### กรณีองค์กรอิสระ ท้วงติงเรื่อง มส ตั้งสังฆราช###

อ้างอิง
http://manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9590000023679

----

"รสนา" เปิด ม.13 พ.ร.บ.ผู้ตรวจการแผ่นดิน ตอกหน้า "วิษณุ" ชี้ไม่ควรดิสเครดิตผู้ตรวจฯท้วงมติ มส. ตั้งสังฆราช เพราะเป็นหน้าที่โดยตรง แนะดูจุดจบรัฐบาลชุดก่อนหากไม่เคารพคำวินิจฉัยขององค์กรอิสระ
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 5 มี.ค. นางสาวรสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ว. กรุงเทพฯ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว รสนา โตสิตระกูล ถึงกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินมีมติให้ทำความคิดเห็นและข้อเสนอแนะถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ตีกลับมติของมหาเถรสมาคม (มส.) หลังเสนอสมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ให้ได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่ เนื่องจากเป็นการดำเนินการที่ผิดขั้นตอน และไม่ถูกต้องตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 แต่ปรากฎว่านายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ออกมาแสดงความเห็นสวนทางทันทีว่า มส.ทำตามขั้นตอนแล้ว โดยไม่สนใจผู้ตรวจการแผ่นดินท้วง อ้างว่าเป็นเพียงความเห็นหนึ่งเท่านั้น ดังนี้
       
       "ท่านรองนายกฯคงยังไม่เคยอ่านพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ.2542 กระมัง?
       
       อำนาจหน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดินในมาตรา13 บัญญัติให้ผู้ตรวจการแผ่นดินมีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาสอบสวนตามคำร้องเรียนในกรณีเช่น 1) การไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย หรือปฏิบัตินอกเหนืออำนาจหน้าที่กฎหมายของข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้างของรัฐ หน่วยราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น
       
       2) การปฏิบัติหรือละเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการของข้าราชการ และหน่วยงาน(ตามข้อ1) ที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ร้องเรียนและประชาชน ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่หรือไม่ก็ตาม
       
       ดังนั้นการพิจารณาและทำความเห็นกรณีมติของมส.เรื่องตั้งสมเด็จพระสังฆราชของผู้ตรวจการแผ่นดินจึงไม่ใช่แค่ความเห็นหนึ่งที่หัวหน้ารัฐบาลจะไม่ฟังก็ได้อย่างที่รองนายกฯวิษณุให้สัมภาษณ์ แต่เป็นอำนาจหน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดินโดยตรงใน"การวินิจฉัย"และทำ"ข้อเสนอแนะ"ถึงหัวหน้ารัฐบาล และหากข้อเสนอแนะเหล่านั้นไม่มีการปฏิบัติหลังจากเสนอแนะเป็นเวลาพอสมควรแล้ว ผู้ตรวจการแผ่นดินสามารถนำเรื่องดังกล่าวฟ้องต่อศาลปกครอง หรือศาลรัฐธรรมนูญได้โดยตรงแล้วแต่กรณี
       
       ในต่างประเทศที่มีองค์กรอย่าง "Ombudsman" หรือในประเทศไทยเรียกว่า"ผู้ตรวจการแผ่นดิน" เป็นตำแหน่งที่ตั้งขึ้นในประเทศที่มีการปกครองในระบอบกษัตริย์อย่างในประเทศสแกนดิเนเวีย ตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นเครื่องมือปัดเป่าทุกข์ร้อนให้ประชาชนแทนพระมหากษัตริย์ ซึ่งมีพัฒนาการมาสู่ระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภาอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
       
       ผู้ตรวจการแผ่นดินจึงเป็นกลไกที่ประชาชนสามารถอาศัยเป็นเครื่องมือตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐของฝ่ายการเมือง คณะรัฐมนตรี รัฐมนตรี ข้าราชการระดับสูงและเจ้าหน้าที่รัฐที่มีอำนาจตามกฎหมายต่างๆที่มาใช้อำนาจรัฐ ผู้ตรวจการแผ่นดินสามารถตรวจสอบ วินิจฉัย และรายงานเรื่องดังกล่าวต่อหัวหน้ารัฐบาลเพื่อให้ดำเนินการแก้ไข และที่สำคัญ"ผู้ตรวจการแผ่นดิน"เป็นองค์กรอิสระที่ปฎิบัติหน้าที่ภายใต้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายที่มีศักดิ์สูงรองลงมาจากรัฐธรรมนูญ จึงสมควรที่ฝ่ายบริหารตั้งแต่ระดับนายกรัฐมนตรีไปจนถึงรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีทุกท่านที่ต้องให้ความเคารพ แม้จะไม่เห็นด้วยก็ตาม ไม่ใช่กล่าวในทำนองดิสเครดิตอย่างที่ปรากฎเป็นข่าว
       
       ยิ่งทราบว่า"ผู้ตรวจการแผ่นดิน"ได้เสนอคำวินิจฉัยดังกล่าวเป็นข้อเสนอแนะต่อนายกรัฐมนตรีโดยตรง ไม่ใช่เสนอผ่านค.ร.ม.ก็ชอบที่รัฐมนตรีท่านอื่นจะสงวนท่าทีไม่ควรกล่าวสิ่งใดล้ำหน้าท่านนายกรัฐมนตรี
       
       ทั้งรัฐบาลและองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญต่างก็เป็นภาครัฐด้วยกัน ต่างทำหน้าที่โดยสุจริตภายใต้รัฐธรรมนูญ แม้จะมีความเห็นต่างกันแต่ก็ไม่ควรให้สัมภาษณ์ดิสเครดิสกันตามที่ปรากฏเป็นข่าว
       
       หากรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐบาลไม่เป็นแบบอย่างที่ดีในการเคารพคำวินิจฉัยขององค์กรอิสระแล้ว หากประชาชนทั่วไปเอาเยี่ยงอย่างรัฐบาลจะเกิดอะไรขึ้น ขอให้ดูตัวอย่างรัฐบาลก่อนหน้านี้ที่ไม่เคารพคำวินิจฉัยขององค์กรอิสระ ว่ามีวิบากกรรมเช่นไร?"
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่