สวัสดีครับ

วันนี้ขอนำเสนอโปรเจ็ครถจักรยานยนต์ Kawasaki Z250SL Touring ครับ



สืบเนื่องจากเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ผมได้ซื้อ Z250SL มาเพื่อการท่องเที่ยวเดินทาง ใจผมน่ะจริง ๆ แล้วผมไปสายรถทัวร์ริ่ง อย่างพวก Ryuka RX3, CB500X มือสอง, หรือไม่ก็ Cruiser อีกสักคัน แต่ข้อแม้ของภรรยาผมคือ ต้องเป็นรถมือ 1 ป้ายแดงเท่านั้น เรามีงบประมาณซื้อเงินสดจากตอนแรกตั้งไว้ที่ 6 หมื่นบาท และมากที่สุดที่ 150000 บาท

ภรรยาผมตัดสินใจที่ Z250SL เท่านั้น เพราะเธอคิดว่าเธอจะขับมันได้ (แต่จนบัดนี้ก็ปล่อยเดี่ยวไม่ได้ เธอเอาไม่อยู่) เธอให้เหตุผลว่า รถท่องเที่ยวเราก็มี Phantom อยู่แล้วไง เอาคันนี้มาให้มันเป็นอีกแนวหนึ่ง เมื่อเมียชอบคันนี้ ก็ต้องคันนี้

พอออกรถมาเราเอารถไปเที่ยวเชียงใหม่แบบที่เคยลงกระทู้รันอินรถคันนี้ไว้ พอกลับมา เธอรู้ทันทีว่า สไตล์ของครอบครัวเรานั้น ไม่ได้เอารถพวกนี้มาใช้งานในชีวิตประจำวัน เอาไปเที่ยวจริง ๆ เท่านั้น (เพราะเราไม่มีลูก) ผมจึงเสนอว่า เอางี้ งั้นเอาไปติดกล่องสามใบแล้วกัน เราจะได้เอามันไปเดินทางท่องเที่ยวได้ และจะได้ใช้งานสลับแฟนท่อมด้วย

กระทู้รันอิน Z250SL ที่เชียงใหม่ http://ppantip.com/topic/34353290

ผมจึงเริ่มหาข้อมูลว่ารถของเรานี้ เอาไปติดกล่องอะไรได้บ้างไหม เพราะดูจุดยึดมันน้อยเหลือเกิน ก็ไปเจอแร็คของ GIVI ที่ทำออกมาตรงรุ่นนี้ขาย ราคาไม่แพงด้วยประมาณสองพันกว่าบาทเท่านั้น แต่ปัญหาคือ มันไม่มีขายในประเทศของเรา ด้วยน้ำหนักประมาณห้ากิโล บวกลบคูณหาร รวมค่าขนส่ง ค่าภาษี ทะลุ 5 พันบาทแน่ ๆ เลยต้องผ่านตัวเลือกนี้

ผมหาข้อมูลต่อไป ก็ไปเจอรถของไบค์เกอร์ชาวอินโดนีเซียที่ทำรถรุ่นนี้เป็นทัวร์ริ่งไว้ ติดกล่อง 3 ใบ ผมได้ไอเดียล่ะ เอาคันนี้แหละ ลอกเขามาเลยดีกว่า ผมจึงถามเพื่อน (คุณ Blackbanana) ที่เขาขับรถทัวร์ริ่งอยู่แล้ว และรู้จักคนที่ทำของพวกนี้ได้ แกแนะนำคุณต้น สยาม LAWA มาให้ผม เราสามคนจึงเริ่มปรึกษากันถึงโปรเจ็คนี้ครับ

ที่นี้มาถึงกล่องข้างและกล่องหลัง
ผมเองน่ะ ไม่ได้ซีเรียสกับของมือสอง แต่เมียผมนั้น "ไม่ใช่" เธอต้องซื้อของมือ 1 เท่านั้น ทั้งผมและน้าหยกก็ปวดหัว เพราะน้าหยกก็พยายามเลือกของดีราคาประหยัดมาให้ จะได้ไม่ต้องเสียตังค์มาก (ซึ่งผมเห็นด้วย) กล่องที่ผมอยากได้คือ E22N พร้อมแร็ค SB2000 มือสองสภาพดีอยู่ที่ราคาประมาณ 6-7 พันบาท (ตามคลับในเฟซที่ผมติดตามอยู่) แต่เมียผมไม่เอา ก็ต้องจ่ายราคาเต็มที่ 9900 บาท กล่องหลังผมว่าจะไม่ซื้อเพราะผมคิดว่าผมจะแชร์กับ E20N ของ Phantom ได้ (จะซื้อมาทำไมสองใบ รถใช้ทีละคัน) เจ๊ก็ไม่ยอมอีก พอผมจะซื้อ E20N อีกใบที่กำลังเซลล์อยู่ประมาณพันแปดร้อยบาท ดีไซน์ก็ไม่ผ่านเมียนะครับ ไปได้อี SHAD SH40 ราคา 4100 มา ซีดไปล่ะทีนี้ สามีกำลังจะกินแกลบ พอแจ้งราคาให้ศรีภรรยาทราบ เสียงสวรรค์ตอบกลับมาว่า "ค่าใช้จ่ายแร็คกับกล่องเท่าไหร่ เดี๋ยวหนูจ่ายเอง" โอเคจ๊ะ จะเอาปี๊บเลยก็ได้นะถ้าได้ยินแบบนี้ อิอิ

ผมขับรถจากอยุธยาเข้าไปทิ้งไว้ที่บ้านคุณต้นแถวลาดกระ้งไว้เดือนนึง คุณต้นจึงทำการออกแบบจุดยึด จุดรับน้ำหนัก และตำแหน่งของแร็คต่าง ๆ จากนั้นก็ส่งให้โรงงานผลิต ทำสีพาวเดอร์โค๊ทสีดำออกมาเป็นอย่างที่เห็นครับ

คุณต้นทดสอบจุดยึด ตำแหน่งติดตั้ง และทำ Mock up ออกมาด้วยพลาสวู๊ด



ทดสอบการนั่ง





ต้นแบบด้วยพลาสวู๊ด



ส่งผลิตที่โรงงานและทำสีแบบพาวเดอร์โค๊ท ยิงทรายสีดำ



น้ำหนักแร็คทั้งชุดอยู่ที่ 4.7 กก. ครับ



จุดยึดที่ใช้คือตำแหน่งน๊อตยึดบังโคลนสี่ตัว โดยคุณต้นเปลี่ยนน๊อตใหม่ให้แข็งแรงขึ้น โดยจุดนี้จะเหมือนจุดหมุน และน้ำหนักจะไปกดที่พักเท้า กดเข้าหาเฟรม และตำแหน่งอีกจุดหนึ่งคือตรงบังโคลน หลังป้ายทะเบียนครับ

หลังจากใช้ไปได้สักสองสัปดาห์ น้าหยกก็ขับ 500x มาหาผมถึงโรงเรียนที่อยุธยา ช่วยปรับตำแหน่งของกล่องให้ดูสวยงามยิ่งขึ้น



ใช้เหล็กรูที่แถมมากับแร็ค SB2000 มาปรับตำแหน่งได้ครับ



ห่างจากท่อไอเสีย สูงกว่าประมาณ 1.5 cm และไม่ตรงตำแหน่งของปลายท่อครับ ไอเสียไม่โดนกล่องเลย ผ่านไปหมด











เทียบกับ 500x จะบอกว่า ตอนนี้ บั้นท้ายขนาดเกือบจะเท่ากันแล้วนะครับ ดูใหญ่บึกบึนขึ้นมาก ความกว้างของกล่องข้างเสมอกระจกมองหลังครับ



เทียบกับ Wave ตอนนี้จะเข้าไปจอดช่องจอดมอเตอร์ไซค์ที่โลตัสอยุธยา ถ้าไปแบบนี้ ใช้สองช่องกับอีกนิดนึงครับ เพราะรถไม่มีขาตั้งคู่ ต้องจอดเอียง ๆ



ผลการทดลองใช้งาน
การขับขี่ตัวเปล่า ๆ ไม่รู้สึกอะไรเลยครับ ปกติทุกอย่าง หากโหลดน้ำหนักลงไป การขับขี่ก็จะรู้สึกว่าเหมือนมีคนซ้อนท้ายอยู่ตลอดเวลาเท่านั้นครับ ความเร็วเดินทางยังคงนิ่งครับ ปกติผมเป็นคนขับรถไม่เร็ว คือขับยืนพื้นอยู่ประมาณ 90 ที่รอบ 5500 รอบ

แต่ในย่านความเร็วสูงได้ทดสอบแบบไม่ได้ตั้งใจคือ วันไปรับรถกลับบ้าน ผมให้เพื่อนขับรถยนต์พาผมเข้าไปรับ เพราะผมขับรถใน กทม.ไม่ได้ ไม่รู้จักทาง ขากลับเพื่อนขับรถยนต์นำหน้าผม แต่เขาเร่งสปีดไปที่ 120 กม. ผมก็ต้องกวดให้ทัน เพราะถ้าคลาดกันแล้วผมหลงครับ แต่ก็แค่ประมาณ 2-3 นาทีเท่านั้น พอจอดติดไฟแดงเลยเคาะกระจกบอกว่า เฮ้ย แกขับเร็วจัง ฉันตามไม่ทัน เพื่อนผู้แสนดีบอกว่า ก็ให้แกทดสอบรถไง อิอิ ผลออกมาคือไม่มีปัญหาครับ ความเร็ว 120 ยังนิ่ง ๆ อยู่ ซึ่งรถยังไปได้มากกว่านี้ครับ แต่ใจผมไม่ไปด้วยแค่นั้น

การใช้งานในเมือง
ปกติผมไม่ได้ขับมอเตอร์ไซค์ในเมืองสักเท่าไหร่ครับ ส่วนมากใช้จักรยานไปตลาด แต่เพื่อทดสอบ ผมเอาเจ้านี่โหลดของแล้วลองขับไปซื้อกาแฟในตลาดติดต่อกันมาสองสัปดาห์แล้ว ความคล่องตัวก็เหมือนเดิมครับ ไม่มีปัญหาอะไร เพียงแต่ถ้าจะแทรกใครก็ต้องกะระยะกันสักนิด ความกว้างของรถไม่เกินกระจกมองหลังก็จริง แต่ก็ต้องดูให้ดีก่อนจะแทรกใคร ทั้งนี้การจราจรในต่างจังหวัดไม่เหมือนกรุงเทพฯ ครับ คงเอาไปเทียบกันไม่ได้

เรื่องเบาะคนซ้อน
เบาะคนซ้อน เป็นปัญหาที่ผู้ที่คิดจะซื้อ Z250SL มาใช้ต่างกังวลว่ามันจะนั่งได้ไหม สบายไหม ถ้าเดิม ๆ แข็งมากครับ เจ็บเลย แต่ผมแก้ไขด้วยการเอาเบาะวางเสริมครับ คนซ้อนไม่มีปัญหานั่งสบาย จะหลับยังได้เลยทีนี้

เอาล่ะ ตอนนี้พร้อมลุยทั่วไทยแล้วครับ ใกล้ ๆ เอาแฟนท่อมไป ไกล ๆ เอาอีนี่ไป





โปรเจ็คต่อไปคือ ชิลด์หน้าที่สูงขึ้นอีกนิด กับแคลชบาร์กันล้มครับ รออย่างเดียวคือ กะตังค์ อิอิ

เป็นแนวทางให้เพื่อนสมาชิกที่ใช้รถรุ่นนี้และอยากจะติดตั้งกล่องเพื่อใช้ในการเดินทางนะครับ

สวัสดีครับ