สวัสดีครับ
วันแรงงานที่ผ่านมา ผมและน้าหยกได้นัดกันที่จะขับรถไปเที่ยวกันอีกแล้ว เพราะเป็นช่วงที่น้าหยกมีวันหยุดยาวสามวัน ส่วนผมก็ยังไม่เปิดเทอม ทำให้เรามีเวลาที่จะออกผจญภัยกันอีกครั้ง
ก่อนจะไปก็วางแผนกันอยู่นานตั้งแต่ก่อนสงกรานต์ว่าจะไปไหนดี เพราะอากาศร้อนจัดแบบนี้ จะขับรถไปที่ไหน ๆ ก็พาลจะเหนื่อยและไม่สนุกเสียเปล่า ๆ แต่สุดท้ายแล้วเราก็คิดที่เที่ยวที่เปรียบเสมือนเป็นของตายของเราขึ้นมาได้ ร้อน ๆ แบบนี้ต้องเล่นน้ำ แล้วน้ำตกที่สวยเป็นอันดับต้น ๆ ในใจผมจะมีที่ไหนไปไม่ได้นั่นก็คือ
“น้ำตก จ๊อกกระดิ่น”
ใช่แล้วครับ น้ำตกจ๊อกกระดิ่นแห่งทองผาภูมิจังหวัดกาญจนบุรี เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ผมและน้าหยกต่างชื่นชอบและไปเที่ยวที่นี่ปีละหลายครั้ง (ปี 58 ที่ผ่านมา 3 ครั้ง) และครั้งนี้มีเวลาเที่ยวถึงสามวัน เราจึงวางแผนคร่าว ๆ ออกมาว่า เราจะไปนอนที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ เล่นน้ำตกจ๊อกกระดิ่น และสะพานมอญที่อำเภอสังขละบุรี
และแน่นอน สไตล์การท่องเที่ยวของเราคือ เรามีแผนไว้ยังงั้นเอง เพราะเอาเข้าจริง แผนของเรามันไม่เคยไปตามแผนทุกโปรแกรมสามารถเปลี่ยนแปลงได้ รวมไปถึงการเดินทางในครั้งนี้ !!!
ในการเดินทางครั้งนี้ น้าหยกได้แนะนำเพื่อนใหม่ให้ผมรู้จักด้วยหลายคน เป็นกลุ่มเพื่อนที่ขับรถเที่ยวกับน้าหยกในกรุงเทพฯ มาก่อนรวมทั้งสิ้น 5 คัน เรานัดเจอกันที่ปั๊ม ปตท. สี่แยกแก่งเสี้ยน จ.กาญจนบุรีในเวลา 07.30 น. ของเช้าวันเสาร์ที่ 30 เมษายน เพื่อเตรียมวางโปรแกรมทัวร์อีกครั้ง
5.00 น. น้าหยกไลน์มาบอกว่า ออกเดินทางจาก กทม. แล้วนะ เดี๋ยวเจอกัน ผมเองก็ออกเดินทางจากบ้านในอำเภอเมืองสุพรรณบุรีเวลาเกือบ 6.00 น. จากบ้านผมถึงจุดนัดพบมีระยะทาง 98 กิโลเมตร ใช้ความเร็ว 90 กม.ต่อชั่วโมง ก็ไปนัดเวลานัดได้สบาย ๆ
ผมไปถึงจุดนัดพบก่อนน้าหยกกับเพื่อน ๆ จะมาถึงประมาณ 30 นาที เมื่อมาถึง น้าหยกก็แนะนำเพื่อน ๆ ให้รู้จักทุกคน ซึ่งในทริปนี้มีพี่ต้น ผู้สร้างแร็คให้ Z250SL ทัวร์ริ่งคันนี้มาร่วมคณะด้วย
กลุ่มที่น้าหยกแนะนำให้รู้จักนี้ พวกเขาคือกลุ่มรามอินทราครับ สมาชิกส่วนใหญ่ก็จะใช้ CB500X ไปกับเขาคราวนี้ Z น้อยจะวิ่งทันเขาไหมหนอ
เราวางแผนการเดินทางไว้ว่า วันนี้เราจะขึ้นไปกางเต็นท์นอนที่ทองผาภูมิ ขึ้นไปเที่ยวเนินช้างศึก หมู่บ้านอีต่อง แล้วลงมาเล่นน้ำตกจ๊อกกระดิ่นให้สบายอุรา เราจัดรูปขบวนการเดินทางและกำหนดความเร็วในการเดินทางครั้งนี้ไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยมีพี่ต้นเป็นคนนำขบวน และมี Z250SL คันน้อย ๆ ตามเป็นคันที่สอง
เรากำหนดความเร็วสูงสุดไว้ แต่เอาเข้าจริง ความเร็วที่ใช้มากที่สุดก็อยู่ช่วง 100 กม. ต่อชั่วโมงนี่เอง เพราะวันนี้วันหยุดยาว รถร่วมทางเยอะ เราจึงระมัดระวังกันเป็นพิเศษ จะใช้ความเร็วสูงได้ก็ตอนเร่งเครื่องแซงตอนถนนโล่ง ๆ เท่านั้น เพราะสิ่งที่พวกเรากลัวที่สุดคือ อุบัติเหตุ
เรามาถึงปั๊ม ปตท. ทองผาภูมิกันในเวลาประมาณ 11 นาฬิกา จัดการเติมน้ำมันกันให้เต็มถัง ชาวคณะแจ้งว่า จะมีเพื่อนตามมาอีก 1 คันจาก กทม. คือน้องบูม ใช้ Duke390 กวดชาวคณะมาตลอดและตามมาทันจนได้ เราพักกันตรงนี้เกือบ 40 นาที ก็ได้เวลาเดินทางขึ้นอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ
เราออกเดินทางกันต่อ เส้นทางต่อจากนี้ เป็นเส้นทางที่ผ่านชุมชน เราจึงไม่ใช้ความเร็วสูงมากนัก ขับตามกันไปเรื่อย ๆ ในวันนี้รู้สึกว่า จะมีชาวมอเตอร์ไซค์นิยมขับมาเที่ยวทองผาภูมิมากเป็นพิเศษ เราเจอรถมอเตอร์ไซค์แทบจะทุกขนาด ไม่ว่าจะเป็น สปอร์ต ครุยเซอร์ คัสตอม มากันหมด แม้กระทั่งเวสป้า ฟีโน่ เวฟ ก็มาร่วมวงไพบูลย์ในครั้งนี้ หากเอามาจอดรวมกัน ผมว่ามันเป็นงานมอเตอร์ไซค์ได้เลยนะ
เส้นทางขึ้นทองผาภูมิเป็นภูเขาสูงชัน เส้นทางตั้งแต่ด่านตรวจเป็นต้นไป เป็นเส้นทางเดิมที่ยังไม่ได้ซ่อมทำ เราจึงจะเจอทั้งหินกรวด ถนนเป็นหลุมบ่อ รวมถึงเศษใบไม้ที่ทำให้รถลื่นเอาได้ง่าย ๆ จึงต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เรามาถึงตัวอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิกันในเวลาประมาณบ่ายโมงครึ่ง เราจึงติดต่อขอกางเต็นท์ และขับรถเข้าไปลานกางเต็นท์ จากนั้นเราก็กางเต็นท์ทิ้งไว้ เพื่อที่เวลาเรากลับมาจากเที่ยวข้างบน เราจะได้พักผ่อนได้เลย
ไปอีกแล้ว รวมก๊วนขับมอเตอร์ไซค์เที่ยวทองผาภูมิ-ลุยทางเอ็นดูโร่-น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น
สวัสดีครับ
วันแรงงานที่ผ่านมา ผมและน้าหยกได้นัดกันที่จะขับรถไปเที่ยวกันอีกแล้ว เพราะเป็นช่วงที่น้าหยกมีวันหยุดยาวสามวัน ส่วนผมก็ยังไม่เปิดเทอม ทำให้เรามีเวลาที่จะออกผจญภัยกันอีกครั้ง
ก่อนจะไปก็วางแผนกันอยู่นานตั้งแต่ก่อนสงกรานต์ว่าจะไปไหนดี เพราะอากาศร้อนจัดแบบนี้ จะขับรถไปที่ไหน ๆ ก็พาลจะเหนื่อยและไม่สนุกเสียเปล่า ๆ แต่สุดท้ายแล้วเราก็คิดที่เที่ยวที่เปรียบเสมือนเป็นของตายของเราขึ้นมาได้ ร้อน ๆ แบบนี้ต้องเล่นน้ำ แล้วน้ำตกที่สวยเป็นอันดับต้น ๆ ในใจผมจะมีที่ไหนไปไม่ได้นั่นก็คือ
“น้ำตก จ๊อกกระดิ่น”
ใช่แล้วครับ น้ำตกจ๊อกกระดิ่นแห่งทองผาภูมิจังหวัดกาญจนบุรี เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ผมและน้าหยกต่างชื่นชอบและไปเที่ยวที่นี่ปีละหลายครั้ง (ปี 58 ที่ผ่านมา 3 ครั้ง) และครั้งนี้มีเวลาเที่ยวถึงสามวัน เราจึงวางแผนคร่าว ๆ ออกมาว่า เราจะไปนอนที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ เล่นน้ำตกจ๊อกกระดิ่น และสะพานมอญที่อำเภอสังขละบุรี
และแน่นอน สไตล์การท่องเที่ยวของเราคือ เรามีแผนไว้ยังงั้นเอง เพราะเอาเข้าจริง แผนของเรามันไม่เคยไปตามแผนทุกโปรแกรมสามารถเปลี่ยนแปลงได้ รวมไปถึงการเดินทางในครั้งนี้ !!!
ในการเดินทางครั้งนี้ น้าหยกได้แนะนำเพื่อนใหม่ให้ผมรู้จักด้วยหลายคน เป็นกลุ่มเพื่อนที่ขับรถเที่ยวกับน้าหยกในกรุงเทพฯ มาก่อนรวมทั้งสิ้น 5 คัน เรานัดเจอกันที่ปั๊ม ปตท. สี่แยกแก่งเสี้ยน จ.กาญจนบุรีในเวลา 07.30 น. ของเช้าวันเสาร์ที่ 30 เมษายน เพื่อเตรียมวางโปรแกรมทัวร์อีกครั้ง
5.00 น. น้าหยกไลน์มาบอกว่า ออกเดินทางจาก กทม. แล้วนะ เดี๋ยวเจอกัน ผมเองก็ออกเดินทางจากบ้านในอำเภอเมืองสุพรรณบุรีเวลาเกือบ 6.00 น. จากบ้านผมถึงจุดนัดพบมีระยะทาง 98 กิโลเมตร ใช้ความเร็ว 90 กม.ต่อชั่วโมง ก็ไปนัดเวลานัดได้สบาย ๆ
ผมไปถึงจุดนัดพบก่อนน้าหยกกับเพื่อน ๆ จะมาถึงประมาณ 30 นาที เมื่อมาถึง น้าหยกก็แนะนำเพื่อน ๆ ให้รู้จักทุกคน ซึ่งในทริปนี้มีพี่ต้น ผู้สร้างแร็คให้ Z250SL ทัวร์ริ่งคันนี้มาร่วมคณะด้วย
กลุ่มที่น้าหยกแนะนำให้รู้จักนี้ พวกเขาคือกลุ่มรามอินทราครับ สมาชิกส่วนใหญ่ก็จะใช้ CB500X ไปกับเขาคราวนี้ Z น้อยจะวิ่งทันเขาไหมหนอ
เราวางแผนการเดินทางไว้ว่า วันนี้เราจะขึ้นไปกางเต็นท์นอนที่ทองผาภูมิ ขึ้นไปเที่ยวเนินช้างศึก หมู่บ้านอีต่อง แล้วลงมาเล่นน้ำตกจ๊อกกระดิ่นให้สบายอุรา เราจัดรูปขบวนการเดินทางและกำหนดความเร็วในการเดินทางครั้งนี้ไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยมีพี่ต้นเป็นคนนำขบวน และมี Z250SL คันน้อย ๆ ตามเป็นคันที่สอง
เรากำหนดความเร็วสูงสุดไว้ แต่เอาเข้าจริง ความเร็วที่ใช้มากที่สุดก็อยู่ช่วง 100 กม. ต่อชั่วโมงนี่เอง เพราะวันนี้วันหยุดยาว รถร่วมทางเยอะ เราจึงระมัดระวังกันเป็นพิเศษ จะใช้ความเร็วสูงได้ก็ตอนเร่งเครื่องแซงตอนถนนโล่ง ๆ เท่านั้น เพราะสิ่งที่พวกเรากลัวที่สุดคือ อุบัติเหตุ
เรามาถึงปั๊ม ปตท. ทองผาภูมิกันในเวลาประมาณ 11 นาฬิกา จัดการเติมน้ำมันกันให้เต็มถัง ชาวคณะแจ้งว่า จะมีเพื่อนตามมาอีก 1 คันจาก กทม. คือน้องบูม ใช้ Duke390 กวดชาวคณะมาตลอดและตามมาทันจนได้ เราพักกันตรงนี้เกือบ 40 นาที ก็ได้เวลาเดินทางขึ้นอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ
เราออกเดินทางกันต่อ เส้นทางต่อจากนี้ เป็นเส้นทางที่ผ่านชุมชน เราจึงไม่ใช้ความเร็วสูงมากนัก ขับตามกันไปเรื่อย ๆ ในวันนี้รู้สึกว่า จะมีชาวมอเตอร์ไซค์นิยมขับมาเที่ยวทองผาภูมิมากเป็นพิเศษ เราเจอรถมอเตอร์ไซค์แทบจะทุกขนาด ไม่ว่าจะเป็น สปอร์ต ครุยเซอร์ คัสตอม มากันหมด แม้กระทั่งเวสป้า ฟีโน่ เวฟ ก็มาร่วมวงไพบูลย์ในครั้งนี้ หากเอามาจอดรวมกัน ผมว่ามันเป็นงานมอเตอร์ไซค์ได้เลยนะ
เส้นทางขึ้นทองผาภูมิเป็นภูเขาสูงชัน เส้นทางตั้งแต่ด่านตรวจเป็นต้นไป เป็นเส้นทางเดิมที่ยังไม่ได้ซ่อมทำ เราจึงจะเจอทั้งหินกรวด ถนนเป็นหลุมบ่อ รวมถึงเศษใบไม้ที่ทำให้รถลื่นเอาได้ง่าย ๆ จึงต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เรามาถึงตัวอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิกันในเวลาประมาณบ่ายโมงครึ่ง เราจึงติดต่อขอกางเต็นท์ และขับรถเข้าไปลานกางเต็นท์ จากนั้นเราก็กางเต็นท์ทิ้งไว้ เพื่อที่เวลาเรากลับมาจากเที่ยวข้างบน เราจะได้พักผ่อนได้เลย