สวัสดีคะ ชื่อหมิว อายุ 24ปี อยากจะแชร์ประสบการณ์ เกี่ยวกับปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นกับเรา
บอกก่อนเลย ตั้งแต่เด็ก เท่าที่จำความได้ไม่เคยให้แม้แต่น้ำเกลือ
ถึงแม้จะเป็นหวัดบ่อย ร่วมกับทอลซิลอักเสบบ่อยมากก็ตาม เริ่มเลยละกันนะจ๊ะ...
เราเริ่มมีอาการตั้งแต่ 20 กันยายน 2558 เรารู้สึกตึงๆที่คอ ก็เลยเกิดความสงสัยว่าไปทำอะไร
นึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนไปกินเลี้ยงกับที่ทำงาน และได้ร้องคาราโอเกะจนเสียงแหบแห้ง รวมถึงการเต้นอย่างเมามันส์
เลยคิดว่าเป็นผลมาจากการเต้นสุดเหวี่ยง (เพราะเคยตึงๆ แบบเมื่อยคอ หลังจากดูคอนเสิร์ต)
พอกลับมาที่ห้อง ก็หาสาเหตุว่ามันตึงๆตรงไหน โดยการคลำแถวๆคอ แล้วเราก็เจอ...โป๊ะเช๊ะ
ก้อนอะไรที่คอ ? ช่วงแรกๆ ยังเห็นไม่ชัดมาก แต่จับแล้วรู้เลยว่ามีก้อนๆ
คืนนั้นเราเลยบรรเลงค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับก้อนที่คอ ส่วนใหญ่เจอเกี่ยวกับต่อมน้ำเหลือง ทั้งวัณโรค อักเสบ
และมะเร็ง บอกเลยตอนนั้น ใจหวิวๆ กลัวเป็นมะเร็ง แต่ก็เอาน่าา พรุ่งนี้เย็นหาหมอละกัน
วันที่ 21ตอนค่ำ เลยไปหาหมอทั่วไปห้องฉุกเฉิน เล่าอาการให้หมอฟัง แล้วก็โชว์ก้อนที่คอ
แต่ตอนนั้นมันยังเล็ก เลยทำให้ คุณหมอมองไม่ค่อยออก ลูบๆ คลำๆ แล้วก็บอกเราว่า
น่าจะต่อมน้ำเหลืองอักเสบนะ เอายาไปกิน นัดพบ 1 สัปดาห์ บอกว่าไซส์ ประมาณ 1 ซม
เราออกมา ไม่อ่ะ เราว่ามัน 2 ซม ละนะ ก็ได้แต่ฟังหมอ พร้อมรับยาไปกิน
พอครบ 1 อาทิตย์ มาพบหมออีกคนนึง หมอเข้าไปในห้อง เอาก้อนที่คอให้หมอดู
(ซึ่งตอนนั้นมันค่อนข้างใหญ่ขึ้นมาก) หมอบอก “ไม่ไหวละนะคะ พบแพทย์เฉพาะทางดีกว่าคะ”
ในใจเราก็ แป่วววววววว ดีหรือไม่ดี แต่จริงๆก็ควรนะ เรายิ่งกินยา เหมือนยิ่งโต ตามรูปด้านล่างเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
>รูปก้อนที่คอ หลังจากกินยาไปได้ประมาณ 1 อาทิตย์
หลังจากพบคุณหมอหูคอจมูก เราก็เล่าเหตุการณ์ตามด้านบนให้หมอฟัง หมอก็บรรเลงลูบๆ คลำๆ ที่คอ
ไล่จากบนลงล่าง เทียบกับข้างขวา แล้วก็ไม่ลืมที่จะ...ดึงลิ้นออกมา เอากระจกส่องดูช่องคอแล้วก็ซักเราว่า
ก่อนหน้านี้เป็นหวัดมาก่อนหรือเปล่า (เราจำได้ว่า เร็วๆนี้ยังไม่เป็นเลยนะ) พอ ทำทุกอย่างเสร็จ หมอก็บอกว่า
หมอสงสัยว่าเป็นถุงน้ำนะ แต่ยังไม่มั่นใจ เลยส่งเราไป ultrasound เพื่อยืนยันอีกที
แต่คิว ultrasound หลังจากนั้นประมาณ 3วัน พอถึงวันนัด ก็แอบตื่นเต้นนะ เค้าจะทำอะไรมั่งหว่า...
3 วันหลังจากนั้น เราก็มาโรงพยาบาล พอถึงห้องก็เปลี่ยนเสื้อจ้า นอนรอ..พอคุณหมอมา(คุณหมออีกคน)
หมอก็ขยับหัวตัวultrasound ไปบนล่างซ้ายขวา สัก20นาทีก็เรียบร้อย...
พอเช้าวันต่อมา ก็มาฟังผล คุณหมอบอกว่า...เป็นถุงน้ำจริงด้วย คุณหมอที่ทำultrasound ให้ลงความเห็น
เหมือนกันคือ “Branchial cleft cyst” พร้อมทั้งวัดขนาดได้... 2.66x4.39x1.94 cm
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ There is a well defined border , oval shape hypoechoic mass like lesion size about 2.66x4.39x1.94 cm at left upper neck between left sibmandibular galand and left corotid bundle.
The others are unremarkable.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เฮ้ยตกใจ 5เซนเลยดิ ช็อคแปบบบบบ เราก็ซักหมอทันทีว่า
1. เกิดขึ้นได้ยังไง ?
> ได้ข้อมูลมาภาษาไทยเข้าใจง่ายมาจากกระทู้นึงในพันทิพ
Branchial cleft ไม่มีคำแปลเป็นภาษาไทย (มั้ง)
เกิดเพราะเนื้อเยื่อตอนเป็นตัวอ่อน พัฒนาไม่สมบูรณ์
ตอนเป็นตัวอ่อน ส่วนที่จะพัฒนาเป็นคอและใบหน้า จะแบ่งเป็นลอนๆ ไม่ติดต่อกัน มีอยู่ 5 -6 ลอนซ้ายและขวา
ลอนตรงนี้เรียก branchial arch ถ้าเป็นปลาลอนตรงนี้ก็คือเหงือกปลา
เมื่อเป็นคน ลอนเหล่านี้จึงเชื่อมต่อกันเป็นคอและใบหน้า
ถ้าเชื่อมต่อไม่สนิท ก็จะมีช่องว่างเกิดขึ้น และมีสารน้ำขังอยู่ ถ้าไม่มีรูติดต่อภายนอกก็จะเป็นถุงน้ำ ( branchial cyst)
ถ้าช่องว่างนั้นติดต่อภายนอกได้ ก็จะมีสารน้ำไหลออกมา เรียก branchial cleft fistula
การรักษาคือการผ่าตัด เลาะช่องว่างออก แล้วเย็บปิด ก็เรียบร้อย
บางคนมีรูเล็กๆ อยู่หน้าหู มีน้ำเหม็นๆไหลออกมา นั่นก็เป็น branchial cleft fistula อีกแบบหนึ่ง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไวฺ้http://ppantip.com/topic/32788943 คห.7
2. ร้ายแรงไหม?
จริงๆมีตั้งแต่เด็กละมันแค่พึ่งโต ไม่รีบเอาออกได้ แค่ควรระวังการติดเชื้อ...
หลังจากนั้นหมอก็แนะนำว่า ผ่าตัดเอาออกละกันนะ เฮ้ย!! ช็อคอีกรอบ
แกร๊ เท่าที่ฉันจำความได้ เข็มน้ำเกลือยังไม่เคยได้สัมผัสตัวฉันเลยนะ นี่อะไร ผ่าตัด แล้วที่ไหน ที่คอ :0
หมอนัดให้เข้ามานัดผ่ากับหมออีกท่านนึงวันอาทิตย์ เราเลยเฮ้ยย เอาไงดีวะ
เชื่อแล้วผ่าเลยไหม แต่อีกใจก็แบบไปหาที่อื่นเพื่อยืนยันดีกว่าาา
หลังจากกลับจาก รพ. ก็เล่าให้พ่อ แม่ พี่สาวฟัง สรุปทุกคนให้ไปหาหมอที่อื่นก่อน พี่สาวเราบอกไปรามา
ศิริราช หรือเอกชนก็ได้ เราก็ชั่งใจละ ถ้าจะผ่าจริงๆ ขอรพ.ที่มีอาจารย์หมอ อยู่ใกล้บ้าน(คิดถึงเรื่องพักฟื้น)
สรุปคือเราไปที่รพ.มหาลัยวิทยาลัยนเรศวร
หลังจากได้ชื่อของถุงน้ำมา เราก็ค้นหาต่อทันที แต่หาภาษาไทยมีแค่คนที่เป็นเด็ก เป็นเว็บไซต์ของรพ.
เราเลย อ่านeng.ละกันเนอะ searchโล้ดดด... ก็พบblogของฝรั่งคนนึง เป็นเหมือนกัน เฮ้ยใจชื้น มีคนเคยเป็น
(เราก็กลัวเพราะไม่เคยมีใครเขียนในภาษาไทย เลยตกใจนิดนึง) หลังจากอ่านของนาง ก็รู้ชะตากรรมทันที
เฮ้อออ คงต้องผ่าจริงๆละมั้ง ทำใจดีสู้เสือ...
เว็บนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://ped-surg.blogspot.com/2012/07/branchial-fistula-cyst-sinus-branchial.html
ภาษาอังกฤษก็มี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.healthline.com/health/branchial-cleft-cyst#Overview1
รีวิวของชาวต่างชาติคนนึง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.livelifeactive.com/2014/07/08/could-i-really-have-cancer/
เราได้พบหมอ หู คอ จมูก...อีกที่นึง มาถึงก็เล่าอาการก่อนหน้า แล้วก็ผล ultrasound จากอีกรพ.
คุณหมอขอตรวจเพิ่ม เพื่อความมั่นใจ ด้วยการดูดน้ำข้างในไปตรวจ...เค้าเรียก FNA ไหมนะ ? (ลืมไปแล้วแต่แอบอ่านชาร์ตตอนรอจิ้มเข็ม)
ก็ไปรอคุณหมอที่ห้องหัตถการ พอคุณหมอมา ก็ขึ้นเตียง แล้วหัวหน้าไปทางขวา เพราก้อนเราอยู่ด้านซ้าย
หลักจากนั้นคุณหมอก็ขอเข็ม...(เราคิดในใจ สงสัยยาชา) แล้วคุณหมอก็บอก...อยู่นิ่งๆนะ
เข็มนั้นก็ไปอยู่ที่ถุงน้ำของเราทันที พร้อมด้วยการกดเล็กน้อย คุณหมอก็ดูดน้ำข้นๆ สีขุ่นๆ (เหมือนนมข้นหวาน เราแอบดู แหะๆ)
หลังจากนั้นก็รอฟังผลอีก 1 อาทิตย์ (แอบดีใจขนาดถุงน้ำลดลง...อิอิ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เมื่อวันนัดมาถึง...เรานี้แอบกลัว ว่าจะเป็นอย่างอื่นไหม มะเร็งหรือเปล่า (พวกจิตตก) พอฟังผล หมอก็บอก.
อื้มใช่...เป็น Branchial cleft cyst จริงๆด้วย งั้นก็นัดผ่าเลยเนอะ ToT เราก็เลยถามว่าโอกาสเป็นมะเร็งไหม
หมอบอกน้อยมากกกกกกกกกกก 1% แค่นั้นเอง เราก็ถามอะไรนิดหน่อยยย แล้วหวยก็ออก...27 พ.ย.คือวันผ่า นัดadmit ก่อน 1วัน...
ด้านล่างนี้จะเป็นรูปของcyst เป็นระยะๆเพราะเรารอผ่า เกือบ 2 เดือน มีช่วงโต ใจไม่ดี
พอไปหาคุณหมอ หมอบอกใหญ่ขึ้น 1 ซม. รอผ่าวันเดิมได้ น่ารักมากกกก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
>โตกันจนคางเบี้ยวเลยคะ...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
>ใช้เวลาร่วมกันมาตั้งหลายเดือน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
>รูปนี้ เป็นตอนที่ไปหาหมอเพราะรู้สึกว่ามันโตชึ้นมาก
วันที่ 16 พ.ย. หมอนัดเราไปตรวจเลือด แล้วก็ X ปอด ตอนมานั่งรอผลตรวจแลป
ห้องตรวจเลือดโทรมาบอกว่า ขอเจาะเลือดเพิ่มคะ ที่เก็บไปไม่พอ ผมนี่แทบเป็นลมเลยยยย
ด้วยความที่กลัวเข็มอยู่แล้ว สรุปโดยเจาะอีกข้าง และผลตรวจทุกอย่างออกมาดีงาม พร้อมผ่าวันที่ 27 พ.ย.
#ByeMyCyst
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
> รูปนี้ก่อนผ่าตัดประมาณ 3-4 วัน ไปออกกำลังกาย เพื่อเตรียมความพร้อมร่างกายค่าาาา
วันที่ 27 พย 58 ก็มาถึง...เตรียมของมาแอดมิทคะ แหะๆ การนอนรพ.ครั้งแรกในชีวิต
เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย คิวต่อไป เจาะเข็มรอ เพราะเดี๋ยวต้องให้น้ำเกลือ หึหึ
โดนเจาะไป 4 ครั้งคะ น้ำตาแทบไหล ความผิดเราเองที่ดิ้นเพราะตกใจ เจ็บฟรีเลย
พร้อมด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อรึเปล่า ให้เรามาอาบตรงคอเยอะๆ พร้อมกับการโกนขนอ่อนตรงคอ
เริ่มงดอาหารตอนเที่ยงคืนเนอะ พร้อมยาหนึ่งเม็ด น่าจะยาคลายเคลียดไหมอ่ะ หลับสนิทเลยยยย...
พอเช้ามา สนุกเลยยยคะ หิวมากจ้าาา อาหารพร้อมเสิร์ฟคือ น้ำเกลือ...
พยาบาลบอกเรา...ผ่าคิวที่ 3 รอ...รอ...รอ...จนประมาณเที่ยง ก็ได้ฤกษ์งามยามดี พาเราไปห้องผ่าตัด ใจนึงก็ดีใจ ใจนึงก็หวั่นๆ...
หลังจากนั้นก็เข้าห้องผ่าตัด เปลี่ยนเป็นชุดที่ใส่ตอนผ่าตัด แล้วก็นอนรอสักพัก ก็ได้เข็นเข้าไปในห้องผ่า
แกร๊...มันตื่นเต้นมากเลยย แบบเห้ย ไม่เคยคิดว่าจะได้เข้ามาาา
ว่าแล้วก็ ทุกคนรุมเอาเครื่องมาวัดชีพจร คนนี้ทำนู้น คนนู้นทำนี่ ดูวุ่นวาย...
แล้วเค้าก็ให้ครอบหน้ากากก...เอาละ พร้อมสลบ ใน 1...2...3...4... ยังนับไม่ถึง 5 เลย สลบละ
ตื่นมาอีกที่ที่ห้องพักฟื้นน หลักจากนั้นก็โดนเข็นกลับมาที่ห้องพิเศษ บอกเลยคะมันแบบ
งงๆ ง่วงๆ อะไรก็ไม่รู้...รู้สึกตัวเองหลับๆ ตื่นๆ ได้กินยาทุกๆ 4 ชั่วโมง จนไม่ค่อยรู้สึกเจ็บเท่าไหร่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
> นี่คือรูปเราหลังผ่าตัดเสร็จ จะมีการต่อสายเดรนเลือดตรงที่ผ่าตัดออกด้วย
นอนหลับด้วยการไม่กล้าขยับตัวหนึ่งคืน...พอเช้ามา ก็กินข้าวต้มได้คะ แบบดูดๆเอา
เพราะรู้สึกหิวมากกก กินแล้วก็นอน...นอนแล้วก็ตื่น...พอสักประมาณ 10 โมงคุณหมอก็มาเยี่ยมไข้
คุณหมอให้ดูรูปก้อนที่เอาออกมา มันแบบ ใหญ่มากจริงๆ รูปด้านล่างคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รูปทั้งหมดขอคุณหมอหลังจากนัดไป follow up อาการและฟังผลชิ้นเนื้อคะ...
หลังจากผ่า คุณหมอให้ลางานได้ 1 อาทิตย์... ทำอะไรลำบากมากคะ ไม่กล้าขยับคอแรงๆ
เคี้ยวมากๆก็ไม่ได้...เจ็บแผล ก็ชีวิตวนเวียนแบบนี้ จนวันที่เปิดแผล
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อยู่ในร่างแบบนี้ มาอาทิตย์นึง... 555 ขำตัวเอง เกร็งคอมากไม่ได้
คุณหมอให้เปิดแผลที่รพ.ใกล้บ้านเลยคะ ตัวเราก็แบบ เฮ้ยมันจะหน้าตาเป็นไงนะแผลผ่าตัดเรา
จะเป็นตะขาบไหมนะ เอายาทาเมื่อไหร่ดี โดนได้ไหม ขยับเยอะจะปริรึเปล่า กลัวสารพัด
จนวินาทีเปิดแผล แทแด้มมมมมม... (เปิดแผลวันที่ 4 ธ.ค. หนึ่งอาทิตย์หลังผ่าตัด)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แผลสวยมากคะ... ToT
รูปด้านล่างจะเป็นแผลที่ค่อยๆเริ่มหายนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
> หลักจากผ่าตัด 12 วัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
> หลักจากผ่าตัด 15 วัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
> หลักจากผ่าตัด 1 เดือน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
> หลักจากผ่าตัด 2 เดือน
ขอจบด้วย... "อโรคยา ปรมาลาภา” ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ
หากผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้คะ
> ตั้งกระทู้นี้ขึ้นเพื่อให้คนที่เป็นเหมือนกัน ใจชื้นว่ามีคนเป็นก้อนถุงน้ำเหมือนกันคะ <
เมื่อฉันเป็นก้อนถุงน้ำที่คอ (Branchial cleft cyst)
บอกก่อนเลย ตั้งแต่เด็ก เท่าที่จำความได้ไม่เคยให้แม้แต่น้ำเกลือ
ถึงแม้จะเป็นหวัดบ่อย ร่วมกับทอลซิลอักเสบบ่อยมากก็ตาม เริ่มเลยละกันนะจ๊ะ...
เราเริ่มมีอาการตั้งแต่ 20 กันยายน 2558 เรารู้สึกตึงๆที่คอ ก็เลยเกิดความสงสัยว่าไปทำอะไร
นึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนไปกินเลี้ยงกับที่ทำงาน และได้ร้องคาราโอเกะจนเสียงแหบแห้ง รวมถึงการเต้นอย่างเมามันส์
เลยคิดว่าเป็นผลมาจากการเต้นสุดเหวี่ยง (เพราะเคยตึงๆ แบบเมื่อยคอ หลังจากดูคอนเสิร์ต)
พอกลับมาที่ห้อง ก็หาสาเหตุว่ามันตึงๆตรงไหน โดยการคลำแถวๆคอ แล้วเราก็เจอ...โป๊ะเช๊ะ
ก้อนอะไรที่คอ ? ช่วงแรกๆ ยังเห็นไม่ชัดมาก แต่จับแล้วรู้เลยว่ามีก้อนๆ
คืนนั้นเราเลยบรรเลงค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับก้อนที่คอ ส่วนใหญ่เจอเกี่ยวกับต่อมน้ำเหลือง ทั้งวัณโรค อักเสบ
และมะเร็ง บอกเลยตอนนั้น ใจหวิวๆ กลัวเป็นมะเร็ง แต่ก็เอาน่าา พรุ่งนี้เย็นหาหมอละกัน
วันที่ 21ตอนค่ำ เลยไปหาหมอทั่วไปห้องฉุกเฉิน เล่าอาการให้หมอฟัง แล้วก็โชว์ก้อนที่คอ
แต่ตอนนั้นมันยังเล็ก เลยทำให้ คุณหมอมองไม่ค่อยออก ลูบๆ คลำๆ แล้วก็บอกเราว่า
น่าจะต่อมน้ำเหลืองอักเสบนะ เอายาไปกิน นัดพบ 1 สัปดาห์ บอกว่าไซส์ ประมาณ 1 ซม
เราออกมา ไม่อ่ะ เราว่ามัน 2 ซม ละนะ ก็ได้แต่ฟังหมอ พร้อมรับยาไปกิน
พอครบ 1 อาทิตย์ มาพบหมออีกคนนึง หมอเข้าไปในห้อง เอาก้อนที่คอให้หมอดู
(ซึ่งตอนนั้นมันค่อนข้างใหญ่ขึ้นมาก) หมอบอก “ไม่ไหวละนะคะ พบแพทย์เฉพาะทางดีกว่าคะ”
ในใจเราก็ แป่วววววววว ดีหรือไม่ดี แต่จริงๆก็ควรนะ เรายิ่งกินยา เหมือนยิ่งโต ตามรูปด้านล่างเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
>รูปก้อนที่คอ หลังจากกินยาไปได้ประมาณ 1 อาทิตย์
หลังจากพบคุณหมอหูคอจมูก เราก็เล่าเหตุการณ์ตามด้านบนให้หมอฟัง หมอก็บรรเลงลูบๆ คลำๆ ที่คอ
ไล่จากบนลงล่าง เทียบกับข้างขวา แล้วก็ไม่ลืมที่จะ...ดึงลิ้นออกมา เอากระจกส่องดูช่องคอแล้วก็ซักเราว่า
ก่อนหน้านี้เป็นหวัดมาก่อนหรือเปล่า (เราจำได้ว่า เร็วๆนี้ยังไม่เป็นเลยนะ) พอ ทำทุกอย่างเสร็จ หมอก็บอกว่า
หมอสงสัยว่าเป็นถุงน้ำนะ แต่ยังไม่มั่นใจ เลยส่งเราไป ultrasound เพื่อยืนยันอีกที
แต่คิว ultrasound หลังจากนั้นประมาณ 3วัน พอถึงวันนัด ก็แอบตื่นเต้นนะ เค้าจะทำอะไรมั่งหว่า...
3 วันหลังจากนั้น เราก็มาโรงพยาบาล พอถึงห้องก็เปลี่ยนเสื้อจ้า นอนรอ..พอคุณหมอมา(คุณหมออีกคน)
หมอก็ขยับหัวตัวultrasound ไปบนล่างซ้ายขวา สัก20นาทีก็เรียบร้อย...
พอเช้าวันต่อมา ก็มาฟังผล คุณหมอบอกว่า...เป็นถุงน้ำจริงด้วย คุณหมอที่ทำultrasound ให้ลงความเห็น
เหมือนกันคือ “Branchial cleft cyst” พร้อมทั้งวัดขนาดได้... 2.66x4.39x1.94 cm
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เฮ้ยตกใจ 5เซนเลยดิ ช็อคแปบบบบบ เราก็ซักหมอทันทีว่า
1. เกิดขึ้นได้ยังไง ?
> ได้ข้อมูลมาภาษาไทยเข้าใจง่ายมาจากกระทู้นึงในพันทิพ
Branchial cleft ไม่มีคำแปลเป็นภาษาไทย (มั้ง)
เกิดเพราะเนื้อเยื่อตอนเป็นตัวอ่อน พัฒนาไม่สมบูรณ์
ตอนเป็นตัวอ่อน ส่วนที่จะพัฒนาเป็นคอและใบหน้า จะแบ่งเป็นลอนๆ ไม่ติดต่อกัน มีอยู่ 5 -6 ลอนซ้ายและขวา
ลอนตรงนี้เรียก branchial arch ถ้าเป็นปลาลอนตรงนี้ก็คือเหงือกปลา
เมื่อเป็นคน ลอนเหล่านี้จึงเชื่อมต่อกันเป็นคอและใบหน้า
ถ้าเชื่อมต่อไม่สนิท ก็จะมีช่องว่างเกิดขึ้น และมีสารน้ำขังอยู่ ถ้าไม่มีรูติดต่อภายนอกก็จะเป็นถุงน้ำ ( branchial cyst)
ถ้าช่องว่างนั้นติดต่อภายนอกได้ ก็จะมีสารน้ำไหลออกมา เรียก branchial cleft fistula
การรักษาคือการผ่าตัด เลาะช่องว่างออก แล้วเย็บปิด ก็เรียบร้อย
บางคนมีรูเล็กๆ อยู่หน้าหู มีน้ำเหม็นๆไหลออกมา นั่นก็เป็น branchial cleft fistula อีกแบบหนึ่ง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
2. ร้ายแรงไหม?
จริงๆมีตั้งแต่เด็กละมันแค่พึ่งโต ไม่รีบเอาออกได้ แค่ควรระวังการติดเชื้อ...
หลังจากนั้นหมอก็แนะนำว่า ผ่าตัดเอาออกละกันนะ เฮ้ย!! ช็อคอีกรอบ
แกร๊ เท่าที่ฉันจำความได้ เข็มน้ำเกลือยังไม่เคยได้สัมผัสตัวฉันเลยนะ นี่อะไร ผ่าตัด แล้วที่ไหน ที่คอ :0
หมอนัดให้เข้ามานัดผ่ากับหมออีกท่านนึงวันอาทิตย์ เราเลยเฮ้ยย เอาไงดีวะ
เชื่อแล้วผ่าเลยไหม แต่อีกใจก็แบบไปหาที่อื่นเพื่อยืนยันดีกว่าาา
หลังจากกลับจาก รพ. ก็เล่าให้พ่อ แม่ พี่สาวฟัง สรุปทุกคนให้ไปหาหมอที่อื่นก่อน พี่สาวเราบอกไปรามา
ศิริราช หรือเอกชนก็ได้ เราก็ชั่งใจละ ถ้าจะผ่าจริงๆ ขอรพ.ที่มีอาจารย์หมอ อยู่ใกล้บ้าน(คิดถึงเรื่องพักฟื้น)
สรุปคือเราไปที่รพ.มหาลัยวิทยาลัยนเรศวร
หลังจากได้ชื่อของถุงน้ำมา เราก็ค้นหาต่อทันที แต่หาภาษาไทยมีแค่คนที่เป็นเด็ก เป็นเว็บไซต์ของรพ.
เราเลย อ่านeng.ละกันเนอะ searchโล้ดดด... ก็พบblogของฝรั่งคนนึง เป็นเหมือนกัน เฮ้ยใจชื้น มีคนเคยเป็น
(เราก็กลัวเพราะไม่เคยมีใครเขียนในภาษาไทย เลยตกใจนิดนึง) หลังจากอ่านของนาง ก็รู้ชะตากรรมทันที
เฮ้อออ คงต้องผ่าจริงๆละมั้ง ทำใจดีสู้เสือ...
เว็บนี้ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ภาษาอังกฤษก็มี [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รีวิวของชาวต่างชาติคนนึง[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เราได้พบหมอ หู คอ จมูก...อีกที่นึง มาถึงก็เล่าอาการก่อนหน้า แล้วก็ผล ultrasound จากอีกรพ.
คุณหมอขอตรวจเพิ่ม เพื่อความมั่นใจ ด้วยการดูดน้ำข้างในไปตรวจ...เค้าเรียก FNA ไหมนะ ? (ลืมไปแล้วแต่แอบอ่านชาร์ตตอนรอจิ้มเข็ม)
ก็ไปรอคุณหมอที่ห้องหัตถการ พอคุณหมอมา ก็ขึ้นเตียง แล้วหัวหน้าไปทางขวา เพราก้อนเราอยู่ด้านซ้าย
หลักจากนั้นคุณหมอก็ขอเข็ม...(เราคิดในใจ สงสัยยาชา) แล้วคุณหมอก็บอก...อยู่นิ่งๆนะ
เข็มนั้นก็ไปอยู่ที่ถุงน้ำของเราทันที พร้อมด้วยการกดเล็กน้อย คุณหมอก็ดูดน้ำข้นๆ สีขุ่นๆ (เหมือนนมข้นหวาน เราแอบดู แหะๆ)
หลังจากนั้นก็รอฟังผลอีก 1 อาทิตย์ (แอบดีใจขนาดถุงน้ำลดลง...อิอิ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เมื่อวันนัดมาถึง...เรานี้แอบกลัว ว่าจะเป็นอย่างอื่นไหม มะเร็งหรือเปล่า (พวกจิตตก) พอฟังผล หมอก็บอก.
อื้มใช่...เป็น Branchial cleft cyst จริงๆด้วย งั้นก็นัดผ่าเลยเนอะ ToT เราก็เลยถามว่าโอกาสเป็นมะเร็งไหม
หมอบอกน้อยมากกกกกกกกกกก 1% แค่นั้นเอง เราก็ถามอะไรนิดหน่อยยย แล้วหวยก็ออก...27 พ.ย.คือวันผ่า นัดadmit ก่อน 1วัน...
ด้านล่างนี้จะเป็นรูปของcyst เป็นระยะๆเพราะเรารอผ่า เกือบ 2 เดือน มีช่วงโต ใจไม่ดี
พอไปหาคุณหมอ หมอบอกใหญ่ขึ้น 1 ซม. รอผ่าวันเดิมได้ น่ารักมากกกก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
>โตกันจนคางเบี้ยวเลยคะ...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
>ใช้เวลาร่วมกันมาตั้งหลายเดือน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
>รูปนี้ เป็นตอนที่ไปหาหมอเพราะรู้สึกว่ามันโตชึ้นมาก
วันที่ 16 พ.ย. หมอนัดเราไปตรวจเลือด แล้วก็ X ปอด ตอนมานั่งรอผลตรวจแลป
ห้องตรวจเลือดโทรมาบอกว่า ขอเจาะเลือดเพิ่มคะ ที่เก็บไปไม่พอ ผมนี่แทบเป็นลมเลยยยย
ด้วยความที่กลัวเข็มอยู่แล้ว สรุปโดยเจาะอีกข้าง และผลตรวจทุกอย่างออกมาดีงาม พร้อมผ่าวันที่ 27 พ.ย.
#ByeMyCyst
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
> รูปนี้ก่อนผ่าตัดประมาณ 3-4 วัน ไปออกกำลังกาย เพื่อเตรียมความพร้อมร่างกายค่าาาา
วันที่ 27 พย 58 ก็มาถึง...เตรียมของมาแอดมิทคะ แหะๆ การนอนรพ.ครั้งแรกในชีวิต
เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย คิวต่อไป เจาะเข็มรอ เพราะเดี๋ยวต้องให้น้ำเกลือ หึหึ
โดนเจาะไป 4 ครั้งคะ น้ำตาแทบไหล ความผิดเราเองที่ดิ้นเพราะตกใจ เจ็บฟรีเลย
พร้อมด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อรึเปล่า ให้เรามาอาบตรงคอเยอะๆ พร้อมกับการโกนขนอ่อนตรงคอ
เริ่มงดอาหารตอนเที่ยงคืนเนอะ พร้อมยาหนึ่งเม็ด น่าจะยาคลายเคลียดไหมอ่ะ หลับสนิทเลยยยย...
พอเช้ามา สนุกเลยยยคะ หิวมากจ้าาา อาหารพร้อมเสิร์ฟคือ น้ำเกลือ...
พยาบาลบอกเรา...ผ่าคิวที่ 3 รอ...รอ...รอ...จนประมาณเที่ยง ก็ได้ฤกษ์งามยามดี พาเราไปห้องผ่าตัด ใจนึงก็ดีใจ ใจนึงก็หวั่นๆ...
หลังจากนั้นก็เข้าห้องผ่าตัด เปลี่ยนเป็นชุดที่ใส่ตอนผ่าตัด แล้วก็นอนรอสักพัก ก็ได้เข็นเข้าไปในห้องผ่า
แกร๊...มันตื่นเต้นมากเลยย แบบเห้ย ไม่เคยคิดว่าจะได้เข้ามาาา
ว่าแล้วก็ ทุกคนรุมเอาเครื่องมาวัดชีพจร คนนี้ทำนู้น คนนู้นทำนี่ ดูวุ่นวาย...
แล้วเค้าก็ให้ครอบหน้ากากก...เอาละ พร้อมสลบ ใน 1...2...3...4... ยังนับไม่ถึง 5 เลย สลบละ
ตื่นมาอีกที่ที่ห้องพักฟื้นน หลักจากนั้นก็โดนเข็นกลับมาที่ห้องพิเศษ บอกเลยคะมันแบบ
งงๆ ง่วงๆ อะไรก็ไม่รู้...รู้สึกตัวเองหลับๆ ตื่นๆ ได้กินยาทุกๆ 4 ชั่วโมง จนไม่ค่อยรู้สึกเจ็บเท่าไหร่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
นอนหลับด้วยการไม่กล้าขยับตัวหนึ่งคืน...พอเช้ามา ก็กินข้าวต้มได้คะ แบบดูดๆเอา
เพราะรู้สึกหิวมากกก กินแล้วก็นอน...นอนแล้วก็ตื่น...พอสักประมาณ 10 โมงคุณหมอก็มาเยี่ยมไข้
คุณหมอให้ดูรูปก้อนที่เอาออกมา มันแบบ ใหญ่มากจริงๆ รูปด้านล่างคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รูปทั้งหมดขอคุณหมอหลังจากนัดไป follow up อาการและฟังผลชิ้นเนื้อคะ...
หลังจากผ่า คุณหมอให้ลางานได้ 1 อาทิตย์... ทำอะไรลำบากมากคะ ไม่กล้าขยับคอแรงๆ
เคี้ยวมากๆก็ไม่ได้...เจ็บแผล ก็ชีวิตวนเวียนแบบนี้ จนวันที่เปิดแผล
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อยู่ในร่างแบบนี้ มาอาทิตย์นึง... 555 ขำตัวเอง เกร็งคอมากไม่ได้
คุณหมอให้เปิดแผลที่รพ.ใกล้บ้านเลยคะ ตัวเราก็แบบ เฮ้ยมันจะหน้าตาเป็นไงนะแผลผ่าตัดเรา
จะเป็นตะขาบไหมนะ เอายาทาเมื่อไหร่ดี โดนได้ไหม ขยับเยอะจะปริรึเปล่า กลัวสารพัด
จนวินาทีเปิดแผล แทแด้มมมมมม... (เปิดแผลวันที่ 4 ธ.ค. หนึ่งอาทิตย์หลังผ่าตัด)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แผลสวยมากคะ... ToT
รูปด้านล่างจะเป็นแผลที่ค่อยๆเริ่มหายนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
> หลักจากผ่าตัด 12 วัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
> หลักจากผ่าตัด 15 วัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
> หลักจากผ่าตัด 1 เดือน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
> หลักจากผ่าตัด 2 เดือน
ขอจบด้วย... "อโรคยา ปรมาลาภา” ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ
หากผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้คะ
> ตั้งกระทู้นี้ขึ้นเพื่อให้คนที่เป็นเหมือนกัน ใจชื้นว่ามีคนเป็นก้อนถุงน้ำเหมือนกันคะ <