เฮนรี ฟอร์ด (Henry Ford; 30 กรกฎาคม 1863 – 7 เมษายน 1947) เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทฟอร์ดมอเตอร์ และมีส่วนสำคัญในการสร้าง "ชนชั้นกลาง" ในสังคมอเมริกัน เขาเป็นนักปฏิวัติที่ใช้ระบบสายพานในการผลิตยานยนต์ในขั้นมาก ๆ ซึ่งไม่เพียงเป็นการปฏิวัติในการผลิตอุตสาหกรรมเท่านั้น แต่ยังมีผลกระทบต่อวัฒนธรรมสมัยใหม่ ถึงขั้นนักทฤษฎีสังคมหลายคนเรียกช่วงนั้นว่า "แบบฟอร์ด" (Fordism)
เฮนรี ฟอร์ดเริ่มต้นด้วยการทำงานเป็นวิศวกรในบริษัทเอดิสันที่ดีทรอยต์ และได้รับมอบหมายให้ศึกษาและพัฒนาเครื่องยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงจากน้ำมัน โดยสุดท้ายเขาได้สร้างรถยนต์สี่ล้อคันแรกในปี 1896 ที่เรียกว่า "ฟอร์ด ควอดริไซเคิล" (Ford Quadricycle) หลังจากนั้นในปี 1903 เขาก่อตั้งบริษัท "ฟอร์ด มอเตอร์" (Ford Motor Company) ร่วมกับเพื่อน ๆ นักประดิษฐ์ และเขาเริ่มนำระบบสายพานมาใช้ในการผลิตรถยนต์ โดยให้อุปกรณ์ไหลไปตามสายพานและให้คนงานประกอบรถยนต์ทีละส่วน ทำให้สามารถผลิตรถยนต์หนึ่งคันในเวลาเพียงชั่วโมงครึ่ง เขายังสร้างรถยนต์รุ่นฟอร์ด โมเดล ที ที่มีราคาถูกกว่าและมีคุณภาพที่ดีกว่ารถยนต์ยี่ห้ออื่นในตลาด เรียกว่าได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคอย่างดี
เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 เกิดขึ้น บริษัทฟอร์ดก็ยังมีความสำเร็จในการผลิตเครื่องบิน "ฟอร์ด 4เอที ไตรมอเตอร์" (Ford 4AT Trimotor) ซึ่งทำให้เฮนรี ฟอร์ดเป็นผู้มีส่วนในการพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์และอุตสาหกรรมเครื่องบิน ทำให้บริษัทฟอร์ดเติบโตเป็นธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในช่วงต้นศตวรรษที่ 20
เฮนรี ฟอร์ดเสียชีวิตในวันที่ 7 เมษายน 1947 แต่มิได้ทำให้ธุรกิจฟอร์ดหยุดการดำเนินงาน ปัจจุบันบริษัทฟอร์ดมอเตอร์ได้ขยายธุรกิจรถยนต์ไปทั่วโลก โดยมีแบรนด์รถยนต์ดังได้แก่ "ฟอร์ด" (Ford) "ลินคอล์น" (Lincoln) และ "เมอร์คิวรี" (Mercury) รวมทั้งเป็นผู้ร่วมลงทุนกับบริษัทรถยนต์ชั้นนำอย่าง "มาสด้า" (Mazda) และในอดีตยังเป็นเจ้าของแบรนด์รถยนต์ชั้นนำอย่าง จากัวร์ (Jaguar) แลนด์ โรเวอร์ (Land Rover)และแบรนด์สวีเดนคือ "วอลโว่" (Volvo) ฟอร์ด มอเตอร์ทำรายได้ต่อปีประมาณ 12.6 พันล้านบาท (ปี 2006) มีพนักงานทั่วโลกราว280,000 คน (ปี 2006)
"ฟอร์ด ควอดริไซเคิล" รถยนต์สี่ล้อคันแรกของโลก
เฮนรี ฟอร์ดเริ่มต้นด้วยการทำงานเป็นวิศวกรในบริษัทเอดิสันที่ดีทรอยต์ และได้รับมอบหมายให้ศึกษาและพัฒนาเครื่องยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงจากน้ำมัน โดยสุดท้ายเขาได้สร้างรถยนต์สี่ล้อคันแรกในปี 1896 ที่เรียกว่า "ฟอร์ด ควอดริไซเคิล" (Ford Quadricycle) หลังจากนั้นในปี 1903 เขาก่อตั้งบริษัท "ฟอร์ด มอเตอร์" (Ford Motor Company) ร่วมกับเพื่อน ๆ นักประดิษฐ์ และเขาเริ่มนำระบบสายพานมาใช้ในการผลิตรถยนต์ โดยให้อุปกรณ์ไหลไปตามสายพานและให้คนงานประกอบรถยนต์ทีละส่วน ทำให้สามารถผลิตรถยนต์หนึ่งคันในเวลาเพียงชั่วโมงครึ่ง เขายังสร้างรถยนต์รุ่นฟอร์ด โมเดล ที ที่มีราคาถูกกว่าและมีคุณภาพที่ดีกว่ารถยนต์ยี่ห้ออื่นในตลาด เรียกว่าได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคอย่างดี
เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 เกิดขึ้น บริษัทฟอร์ดก็ยังมีความสำเร็จในการผลิตเครื่องบิน "ฟอร์ด 4เอที ไตรมอเตอร์" (Ford 4AT Trimotor) ซึ่งทำให้เฮนรี ฟอร์ดเป็นผู้มีส่วนในการพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์และอุตสาหกรรมเครื่องบิน ทำให้บริษัทฟอร์ดเติบโตเป็นธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในช่วงต้นศตวรรษที่ 20
เฮนรี ฟอร์ดเสียชีวิตในวันที่ 7 เมษายน 1947 แต่มิได้ทำให้ธุรกิจฟอร์ดหยุดการดำเนินงาน ปัจจุบันบริษัทฟอร์ดมอเตอร์ได้ขยายธุรกิจรถยนต์ไปทั่วโลก โดยมีแบรนด์รถยนต์ดังได้แก่ "ฟอร์ด" (Ford) "ลินคอล์น" (Lincoln) และ "เมอร์คิวรี" (Mercury) รวมทั้งเป็นผู้ร่วมลงทุนกับบริษัทรถยนต์ชั้นนำอย่าง "มาสด้า" (Mazda) และในอดีตยังเป็นเจ้าของแบรนด์รถยนต์ชั้นนำอย่าง จากัวร์ (Jaguar) แลนด์ โรเวอร์ (Land Rover)และแบรนด์สวีเดนคือ "วอลโว่" (Volvo) ฟอร์ด มอเตอร์ทำรายได้ต่อปีประมาณ 12.6 พันล้านบาท (ปี 2006) มีพนักงานทั่วโลกราว280,000 คน (ปี 2006)