่าจะต้องกลับไปซ้ำอีกสักทริปให้ได้ ไม่งั้นมันจะรู้สึกติดอยู่ในใจไม่หายไปไหน หลังจากได้กำหนดการณ์วันออกทริปแล้ว เช่นเคย ผมก็เฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ จนมาถึงเวลาที่ล้อหมุน เด้งจากเตียงตอนตี 3 กว่า ๆ พาตัวเองหอบสังขารและสัมภาระทั้งหลาย วิ่งออกไปบนเส้นทางสู่จุดหมายที่ใจปรารถนา โดยทริปนี้เป็นทริป 3 วัน 2 คืน จะได้ไม่ต้องรีบซัดรถแบบไม่คิดชีวติแบบทริปที่แล้ว เหนื่อยเกินครับแบบนั้น
ออกจากบ้าน วิ่งเข้านครอินทร์มาทะลุแคราย เพื่อไปเลี้ยวออกวิภาวดีรังสิต เมื่อเทียบกันแล้ว เส้นทางนี้อาจจะไม่ได้ลัดกว่าการวิ่งเส้นกาญจนาฯ เท่าไหร่นัก แต่อย่างน้อยก็ไม่ต้องเสียสุขภาพจิตเท่า เพราะอย่างน้อยพื้นผิวถนนก็ดีกว่ากันเยอะ ก่อนจะวิ่งยิงยาว จากวังน้อยมาสู่หินกอง มาถึงตัวเมืองสระบุรีแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนมิตรภาพ บิดไปเรื่อย ๆ เอื่อย ๆ ไม่ต้องรีบ ผ่านแก่งคอยที่แร้งมันบินวนดูผู้เดินทางรอนแรมสัญจร จะข้ามป่าเขาดงพญาไฟ... หื้มมม ไม่ใช่ละ ๆ อิ_อิ พอเห็นป้ายกลางดง ก็แปลว่าเราใกล้ถึงจุดหมายแรกของเราแล้ว ทันทีที่เข้าเขตกลางดง อากาศหนาวก็เข้าปะทะ หนาวเหน็บ หนาวจัด ๆ คงเป็นเพราะผมใส่แค่เสื้อแจ็กเก็ตคลุมไว้บาง ๆ บวกกับลมที่ปะทะเข้าตัวตลอดเวลา ทำให้อากาศที่หนาวอยู่แล้วยิ่งหนาวเข้าไปใหญ่ หนาวจนแอบสั่นนิด ๆ เลยแหละครับ ขนาดว่าผมไม่ใช่คนขี้หนาวอะไรนะ และเมื่อเห็นป้ายปากช่อง ก็ได้เวลาที่เราจะเลี้ยวเข้าสู่ปากทางเข้าเขื่อนลำตะคอง จุดหมายแรกสุดของทริปนี้
เมื่อเทียบกับทริปที่แล้ว ทริปนี้ผมออกจากบ้านช้ากว่าเดิมนิดหน่อย ทำงานเหนื่อยครับ นอนเพิ่มขึ้นหน่อย จะได้ไม่รู้สึกเพลียมากตอนบิดรถ เพราะงั้น เมื่อมาถึงฟ้าก็สว่างพอดี สูดหายใจลึก ๆ ให้ฉ่ำปอด ให้สมกับที่หวดงานหนักมาทั้งสัปดาห์ เห้ออออ สดชื่นนนนนนนนนนนนน
เช็กอินสักเล็กน้อย ม้าศึก Mustang R15 คู่มือผม ตุลาคมปีนี้เขาก็จะครบ 10 ขวบแล้ว จบทริปนี้ไมล์เขาก็ครบแสนโลพอดี เดี๋ยวเร็ว ๆ นี้ต้องเอาไปโอเวอร์ฮอลเครื่องแล้ว
มาดูรูปฟิล์มกันหน่อย ทริปนี้ผมเอากล้องมา 2 ตัว 1300D เป็นกล้องหลักที่จะเน้นใช้งานให้บ่อยขึ้น L3 พร้อมฟฟิล์ม Ultramax 400 เป็นกล้องอาร์ท ส่วนเจ้า IXUS 135 ตอนนี้กลับบ้านเก่าเรียบร้อยแล้วครับ เปิดติดนะ แต่ว่าจอมืด เหมือนกับว่าน่าจะเกิดอะไรขึ้นกับสายแพระหว่างจอกับเลนซ์ ซึ่งถ้าจะซ่อมก็คงจะแอบหลายตังค์อยู่ ไม่น่าคุม ก็เลยจำต้องปลดระวางเขา ซึ่งผมก็ไม่ได้ทิ้งคว้างไปไหน เขาก็ยังนอนอยู่ในตู้ข้างหลังผมนี่เอง กล้องตัวแรกที่ทำให้ผมหัดออกไปถ่ายรูป จะให้ทิ้งกันได้ยังไงล่ะ ฉนั้น กล้องสแนปในทริปนี้จะเป็นกล้องจากโทรศัพท์ผมนี่เอง
หมดพอดี เปลี่ยนฟิล์มแป้บบบบบบ
อากาศสดชื่นดีก็จริง แต่ดูขมุกขมัวยังไงชอบกล เหมือนมีฝุ่นควันในอากาศอยู่เยอะ
ทำให้ผมไม่สามารถซูมให้เห็นต้นน้ำของลำตะคองจากตรงนี้ได้ ทั้งที่ทริปที่แล้วทำได้
โฟกัสดูดอกไม้ใบหญ้ากันสักหน่อย
ก่อนจะจับยัดเลนส์ซูมส่องดูระยะไกล
มันดูขมุกขมัวจริง ๆ นะ ฝุ่นควันพวกนี้เป็นตัวกระจายแสง ซึ่งฟิล์มมันถ่ายสู้แสงตรง ๆ ได้ไม่ดีอยู่แล้ว ถ้าจะสู้แสงย้อนแสงก็ต้องกดโอเวอร์ นั่นทำให้ทริปนี้ผมถ่ายค่อนข้างจะติดโอเวอร์เกินไปครับ มาเห็นเอาตอนที่ได้ไฟล์รูปหลังจากส่งฟิล์มไฟล้าง เสียดายจัง
หันมาดูรอบ ๆ นั่นคคือแซงแซวหางปลา
มองขึ้นฟ้าเผื่อจะเห็นเหยี่ยวหรือนกนักล่าสักตตัว ไม่มีครับ มีแต่เจ้าพวกนี้บินวนไปวนมาแทน
แดดเริ่มแรงแล้ว เดี๋ยวเราขึ้นเขายายเที่ยงเข้าไปที่พัก เอาสัมภาระไปฝากกันก่อนดีกว่า
และนี่คือที่พักของเราในทริปนี้ อาจจะไม่ได้หรูหราอะไรมาก แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าทริปปากช่องทริปที่แล้วเยอะละนะ
จัดแจงฝากข้าวของเรียบร้อยก็ล่องลงจากเขาไปเที่ยวกันต่อ ระหว่างทางสายตาก็เหลือบไปเห็นป้ายร้อนกาแฟ แวะสิครับ เดี๋ยวจะหลับจากแฮนด์ซะก่อน
จุดหมายต่อไปของเราก็คือที่พักสงฆ์พระพุทธบาทคีรีวัน อยู่บนเขาพลิก มองลงมาวิวน่าจะสวย ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการ แค่ความเป็นโลคอลแบบนั้น คือสิ่งที่กำลังถวิลหาอยู่พอดี
ระหว่างทางผ่านไร่มันสำปะหลัง แวะกดสักรูป
บิดขึ้นไปเรื่อย ๆ เกทวัดน้ำมันเริ่มต่ำจนน่ากังวล ถ้ามันเป็นแถวบ้านอาจจะไม่น่าวิตกเท่าไหร่ แต่กับต่างจังหวัดแบบนี้ มีเต็มถังอุ่นใจกว่าเยอะ ฉนั้น เดี๋ยวเสร็จจากที่นี่เดี๋ยวเราตต้องวิ่งหาปั้มน้ำมันกันหน่อย แล้วเราก็ขึ้นมาถึงจุดหมายในเวลาไม่นาน
ถ้าเป็นหน้าฝนแถวนี้น่าจะเขียวชะอุ่มดี ตอนนี้กำลังเข้าหน้าร้อน ก็เลยดูร้อนแล้งไปทั่ว แต่วิวก็ยังดูสวยอยู่
เห็นลำตะคองอยู่ไกล ๆ
ทิวเขาแผงม้าอยู่มุมซ้าย
แมททีเรียลไซท์กับโครงการก่อสร้างทางด่านอยู่อีกมุม
ขึ้นมาแล้วทั้งทีก็ควรจะไหว้นมัสการสะการะกันสักนิด
ก่อนจะหันกลับมาถ่ายเช็กอินสักที
ระหว่างที่กำลังชมนกชมไม้เพลิน ๆ ผมก็เห็นเจ้าตัวนี้เขากระโดดโลดเต้นอยู่ในพุ่มไม้
ตัวดำ ๆ ตาฟ้า ๆ กาแว่นครับ
ยังมีทางเดินขึ้นยอดเขาอยู่อีก แต่ผมขอบายละ ขับมอไซค์มาเหนื่อย ๆ แถมยังมีกล้อง 2 ตัวพร้อมเลนส์เสริมอีก 2 ไม่ไหวจริง ๆ
สมควรแก่เวลาแล้ว เดี๋ยวเรากลับลงไปเติมน้ำมันกันก่อนดีกว่านะ
ผ่านทางรถไฟ แวะกดสักรูป
หลังจากลงมาถึงถนนใหญ่ ผมก็บิดเอื่อย ๆ ไปเรื่อย ๆ ก่อนจะเลี้ยวฉับเข้าทันทีที่เห็นป้ายปั้มน้ำมัน กดมาเต็มถัง ค่อยอุ่นใจถึงไหนถึงกัน สายโด่งงแล้ว ยังไม่หิวแต่ก็ควรกินอะไรตุนไว้ก่อน มองไปมองมา เห็นข้าวจี่วางขายอยู่ เอาวะ มาเที่ยวอีสานทั้งทีมันก็ต้องชิมขนมท้องถิ่นกันหน่อย ตัวผมเองก็พอจะรู้อยู่แล้วล่ะว่าข้าวจี่จริง ๆ ก็คือข้าวเหนียวนวดย่างไฟ ทาน้ำมันหมูทาไข่ก่อนย่างต่อให้สุก แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะอร่อยกว่าที่คิดขนาดนี้ แถมมันยังเป็นข้าวเหนียวทั้งชิ้น อิ่มนานดีด้วย ชอบสิครับ
จุดหมายต่อมาก็คือจุดชมวิวเขื่อนลำตะคอง
ฝั่งตรงข้ามเป็นไซท์ก่อสร้างอะไรสักอย่าง เดาว่าคงจะเป็นทางด่วนไม่ก็ทางรถไฟฟความเร็วสูง
มีเรือชาวบ้านวางข่ายดักปลาวิ่งไปวิ่งมา
และที่ตรงนั้น มีกลุ่มควันลอยคละคลุ้งขึ้นมา ดูท่าจะมีใครจุดไฟเผาพื้นที่รกชัฏแน่เลย เดี๋ยวเราไปต่อกันดีกว่า
จุดหมายที่ต่อมาก็คือ COOK & COFF ของเรือนจำคลองไผ่
จากบนนี้สามารถเห็นวิวเขื่อนลำตะคองได้กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา
มาดูรูปฟิล์มกันหน่อย
เช็กอินสักเล็กน้อย
ตอนเรียนกำลังจะจบป.ว.ช. ผมเคยได้ไปเที่ยวอีสานกับที่บ้าน เคยวิ่งผ่านทางยกระดับช่วงนั้นเหมือนกัน จำได้ว่าตอนนั้นเป็นช่วงเช้าตรู่ มองลงมาเห็นสายน้ำลำตะคองตัดกับแดดยามเช้าที่เพิ่งโผล่พ้นภูเขา เป็นโมเม้นที่ไม่มีวันลืมจริง ๆ
ข้างล่าง พวกน่าจะมาเฝ้าปลากัน ซึ่ง กินดีไหมไม่รู้ แต่จากประสบการณ์ อากาศนิ่ง ๆ แบบนี้ปลาเกล็ดอย่างพวกยี่สกหรือตะเพียนน่าจะกินดี คือถ้าอากาศเหวี่ยง เดี๋ยวแดดเดี๋ยวฝนปลาเกล็ดไม่ค่อยชอบครับ แต่ถ้าอากาศนิ่ง ร้อนอย่างเดียวเลยแบบนี้ มีลุ้นมากกว่า
เห็นอะไรสวยก็กดชัตเตอร์ไว้ก่อน
เมื่อเช้าหนาวจัด ตกกลางวันร้อนตับแตก ชาเย็น ๆ สักแก้วช่วยได้เยอะ
ตอนนี้บ่ายแล้ว เดี๋ยวเรากลับที่พักก่อนดีกว่า พักผ่อน รอเวลาขึ้นไปกังหันลมเขายายเที่ยงช่วงเย็น
ก่อนเข้าที่พัก แวะหามื้อเที่ยงกันที่ร้านใกล้ ๆ ชื่อร้านบ้านไร่ปลายเนิน หอมทอดกรอบ ๆ
และจานหลัก T-Bone สักจาน อร่อยใช้ได้
เสร็จจากมื้อเที่ยง ผมก็เลี้ยวเข้าที่พักในทันที และนี่คือที่พักของเรา
มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเพียงพอ
และนี่คือสภาพของคนที่เด้งจากเตียงตั้งแต่ต 3 กว่า ๆ เพื่อมาเที่ยวโดยเฉพาะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น