เมื่อสามีชาวต่างชาติไห้เลือกระหว่างครอบครัวที่นี่กับพ่อแม่ที่ทั้งแก่และกำลังป่วย

ฉันเป็นลูกคนจนแต่เป็นครอบครัวไหญ่มีพี่น้องทังหมด7คนฉันเป็นคนเล็ก เราเป็นลูกชาวนาพ่อแม่ใม่สามารถส่งลูกเรียนสูงๆใด้บางคนจบแค่ ป6ฉันจบแค่ ม3 ก็ต้องไปทำงานแล้วพี่ๆทุกคนก็แยกย้ายกันไปมีครอบครัวกันหมดเหลือดแค่ฉัน ชึ่งฉันพอจบ ม3ก็เข้ากรุงเทพมาทำงานชึ่งตอนนั้นอายุแค่16ทำได้แค่เป็นคนไช้ เงิน้ดือนตอนนั้นคือ2000บาท(ปี2540)พออายุได้20ก็ไปทำงานโรงงานที่โคราชกับคนรู้จัก ทำงานได้ปีกว่าก็มีแฟน และด้วยความที่เป็นคนขี้เหร่อีกทั้งใม่เคยมีแฟนจึงรักเค้ามากเราอยู่กินด้วยกันปีกว่าเค้าก็เริ่มออกลายมีผู้หญิงคนอื่น แต่เค้าก็ใม่ยอมปล่อยเราชึ่งเราก็ยังรักเค้าอยู่มันจึงกลายเป็นปัญหาใม่รุ้จบเคยหนีไปอยุ่กับเพื่อนแต่ก็ใจอ่อนทุกครั้ง จนครั้งที่หนักสุดมาเจอแฟนเอาผู้หญิงมานอนที่ห้องพอเราจับได้เค้าก็โมโหขนาดจะเอาขวานฟันเราจึงบอกกับตัวเองว่าจะใม่ทนแล้วจะต้องหนีไปไห้ได้ ชึ่งตอนนั้นมีเพื่อนที่ทำงานอยู่ภูเก็ตเป็นสาวนั่งดริ่งในบาร์เค้าชวนไปอยู่ด้วย เลยตัดสินใจไปก็อย่างที่ว่าคือไปทำงานเป็นสาวนั่งดริ่ง ด้วยความที่เป็นเด็กบ้านนอกพอมาเจออะไรที่มันแปลกไหม่ใม่เคยเจอทำอะไรก็ใม่ถูกพูดภาษาก็ใม่ได้เพราะเเขกที่ร้าน100%เป็นฝรั่ง โดยที่ร้านไห้เราต้องคุยกับแขกเพื่อไห้แขกเลี้ยงดื่มหรือชวนไปนอนเพื่อแขกจะได้จ่ายค่าตัวเราและค่าร้าน เราเป็นคนที่ใม่กล้าเลยอีกอย่างเราคุยใม่รู้เรื่อง3-4เดือนแรกไม่เคยได้ไปกับแขกเลย เพราะพอเราจะเค้าไปคุยกับเเขกคนอื่นที่เค้าพูดได้เก่งกว่าเค้าก็แย่งเราหมด แต่ก็พอได้ค่าดริ่งบ้าง บางทีเพื่อนก็ขอดริ่งจากแขกไห้เราบ้าง จนเงินใม่มีติดตัวต้องกินข้าวกับเพื่อนดีแต่ใม่ต้องจ่ายค่าเช่าบ้านเพราะอยู่บ้านของเจ้าของร้านที่เค้าเรียกว่า บ้านบาร์ จนวันหนึ่งเรานั่งอยู่ในร้านมีฝรั่งคนหนึ่งเดินวนไปวนมามองเราอยุ่หลายรอบจึงเดินเข้ามาหาเเล้วถามว่าเธอจะดื่มไหมจึงตอบตกลงแต่เขาก็ใม่ได้ชวนไปข้างนอกด้วยเค้ามาหาเราเเบบนี้ประมาณ3-4คืน จนคืนที่5เค้าบอกว่าเค้าจะอยู่ที่นี่อี2อาทิตย์เธออยากไปอยู่กับฉันไหมฉันจะจ่ายค่าตัวเธอแล้วก็ค่าบาร์ที่ใม่ต้องทำงานไห้ด้วย เราคิดว่ามาถึงขั้นนี้แล้วต้องตกลงเพราะเงินเราก็ใม่มีค่าตัวเราตอนนั้นแค่วันล่ะพันเองเเต่สำหรับเราถือว่ามากแล้วเพราะ2อาทิตย์ก็14000จึงตกลง พอไปอยุ่ด้วยกันเหมือนทั้งชีวิตใม่เคยเจอใครที่ดูแลดีขนาดนี้กินข้าวไปเที่ยวเอาใจทุกอย่างมันจึงเกิดเป็นความรักที่เรียกได้ว่ารักมาก เค้าก็บอกเค้ารักเรามากเหมือนกันเขาไห้ความหวังเราว่ากลับไปแล้วจะติดต่อกลับมา ก่อนเขากลับเขาจ่ายค่าตัวเรา14000แล้วก็ไห้เราเพิ่มอีก7000ช่วงเเรกที่เค้ากลับไปก็มีโทรมาบ้างเพราะช่วงนั้นยังใค่อยมีเน็ต เฟสบุคก็ยังใม่ฮิต แต่ตอนนั้นเราใม่ได้ทำงานที่ภูเก็ตแล้ว เพราะเจ้าของร้านใม่ชอบเราว่าเราใม่ได้ค่อยได้ไปกับแขกใม่ค่อยได้ดริ่งทำเงินไห้เค้าใม่ได้ จึงมาอยุ่กับคนรุ้จักกันที่ทำงานในศูยน์อาหารที่ห้างกรุงเทพ เขาก็โทรมาบ้างเดือนล่ะครั้งสองครั้งจนสุดท้ายเขาก็เงียบหายไปเลย เราก็ติดต่อเขาใม่ได้เลย เขาหายไป2ปี เราก็ทำงานของเราและก็มีแฟนไหม่แต่ก็คบกันใม่นานก็เลิกกันจึงกลับมาอยู่บ้าน ใม่มีอะไรทำจึงสมัครเฟชบุคเล่นๆเหมือนอะไรดลใจเราจำอีเมล์เค้าได้จึงใส่ลงไปในชองค้นหาแล้วก็เจอเขาจริงๆจึงขอเป็นเพื่อนไปตอนนั้นบอกตามตรงว่าใม่คิดอะไรกับเขาเเล้ว เขาก็รับเราเป็นเพื่อนแล้วเราก็เริ่มกับมาติดต่อคุยกันมากขึ้นจนวันหนึ่งเค้าบอกจะมาหาเราที่เมืองไทย เค้าได้ส่งเงินค่าตั๋วเครื่องบินมาไห้เพื่อไห้เราลงไปหาที่ภูเก็ต พอเราเจอกันเขาจึงเล่าไห้ฟังว่าทำใมเค้าหายไปเพราะพ่อเค้าป่วยและพ่อเค้าก็พึ่งเสีย เขาก็พยายามติดต่อเราเหมือนกันแต่เราเปลี่ยนเบอร์จึงติดต่อกันใม่ได้ เขาบอกว่าดีใจมากที่เจอกันอีกจนขอคบกับเรา เราก็โอเค แต่เขาก็บอกว่าเขาใม่ใช่คนรวยฉันไห้เธอเหมือนคนอื่นใม่ได้น่ะ เพราะเขาเป็นแค่ช่างไฟและก็ตัวคนเดียวด้วย เราก็บอกใม่เป็นไร เขามาหาเราได้ปีล่ะ2ครั้งส่งเงินไห้เราบ้างแต่ใม่มากอะไรเเค่ครั้งล่ะหมื่นกว่าบาท ปี2012เขาชวนเราไปประเทศเขาเราก็ไป แค่3เดือนเขาก็บอกเราหมดทุกอย่างว่า เขาตัวคนเดียวใม่มีใครใม่ได้มีเงินเยอะบ้านก็หลังเล็ก สมบัติฉันก็ใม่มีน่ะเธอเห็นทุกอย่างแล้วถ้าเธอรับใม่ได้ก็ใม่เป็นไรฉันแค่อยากไห้เธอเห็นก่อนว่าชีวิตฉันเป็นยังไง เราก็ใม่คิดอะไรมากเพราะตอนนั้นเราใม่ได้คุยเรื่องแต่งงานพอครบสามเดือนเราก็กลับมาเมืองไทยเขาก็ยังมาหาเราอยู่ เดือนพฤศจิกายนปี2013เขาก็มาหาเราอีกครั้งนี้เขามาอยู่เดือนกว่าจึงวางแผนเที่ยวกันทั้งภูเก็น พัทยา อยุธยา เชียงใหม่ แต่ตอนนั้นฉันเกิดตั้งท้องขึ้นมา ไปตรวจก็พบว่าท้องได้2อาทิตย์ฉันตกใจมากฉันแค่ลืมกินยาคุมแค่2วันเอง แต่เขากับดีใจมาก ฉันทำอะไรใม่ถูกเพราะใม่ได้วางแผนเรื่องนี้มาก่อน จนก่อนที่เขาจะต้องกลับต่างประเทศแค่4วันเราจึงตัดสินใจกลับบ้านทำการผูกข้อมือทันทีสินสอดตอนนั้นแค่100000แสนทอง2บาทแล้วก็มีแต่คนในครอบครัวเท่านั้น แล้วเขาก็กลับต่างประเทศเงินสินสอดฉันก็ยกไห้แม่ แม่นำเงินมาปรับปรุงบ้านไหม่เพราะบ้านเราเป็นบ้านไม้ แม่ทำการดีดบ้านเปลี่ยนเป็นเสาปูนและปูพื้นข้างล่าง เขากลับก่อนเราขอคลอดลูกที่เมืองไทยเพราะเราใม่เคยมีลูกกลัวว่าไปอยู่ที่นู้นจะทำอะไรใม่ถูถเขาก็โอเค พอไกล้วันคลอดลูกเขาก็มาและทำเอกสารเดินเรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับเราและลูก จนลูกอายุได้5เดือนเอกสารทุกอย่างก็เรียบร้อยเราจึงพากันย้ายมาอยู่ที่นี่ที่ อิตาลี แฟนเป็นคนอิตาลีค่ะ แล้วบ้านที่เราอยู่ก็เป็นเหมือนอพาร์เมนเขาทำหน้าที่พ่อและสามีดีมากใม่มีขาดตก มาอยู่แรกๆก็ใม่เป็นไร แต่พอนานเข้า3-4มันก็เริ่มเหงาเราก็เริ่มชึมเศร้าเพราะใม่มีเพื่อนใม่ได้ไปเจอใครเพราะต้องเลี้ยงลูกภาษาเราก็พูดใม่ได้เราร้องไห้คิดถึงบ้านแทบทุกวัน สามีก็รู้เพราะฉันกายเป็นคนพูดน้อยลงใม่ค่อยยิ้มเหมือนแต่ก่อน บางทีเราก็ทะเลาะกันเพราะฉันบอกว่าฉันอยู่เเล้วใม่มีความสุขฉันเหงาฉันอยากกลับเมืองไทย และทุกครั้งที่ฉันโทรกลับบ้านฉันจะร้องไห้ทุกครั้งเพราะคิดถึงพ่อกับแม่ แต่ฉันก็พยายามปรับตัว ตั่งแต่ปีไหม่พ่อเริ่มป่วย  เพราะท่านเป็นเบาหวาน และโรคไต ตอนนี้แกขยับใม่ได้เป็นเหมือนอัมพาต ใม่มีเเรง ลุกเดินเองใม่ได้นั่งเองใม่ได้กินข้าวก็ต้องป้อน ขับถ่ายใส่กระโถน พี่ชายพี่สาวที่อยู่บ้านติดกันเขาก็มาดูแลกันอยู่เพราะพี่ชายกับพี่สาวปลูกบ้านติดกับพ่อแม่ แต่ก็ใม่ได้มาตลอดเวลา ฉันจึงเล่าไห้สามีว่าฉันอยากกลับไปดูพ่อที่ป่วย เพราะอยู่นี่ฉันก็ใม่ได้ทำอะไรแค่เลี้ยงลูกเขาก็ถามว่าทำใมพี่น้องเธอใม่ดูหรอ เราก็บอกว่าดูแต่เขาอาจจะใม่ได้ดูแลไกล้ชิดเพราะทุกคนมีหน้าที่ เขาตอบกลับมาว่าเธอก็มีหน้าที่มีครอบครัว เธอต้องคิดถึงครอบครัวเธอสิ พวกพี่สาวพี่ชายเธอยังเลือกครอบครัวเขาเลยทำใมเธอใม่เลือกครอบครัวเธอ เขาใม่ยอมเข้าใจฉันและหาว่าฉันโกหกเพราะอยากกลับไปอยู่บ้าน เพราะเขาคิดว่าฉันใม่รักเขาจนทำไห้เราทะเลาะกันหนักมาก แต่ฉันก็ยังยืนยันมาจะกลับ เค้ายื่นขอเสนอว่ากลับได้เเต่ต้องกลับคนเดียว เขาจะเอาลูกใว้และจะใม่ส่งเงินไห้ฉันอีก เขายังบอกอีกว่าถ้าเธอกลับบ้านไปดูแลพ่อเธอเเล้วเธอไม่มีงานใม่มีเงินเธอจะทำยังไง เธอต้องเลือกระหว่างฉันและลูกกับพ่อแม่ของเธอ ฉันก็ยังบอกว่าเลือกพ่อกับแม่ เเม่อายุ68พ่ออายุ78จะไห้ฉันทิ้งพวกท่านได้ยังไง แต่ตอนนี้ยังตกลงเรื่องลูกใม่ได้เพราะฉันอยากได้ลูกกลับไปด้วยลูกอายุ ปี6เดือนแต่ยังใม่หย่านมจะไห้ทิ้งใว้ได้ยังไง แล้วจะไห้ฉันทิ้งพ่อกับแม่ได้ยังไง ฉันใม่อยากมานั่งเสียใจในวันที่พวกท่านใม่อยู่เเล้ว ตอนนี้สามีฉันปรึกษาทนายเรื่องลูก ฉันควรทำไงดี
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
คุณแต่งงานแล้วมีครอบครัวแล้ว คุณมีหน้าที่ดูแลประคับประคองครอบครัวของคุณค่ะ

(คุณคิดดูว่าถ้าแม่ของคุณทิ้งคุณและพี่ๆไว้แล้วกลับไปอยู่กับตายายไม่ยอมอยู่สร้างครอบครัวกับพ่อของคุณ คุณจะรู้สึกยังไง?)

คุณพ่อคุณแม่ของคุณมีพี่ๆน้องๆคอยดูแลอยู่แล้ว คุณช่วยเหลือด้วยการส่งเงินไปให้เชื่อว่าทางเมืองไทยจะดีใจยิ่งกว่า

เพราะถ้าคุณหอบลูกกลับไปด้วยโดยไม่มีงานทำไม่มีรายได้อะไรมันก็ยิ่งแย่

สุดท้ายคุณก็ต้องทิ้งลูกให้แม่คุณเลี้ยง(โดยไม่ทิ้งเงินให้ด้วย)เพื่อที่ว่าคุณจะได้ออกไปหางานทำ

...คุณเอาพ่อแม่มาอ้างเพียงเพราะว่าอยู่ที่อิตาลีคุณเครียดคุณเหนื่อยคุณไม่มีความสุขเลยอยากหนีไปให้ไกลจากสภาพนี้

แต่ถ้าหนีกลับเมืองไทยมือเปล่าๆเชื่อเถอะค่ะว่ามันจะนรกยิ่งกว่าที่อิตาลีแน่นอน

ดิฉันเลี้ยงลูกแฝดเองกับสามีที่ต่างประเทศ รู้ดีว่ามันเหนื่อยและแย่มากแต่มันจะผ่านไปค่ะ (ของคุณยังแค่เด็กคนเดียวเองนะ)

รออีกแค่สองปีให้ลูกคุณโตพอเข้าอนุบาลได้ คุณจะสบายขึ้นเยอะ และอาจมีโอกาสออกไปเรียนภาษาและหางานทำได้อีกด้วย

ไม่ว่าจะยังไงอย่าหอบลูกกลับไปเพิ่มภาระให้พ่อแม่ที่เมืองไทยเลยค่ะ อดทนอีกปีสองปีเท่านั้นก็จะสบายแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่