คัดมาบางส่วน อ่านฉบับเต็มที่
https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=1096931997036678&id=1072393339490544
รับรองถ้าได้ อ่านโพสต์ เจ้าคุณเบอร์ลิน นี้แล้ว ทุกท่าน จะแจ้งสว่างกันเลย จะถึงบางอ้อ ยันบางจาก (จากตำแหน่ง) กันเลยครับ.
- และหากอ่านแล้วก็ให้นัดกัน ช่วยกันแบก พรบ. ของ ศาสนาอิสลามฉบับนี้.
- ไปโยนใส่หน้า ผู้ตรวจการแผ่นดิน ชี้ให้ท่าน (แหกตา) ดู และให้ดำเนินการช่วยทำการตีความ และวินิจฉัย เหมือนที่มาตีความ และวินิจฉัย พรบ. สงฆ์ ในครั้งนี้ด้วย.
- แล้วก็ ถามท่านผู้ตรวจการ ฯ ด้วยว่า เมื่ออ่านจนจบ โพสต์ของเจ้าคุณเบอร์ลิน นี้แล้ว
"มีเหตุผลอันใดหรือ ที่ทำให้ท่านหน้ามืดมาวินิจฉัย มติ มส. ครั้งนี้ เช่นนี้ และก็ขอให้ท่าน นำ พรบ. การบริหารองค์กร ศาสนาอิสลาม พ.ศ.๒๕๔๐ นี้ นำไปตีความ และวินิจฉัยด้วย" หลังอ่านโพสต์นี้จบแล้วด้วย.
- พวกกท่านทราบหรือไม่ว่า เรื่องศาสนานี้ เรื่องใหญ่มากนะครับ.
- หากแจ้งชัดขนาดนี้แล้ว ยังไม่รู้สึกรู้สาอะไร ก็อย่ามานั่งกินเงินภาษีชาวพุทธตรงนี้เลยครับ "มันบาป" ครับ.
พรบ. การบริหารองค์กร ศาสนาอิสลาม พ.ศ.๒๕๔๐
ก่อนอื่น ขอแจ้งให้ทราบว่า.......
- หลังจากประกาศใช้กฏหมายดังกล่าวไม่นาน นายประเสริฐ มะหะหมัด จุฬาราชมนตรีในขณะนั้น ได้ถึงแก่อนิจกรรม.
- และผู้ที่ได้รับเลือกให้เป็นจุฬาราชมนตรี คนต่อมาคือ นายสวาสดิ์ สุมาลยศักดิ์ ขณะมีอายุได้ ๘๒ ปี เศษ.
- ซึ่งถือว่าเป็น จุฬาราชมนตรี คนแรก ที่ได้รับการเลือกตั้งตามกฏหมายฉบับนี้ (พ.ศ.๒๕๔๐) โดยดำรงตำแหน่งจนถึงแก่อนิจกรรม เมื่อวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๕๓.
- และวันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๕๓ ที่ประชุมคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดทั่วประเทศ ได้มีมติให้
- นายอาศิส พิทักษ์คุมพล เป็นผู้สมควรดำรงตำแหน่ง จุฬาราชมนตรีต่อจากนายสวาสดิ์ สุมาลยศักดิ์
- และได้รับโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งให้เป็น จุฬาราชมนตรี คนที่ ๑๘ เมื่อวันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๕๓.
.......................
ข้อสังเกตตรงนี้ คือ .....
- ที่ประชุมคณะกรรมการอิสลาม ฯ ได้มีมติให้แก่ นายอาศิส เป็นเบื้องต้นก่อนขั้นแรก.
- จากนั้น จึงดำเนินการกระบวนการเพื่อโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งต่อไป.
""จำข้อสังเกต และขั้นตอนตรงนี้ดี ๆ ไว้ นะครับ""""""
..........................
- จากนั้นต่อมา ขอให้ทุกท่านมาดูรายละเอียด พรบ. การบริหารองค์กร ศาสนาอิสลาม พ.ศ ๒๕๔๐ (รัฐบาล พล.อ. ชวลิต).
- ใน หมวด ๑ บททั่วไป ของ พรบ. นี้ ใน ๓ บรรทัดแรก เขียนไว้ว่า.....
(อ่าน และจำไว้ดี ๆ นะครับ แล้วผมจะนำไปเปรียบเทียบกับ พรบ. สงฆ์ ที่ผู้ตรวจการแผ่นดินตีความ และวินิจฉัย)....
บรรทัดที่ ๑......
- พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้ง จุฬาราชมนตรีคนหนึ่ง เพื่อเป็นผู้นำกิจการศาสนาอิสลามในประเทศไทย.
บรรทัดที่ ๒ .......
- ให้ (เน้น ๑ - ผู้เขียน)
- นายกรัฐมนตรี (เน้น ๒ - ผู้เขียน) นำชื่อผู้ที่จะดำรงตำแหน่ง จุฬาราชมนตรี.
- ซึ่งได้รับความเห็นชอบ จากกรรมการอิสลามประจำจังหวัดทั่วประเทศ (เน้น ๓ - ผู้เขียน).
ขึ้นทูลเกล้า ฯ เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็น จุฬาราชมนตรี ฯ.
(ดังเอกสารที่แนบมาด้วยแล้วนี้).
........................................
- และตามกฏหมายฉบับนี้ ปัจจุบัน นายอศิส พิทักษ์คุมพล ก็ได้รับการโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งให้เป็น จุฬาราชมนตรี ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว.
............................................................
......ความรู้สำคัญ.......
ข้อที่ ๔
- จุดสำคัญที่สุด ในการเปรียบเทียบ
๔.๑ ขอให้ท่านผู้ตรวจการแผ่นดิน และชาวพุทธทั่วโลก (พวกแถไม่ต้องมาอ่านก็ได้)
- จงไปนำคำที่ผม คือ ผู้เขียน ได้ วงเล็บไว้ว่า.....
- เน้น ๑ คือ ให้.
- เน้น ๒ คือ นายกรัฐมนตรี.
- เน้น ๓ คือ ด้วยความเห็นชอบของ.. (ต่อท้ายด้วยองค์กรที่เกี่ยวกับ พรบ. ทั้ง ๒ ฉบับ).
- ไปเปรียบเทียบกันระหว่าง พรบ. ทั้ง ๒ ฉบับนี้ มันเหมือนกัน และแตกต่างกันไงครับ.
๔.๒ ถึงบางอ้อ หายงงหรือยังครับ นั่นก็คือ .....
"ทุกถ้อยคำ ทุกคำศัพท์ ทุกประโยค (เน้น ๑ -๓) ไม่ปรากฏว่ามีความแตกต่างกันใด ๆ ทั้งสิ้น ใน พรบ. สงฆ์ และ พรบ. อิสลามครับ".
๔.๓ จึงเป็นอันสรูป และยุติ ได้ว่า ....
- การเสนอนาม ผู้ที่จะนำขึ้นทูลเกล้า ฯ โปรดแต่งตั้งเป็นประมุของค์กรนั้น
- กระบวนการจะต้องเริ่มที่ องค์กรนั้น ๆ มีมติเอกฉันท์ ออกมาป็นเบื้องต้นเสียก่อน.
- จากนั้น จึงมานายกรัฐมนตรี และเป็นผู้นำขึ้นทูลเกล้า ฯ ต่อไป.
- ย่อมหาใช่เริ่มที่นายกรัฐมนตรี ดังที่ ผู้ตรวจการแผ่นดินตีความ และวินิจฉัยออกมาไม่.
- ดังเช่น ตัวอย่าง โปรดเกล้า ฯ แต่งตั้ง นายอศิส เป็น จุฬาราชมนตรี เป็นต้น".
..........................................................
- ถึงตรงนี้ พวกเราชาวพุทธทุกท่านที่อ่านโพสต์นี้แล้ว.....
- ผมอยากจะให้ช่วยกัน กอปปี้ พรบ. องค์กรศาสนาทั้ง ๒ ฉบับนี้.
- ไปโยนใส่หน้าถาม ผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อให้ดูชัด ๆ และแจ้งหน่อยได้มัยครับว่า
"มันมีตรงไหน ที่แตกต่างกันบ้าง" .
๔.๓ ถ้าจะมาตีความ และวินิจฉัย มติ มส. อย่างที่ออกมาในครั้งนี้ ในตรรกะเดียวกันนี้ เหมือนกันทุกอย่างนี้.
- ขอถามว่า แล้วที่โปรดเกล้า ฯ นายอศิส เป็นจุฬาราชมนตรีไปแล้ว ตั้งแต่ ปี พ.ศ. ๒๕๕๓ นี้ นั้น.
- ท่านผู้ตรวจการแผ่นดิน จะทำอย่างไร จะแก้อย่างไร ผิดขั้นตอน หรือไม่ชอบด้วยกฏหมายด้วยหรือไม่ครับ.
- ข้อนี้ ต้องยกให้ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ตอบ และแก้ไขเองนะครับ.
- หากตอบไม่ได้ แก้ไม่ได้ จะไปทำอะไร กับอนาคตตัวเอง ก็ไปคิดเองครับ .
- แต่อยากจะบอกว่า อันเงินภาษีรายเดือนที่กินทุก ๆ เดือน ที่เป็นของชาวพุทธส่วนใหญ่ นี้.
- พวกท่านกินอิ่มนอนหลับสบายดีกันอยู่ใช่มัยครับ (หมดคำพูด).
..............
สรูป
- ในนามของตัวแทนองค์กรเครือข่าย ชาวพุทธทั้งใน และต่างประเทศทั่วโลก มีความรู้สึกร่วมกันว่า .....
- การตีความ และวินิจฉัย มติ มส. การสถาปนาสังฆราช ของ คณะสงฆ์ไทย ของผู้ตรวจการแผ่นดินในครั้งนี้.
- ชาวพุทธทุกคน มีความรู้สึกได้ว่า ได้ถูก ผู้ตรวจการแผ่นดิน กระทำการ กลั่นแกล้ง รังแก ริดรอน ละเมิดสิทธิ์ขั้นพื้นฐาน ของความเป็นมนุษย์ตามหลักสากล ในการเลือกนับถือศาสนาตน.
- และรู้สึกผิดหวัง และอดสู จากการดำเนินการ ของ ผู้ตรวจการแผ่นดินในครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง
- ที่แสดงการก้าวล่วง ไม่มีสัมมาคารวะต่อพระพุทธศาสนา และต่อองค์ประมุขสงฆ์ผู้ปฎิบัติหน้าสมเด็จพระสังฆราช ตามธรรมเนียม ประเพณีอันดีงามของไทย
เจ้าคุณเบอร์ลิน >> ยก พรบ. สงฆ์ เปรียบเทียบ พรบ. อิสลาม แจงละเอียดยิบ ปมตั้งประมุข
https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=1096931997036678&id=1072393339490544
รับรองถ้าได้ อ่านโพสต์ เจ้าคุณเบอร์ลิน นี้แล้ว ทุกท่าน จะแจ้งสว่างกันเลย จะถึงบางอ้อ ยันบางจาก (จากตำแหน่ง) กันเลยครับ.
- และหากอ่านแล้วก็ให้นัดกัน ช่วยกันแบก พรบ. ของ ศาสนาอิสลามฉบับนี้.
- ไปโยนใส่หน้า ผู้ตรวจการแผ่นดิน ชี้ให้ท่าน (แหกตา) ดู และให้ดำเนินการช่วยทำการตีความ และวินิจฉัย เหมือนที่มาตีความ และวินิจฉัย พรบ. สงฆ์ ในครั้งนี้ด้วย.
- แล้วก็ ถามท่านผู้ตรวจการ ฯ ด้วยว่า เมื่ออ่านจนจบ โพสต์ของเจ้าคุณเบอร์ลิน นี้แล้ว
"มีเหตุผลอันใดหรือ ที่ทำให้ท่านหน้ามืดมาวินิจฉัย มติ มส. ครั้งนี้ เช่นนี้ และก็ขอให้ท่าน นำ พรบ. การบริหารองค์กร ศาสนาอิสลาม พ.ศ.๒๕๔๐ นี้ นำไปตีความ และวินิจฉัยด้วย" หลังอ่านโพสต์นี้จบแล้วด้วย.
- พวกกท่านทราบหรือไม่ว่า เรื่องศาสนานี้ เรื่องใหญ่มากนะครับ.
- หากแจ้งชัดขนาดนี้แล้ว ยังไม่รู้สึกรู้สาอะไร ก็อย่ามานั่งกินเงินภาษีชาวพุทธตรงนี้เลยครับ "มันบาป" ครับ.
พรบ. การบริหารองค์กร ศาสนาอิสลาม พ.ศ.๒๕๔๐
ก่อนอื่น ขอแจ้งให้ทราบว่า.......
- หลังจากประกาศใช้กฏหมายดังกล่าวไม่นาน นายประเสริฐ มะหะหมัด จุฬาราชมนตรีในขณะนั้น ได้ถึงแก่อนิจกรรม.
- และผู้ที่ได้รับเลือกให้เป็นจุฬาราชมนตรี คนต่อมาคือ นายสวาสดิ์ สุมาลยศักดิ์ ขณะมีอายุได้ ๘๒ ปี เศษ.
- ซึ่งถือว่าเป็น จุฬาราชมนตรี คนแรก ที่ได้รับการเลือกตั้งตามกฏหมายฉบับนี้ (พ.ศ.๒๕๔๐) โดยดำรงตำแหน่งจนถึงแก่อนิจกรรม เมื่อวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๕๓.
- และวันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๕๓ ที่ประชุมคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดทั่วประเทศ ได้มีมติให้
- นายอาศิส พิทักษ์คุมพล เป็นผู้สมควรดำรงตำแหน่ง จุฬาราชมนตรีต่อจากนายสวาสดิ์ สุมาลยศักดิ์
- และได้รับโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งให้เป็น จุฬาราชมนตรี คนที่ ๑๘ เมื่อวันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๕๓.
.......................
ข้อสังเกตตรงนี้ คือ .....
- ที่ประชุมคณะกรรมการอิสลาม ฯ ได้มีมติให้แก่ นายอาศิส เป็นเบื้องต้นก่อนขั้นแรก.
- จากนั้น จึงดำเนินการกระบวนการเพื่อโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งต่อไป.
""จำข้อสังเกต และขั้นตอนตรงนี้ดี ๆ ไว้ นะครับ""""""
..........................
- จากนั้นต่อมา ขอให้ทุกท่านมาดูรายละเอียด พรบ. การบริหารองค์กร ศาสนาอิสลาม พ.ศ ๒๕๔๐ (รัฐบาล พล.อ. ชวลิต).
- ใน หมวด ๑ บททั่วไป ของ พรบ. นี้ ใน ๓ บรรทัดแรก เขียนไว้ว่า.....
(อ่าน และจำไว้ดี ๆ นะครับ แล้วผมจะนำไปเปรียบเทียบกับ พรบ. สงฆ์ ที่ผู้ตรวจการแผ่นดินตีความ และวินิจฉัย)....
บรรทัดที่ ๑......
- พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้ง จุฬาราชมนตรีคนหนึ่ง เพื่อเป็นผู้นำกิจการศาสนาอิสลามในประเทศไทย.
บรรทัดที่ ๒ .......
- ให้ (เน้น ๑ - ผู้เขียน)
- นายกรัฐมนตรี (เน้น ๒ - ผู้เขียน) นำชื่อผู้ที่จะดำรงตำแหน่ง จุฬาราชมนตรี.
- ซึ่งได้รับความเห็นชอบ จากกรรมการอิสลามประจำจังหวัดทั่วประเทศ (เน้น ๓ - ผู้เขียน).
ขึ้นทูลเกล้า ฯ เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็น จุฬาราชมนตรี ฯ.
(ดังเอกสารที่แนบมาด้วยแล้วนี้).
........................................
- และตามกฏหมายฉบับนี้ ปัจจุบัน นายอศิส พิทักษ์คุมพล ก็ได้รับการโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งให้เป็น จุฬาราชมนตรี ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว.
............................................................
......ความรู้สำคัญ.......
ข้อที่ ๔
- จุดสำคัญที่สุด ในการเปรียบเทียบ
๔.๑ ขอให้ท่านผู้ตรวจการแผ่นดิน และชาวพุทธทั่วโลก (พวกแถไม่ต้องมาอ่านก็ได้)
- จงไปนำคำที่ผม คือ ผู้เขียน ได้ วงเล็บไว้ว่า.....
- เน้น ๑ คือ ให้.
- เน้น ๒ คือ นายกรัฐมนตรี.
- เน้น ๓ คือ ด้วยความเห็นชอบของ.. (ต่อท้ายด้วยองค์กรที่เกี่ยวกับ พรบ. ทั้ง ๒ ฉบับ).
- ไปเปรียบเทียบกันระหว่าง พรบ. ทั้ง ๒ ฉบับนี้ มันเหมือนกัน และแตกต่างกันไงครับ.
๔.๒ ถึงบางอ้อ หายงงหรือยังครับ นั่นก็คือ .....
"ทุกถ้อยคำ ทุกคำศัพท์ ทุกประโยค (เน้น ๑ -๓) ไม่ปรากฏว่ามีความแตกต่างกันใด ๆ ทั้งสิ้น ใน พรบ. สงฆ์ และ พรบ. อิสลามครับ".
๔.๓ จึงเป็นอันสรูป และยุติ ได้ว่า ....
- การเสนอนาม ผู้ที่จะนำขึ้นทูลเกล้า ฯ โปรดแต่งตั้งเป็นประมุของค์กรนั้น
- กระบวนการจะต้องเริ่มที่ องค์กรนั้น ๆ มีมติเอกฉันท์ ออกมาป็นเบื้องต้นเสียก่อน.
- จากนั้น จึงมานายกรัฐมนตรี และเป็นผู้นำขึ้นทูลเกล้า ฯ ต่อไป.
- ย่อมหาใช่เริ่มที่นายกรัฐมนตรี ดังที่ ผู้ตรวจการแผ่นดินตีความ และวินิจฉัยออกมาไม่.
- ดังเช่น ตัวอย่าง โปรดเกล้า ฯ แต่งตั้ง นายอศิส เป็น จุฬาราชมนตรี เป็นต้น".
..........................................................
- ถึงตรงนี้ พวกเราชาวพุทธทุกท่านที่อ่านโพสต์นี้แล้ว.....
- ผมอยากจะให้ช่วยกัน กอปปี้ พรบ. องค์กรศาสนาทั้ง ๒ ฉบับนี้.
- ไปโยนใส่หน้าถาม ผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อให้ดูชัด ๆ และแจ้งหน่อยได้มัยครับว่า
"มันมีตรงไหน ที่แตกต่างกันบ้าง" .
๔.๓ ถ้าจะมาตีความ และวินิจฉัย มติ มส. อย่างที่ออกมาในครั้งนี้ ในตรรกะเดียวกันนี้ เหมือนกันทุกอย่างนี้.
- ขอถามว่า แล้วที่โปรดเกล้า ฯ นายอศิส เป็นจุฬาราชมนตรีไปแล้ว ตั้งแต่ ปี พ.ศ. ๒๕๕๓ นี้ นั้น.
- ท่านผู้ตรวจการแผ่นดิน จะทำอย่างไร จะแก้อย่างไร ผิดขั้นตอน หรือไม่ชอบด้วยกฏหมายด้วยหรือไม่ครับ.
- ข้อนี้ ต้องยกให้ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ตอบ และแก้ไขเองนะครับ.
- หากตอบไม่ได้ แก้ไม่ได้ จะไปทำอะไร กับอนาคตตัวเอง ก็ไปคิดเองครับ .
- แต่อยากจะบอกว่า อันเงินภาษีรายเดือนที่กินทุก ๆ เดือน ที่เป็นของชาวพุทธส่วนใหญ่ นี้.
- พวกท่านกินอิ่มนอนหลับสบายดีกันอยู่ใช่มัยครับ (หมดคำพูด).
..............
สรูป
- ในนามของตัวแทนองค์กรเครือข่าย ชาวพุทธทั้งใน และต่างประเทศทั่วโลก มีความรู้สึกร่วมกันว่า .....
- การตีความ และวินิจฉัย มติ มส. การสถาปนาสังฆราช ของ คณะสงฆ์ไทย ของผู้ตรวจการแผ่นดินในครั้งนี้.
- ชาวพุทธทุกคน มีความรู้สึกได้ว่า ได้ถูก ผู้ตรวจการแผ่นดิน กระทำการ กลั่นแกล้ง รังแก ริดรอน ละเมิดสิทธิ์ขั้นพื้นฐาน ของความเป็นมนุษย์ตามหลักสากล ในการเลือกนับถือศาสนาตน.
- และรู้สึกผิดหวัง และอดสู จากการดำเนินการ ของ ผู้ตรวจการแผ่นดินในครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง
- ที่แสดงการก้าวล่วง ไม่มีสัมมาคารวะต่อพระพุทธศาสนา และต่อองค์ประมุขสงฆ์ผู้ปฎิบัติหน้าสมเด็จพระสังฆราช ตามธรรมเนียม ประเพณีอันดีงามของไทย