"ป๋าเปรม" ระบุ การโกง ยังไม่ลดลง แฉมีการโกงในระดับสูง ระบุ น่าอาย และขายหน้า ที่ถูกหาว่าเป็น"ชาติขี้โกง" ขอให้ช่วยกันลบล้าง ย้ำ โกง คือการปล้นชาติ ระบุศาสนา ไม่ใช่"ยาวิเศษ" ทำคนให้เป็นคน หรือปราบโกง ได้ แต่แค่ช่วยสอนให้รู้ถึงความเลวร้ายของการโกง
แนะสอนลูกตั้งแต่ในท้อง อย่าโกง/รับเหนื่อย พูดต้านโกงตลอด แต่ไม่ลดลง /ยอมรับ ให้กำลังใจ "พะจุณณ์" ต้านโกง
พลเอกเปรม กล่าวว่า ดีใจ ที่สนช. คิดเรื่องการต่อต้านทุจริตนี้ และได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน และการร่วมมือ จะทำให้กลไกปล้นชาตินั้นลดลง
สิ่งที่ผมมักพูดถึงเสมอ คือ การประพฤติปฏิบัติไม่โกงต้องเริ่มที่ตัวเอง หากตัวเองไม่โกง ครอบครัวไม่โกง องค์กรที่สังกัดไม่โกง ศาสนาจะเข้าไปช่วยได้
พลเอกเปรม กล่าวว่าการโกงที่เริ่มที่ตนเอง ต้องเริ่มที่เด็กไทย หากบอกเด็กว่าการโกงเหลวไหล
ให้ข้อมูลตั้งแต่เกิด หรือในท้อง ซึ่งไม่ทราบว่าเทคโนโลยีสมัยใหม่ทำได้หรือไม่ หากทำได้ ต้องบอกว่าต้องไม่ปล่อยให้โกงชาติ ขณะที่เรื่องจริยธรรมและธรรมาภิบาลต้องฝังไว้ในความรู้สึกและทุกภาคส่วนเช่นกัน
พลเอกเปรม กล่าวว่า ศาสนาไม่ใช่ยาวิเศษ แต่ศาสนาเป็นสิ่งสำคัญ เป็นสิ่งพิเศษที่ช่วยทำคนให้เป็นคน และช่วยเจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่ป้องกันและยับยั้งการทุจริต และประพฤติมิชอบในบ้านเมืองได้
พลเอกเปรม เชื่อว่าการทุจริตไม่ได้ลดลง แม้จะได้อันดับที่ดีขึ้น แต่คะแนนยังเท่าเดิม
ศาสนาทั้ง 5 ที่เข้าร่วมสัมมนาแลกเปลี่ยนความเห็น จะเป็นเครื่องมือทำให้คนเข้าใจว่าการฉ้อฉล โกงชาติบ้านเมืองเป็นบาป เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำเป็นสิ่งที่ต้องละเลย สอนลูกหลานให้เข้าใจว่า การโกงเป็นสิ่งอับอาย
"ประเทศของเรามีการโกงอยู่ระดับสูง ผมคิดว่าพวกเราต้องอายและขายหน้า เพราะชาติเราเป็นชาติขี้โกง ดังนั้นเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องช่วยลบล้างไม่ให้ว่า "ชาติขี้โกง" ได้"
“ผมมองว่าศาสนาจะช่วยอบรมสั่งสอน บอกถึงความเลวร้ายของการโกงให้คนรู้ว่าเป็นสิ่งที่ชั่วร้ายที่สุด"
"ผมเคยบอกว่าปัญหาเลวร้ายที่สุดในชาติ คือ คนในชาติโกงชาติของคุณเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าขายหน้ามาก การโกงไม่ใช่เพิ่งมีแต่มีหลายปีแล้ว มีตัวเลขที่ถูกศึกษาจะเห็นว่าประเทศเรานั้นค่อนข้างปราบปรามการโกงได้ช้า และหากช้าแบบนี้ตลอดไปจะทำให้บ้านเมืองแย่ลง”
"การโกง คือการปล้นชาติ ผมคิดว่าชาติของเราถูกปล้นโดยคนในชาติของเรา ซึ่งเป็นเรื่องแปลกและอันตรายมากที่สุด "ป๋าเปรม กล่าว
เมื่อถามว่า ป๋าเหนื่อยหรือไม่ ที่พูดให้คนต่อต้านการคอรัปชั่น มาตลอด แต่การคอรัปชั่น ไม่ได้ลดลง พลเอกเปรม กล่าวสั้นๆว่า "ก็ใช่"
Wassana Nanuam
ป๋าเปรม ออกโรง....ปลุกต้านโกง รับให้กำลังใจ "พะจุณณ์" ต้านทุจริต
พลเอกเปรม กล่าวว่า ดีใจ ที่สนช. คิดเรื่องการต่อต้านทุจริตนี้ และได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน และการร่วมมือ จะทำให้กลไกปล้นชาตินั้นลดลง
สิ่งที่ผมมักพูดถึงเสมอ คือ การประพฤติปฏิบัติไม่โกงต้องเริ่มที่ตัวเอง หากตัวเองไม่โกง ครอบครัวไม่โกง องค์กรที่สังกัดไม่โกง ศาสนาจะเข้าไปช่วยได้
พลเอกเปรม กล่าวว่าการโกงที่เริ่มที่ตนเอง ต้องเริ่มที่เด็กไทย หากบอกเด็กว่าการโกงเหลวไหล ให้ข้อมูลตั้งแต่เกิด หรือในท้อง ซึ่งไม่ทราบว่าเทคโนโลยีสมัยใหม่ทำได้หรือไม่ หากทำได้ ต้องบอกว่าต้องไม่ปล่อยให้โกงชาติ ขณะที่เรื่องจริยธรรมและธรรมาภิบาลต้องฝังไว้ในความรู้สึกและทุกภาคส่วนเช่นกัน
พลเอกเปรม กล่าวว่า ศาสนาไม่ใช่ยาวิเศษ แต่ศาสนาเป็นสิ่งสำคัญ เป็นสิ่งพิเศษที่ช่วยทำคนให้เป็นคน และช่วยเจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่ป้องกันและยับยั้งการทุจริต และประพฤติมิชอบในบ้านเมืองได้
พลเอกเปรม เชื่อว่าการทุจริตไม่ได้ลดลง แม้จะได้อันดับที่ดีขึ้น แต่คะแนนยังเท่าเดิม
ศาสนาทั้ง 5 ที่เข้าร่วมสัมมนาแลกเปลี่ยนความเห็น จะเป็นเครื่องมือทำให้คนเข้าใจว่าการฉ้อฉล โกงชาติบ้านเมืองเป็นบาป เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำเป็นสิ่งที่ต้องละเลย สอนลูกหลานให้เข้าใจว่า การโกงเป็นสิ่งอับอาย
"ประเทศของเรามีการโกงอยู่ระดับสูง ผมคิดว่าพวกเราต้องอายและขายหน้า เพราะชาติเราเป็นชาติขี้โกง ดังนั้นเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องช่วยลบล้างไม่ให้ว่า "ชาติขี้โกง" ได้"
“ผมมองว่าศาสนาจะช่วยอบรมสั่งสอน บอกถึงความเลวร้ายของการโกงให้คนรู้ว่าเป็นสิ่งที่ชั่วร้ายที่สุด"
"ผมเคยบอกว่าปัญหาเลวร้ายที่สุดในชาติ คือ คนในชาติโกงชาติของคุณเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าขายหน้ามาก การโกงไม่ใช่เพิ่งมีแต่มีหลายปีแล้ว มีตัวเลขที่ถูกศึกษาจะเห็นว่าประเทศเรานั้นค่อนข้างปราบปรามการโกงได้ช้า และหากช้าแบบนี้ตลอดไปจะทำให้บ้านเมืองแย่ลง”
"การโกง คือการปล้นชาติ ผมคิดว่าชาติของเราถูกปล้นโดยคนในชาติของเรา ซึ่งเป็นเรื่องแปลกและอันตรายมากที่สุด "ป๋าเปรม กล่าว
เมื่อถามว่า ป๋าเหนื่อยหรือไม่ ที่พูดให้คนต่อต้านการคอรัปชั่น มาตลอด แต่การคอรัปชั่น ไม่ได้ลดลง พลเอกเปรม กล่าวสั้นๆว่า "ก็ใช่"
Wassana Nanuam