ฝากเพจด้วยนะครับ
https://www.facebook.com/AETOURBYYOURSELF (ไม่ใช่บริษัททัวร์นะครับ พอดีใช้ชื่อนี้เพราะตอนนำครอบครัวไปเที่ยวยุโรปครั้งแรก แล้วญาติตั้งให้)
Part 10 ภูเขาสูง หิมะขาวโพลน Winter @ Yosemite
http://ppantip.com/topic/34835960
Part 9 มหัศจรรย์การสร้างสรรค์ของธรรมชาติ Antelope Canyon และ Zion Nation Park
http://ppantip.com/topic/34788566
Part 8 ฝ่าพายุหิมะไปยัง Bryce Canyon National Park, Utah
http://ppantip.com/topic/34754027
Part 7 จุดหมายในฝัน หนึ่งเดียวในอเมริกา Harry Potter@ Orlando
http://ppantip.com/topic/34641279
Part 6 ใต้สุดของอเมริกา Key West กับเมืองชายหาดอันโด่งดัง Miami Beach
http://ppantip.com/topic/34621815
Part 5 Chicago เมืองชิคๆ ที่ไม่ได้อยากมา แต่...
http://ppantip.com/topic/34612352
Part 4 Autumn in Yosemite National Park & Lake Tahoe
http://ppantip.com/topic/34443866
Part 3 Maui, Hawaii เกาะสวรรค์ (เหมือนขึ้นไปบนสวรรค์จริงๆ)
http://ppantip.com/topic/34358475
Part 2 Highway no.1 ถนนที่สวยที่สุดชายฝั่งตะวันตกของอเมริกา
http://ppantip.com/topic/34277681
Part 1 San Francisco
http://ppantip.com/topic/34228981
Part เสริม Disneyland LA และการเล่นเครื่องเล่นสำคัญๆใน Park ให้ครบภายใน 1 วัน
http://ppantip.com/topic/34277393
การดู Aurora หรือ Northern Light หรือแสงเหนือ ถือเป็นความใฝ่ฝัน 1 อย่างในชีวิตผมอยู่แล้วว่าจะต้องเห็นให้ได้สักครั้งในชีวิต แล้วผมเพิ่งรู้ว่ามันสามารถมองเห็นได้ที่ Alaska (คิดว่าต้องไปที่ Iceland หรือ แถวๆ Scandinavia อย่างเดียว เพราะคนไทยไปที่นั่นกันเยอะ) แล้วเพิ่งรู้ด้วยว่าเป็นที่ที่ดีที่สุดในการดูแสงเหนือด้วย (จากการสอบถามคนท้องถิ่นและคนญี่ปุ่นที่ไป Alaska กันจำนวนมาก) เดี๋ยวกลับมาเล่าให้ฟังว่าทำไม
พอรู้ว่าเราสามารถมองเห็นได้ที่ Alaska ผมก็เริ่มวางแผนทริปทันที ตอนนั้นชักชวนสมาชิกได้เพิ่มอีก 2 คน เราเลยมีผู้ร่วมชะตากรรมทั้งหมด 4 คน ผม ภรรยาผม และเพื่อนร่วมบ้านที่ San Francisco อีก 2 คน
ด้วยความที่ Alaska เป็นรัฐหนึ่งของ USA ทำให้เราไม่ต้องขอวีซ่า เพราะเรามาเรียนกันอยู่ที่ SF อยู่แล้ว และการบินไป Alaska ก็ไม่ได้ยากอะไร จาก SF บินไปต่อเครื่องที่ Seattle ก็ถึง Alaska เลย
ทริปนี้มีหลายคนแนะนำว่า Alaska ไม่ควรไปหน้าหนาว เพราะมันจะหนาวมาก และทุกอย่างปิดหมด แต่ผมจะไปดูแสงเหนือ ถ้าไม่ไปหน้าหนาวซึ่งเวลากลางคืนมากกว่าหรือพอๆกับกลางวัน จะให้ไปหน้าร้อน ซึ่งมีเวลากลางวันเกือบ 24 ชม.หรือ พอมาสอบถามข้อมูลใน pantip ก็แนะนำคล้ายๆกันคือ ไม่ควรไปหน้าหนาว แต่...Alaska หน้าหนาวไม่ได้มีดีแค่แสงเหนือครับ
ผมเตรียมทริปนี้ก่อนไปประมาณ 3 เดือน หาข้อมูลทุกอย่างช่วงเวลาที่ดีที่สุด อากาศไม่หนาวจัดมาก ก็ได้ช่วงเวลาที่ดีที่สุดมาคือ ประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงต้นมีนาคม เพราะที่ Anchorage มีเทศกาลวิ่งหมาลากเลื่อนและวิ่งกวางแรนเดียร์ และที่ Fairbanks ก็มีงานแกะสลักน้ำแข็งระดับโลกด้วย
เมื่อได้วันแล้วก็ได้เวลาวางแผนการเที่ยว จองตั๋วเครื่องบิน ที่พัก รถเช่า ซึ่งเราวางแผนจะไปอยู่ Anchorage กัน 4 วัน 4 คืน แล้วบินจาก Anchorage ไป Fairbanks อยู่ที่ Fairbanks 3 วัน 3 คืน เพื่อดูแสงเหนือโดยเฉพาะ ค่าเครื่องบินรวมทั้งทริปที่เราได้ก็ $382/คน ครับ
ส่วนที่พักเรานอนกันที่ Anchorage 3 คืน ขับรถไปนอน Seward 1 คืน นอน Fairbanks 3 คืน แต่ทีเด็ดคือ ผมไปเจอโรงแรมนึงซึ่งเป็น Hidden Gem ของ Trip Advisor อยู่ห่างจากตัวเมืองไปประมาณ 30 กม. ซึ่งเหมาะกับการดูแสงเหนือมาก ทุกคนใน Trip Advisor ให้ review 5 ดาวหมดเลย และส่วนมากคนที่ไปพักเป็นคนญี่ปุ่นด้วย การจองก็ทำได้ทางเดียวคือ E-mail ไปจองกับเจ้าของบ้านเท่านั้น ซึ่งที่พักที่นี่มันต้องมีอะไรดีแบบสุดๆแน่ๆ เพราะจองก็ยาก ราคาก็ไม่ใช่ถูก แล้ว review สูงด้วย ผมจึงไม่รอช้า ส่ง mail ไปจองทันที เดี๋ยวมาเล่าช่วงดูแสงเหนือนะครับ รายละเอียดโรงแรม
Alaska (The Last Frontier)
เป็นรัฐที่ตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือสุดของอเมริกา ฝั่งตะวันออกติดกับ British Columbia และ Yukon ของประเทศแคนาดา ขณะที่ฝั่งตะวันตกติดกับประเทศรัสเซียโดยมีช่องแคบ Bering คั่นอยู่ ทางเหนือติดกับทะเล Chukchi ทางใต้ติดกับมหาสมุทร Arctic
Alaska ถือเป็นรัฐที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของอเมริกา แต่กลับมีประชากรน้อยที่สุดเป็นอันดับ 3 จึงเป็นรัฐที่มีประชากรอยู่กันอย่างแออัดน้อยที่สุดของอเมริกา ซึ่งมากกว่าตรึ่งของประชากรใน Alaska อาศัยอยู่ที่เมือง Anchorage
เมื่อก่อนรัฐนี้เป็นส่วนหนึ่งของประเทศรัสเซีย แต่อเมริกาได้ซื้อมาจากรัสเซียเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 1867 ในราคา7.2 ล้านดอลลาห์สหรัฐ (ประมาณ 2 cent/acer) และได้เป็นรัฐที่ 49 ของอเมริกาในวันที่ 3 มกราคม 1959
เราบินออกจาก SF ช่วงเย็นๆ ถึง Anchorage ประมาณ 22.30 (ต่อเครื่องที่ Seattle ประมาณ 2 ชม.) เราเช่ารถจากสนามบิน Anchorage ไปพักที่พักในเมืองที่โรงแรม Guesthouse Anchorage Inn ขอบอกว่าสัญญาณโทรศัพท์ที่นี่ใช้ไม่เหมือนกับ USA แผ่นดินใหญ่ครับ ลงเครื่องมามีสัญญาณโทรศัพท์คือโทรได้แต่ไม่มีสัญญาณ Internet(ไม่ว่าจะเป็นของเครือข่ายใดๆเลย) เราเลยต้องใช้สัญญาณ Wifi ของสนามบินพาไปที่พัก และเรา Load offline map ของ google ไว้แล้ว
เช้าวันถัดมา สอบถามจากเจ้าหน้าที่โรงแรมกับตำรวจ ได้ความว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของการวิ่งหมาหิมะ จะเริ่มวิ่งประมาณเที่ยง (เค้าวิ่งกัน 3 วัน) แต่งานเทศกาลอื่นๆยังมีอยู่นะครับ เราเลยเปลี่ยนแผนกันเล็กน้อย ช่วงเช้าไปซื้อของตุนเป็นเสบียงกับหาซื้อ sim ที่มีสัญญาณโทรศัพท์กันที่ Walmart (ที่ Anchorage มีหมดนะครับ ทั้ง Safeway Walmart Target) แต่ๆๆๆ sim ที่ซื้อมาดันมีปัญหาเชื่อมต่อกับเครือข่ายไม่ได้ซะงั้น เราเลยขอ refund แล้วอยู่กัน 7 วันโดยไม่มีสัญญาณ Internet (มีเฉพาะในโรงแรม) ซึ่งบางทีก็ดีนะครับ ผมกลับชอบ อยู่แบบไม่มีโลก online กันบ้าง เราจะได้ใกล้ชิดกับคนรอบข้างมากขึ้น
แล้วเที่ยงๆก็มารอดูการวิ่งหมาลากเลื่อน ซึ่งจัดวิ่งกันตรงโรงแรมที่เรานอนเลย เทศกาลนี้จะจัดขึ้นทุกปีนะครับ ประมาณปลายเดือนกุมภาถึงต้นมีนานี่แหละ แต่เห็นจากข่าวว่าปีนี้หิมะน้อย เลยต้องไปขนหิมะมาจากที่อื่น เพื่อมาทำทาง
ดูได้ประมาณชั่วโมงนึงครับ เราต้องขับรถไป Seward ประมาณ 3 ชั่วโมง เพื่อไปนอนที่ Seward ระยะทางประมาณ 200 กม. เส้นนี้เป็นเส้นทาง Scenic Route นะครับ เพราะต้องขับเลียบไปตามทะเลสาบ ขับผ่านภูเขาหิมะมากมาย ขับไปตามทางหลวงหมายเลข 1 ลงใต้ไปเรื่อยๆ
[CR] [CR]In America - เที่ยวไปเรื่อยๆ ใน 1 ปี...ไปดูแสงเหนือที่ Alaska แต่ Alaska Winter ไม่ได้มีดีแค่แสงเหนือ
ฝากเพจด้วยนะครับ https://www.facebook.com/AETOURBYYOURSELF (ไม่ใช่บริษัททัวร์นะครับ พอดีใช้ชื่อนี้เพราะตอนนำครอบครัวไปเที่ยวยุโรปครั้งแรก แล้วญาติตั้งให้)
Part 10 ภูเขาสูง หิมะขาวโพลน Winter @ Yosemite http://ppantip.com/topic/34835960
Part 9 มหัศจรรย์การสร้างสรรค์ของธรรมชาติ Antelope Canyon และ Zion Nation Park http://ppantip.com/topic/34788566
Part 8 ฝ่าพายุหิมะไปยัง Bryce Canyon National Park, Utah http://ppantip.com/topic/34754027
Part 7 จุดหมายในฝัน หนึ่งเดียวในอเมริกา Harry Potter@ Orlando http://ppantip.com/topic/34641279
Part 6 ใต้สุดของอเมริกา Key West กับเมืองชายหาดอันโด่งดัง Miami Beach http://ppantip.com/topic/34621815
Part 5 Chicago เมืองชิคๆ ที่ไม่ได้อยากมา แต่... http://ppantip.com/topic/34612352
Part 4 Autumn in Yosemite National Park & Lake Tahoe http://ppantip.com/topic/34443866
Part 3 Maui, Hawaii เกาะสวรรค์ (เหมือนขึ้นไปบนสวรรค์จริงๆ) http://ppantip.com/topic/34358475
Part 2 Highway no.1 ถนนที่สวยที่สุดชายฝั่งตะวันตกของอเมริกา http://ppantip.com/topic/34277681
Part 1 San Francisco http://ppantip.com/topic/34228981
Part เสริม Disneyland LA และการเล่นเครื่องเล่นสำคัญๆใน Park ให้ครบภายใน 1 วัน http://ppantip.com/topic/34277393
การดู Aurora หรือ Northern Light หรือแสงเหนือ ถือเป็นความใฝ่ฝัน 1 อย่างในชีวิตผมอยู่แล้วว่าจะต้องเห็นให้ได้สักครั้งในชีวิต แล้วผมเพิ่งรู้ว่ามันสามารถมองเห็นได้ที่ Alaska (คิดว่าต้องไปที่ Iceland หรือ แถวๆ Scandinavia อย่างเดียว เพราะคนไทยไปที่นั่นกันเยอะ) แล้วเพิ่งรู้ด้วยว่าเป็นที่ที่ดีที่สุดในการดูแสงเหนือด้วย (จากการสอบถามคนท้องถิ่นและคนญี่ปุ่นที่ไป Alaska กันจำนวนมาก) เดี๋ยวกลับมาเล่าให้ฟังว่าทำไม
พอรู้ว่าเราสามารถมองเห็นได้ที่ Alaska ผมก็เริ่มวางแผนทริปทันที ตอนนั้นชักชวนสมาชิกได้เพิ่มอีก 2 คน เราเลยมีผู้ร่วมชะตากรรมทั้งหมด 4 คน ผม ภรรยาผม และเพื่อนร่วมบ้านที่ San Francisco อีก 2 คน
ด้วยความที่ Alaska เป็นรัฐหนึ่งของ USA ทำให้เราไม่ต้องขอวีซ่า เพราะเรามาเรียนกันอยู่ที่ SF อยู่แล้ว และการบินไป Alaska ก็ไม่ได้ยากอะไร จาก SF บินไปต่อเครื่องที่ Seattle ก็ถึง Alaska เลย
ทริปนี้มีหลายคนแนะนำว่า Alaska ไม่ควรไปหน้าหนาว เพราะมันจะหนาวมาก และทุกอย่างปิดหมด แต่ผมจะไปดูแสงเหนือ ถ้าไม่ไปหน้าหนาวซึ่งเวลากลางคืนมากกว่าหรือพอๆกับกลางวัน จะให้ไปหน้าร้อน ซึ่งมีเวลากลางวันเกือบ 24 ชม.หรือ พอมาสอบถามข้อมูลใน pantip ก็แนะนำคล้ายๆกันคือ ไม่ควรไปหน้าหนาว แต่...Alaska หน้าหนาวไม่ได้มีดีแค่แสงเหนือครับ
ผมเตรียมทริปนี้ก่อนไปประมาณ 3 เดือน หาข้อมูลทุกอย่างช่วงเวลาที่ดีที่สุด อากาศไม่หนาวจัดมาก ก็ได้ช่วงเวลาที่ดีที่สุดมาคือ ประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงต้นมีนาคม เพราะที่ Anchorage มีเทศกาลวิ่งหมาลากเลื่อนและวิ่งกวางแรนเดียร์ และที่ Fairbanks ก็มีงานแกะสลักน้ำแข็งระดับโลกด้วย
เมื่อได้วันแล้วก็ได้เวลาวางแผนการเที่ยว จองตั๋วเครื่องบิน ที่พัก รถเช่า ซึ่งเราวางแผนจะไปอยู่ Anchorage กัน 4 วัน 4 คืน แล้วบินจาก Anchorage ไป Fairbanks อยู่ที่ Fairbanks 3 วัน 3 คืน เพื่อดูแสงเหนือโดยเฉพาะ ค่าเครื่องบินรวมทั้งทริปที่เราได้ก็ $382/คน ครับ
ส่วนที่พักเรานอนกันที่ Anchorage 3 คืน ขับรถไปนอน Seward 1 คืน นอน Fairbanks 3 คืน แต่ทีเด็ดคือ ผมไปเจอโรงแรมนึงซึ่งเป็น Hidden Gem ของ Trip Advisor อยู่ห่างจากตัวเมืองไปประมาณ 30 กม. ซึ่งเหมาะกับการดูแสงเหนือมาก ทุกคนใน Trip Advisor ให้ review 5 ดาวหมดเลย และส่วนมากคนที่ไปพักเป็นคนญี่ปุ่นด้วย การจองก็ทำได้ทางเดียวคือ E-mail ไปจองกับเจ้าของบ้านเท่านั้น ซึ่งที่พักที่นี่มันต้องมีอะไรดีแบบสุดๆแน่ๆ เพราะจองก็ยาก ราคาก็ไม่ใช่ถูก แล้ว review สูงด้วย ผมจึงไม่รอช้า ส่ง mail ไปจองทันที เดี๋ยวมาเล่าช่วงดูแสงเหนือนะครับ รายละเอียดโรงแรม
Alaska (The Last Frontier)
เป็นรัฐที่ตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือสุดของอเมริกา ฝั่งตะวันออกติดกับ British Columbia และ Yukon ของประเทศแคนาดา ขณะที่ฝั่งตะวันตกติดกับประเทศรัสเซียโดยมีช่องแคบ Bering คั่นอยู่ ทางเหนือติดกับทะเล Chukchi ทางใต้ติดกับมหาสมุทร Arctic
Alaska ถือเป็นรัฐที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของอเมริกา แต่กลับมีประชากรน้อยที่สุดเป็นอันดับ 3 จึงเป็นรัฐที่มีประชากรอยู่กันอย่างแออัดน้อยที่สุดของอเมริกา ซึ่งมากกว่าตรึ่งของประชากรใน Alaska อาศัยอยู่ที่เมือง Anchorage
เมื่อก่อนรัฐนี้เป็นส่วนหนึ่งของประเทศรัสเซีย แต่อเมริกาได้ซื้อมาจากรัสเซียเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 1867 ในราคา7.2 ล้านดอลลาห์สหรัฐ (ประมาณ 2 cent/acer) และได้เป็นรัฐที่ 49 ของอเมริกาในวันที่ 3 มกราคม 1959
เราบินออกจาก SF ช่วงเย็นๆ ถึง Anchorage ประมาณ 22.30 (ต่อเครื่องที่ Seattle ประมาณ 2 ชม.) เราเช่ารถจากสนามบิน Anchorage ไปพักที่พักในเมืองที่โรงแรม Guesthouse Anchorage Inn ขอบอกว่าสัญญาณโทรศัพท์ที่นี่ใช้ไม่เหมือนกับ USA แผ่นดินใหญ่ครับ ลงเครื่องมามีสัญญาณโทรศัพท์คือโทรได้แต่ไม่มีสัญญาณ Internet(ไม่ว่าจะเป็นของเครือข่ายใดๆเลย) เราเลยต้องใช้สัญญาณ Wifi ของสนามบินพาไปที่พัก และเรา Load offline map ของ google ไว้แล้ว
เช้าวันถัดมา สอบถามจากเจ้าหน้าที่โรงแรมกับตำรวจ ได้ความว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของการวิ่งหมาหิมะ จะเริ่มวิ่งประมาณเที่ยง (เค้าวิ่งกัน 3 วัน) แต่งานเทศกาลอื่นๆยังมีอยู่นะครับ เราเลยเปลี่ยนแผนกันเล็กน้อย ช่วงเช้าไปซื้อของตุนเป็นเสบียงกับหาซื้อ sim ที่มีสัญญาณโทรศัพท์กันที่ Walmart (ที่ Anchorage มีหมดนะครับ ทั้ง Safeway Walmart Target) แต่ๆๆๆ sim ที่ซื้อมาดันมีปัญหาเชื่อมต่อกับเครือข่ายไม่ได้ซะงั้น เราเลยขอ refund แล้วอยู่กัน 7 วันโดยไม่มีสัญญาณ Internet (มีเฉพาะในโรงแรม) ซึ่งบางทีก็ดีนะครับ ผมกลับชอบ อยู่แบบไม่มีโลก online กันบ้าง เราจะได้ใกล้ชิดกับคนรอบข้างมากขึ้น
แล้วเที่ยงๆก็มารอดูการวิ่งหมาลากเลื่อน ซึ่งจัดวิ่งกันตรงโรงแรมที่เรานอนเลย เทศกาลนี้จะจัดขึ้นทุกปีนะครับ ประมาณปลายเดือนกุมภาถึงต้นมีนานี่แหละ แต่เห็นจากข่าวว่าปีนี้หิมะน้อย เลยต้องไปขนหิมะมาจากที่อื่น เพื่อมาทำทาง
ดูได้ประมาณชั่วโมงนึงครับ เราต้องขับรถไป Seward ประมาณ 3 ชั่วโมง เพื่อไปนอนที่ Seward ระยะทางประมาณ 200 กม. เส้นนี้เป็นเส้นทาง Scenic Route นะครับ เพราะต้องขับเลียบไปตามทะเลสาบ ขับผ่านภูเขาหิมะมากมาย ขับไปตามทางหลวงหมายเลข 1 ลงใต้ไปเรื่อยๆ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น