เค้กร้านนี้ปกติก็กินสลับกับร้าน Amor ที่ชอบคือเค้ก Red velvet กับ Choux
พอทางร้านประกาศมีโปร กินไม่อั้นรวมเครื่องดื่ม ราคาหัวละ 280 บาท จนถึง 30 เมษา ต่อมของหวานพี่ก็วิ่งพล่าน
ช้าอยู่ไย ตรงไปที่ร้านตามคำท้าทายทันที


ช่วงบ่ายๆ คนคึกคักเต็มร้าน น่าสนุกจริงๆ น้องๆพนักงานยิ้มแย้มแจ่มใส รีบบริการ


เราจ่ายค่าหัวก่อน จากนั้นก็มาทำการบ้าน ติ๊กข้อสอบที่ชอบ บนเมนู Drink, Party Dish และ Cakes


การสั่งไม่ต้องเรียงลำดับ กินได้เท่าไร กินไป แต่ถ้าเหลือ คิดชิ้นละ 50 บาทนะจ๊ะ
คิดอะไรไม่ออก ไปยืนเกาะตู้เค้กดูก่อนจ๊ะ

เริ่มด้วยเค้กโปรดในดวงใจ Red velvet นุ่มเนียนละมุนละไมที่ซู้ดดด


พี่จัด party dish ไป 2 จาน คือ จานแรกแพนเค้กสตอรเบอรี่ ครัมเบิ้ล กินกะไอติมมะขาม แซ่บๆๆ


อร่อยจนต้องซ้ำอีกครั้ง แต่เปลี่ยนแพนเค้กเป็นเครป


สั่งน้ำแอ๊ปเปิ้ลอิตาเลียนโซดา มาตัดความเลี่ยน
กติกาตรงนี้ คือ ต้องดื่มแก้วที่หนึ่งหมดแล้ว จึงจะสั่งแก้วที่สองได้


จริงๆไม่มีอะไรเลี่ยนเลยนะคะ เพราะเค้กทุกอย่าง หวานน้อย แถมมีผลไม้เปรี้ยวๆมาแกล้ม ทั้งสตรอเบอรี่ กีวี
ต่อด้วย ช็อคลาวา ปาร์ตี้ ดิช ถึงแม้ไม่มีในเมนู แต่ขุ่นน้องพนักงานสามารถจัดให้ได้ค่ะ เริ่ด!


สั่ง Exotic parfait มาแจมเพื่อความสดชื่น อร่อยมากจนพี่ต้องเบิ้ล!


พี่เริ่มจะถึงขีดลิมิตของคอหอย แต่ก็ยังไม่วายอยากลองมาการอง สั่งแบบรวมรส อันนี้รู้สึกจะหวานไปหน่อยจ๊ะ แหะๆ
แต่ได้ชีสเค้ก ซัปโปโรมาช่วยกู้หน้าไว้


พี่นอกจากจะเป็นปีศาจเค้ก ยังเป็นปีศาจกาแฟด้วย
รีบดูดน้ำแอ๊ปเปิ้ลโซดาจ๊วดๆๆเพื่อให้หมดเสียที เพื่อที่จะได้สั่ง คาราเมล มาคิอาโต้ Aha!
อร่อยสวดยอดๆๆ เพื่อนพี่ทึ่งในความเจ้มจ้นของแก้วนี้ แต่พี่ ชิลล์ๆๆ


พอกินหมด พี่เกิดอาการสยองเล็กน้อยในความสามารถที่คาดไม่ถึงของตัวเอง
280 บาทที่จ่ายไป ถ้าในช่วงเวลาปกติ คงได้แค่ party dish 1 จาน กับเครื่องดื่ม 1 แก้วเท่านั้น
กว่าจะหมดโปรก็สิ้นเดือนเมษานู่น คิดว่าคงได้มาซ้ำอีก 2-3 ครั้งนะ

สุภาษิตคนชอบเค้ก "รักจะกินเค้ก ต้องลืมน้ำหนัก และมีความสุขกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า"