วันนี้ ,วันที่ 4 มีนาคม เมื่อ 155ปีมาแล้ว เป็นวันที่อดีตเด็กจากบ้านนอกคนหนึ่งได้ก้าวขึ้นประธานาธิบดีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของประเทศสหรัฐอเมริกา "อับราฮิม ลินคอล์น" หรือชื่อเล่น "เอ๊บ" ที่บรรดาเพื่อนๆ เรียกเขา
เขาเป็นประธานาธิบดีคนที่16 โดยชนะการเลือกตั้งจาก
เสียงข้างมาก(เน้นคำว่า "เสียงข้างมาก" อย่างนี้ หวังว่าคงไม่แทงใจดำใครนะ) ของอเมริกาที่ฝากฝังผลงานไว้ในความทรงจำของอเมริกันชนและชาวโลกไว้อย่างมากมาย เขาทิ้งวรรคทองไว้มากมายเกี่ยวกับประชาธิปไตย แต่ที่ยังก้องกังวานอยู่ทุกวันนี้ก็คือ "
เพื่อประชาชน โดยประชาชน"......เขาเลิกทาสได้สำเร็จ และกว่าจะสำเร็จได้ก็ต้องแลกมาด้วยสงครามกลางเมืองที่มี "ทหารอเมริกัน" มากที่สุด (สงครามโลกครั้งที่๑และ๒ รวมกัน รวมทั้งสงครามเวียดนามด้วยยังตายไม่เท่ากับสงครามกลางเมืองตอนนี้ ประวัติศาสตร์อเมริกันว่าไว้อย่างนั้น)
ลินคอล์นผ่านอุปสรรคล้มลุกคลุกคลานและขวากหนามมาอย่างมากมายกว่าจะถึงจุดนี้ กำพร้าแม่มาตั้งแต่เด็ก(เพราะแม่ดื่มนมวัวที่มีพิษ) ปรัชญาชีวิตของเขาคือแม้จะเดินช้าแต่เขาไม่เคยถอยหลัง จากเด็กชาวบ้านนอกที่ผ่าฝืนเลี้ยงสัตว์ไถนาธรรมดาๆ คนหนึ่ง....นำตัวเองมาสู่จุดสูงสุดของชีวิต(ก็ว่าได้)เช่นนี้ย่อมไม่ธรรมดา ทั้งหมดทั้งมวลก็คือความดีและคุณธรรมที่ซื่อสัตย์ของเขานั่นเอง
ลินคอล์นมีวาทะศิลป์ในการพูดโน้มน้าวจิตใจ ฉลาดทันเกมส์ และเมื่อก้าวเข้าสู่ถนนการเมืองแล้วเขาย่อมมีลูกเล่นที่แพรวพราว เขาฉลาดพอที่จะเอาภาพลักษณ์ความซื่อสัตย์ของเขามาเป็นจุดขายในการหาเสียง และที่สำคัญ เขายืนหยัดบนหลักการของเขาอย่างซื่อสัตย์ (พูดง่ายๆ ก็คือไม่ "แหล หลักลอย" นั่นเอง) เขาชนะใจจากคนกลุ่มเล็กๆ.....เขากล้าเผชิญกับการเจ็บตัวเพื่อแลกกับความนิยมในตัวเขาที่จะเพิ่มสูงขึ้น
ลินคอล์นไม่ใช่คนหน้าตาดีอะไร มิหนำซ้ำเสื้อผ้าที่ใส่ก็ไม่ได้เลิศหรูแต่อย่างใด กล่าวกันว่าเมื่อเขาถูกเสนอตัวให้เป็นตัวแทนพรรคขึ้นชิงตำแหน่งนั้น ภาพถ่ายของลินคอล์นดุไม่มีราศีจับหรือออร่าของผู้นำอะไรเลย ภาพใบหน้าที่เห็นริ้วรอยเป็นเส้นๆ บนใบหน้า(จากการตรากตรำในทุ่ง)ทำให้สมาชิกของพรคหลายคนถึงกับถอดใจ แค่ภาพโปสเตอร์หาเสียงที่ขี้เหร่ขนาดนี้ก็คงส่อแววแพ้ตั้งแต่ในมุ้งแล้ว
ลินคอล์นถึงกับไปปรึกษากับช่างถ่ายภาพใช้ช่วยตกแต่งภาพอย่างไรก็ได้ที่ออกมาให้ดูสง่า ช่างภาพช่วยอย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นเลื่อนขากล้องให้เลยจุดโฟกัสออกไปหน่อย(เพื่อไม่ให้เห็นรอยย่นบนใบหน้าของลินคอล์นชัด) และใช้เทคนิดเพนท์บรัชในช่วงล้างฟิล์ม ช่างภาพเห็นว่าลินคอล์นเป็นคนที่คอยาว เขาจึงร้องให้ลินคอล์นยกคอเสื้อให้สูงขึ้นเพื่อกลบช่วงคอและให้ดูสมส่วน ทันทีที่เขายกคอเสื้อขึ้นปกคอแล้วเอามือลงไป ช่างภาพก็กดแช๊ะได้รูปสุดหล่อของลินคอล์นออกมาเพื่อใช้หาเสียงทันที เท่านั้นยังไม่พอ....ลินคอล์นคงจะรู้ว่าตัวเองหน้าตาไม่หล่อ เขาจึงพยายามหาทางกลบปมนี้ไว้ พิถีพิถันถึงขนาดไปปรึกษาเพื่อนหญิง ซึ่งเพื่อนหญิงให้คำแนะนำว่า เขามีคางที่แหลมและซูบดุไม่สมส่วนกับใบหน้า วิธีที่จะกลบปมตรงนี้ได้ก็คือไว้เคราเพื่อปกตรงนี้ไว้เสีย อีกอย่างผู้หญิงเขาชอบคนไว้เครา รับรองว่าลินคอล์นจะได้คะแนนเสียงที่เป็นแม่ยกมากมายจากเครา ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ลินคอล์ก็ไว้เคราเพื่อตามคำแนะนำของสหาย คนที่หน้าตาไม่ดีอย่างลินคอล์น...แต่ก็เข้าใจหาสิ่งมาทดแทนได้.......แต่ทำไม๊? ทำไมคนหน้าตาดี๊ดีบางคน กลับมีพฤติกรรมทำให้หน้าตัวเองดูขี้เหร่ไปได้นะ...ไม่เข้าใจ??? อิ อิ อิ (แซวๆ )
ลินคอล์นมีปมตั้งแต่เด็กอยู่หลายปม เป็นต้นว่ากำพร้าแม่ น้องสาวเสียชีวิตตั้งแต่เด็ก ไม่ค่อยถูกกับพ่อ เขามีอาการซึมลึกอยู่และหลายคนไม่ทราบ เขากินยาที่เรียกว่า Blue mass เพื่อระงับส่วนนี้ประจำ ซึ่งส่งผลข้างเคียงอยู่ในที เช่นว่าหากมีใครพูดแทงใจดำถูกจุดเขาจะบันดาลโทสะ ทิ้งภาพลักษณ์ของคนที่ดุสุขุมไปเลย
เขียนมาซะยาว.....อยากบอกว่าลินคอล์นคือไอด้อลของผมคนหนึ่งครับ แหะ แหะ แหะ... ไม่ใช่ล็อดอินลินคอล์นในพันทิปหวานใจของคุณน้องพรผุ้น่ารักนะครับ ผมชอบอ่านความเห็นของเขาเหมือนกัน
ลินคอล์นเสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 เมษายน 1865 เพียงหกวันหลังจากที่รวมประเทศอเมริกาเมื่อสงครามกลางเมืองสิ้นสุดลงไป
Whatever you are, be a good one. เป็นอะไรก็ได้, ขอให้เป็นคนดี
พิมพ์สดๆ ถ้าตกหล่นอะไรขออภัยด้วยนะครับ
......"ลินคอล์น" ในวันนี้ "เพื่อประชาชน โดยประชาชน"....
เขาเป็นประธานาธิบดีคนที่16 โดยชนะการเลือกตั้งจากเสียงข้างมาก(เน้นคำว่า "เสียงข้างมาก" อย่างนี้ หวังว่าคงไม่แทงใจดำใครนะ) ของอเมริกาที่ฝากฝังผลงานไว้ในความทรงจำของอเมริกันชนและชาวโลกไว้อย่างมากมาย เขาทิ้งวรรคทองไว้มากมายเกี่ยวกับประชาธิปไตย แต่ที่ยังก้องกังวานอยู่ทุกวันนี้ก็คือ "เพื่อประชาชน โดยประชาชน"......เขาเลิกทาสได้สำเร็จ และกว่าจะสำเร็จได้ก็ต้องแลกมาด้วยสงครามกลางเมืองที่มี "ทหารอเมริกัน" มากที่สุด (สงครามโลกครั้งที่๑และ๒ รวมกัน รวมทั้งสงครามเวียดนามด้วยยังตายไม่เท่ากับสงครามกลางเมืองตอนนี้ ประวัติศาสตร์อเมริกันว่าไว้อย่างนั้น)
ลินคอล์นผ่านอุปสรรคล้มลุกคลุกคลานและขวากหนามมาอย่างมากมายกว่าจะถึงจุดนี้ กำพร้าแม่มาตั้งแต่เด็ก(เพราะแม่ดื่มนมวัวที่มีพิษ) ปรัชญาชีวิตของเขาคือแม้จะเดินช้าแต่เขาไม่เคยถอยหลัง จากเด็กชาวบ้านนอกที่ผ่าฝืนเลี้ยงสัตว์ไถนาธรรมดาๆ คนหนึ่ง....นำตัวเองมาสู่จุดสูงสุดของชีวิต(ก็ว่าได้)เช่นนี้ย่อมไม่ธรรมดา ทั้งหมดทั้งมวลก็คือความดีและคุณธรรมที่ซื่อสัตย์ของเขานั่นเอง
ลินคอล์นมีวาทะศิลป์ในการพูดโน้มน้าวจิตใจ ฉลาดทันเกมส์ และเมื่อก้าวเข้าสู่ถนนการเมืองแล้วเขาย่อมมีลูกเล่นที่แพรวพราว เขาฉลาดพอที่จะเอาภาพลักษณ์ความซื่อสัตย์ของเขามาเป็นจุดขายในการหาเสียง และที่สำคัญ เขายืนหยัดบนหลักการของเขาอย่างซื่อสัตย์ (พูดง่ายๆ ก็คือไม่ "แหล หลักลอย" นั่นเอง) เขาชนะใจจากคนกลุ่มเล็กๆ.....เขากล้าเผชิญกับการเจ็บตัวเพื่อแลกกับความนิยมในตัวเขาที่จะเพิ่มสูงขึ้น
ลินคอล์นไม่ใช่คนหน้าตาดีอะไร มิหนำซ้ำเสื้อผ้าที่ใส่ก็ไม่ได้เลิศหรูแต่อย่างใด กล่าวกันว่าเมื่อเขาถูกเสนอตัวให้เป็นตัวแทนพรรคขึ้นชิงตำแหน่งนั้น ภาพถ่ายของลินคอล์นดุไม่มีราศีจับหรือออร่าของผู้นำอะไรเลย ภาพใบหน้าที่เห็นริ้วรอยเป็นเส้นๆ บนใบหน้า(จากการตรากตรำในทุ่ง)ทำให้สมาชิกของพรคหลายคนถึงกับถอดใจ แค่ภาพโปสเตอร์หาเสียงที่ขี้เหร่ขนาดนี้ก็คงส่อแววแพ้ตั้งแต่ในมุ้งแล้ว
ลินคอล์นถึงกับไปปรึกษากับช่างถ่ายภาพใช้ช่วยตกแต่งภาพอย่างไรก็ได้ที่ออกมาให้ดูสง่า ช่างภาพช่วยอย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นเลื่อนขากล้องให้เลยจุดโฟกัสออกไปหน่อย(เพื่อไม่ให้เห็นรอยย่นบนใบหน้าของลินคอล์นชัด) และใช้เทคนิดเพนท์บรัชในช่วงล้างฟิล์ม ช่างภาพเห็นว่าลินคอล์นเป็นคนที่คอยาว เขาจึงร้องให้ลินคอล์นยกคอเสื้อให้สูงขึ้นเพื่อกลบช่วงคอและให้ดูสมส่วน ทันทีที่เขายกคอเสื้อขึ้นปกคอแล้วเอามือลงไป ช่างภาพก็กดแช๊ะได้รูปสุดหล่อของลินคอล์นออกมาเพื่อใช้หาเสียงทันที เท่านั้นยังไม่พอ....ลินคอล์นคงจะรู้ว่าตัวเองหน้าตาไม่หล่อ เขาจึงพยายามหาทางกลบปมนี้ไว้ พิถีพิถันถึงขนาดไปปรึกษาเพื่อนหญิง ซึ่งเพื่อนหญิงให้คำแนะนำว่า เขามีคางที่แหลมและซูบดุไม่สมส่วนกับใบหน้า วิธีที่จะกลบปมตรงนี้ได้ก็คือไว้เคราเพื่อปกตรงนี้ไว้เสีย อีกอย่างผู้หญิงเขาชอบคนไว้เครา รับรองว่าลินคอล์นจะได้คะแนนเสียงที่เป็นแม่ยกมากมายจากเครา ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ลินคอล์ก็ไว้เคราเพื่อตามคำแนะนำของสหาย คนที่หน้าตาไม่ดีอย่างลินคอล์น...แต่ก็เข้าใจหาสิ่งมาทดแทนได้.......แต่ทำไม๊? ทำไมคนหน้าตาดี๊ดีบางคน กลับมีพฤติกรรมทำให้หน้าตัวเองดูขี้เหร่ไปได้นะ...ไม่เข้าใจ??? อิ อิ อิ (แซวๆ )
ลินคอล์นมีปมตั้งแต่เด็กอยู่หลายปม เป็นต้นว่ากำพร้าแม่ น้องสาวเสียชีวิตตั้งแต่เด็ก ไม่ค่อยถูกกับพ่อ เขามีอาการซึมลึกอยู่และหลายคนไม่ทราบ เขากินยาที่เรียกว่า Blue mass เพื่อระงับส่วนนี้ประจำ ซึ่งส่งผลข้างเคียงอยู่ในที เช่นว่าหากมีใครพูดแทงใจดำถูกจุดเขาจะบันดาลโทสะ ทิ้งภาพลักษณ์ของคนที่ดุสุขุมไปเลย
เขียนมาซะยาว.....อยากบอกว่าลินคอล์นคือไอด้อลของผมคนหนึ่งครับ แหะ แหะ แหะ... ไม่ใช่ล็อดอินลินคอล์นในพันทิปหวานใจของคุณน้องพรผุ้น่ารักนะครับ ผมชอบอ่านความเห็นของเขาเหมือนกัน
ลินคอล์นเสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 เมษายน 1865 เพียงหกวันหลังจากที่รวมประเทศอเมริกาเมื่อสงครามกลางเมืองสิ้นสุดลงไป
Whatever you are, be a good one. เป็นอะไรก็ได้, ขอให้เป็นคนดี
พิมพ์สดๆ ถ้าตกหล่นอะไรขออภัยด้วยนะครับ