โดนขอหย่าตอนท้อง

เรื่องมีอยู่ว่าเรากับสามีคบกันเป็นแฟน 4ปี แล้วแต่งงานกัน ได้เกือบจะสี่ปี ซึ่งอีกไม่กี่วันก็จะครบรอบแต่งงานกัน เรามีลูกชายด้วยกัน 1 คน วัย 3 ขวบ แล้วในท้องของเราก็มีเจ้าตัวเล็กอายุครรภ์ประมาณ 6 week (น้องทะลุยาคุมมา😅)  ตอนแรกก็ยังงงกับชีวิตอยู่ว่าฉันท้องหรอ ช่วงเวลาคู่ชีวิตของเราดีทุกอย่าง แต่อาจจะมีทะเลาะ งอนกันบ้าง จนกระทั่งอาทิตย์ที่ผ่านมาเรารู้สึกแพ้ท้องหนักมาก เวียนหัว อาเจียน เหม็นทุกอย่าง แต่ก็ยังต้องหอบสังขารไปทำงานทุกวัน ต้องทำหน้าที่แม่และเมียต่อไป แต่แปลกที่ครั้งนี้สามีไม่ดูแล ไม่ถามว่าเป็นยังไง เอาแต่พูดคำว่าเธอสำออยไปเอง คนอื่นไม่เห็นเป็นแบบเธอเลย ท้องแรกเธอก็ไม่เป็นอะไร (ท้องแรกไม่แพ้ท้องนะคะ) เขาพูดด้วยสีหน้าที่บ่งบอกว่าหงุดหงิดและรำคาญเรา มันก็แอบน้อยใจอยู่นะแต่ก็ไม่มีเวลาคิดน้อยใจ ช่วงวันหยุดยาวพ่อแม่ก็มาเยี่ยมเราที่บ้านเพราะเราบอกว่าเราแพ้ท้องหนักทำอะไรไม่ไหวเลย พ่อแม่เลยมาช่วยเลี้ยงหลานทำให้เราได้มีเวลาพักผ่อนมากขึ้น สามีก็ดูแลเราดีขึ้นเมื่ออยู่ต่อหน้าพ่อแม่เรา เราก็ไม่คิดอะไรมาก จนกระทั่งวันที่พ่อกับแม่กลับเพราะพ่อมีงานด่วนวันพฤหัสช่วงเย็น แต่เราก็ไปทำงานปกติเลิกงานตอนเย็นสามีเตรียมกับข้าวให้ อาบน้ำให้ลูก ซึ่งบอกเลยว่าแอบดีใจที่สามีช่วยดูแลลูก แต่ด้วยอาการแพ้ท้องของเรามันรุนแรงรู้สึกเวียนหัว คลื่นไส้ไปหมด เลยขอตัวอาบน้ำและงีบสักหน่อย พออาบน้ำเสร็จสามีเดินมาบอกว่าจะพาลูกไปเล่นบ้านย่าทวดนะ เราก็โอเค ซึ่งตอนนั้นก็ใกล้จะ 18.00น. ซึ่งเราก็ไม่ว่าอะไร อาบน้ำกินยา เสร็จเลยเผลอหลับสะดุ้งอีกทีตอนแม่สามีโทรมาเกือบตี1 บอกว่าไม่ได้ปิดประตูหน้าบ้าน แล้วแม่สามีถามว่าไปไหนกันไม่มีคนอยู่บ้านแต่เปิดประตูทิ้งไว้ ขึ้นไปดูในห้องนอนก็ไม่มีใครอยู่ (เรามาแอบงีบในห้องนอนแขกกะว่าจะเก็บผ้าห่มหมอนที่พ่อแม่มานอนเก็บเข้าตู้แต่เผลอหลับจริง) เราก็เลยถามแม่สามีว่าสามีกับลูกกลับมายังแม่สามีบอกยังไม่เห็นใครมา ซึ่งเวลามันก็เกือบตี1ครึ่งแล้ว ด้วยความเป็นห่วงลูกเราโทรหาสามีสรุปปิดเครื่อง ติดต่อไม่ได้ โทรไปบ้านย่าทวดได้คำตอบว่าไม่มีใครมาบ้านเลย เราก็ร้อนรนเป็นห่วงลูก ปกติถ้าสามีพาลูกไปไหนด้วยจะเข้าไม่เกินชั่วโมงสองชั่วโมง เลยให้แม่สามีช่วยโทรตามแต่ก็ไม่มีใครติดต่อได้ ยิ่งเครียดหนักจนนึกขึ้นได้ว่ารถมีgpsติดตาม เลยเปิดgps ตามไปจนถึงรถ โดยให้แม่สามีไปส่ง พอไปถึงคือโกรธเลือดขึ้นหน้ามาก นั่งกินเหล้ากับเพื่อนซึ่งก็มีทั้งผู้หญิงผู้ชายอารมณ์ดี ส่วนลูกชายฉันเอาไปวางนอนข้างเสากับหมา ความโมโหความโกรธจนฟิวขาด ตรงไปด่าทั้งสามีและเพื่อน เอาเบียร์เทสาดแล้วก็อุ้มลูกขึ้นมาก พวกเพื่อนสามีก็ทำเหมือนไม่รู้สึกอะไร ที่ผ่านมาสามีจะไปกินเหล้ากับเพื่อนกลับดึกแค่ไหนเราก็ไม่เคยว่า แต่รอบนี้ที่เราโมโหเพราะพาลูกไปด้วยแล้วตัวเองเมาแบบสุดๆเราตบหน้าเรียกสติให้1รอบ แล้วเราก็ขับรถกลับบ้าน ส่วนสามีก็ขับตามมา พอถึงบ้านเรากำลังจอดรถรถ แล้วเอื้อมไปจะอุ้มลูกลง สามีขับรถชนท้ายรถเราแรงมาก จนลูกสะดุ้งตื่นร้องไห้ เราเองก็ตกใจเพราะเป็นห่วงลูกจนลืมไปว่าตัวเองก็ท้อง เรารีบเปิดประตูรถอุ้มลูกมา สามีเดินมาปากุญแจรถใส่หน้า แล้วจะมาแย่งลูกไป แต่เราไม่ยอมแม่สามีรีบพาลูกชายเขาแยกออกจากเรา ซึ่งมันเป็นวินาทีที่แย่ที่สุดที่เคยเจอมาแล้วสามีก็พูดออกมาว่าหย่ากันเลยไหม จะได้ใช้ชีวิตอิสระมากขึ้น เดี๋ยวสมบัติจะคืนให้ทุกอย่างแล้วก็อีกสารพัดคำพูด ความรู้สึก ณ ตอนนั้นรู้สึกจุกไปหมด แต่อีกใจก็ต้องกล่อมลูกก่อนเรารีบเดินขึ้นบ้านเข้าห้องล็อคประตูกล่อมลูกให้หลับ แต่ในใจเรากลัวมากเราทำอะไรแทบไม่ทุกเลย ตั้งคบกันจนถึงแต่งงานสามีไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ซึ่งทำให้เราจิตตก เครียด ทำอะไรไม่ถูก พอลูกหลับเราก็ปล่อยโฮทันที รู้สึกสับสนทำอะไรไม่ถูก เวลานั้นเราคิดถึงพ่อแม่และพี่ชายมาก นึกย้อนกลับไปเวลาอยู่บ้านพ่อแม่พี่ดูแลเราเหมือนเป็นเจ้าหญิงของบ้านเพราะเราเป็นน้องเล็กของบ้าน ต่อให้เราจะอายุเยอะแค่ไหนทุกคนที่บ้านก็ยังดูแลเราเหมือนเด็กตลอด เราไม่เคยร้องไห้เสียใจเยอะขนาดนี้มาก่อน ได้ปลอบตัวเองว่าเธอโตแล้วเธอเป็นแม่คนแล้วเธอต้องเข็มแข็ง จนถึงวันนี้เราก็ไม่อยากอยู่บ้านหลังนี้อีกแล้วบ้านที่เรากับสามีสร้างด้วยกัน เรื่องนี้ไม่ว่าจะมีใครผิดเราคงเป็นคนผิดผิดที่เราไปด่าเขาต่อหน้าเพื่อน ทำให้เขาไม่พอใจ ทำให้เสียหน้า เพราะพอย้อนนึกกลับไปตอนคลอดลูกคนแรก แล้วเราเพิ่งออกจากโรงบาล เขาก็ชวนเพื่อนมากินเหล้าเสียงดัง ส่วนเราต้องดูลูก ลูกร้องไห้งอแงยังไงก็ไม่เคยเดินมาดู ความจริงเราควรรู้ตั้งนานแล้วว่าเขาเป็นคนยังไงตั้งแต่ตอนนั้น แต่ด้วยความรักมันบังตาอ่าเนาะ เพราะเป็นคนคลั่งรักแฟน พอถึงวันนี้เราก็รู้แล้วว่าควรทำยังไงต่อ ไม่ว่าจะลูกชายที่กำลังโต และลูกอีกคนที่กำลังเติบโตอยู่ในท้อง  ถึงเวลาต้องเก็บของแล้วค่ะ สมบัติชิ้นโตที่จะเอากลับไปด้วยเสื้อผ้า ของเล่นเขาเยอะมาก ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ อาจจะพิมงงๆเบลอๆไปบ้างแค่อยากระบายความอึดอัดในใจ และบอกเล่าเรื่องราว สุดท้ายแล้วฉันในวัยเลข 3 ก็ยังต้องใช้ชีวิตต่อไปเพื่อชีวิตน้อยๆอีก 2 ชีวิต ที่กำลังเติบโต ส่วนเจ้าจิ๋วในท้องแม่ แม่อยากขอโทษนะแม่จะดูแลหนูให้มากกว่านี้ ส่วนคุณพี่ชายขอบคุณที่หนูรักแม่มากๆเลย ที่คอยถามว่าเบบี๋ในท้องแม่เป็นยังไงบ้าง แม่รักหนูมากๆนะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่