[CR] 2 วัน 2 คืนที่แสนจะอึดอัดกับการพักที่ Akatsukiya Guesthouse Kanazawa

สวัสดีเพื่อนๆชาวบลูแพลนเน็ตทุกท่านนะครับ วันนี้ขอมาแบ่งปันประสบการณ์ที่ได้รับจากการพักที่บ้านหลังนี้เป็นเวลา 2 คืนเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ให้เพื่อนๆได้ฟังกันนะครับ ต้องบอกก่อนว่าอาจจะค่อนข้างสวนทางกับรีวิวส่วนใหญ่ที่มีแต่เสียงชื่นชมที่นี่  แต่ที่จะเล่าให้ฟังนี่คือ สิ่งที่ได้ไปประสบมาจริงและความรู้สึกจริงๆที่ได้รับมาครับ


เริ่มต้นเลยคือ ผมมีแพลนจะไปพักที่ Kanazawa เป็นเวลา 2 คืน เลยหาข้อมูลเรื่องที่พัก จนมาสะดุดตาที่นี่เพราะในพันทิปมีคนชมเอาไว้ เลยตัดสินใจจองล่วงหน้า 1 ปี ซึ่งไม่มีปัญหาอะไร จนผ่านมาสัก 3 เดือนมีเพื่อนผมสนใจจะไปด้วย เลยอีเมล์ไปถามเพื่อขอเพิ่มคนเข้าพัก ก็ไม่มีการตอบกลับมาจน 1 วันก่อนวันเข้าพัก ถึงมาถามว่าจะมีคนมาเพิ่มมั้ย คือยังไงถึงเพิ่งมาตอบ ซึ่งสุดท้ายก็ต้องบอกปัดเพื่อนไปเพราะเค้าไม่ยอมตอบอีเมล์ ข้ามมาวันที่จะเข้าพัก กลุ่มเราไปตรงตามเวลาที่ระบุเอาไว้ตอนจอง คือระบุไปว่าจะเข้าบ่าย 3 โมงตามมาตรฐานทั่วไปของญี่ปุ่น ซึ่งตอนที่จองไปเค้าไม่ได้บอกกับเราเป็นอย่างอื่น ไปถึงที่พัก เจ้าของเดินออกมาบอกว่า เข้าที่พักได้ 4 โมงเย็น เริ่มไม่ประทับใจแล้ว คือเดินทางมา 3-4 ชั่วโมงเหนื่อยมาก อยากพัก กะเวลาไว้พอดีแล้ว แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ต้องออกไปหาอะไรทำข้างนอก เพื่อรอ 4 โมงเย็น


พอเข้าที่พักไป ลุง (เจ้าของบ้าน) ก็บอกให้มานั่งรวมกันแล้วก็คุยๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ยกน้ำชามาให้กับขนม แล้วก็คุยนานมาก อธิบายบอกกฎระเบียบในบ้านว่า ห้ามทำอะไรบ้าง ซึ่งเราก็ฟัง จะได้รู้ ไม่มีปัญหาอะไร แต่แอบคิดว่าในใจว่าให้เช็คอินเย็นขนาดนี้ ยังจะมาอะไรมากมาย กว่าจะได้จ่ายเงิน คือเหนื่อย ตอนเข้ามาแกบอกว่ากระเป๋าเดินทางใบใหญ่ให้วางไว้ข้างล่าง ห้ามเอาขึ้นข้างบน ส่วนกระเป๋าเป้ ให้เอาไปเก็บข้างบน คือเราก็ยังไม่เอาขึ้นไป เพราะกะว่า เดี๋ยวจ่ายเงินเสร็จจะเอาขึ้นไปทีเดียว แต่แกไม่ยอม บ่นซ้ำซาก ไล่ให้เอาเป้ไปเก็บ ใครมีกระเป๋าใหญ่มาบอกเลยว่าลำบาก ต้องเดินขึ้นๆลงๆ หยิบของ กางกระเป๋าก็ลำบาก ที่เล็กมาก


พอมืด เราก็ไปซื้อของใกล้บ้านมาทำกับข้าวกัน ในครัวมีรองเท้าอยู่ 3 คู่ กลุ่มเรามี 6 คน รวมลุงเป็น 7 ลุงแกใส่รองเท้าไปแล้วคู่นึง ส่วนอีก 2 คู่ ก็คนในกลุ่มเราใส่ยืนทำกับข้าวอยู่ แต่ทุกคนใส่ถุงเท้ากันหมด ทีนี้มีคนจะเข้าห้องน้ำ ด้วยความที่ใส่ถุงเท้าเลยไม่คิดอะไร เพราะจะเข้าห้องน้ำ รองเท้าก็มีคนใส่หมดแล้ว ก็เดินผ่านครัวไปเข้าห้องน้ำ พอลุงเห็นก็เดินมาไล่ว่า ให้ไปใส่รองเท้า เดี๋ยวพื้นบ้านแกจะเลอะ สุดท้ายก็ต้องเดินกลับมารอรองเท้าจากคนที่ทำกับข้าวอยู่ คือบอกเลยว่ากฎระเบียบแกเยอะแยะยิบย่อยมากจนเราอึดอัด กินข้าวเสร็จจะมีคนนึงอาสาล้างจาน กลุ่มเราก็แยกเศษอาหารแล้วเก็บจานซ้อนกันไว้ รอกินอิ่มพร้อมกันทุกคนจะเคลียร์กับข้าวแล้วยกไปพร้อมกันที่เดียว แล้วบางคนก็ขึ้นไปเตรียมตัวอาบน้ำก่อนจะได้ไม่ต้องมารอกัน แกเดินมาถามว่า คนที่ขึ้นไปก่อนน่ะ ทำไมกินแล้วเราไม่ยอมเก็บจาน เราก็แบบคือต้องยุ่งทุกเรื่องมั้ยอ่ะ มันเรื่องของเราป่ะ คือไม่ต้องห่วงเก็บล้างให้เรียบร้อยแน่นอน แต่นี่คือจุกจิกไป พอทิ้งขยะตามที่แกบอกไว้ คือแยกตามถัง ปรากฎว่าแกลากถังขยะมาหาเราเลย แล้วบอกว่า นี่อันนี้พลาสติกก็ใช่นะ แต่มันเป็นพลาสติกที่เลอะแล้ว ต้องใส่อีกถังนึง เราก็อ้าว แล้วทำไมไม่บอกแต่แรก เราก็แยกตามที่แกบอกทุกอย่างแล้วนะ แกบอกเรานะว่าคนที่มาพักอันดับหนึ่งคือจีน รองมาคือไทย เลยแอบคิดว่าแกคงเข็ดคนจีน แต่คือเราไม่ใช่จะไร้ระเบียบขนาดนั้นไง นี่เล่นจี้กันทุกก้าว ทำอะไร แกจะเดินมายืนมองหมดทุกอย่างยันชงกาแฟ คือแค่คืนแรกก็อึดอัดมากแล้ว สีหน้าท่าทางแกคือจ้องจับผิดมาก


ทีนี่เราก็ถามแกว่ามีที่จอดรถมั้ย เราเช่ารถมานะ จะเอามาจอด แกก็ว่ามี แล้วพาเดินออกไปนอกบ้านไปชี้ที่จอดรถให้ว่าจอดตรงนี้นะ เราก็โอเค แต่พอคืนที่สองที่เรากลับมาจากชิราคาวาโกะ เราเอารถไปจอดตามที่แกบอก ขึ้นห้องเรียบร้อย สักพัก แกขึ้นมาเรียก บอกว่าเราจอดรถผิดที่นะ ต้องไปย้าย แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้ากันหมดแล้ว หิมะก็หนักมากตอนนั้น ก็ต้องยอมออกไปย้ายรถด้วยความงงว่า แล้วจะชี้ที่จอดให้ทำไม ถ้ามันจอดไม่ได้
เช้าวันกลับคือจะมีป้าเราแต่งตัวเสร็จก่อนก็จะลงมาเตรียมอาหารเช้าให้ทุกคน ทีนี้ทุกคนกินเสร็จแล้ว เหลืออีกคนนึงกำลังแต่งตัว เราก็นั่งกันอยู่ที่โต๊ะ รอให้คนที่เหลือลงมากินข้าว แกก็เดินมาถามว่าทำไมไม่เก็บอาหาร เราก็บอกรอเพื่อนก่อน แกก็บอกเก็บเลยสิ กินเสร็จแล้ว เราก็บอกรอบสองว่า รออีกคน ยังไม่ได้กิน แกก็เดินไป แป๊บเดียวเดินมาพูดแบบเดิมอีกรอบ เรารำคาญเลยเก็บ อีกคนที่เหลือคือให้ไปหาซื้ออะไรกินข้างนอกเอา


แล้วป้าเรากำลังเก็บกระเป๋า คือต้องบอกก่อนว่า ลุงแกจะเอาเสื่อยาวๆมาปูไว้เพื่อรองกระเป๋าผืนนึง ป้าก็กางกระเป๋าเพื่อจัดของ พอปิดกระเป๋าเสร็จก็ยกขึ้นตั้ง ด้วยความที่เป็นเสื่อยาวผืนเล็กๆ พอดีกับขนาดกระเป๋า พอยกกระเป๋าขึ้นตั้ง ล้อกระเปามันก็ออกมาพ้นเสื่อพอดี ยังไม่ได้ขยับไปไหนเลย แกเดินมาใส่เลยว่า ห้ามวางกระเป๋าบนพื้นนะ ให้วางบนเสื่อ พื้นแกจะเลอะ ห้ามลากด้วย ให้ยกเอา เดี๋ยวพื้นแกจะพัง

คือเราขอสรุปเลยว่าเป็นสองวันสองคืนแห่งความอึดอัดของทุกคนในกลุ่ม จนตัดสินใจกันว่าในมื้ออื่นๆ เราจะหาอะไรมานั่งกินกันในรถให้เรียบร้อยแล้วค่อยเข้าที่พัก ไม่อยากไปวุ่นวาย ไปใช้ของของเค้า คือข้อดีแกก็มีนะ แต่สิ่งที่ลุงแกทำ มันกลบข้อดีไปหมดเลย เราคิดนะว่านี่เรามาขออาศัยอยู่ฟรีหรือเปล่า ทำไงจู้จี้กดดันกันได้ขนาดนี้ คือเราเสียเงินแลกที่นอน แลกความสะดวกสบาย จริงๆก็ไม่ได้คาดหวังว่ามันจะสะดวกสบายเท่าโรงแรม แต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะมาเจอความอึดอัดเหมือนมาขอเค้านอนฟรีแบบนี้ เตือนทุกคนนะครับ ลุงแกขี้บ่น และระเบียบเยอะมาก ถ้าเป็นคนง่ายๆ ชิลล์ๆ เลี่ยงที่นี่เถอะครับ ยังไงก็ถือว่าเป็นอีกหหนึ่งเสียงที่มาแบ่งปันประสบการณ์ที่ได้รับมานะครับ
ชื่อสินค้า:   Akatsukiya Guesthouse Kanazawa
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่