ยึดรถหรูลัมโบร์กินี นักร้องแฝดวง ‘บางแก้ว’ ไม่มีเอกสาร สงสัยเถื่อน แบบนี้จะเหมือนกรณีของ บอย ปกรณ์ไหม

บรถหรูนักร้องดังวง “บางแก้ว” ซิ่งลัมโบร์กินี สีเหลืองป้ายแดง แต่ถูกเจ้าหน้าที่สรรพสามิตแจ้งตำรวจสกัดจับพบจอดด้านหน้าอุทยานประวัติศาสตร์พิมาย โดยมี “บาส-พงษ์พจน์หรือบาส สินสุวรรณ์” นักร้องฝาแฝดชื่อดังเป็นคนขับและเจ้าของ ตรวจสอบใช้ทะเบียนปลอม แถมไม่มีป้ายเสียภาษี รวมทั้งไม่มีเอกสารการนำเข้าจึงยึดไว้ตรวจสอบและให้นำหลักฐานมาแสดง

จับรถหรูนักร้องดังรายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 9 มี.ค. พ.ต.ท.ไพบูรณ์ คูณค้ำ สว.สส.สภ.พิมาย จ.นครราชสีมา ได้รับการประสานจากนางณัฐวรรณ บุญญานุสนธิ์ นักวิชาการสรรพสามิตชำนาญการ สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่นครราชสีมา สาขาพิมาย ว่าพบรถหรูยี่ห้อลัมโบร์กินีสีเหลืองป้ายแดง พ-8888 กรุงเทพมหานคร ต้องสงสัยขับอยู่บริเวณถนนสายพิมาย-จักราช มุ่งหน้าเข้าตลาดพิมายขอให้ช่วยสกัดจับไว้ตรวจสอบ จึงนำกำลังชุดสืบสวนออกตระเวนหารถคันดังกล่าว กระทั่งพบจอดอยู่ที่ลานจอดรถด้านหน้าอุทยานประวัติศาสตร์พิมาย

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าไปตรวจสอบพบเจ้าของรถชื่อนายพงษ์พจน์ หรือบาส สินสุวรรณ์ อายุ 32 ปี เป็นนักร้องฝาแฝดวงบางแก้ว เจ้าของเพลงดัง “รักครั้งแรกและหวังเล็กๆ” ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอตรวจสอบเอกสารเกี่ยวกับรถ แต่นายพงษ์พจน์ไม่มีเอกสารใดๆแสดงทั้งสิ้น เจ้าหน้าที่จึงได้เชิญตัวไปสอบสวนที่ สภ.พิมาย พร้อมกับนำรถไปด้วย

ต่อมา พ.ต.อ.พีระวัฒน์ มงคลสวัสดิ์ ผกก.สภ.พิมาย พ.ต.ท.อดิศร ชาวเมือง รอง ผกก. (สส.) และนายสมพร เนียมหอม นักวิชาการสรรพสามิตฝ่ายปราบปราม สรรพสามิตพื้นที่นครราชสีมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายสรรพสามิตพื้นที่นครราชสีมาและเจ้าหน้าที่ทหารเดินทางมาตรวจสอบรถและสอบปากคำนายพงษ์พจน์ เบื้องต้นนายพงษ์พจน์หรือบาส ให้การว่า ซื้อรถคันนี้มาใช้ตั้งแต่ พ.ศ.2556 แต่ไม่ได้พกเอกสารเกี่ยวกับรถมาด้วย และรับปากจะโทรศัพท์บอกให้เพื่อนช่วยส่งแฟ็กซ์มาให้ที่สภ.พิมาย จนเวลาผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมงยังไม่มีวี่แววว่า จะมีแฟ็กซ์ส่งเข้ามาแต่อย่างใด ขณะที่นายพงษ์พจน์แสดงอาการโมโหที่ไม่มีเอกสารมาแสดง

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบรถหรูคันดังกล่าวอย่างละเอียดปรากฏว่า เดิมรถเป็นสีเขียวแต่ดัดแปลงใหม่เป็นสีเหลือง ส่วนทะเบียนป้ายแดงเป็นทะเบียนของรถกระบะและไม่มีป้ายเสียภาษี ขณะที่นายพงษ์พจน์ยังยืนยันเสียงแข็งว่ามีเอกสารครบแต่ขอเวลาในการส่ง ทางเจ้าหน้าที่สรรพสามิตนครราชสีมาจึงได้ทำบันทึกเพื่ออายัดรถคันดังกล่าวไว้ก่อนและรอจนกว่าจะมีใบรับรองการนำเข้าจากกรมศุลกากรมายืนยัน รวมทั้งหลักฐานการเสียภาษีแต่ถ้าไม่มีเอกสารมายืนยันต้อง
เครดิต จาก http://www.thairath.co.th/content/588617
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่