ณ จุดนี้ จริงๆ ก็ไม่น่าจะสปอยอะไรแล้ว เพราะทั้งหนังสือทั้งซีรีส์ก็ทันกันทั้งคู่
แต่ขอจั่วหัวไว้ก่อนเพื่อความแน่ใจ เพราะนี่เป็นทฤษฎีนึงเกี่ยวกับบทสรุปของเรื่องนี้ครับ
= SPOILER =
= SPOILER =
= SPOILER =
= SPOILER =
กระทู้ต้นฉบับ
https://www.reddit.com/r/asoiaf/comments/23p48r/the_true_nature_and_purpose_of_the_others_and_the/
เรียบเรียงเป็นภาษาไทย
http://gameofthronesfansite.com/threads/1363/
แหล่งข้อมูลอื่นๆ
http://awoiaf.westeros.org/
http://art.marcsimonetti.com/
http://edition.cnn.com/2013/06/07/showbiz/tv/game-martin-red-wedding-ew/
http://www.rollingstone.com/tv/news/george-r-r-martin-the-rolling-stone-interview-20140423
http://www.assignmentx.com/2011/int...martin-on-the-future-of-the-franchise-part-2/
https://reddit.com/r/asoiaf/comments/39v11t/spoilers_all_my_own_theory_concerning_the_war_of/
https://www.reddit.com/r/gameofthrones/comments/387qlv/all_spoilers_how_will_game_of_thrones_end/
https://www.reddit.com/r/asoiaf/comments/3au270/lion_of_night_aa_and_yi_ti_spoilers_all/
ทฤษฎีนี้ เราจะมามองอีกแง่มุมหนึ่งเกี่ยวกับตัวร้ายของเรื่อง White Walker และมหาสงครามตามคำทำนาย War of the Dawn
“อมนุษย์ (the Others)” โดย Marc Simonetti
ก่อนอื่นมาดูตัวหลักของทฤษฎีนี้กันก่อน นั่นก็คือ White Walker
เหมันตภูติ (While Walker) คือศัพท์ที่คนเถื่อนใช้
อมนุษย์ (the Others) คือศัพท์ที่ชาวเวสเทอรอสทั่วๆ ไปใช้
ในซีรีส์ลดทอนให้ง่ายลงนิดหน่อยโดยการให้เรียก White Walker เหมือนกันทุกคน
เราได้อ่านและได้รับฟังผ่านตัวละครมากมายว่าอมนุษย์ชั่วร้ายอย่างนั้นอย่างนี้ เป็นปีศาจแบบนี้แบบนั้น
“ปีศาจร้ายที่ถือกำเนิดจากหิมะ น้ำแข็ง และความเย็น” แสตนนิส - ผจญพายุดาบ
“อมุษย์ไง พวกเหมันตภูติประจำป่า เงาลางที่เย็นเฉียบ ปีศาจพวกนั้นไง” แซมเวล - ผจญพายุดาบ
มีฉากพวกมันยกกองทัพผีดิบมาฆ่าคนเป็นจำนวนมากที่ยิ่งตอกย้ำความเป็นผู้ร้ายให้กับผู้อ่าน/คนดู
การฆ่าล้างฮาร์ดโฮมซึ่งเพิ่มเข้ามาในซีรีส์
กระทั่งตำนานและคำทำนาย ก็ยังชี้ไปในทางเดียวกันว่าจะต้องมีมหาศึกใหญ่เกิดขึ้น
มาดูตำนานกันก่อน
ตำนานทางเวสเทอรอส: ปัจฉิมวีรบุรุษ(Last Hero) เดินทางเข้าป่าตามหากุมารไพร พรรคพวกล้มตายจนเหลือเขาเพียงผู้เดียว และพอค้นพบเหล่ากุมาร เขาก็ได้รับความช่วยเหลือจนพลิกกลับมามีชัยเหนืออมนุษย์และก่อตั้งหน่วยพิทักษ์ราตรีขึ้น
ตำนานทางอาชชาย: อาชชายตั้งอยู่ทางตะวันออกจนตกแผนที่อย่างเป็นทางการไปแล้วเสียอีก แต่ที่นี่มีเหตุการณ์กลางคืนที่ยาวมากๆ แบบเดียวกับราตรีอนันต์ในเวสเทอรอส อาซอร์ อาฮายพยายามตีดาบขึ้นมาต่อสู้กับความมืดดังกล่าว เขาพยายามตีดาบขึ้นมา 3 หน
- หนแรกใช้เวลาตี 30 วัน 30 คืน แต่พอชุบแข็งในน้ำ มันก็แตกเป็นเสี่ยง
- หนที่สองใช้เวลา 50 วัน 50 คืน เขาจับสิงโตมาแทงดาบเข้าไปเพื่อชุบแข็ง มันก็แตกเช่นกัน
- หนสุดท้ายเขาใช้เวลา 100 วัน 100 คืน และเรียกนิซ่านิซ่าน้องสาวมา สั่งให้เธอเปลือยอก แล้วแทงดาบทะลุหัวใจทั้งเป็น วิญญาณของเธอหลอมรวมเข้ากับดาบ ก่อกำเนิดเป็นไลท์บริงเกอร์ ดาบสีแดงอันเป็นสัญลักษณ์แห่งมหาวีรบุรุษ หอกสมิงชัดๆ
อาซอร์ อาฮายแทงดาบทะลุหัวใจเจี่ยเหมย... เอ้ย นิซ่านิซ่า
ไม่มีใครรู้ว่าทั้งสองตำนานเกี่ยวข้องกันรึเปล่า แต่ขอแทรกเกร็ดเล็กน้อย
GRRM ยืนยันด้วยตัวเอง ว่าโลกในเรื่องนี้ เป็นทรงกลม ประกอบกับ
เมืองอี้ติ (Yi Ti)... เมืองใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวใน The World of Ice and Fire ซึ่งตั้งอยู่ทางเหนือของอาชชาย ปรากฏว่าในเมืองนี้ มี ราตรีอนันต์ (Long Night) เช่นเดียวกับเวสเทอรอส จักรพรรดิ์แห่งอี้ติ สร้างป้อมทั้งห้า(Five Forts)ขึ้นเพื่อป้องกันการรุกรานจาก
สิงโตราตรี(Lion of Night) มันช่างคล้ายผากำแพงกับอมนุษย์เสียนี่กระไร หรือว่าสิงโตราตรีจะเป็นเผ่าเดียวกับอมนุษย์...
ศัตรูที่อาซอร์ อาฮายต่อสู้ด้วย ก็คือสิงโตราตรีนี่แหละ
... แล้วที่บอกว่าอาซอร์ อาฮาย จับสิงโตมาแทงดาบเพื่อชุบแข็ง หรือว่า...?
น้ำเงิน คือป่าผีสิงนอกผากำแพง ส่วนสีเขียว คือป้อมทั้งห้า... ในเมื่อ GRRM ยืนยันแล้วว่าโลกนั้นเป็นทรงกลม หรือว่าทั้ง 2 แห่งนั้นจริงๆ แล้วอาจจะต่อกันขึ้นไปทางเหนือ ทำนองเดียวกับขั้วโลกเหนือของเรา?
...
....
.....
เอาละครับมาดูคำทำนายกันบ้างดีกว่า เมลิแซนเดอร์เชื่อมากๆ ว่าสงครามแต่ก่อนเก่า จะต้องเกิดขึ้นอีกครั้งโดยมีอาซอร์ อาฮายผู้กลับชาติมาเกิด เป็นผู้นำทัพมนุษย์ใหญ่ต่อสู้กับอมนุษย์ กระทั่งคำพูดของตัวละครหลายๆ ตัวไม่ว่าจะจอน สโนว์หรือสแตนนิส ล้วนพูดทำนองว่าอมนุษย์คือบิ๊กบอสของเรื่องนี้กันทั้งนั้น
“ศัตรูตั้งแต่ยุคโบราณ เป็นศัตรูเพียงพวกเดียวที่มีความหมาย” สแตนนิส - ผจญพายุดาบ
“พวกเราเห็นโฉมหน้าศัตรูที่แท้จริงของเรามาแล้ว โฉมหน้าซีดขาวไร้ชีวิตที่มีดวงตาสีฟ้าเรืองรอง” จอน - มังกรร่อนระบำ
และอีกมากมายที่ทำให้ทุกคนคาดว่าต้องมีสงครามระหว่างมนุษย์และอมนุษย์เป็นอย่างแน่แท้ที่สุด
ซึ่ง... สมมุติว่าถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ นวนิยาย/ซีรีส์นี้ก็คงไม่ได้ต่างจากนิยายแฟนตาซีอื่นๆ... อมนุษย์คือผู้ร้าย มนุษย์คือพระเอก มนุษย์ต้องลืมความขัดแย้งและรวมพลังกัน ทั้งเดนี จอน สแตนนิส แลนนิสเตอร์ สตาร์ค ฯลฯ เดนีนำมังกรไฟมาพ่นไฟเผา จอน ทีเรียนอาจจะขี่มังกรที่เหลือกันคนละตัว หรือแบรนอาจจะสิงสักตัวหนึ่ง เกิดมหาศึกครั้งสุดท้ายเพื่อขับไล่อมนุษย์และนำความสงบสุขกลับมาสู่มวลมนุษยชาติ จะชั่วคราวหรือถาวรก็ตามแต่
แต่ทว่า...
“ผมให้สัมภาษณ์มาหลายครั้งแล้วว่าผมอยากให้นิยายของผมคาดเดาไม่ออก”
---
George R.R. Martin ในบทสัมภาษณ์กับ CNN
ก่อนหน้านี้ GRRM มีการฆ่าตัวละครอย่างคาดไม่ถึงไปมากมายหลายคน ซึ่งหลายคนคิดว่าอาจจะเป็นการบังหน้าเบี่ยงเบนความสนใจก็ได้ เพราะคนดูจะพุ่งเป้าไปที่การตายของตัวละครที่ตนชอบ โดยไม่ทันเฉลียวใจการหักมุมของการดำเนินเรื่องในสเกลใหญ่กว่านั้น
นอกจากนั้น เป็นไปได้ว่า GRRM อาจจะอาศัยงานเขียนของโทลคีนเป็นต้นแบบ เพื่อ “ฉีกแนว” ออกมา เช่นบทสัมภาษณ์บทนี้
“การปกครองเป็นเรื่องยาก นี่คงเป็นคำตอบของผมที่มีต่อ(นวนิยาย)ของโทลคีน แม้ผมจะนับถือเขามากแต่ก็มีเรื่องที่ผมอยากหาคำตอบ ลอร์ดออฟเดอะริงส์นำปรัชญาของยุคอัศวินมาใช้เต็มตัว นั่นคือ ถ้าพระราชาเป็นคนดี ดินแดนก็จะเจริญรุ่งเรือง แต่พอเราศึกษาประวัติศาสตร์จริงๆ มันไม่ได้ง่ายแบบนั้น โทลคีนอาจจะบอกว่าอารากอร์นสถาปนาเป็นพระราชาผู้ทรงธรรมและปรีชาสามารถ ครองราชย์อย่างร่มเย็นเป็นร้อยปี แต่โทลคีนไม่ได้คิดโจทย์เหล่านี้ไว้ เช่น นโยบายการเก็บภาษีของอารากอร์นเป็นยังไง? เขายังคงรักษาจำนวนพลทหารและเหล่าทัพไว้อย่างเดิมมั้ย? เขาแก้ปัญหาอุทกภัยหรือปัญหาขาดแคลนอาหารอย่างไร? แล้วออร์คตั้งเยอะตั้งแยะที่เหลืออยู่ล่ะ? ตอบสงครามจบ เซารอนอาจจะหายไปแล้ว แต่ออร์คไม่ได้หายไปด้วย พวกมันยังอาศัยอยู่ในภูเขาอยู่เลย เขาตัดสินใจฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และออกไล่ล่าพวกมันไม่เว้นแม้แต่ทารกรึเปล่า?”
GRRM --- บทสัมภาษณ์กับ Rolling Stone
ผลก็คือ โรเบิร์ตทำอาณาจักรเป็นหนี้เละเทะ ราชบัลลังค์มีแต่หนอนบ่อนไส้ ... และเดเนอริสประสบปัญหามากมายในการครองอ่าวค้าทาส มีคนตายไม่เว้นแต่ละวัน
และยังมีอันนี้
“ผมเลื่อมใสโทลคีนมาก จริงๆ ไม่ได้ล้อเล่น เขามีอิทธิพลต่อผมมาก ลอร์ดออฟเดอะริงส์ที่เขาแต่งเปรียบเหมือนจุดสุดยอดที่นิยายแฟนตาซีทุกเรื่องที่เขียนขึ้นหลังจากนั้นล้วนต้องการปีนป่ายให้ถึง และเป็นต้นแบบของนิยายแฟนตาซีทุกเรื่องในยุคปัจจุบัน แต่มันก็มีหลายๆ อย่าง เช่น คอนเซปต์ของจอมมาร, คนดีสู้กับคนเลว, ธรรมะปะทะอธรรม, หัวข้อเหล่านี้โทลคีนนำมาใช้ได้อย่างไร้ที่ติ แต่พอนักแต่งรุ่นหลังนำมาใช้บ้าง เรื่องราวกลับจะออกเป็นการ์ตูนเกินไปซะงั้น เราไม่จำเป็นต้องมีจอมมารเพิ่มอีกแล้ว ไอ้ของแบบ ‘เอ้า นี่คนดีในชุดขาว ส่วนนี่ผู้ร้ายในชุดดำ’ เราไม่ได้อยากได้อะไรแบบนั้น ผู้ที่ร้ายน่าเกลียดน่ากลัวทำตัวชั่วร้ายแบบนั้น”
GRRM --- บทสัมภาษณ์กับ Assignment X
ในลอร์ดออฟเดอะริงส์ มีเซารอนเป็นจอมมาร ซึ่งมนุษย์ เอลฟ์ และดวาร์ฟต้องรวมตัวกันรบครั้งใหญ่ในตอนท้าย จนได้มาซึ่งชัยชนะและความสงบสุขของมิดเดิ้ลเอิร์ธ ถ้า GRRM จงใจฉีกแนวจากนั้นจริงๆ ละก็ อาจจะแปลว่า A Song of Ice and Fire...
ไม่ใช่ศึกระหว่างดีกับชั่ว และความสงบสุขคง
ไม่ได้มาด้วยการทำสงคราม
หรือว่าอมนุษย์
ไม่ใช่ผู้ร้าย?
ลองมาดูกันซิว่าพวกมันอะไรยังไงบ้าง
- ผิวขาว ตาเรืองรองสีฟ้า
- อมนุษย์ไปไหน ที่นั่นจะหนาว... หรือกลับกัน? ถ้าความหนาวแผ่ไปที่ไหน อมนุษย์ถึงจะไปที่นั่นได้?
- ฆ่าคน... ใช่ ฆ่าคนแน่นอน แต่ไม่ได้ฆ่าดะไปหมด พวกมันไม่ได้จู่โจมคนเถื่อนแต่เพียงต้อนพวกเขาให้อพยพลงใต้ แต่พอหน่วยพิทักษ์ราตรีกรีฑาขึ้นเหนือ อมนุษย์ถึงกับยกทัพใหญ่จู่โจม ฮาร์ดโฮมตามหนังสือ ก็เป็นจุดที่คนเถื่อน “ถอยไป” จากผากำแพง
- สมสู่กับมนุษย์ จากเรื่องเล่าของยายแนน และตำนานพระราชารัตติกาล
- ขโมยเด็ก จากเรื่องเล่าของยายแนน
- นำเด็กไปเปลี่ยนเป็นพวกตัวเอง จากที่เห็นในซีรีส์
- กลัวไฟ ดังนั้นน่าจะกลัวมังกร
- ถ้าสัมผัสศพ ศพนั้นจะกลายเป็นผีดิบ อมนุษย์สร้างผีดิบจำนวนมากมายเหมือนกำลังสร้างกองทัพ สามารถทำผีดิบจากซากสัตว์ได้ด้วย
- มีชีวิต... ตอนแซมแทงมันด้วยแก้วมังกร เราได้เห็นแล้วว่ามันมีเลือด ลุง GRRM เองก็มีกล่าวไว้ว่าพวกมันไม่ตาย แค่แตกต่าง งดงาม เป็นชีวิตอีกประเภทนึง
- ไม่ใช่แค่มีภาษาสื่อสารกันได้ พวกมันยังหัวเราะและกรีดร้องแสดงความเจ็บปวดได้ด้วย
- สามารถสร้างสิ่งต่างๆ ขึ้นจาก
น้ำแข็ง
ข้อสุดท้ายมาร์กไว้ก่อนเดี๋ยวจะมาพูดถึงกันต่อ
รวมๆ แล้วพวกมันไม่ใช่ปีศาจอย่างที่ตัวละครหลายๆ ตัวว่า มันมีปัญญา มีอารมณ์ มีความรู้สึก หรืออาจถึงขั้นมีอารยธรรมเป็นของตัวเองเลยก็ได้ และที่สำคัญคือ มันมีชีวิต มีชีวิตแน่นอนไม่ใช่ซากศพแบบที่ตัวละครหลายๆ คนให้คำจำกัดความ
แถมพวกมันยังสามารถสื่อสารกับมนุษย์ได้ด้วย ดังที่มีตัวอย่างให้เห็นแล้วในกรณีคราสเตอร์ คราสเตอร์เรียกอมนุษย์เป็นเทพเจ้าและบอกว่าเทพเจ้าคุ้มครองเขาอยู่ และเราเรียนรู้ในเวลาต่อมาว่าคราสเตอร์ยกลูกชายให้อมนุษย์ แสดงว่าต้องมีการพูดคุยตกลงกันระหว่างทั้ง 2 ฝ่าย
ในซีรีส์ พวกมันเหมือนจะเอาตัวเด็กไปเปลี่ยนให้เป็นเหมันตภูติ ในหนังสือ เมียคนหนึ่งของคราวเตอร์เรียกอมนุษย์ว่า “พวกลูกชายของคราสเตอร์”...
คราสเตอร์ต้องไม่ใช่คนเดียวที่ทำอย่างนี้แน่ๆ ดินแดนนอกผากำแพงกว้างใหญ่ไพศาลมาก และในหนังสือกล่าวว่ายังมีคนเถื่อนเผ่าอื่นๆ อีกที่เคารพบูชา
เทพหิมะและน้ำแข็ง
นั่นอาจจะเป็น
วิธีขยายพันธุ์ของอมนุษย์กระมัง?
(มีต่อ)
Game of Thrones - White Walker อาจไม่ใช่อย่างที่เราคิด ตำนานวีรบุรุษต่างๆ อาจเล่ากันมาอย่างเกินจริง
แต่ขอจั่วหัวไว้ก่อนเพื่อความแน่ใจ เพราะนี่เป็นทฤษฎีนึงเกี่ยวกับบทสรุปของเรื่องนี้ครับ
= SPOILER =
= SPOILER =
= SPOILER =
= SPOILER =
กระทู้ต้นฉบับ
https://www.reddit.com/r/asoiaf/comments/23p48r/the_true_nature_and_purpose_of_the_others_and_the/
เรียบเรียงเป็นภาษาไทย
http://gameofthronesfansite.com/threads/1363/
แหล่งข้อมูลอื่นๆ
http://awoiaf.westeros.org/
http://art.marcsimonetti.com/
http://edition.cnn.com/2013/06/07/showbiz/tv/game-martin-red-wedding-ew/
http://www.rollingstone.com/tv/news/george-r-r-martin-the-rolling-stone-interview-20140423
http://www.assignmentx.com/2011/int...martin-on-the-future-of-the-franchise-part-2/
https://reddit.com/r/asoiaf/comments/39v11t/spoilers_all_my_own_theory_concerning_the_war_of/
https://www.reddit.com/r/gameofthrones/comments/387qlv/all_spoilers_how_will_game_of_thrones_end/
https://www.reddit.com/r/asoiaf/comments/3au270/lion_of_night_aa_and_yi_ti_spoilers_all/
ทฤษฎีนี้ เราจะมามองอีกแง่มุมหนึ่งเกี่ยวกับตัวร้ายของเรื่อง White Walker และมหาสงครามตามคำทำนาย War of the Dawn
“อมนุษย์ (the Others)” โดย Marc Simonetti
ก่อนอื่นมาดูตัวหลักของทฤษฎีนี้กันก่อน นั่นก็คือ White Walker
เหมันตภูติ (While Walker) คือศัพท์ที่คนเถื่อนใช้
อมนุษย์ (the Others) คือศัพท์ที่ชาวเวสเทอรอสทั่วๆ ไปใช้
ในซีรีส์ลดทอนให้ง่ายลงนิดหน่อยโดยการให้เรียก White Walker เหมือนกันทุกคน
เราได้อ่านและได้รับฟังผ่านตัวละครมากมายว่าอมนุษย์ชั่วร้ายอย่างนั้นอย่างนี้ เป็นปีศาจแบบนี้แบบนั้น
“ปีศาจร้ายที่ถือกำเนิดจากหิมะ น้ำแข็ง และความเย็น” แสตนนิส - ผจญพายุดาบ
“อมุษย์ไง พวกเหมันตภูติประจำป่า เงาลางที่เย็นเฉียบ ปีศาจพวกนั้นไง” แซมเวล - ผจญพายุดาบ
มีฉากพวกมันยกกองทัพผีดิบมาฆ่าคนเป็นจำนวนมากที่ยิ่งตอกย้ำความเป็นผู้ร้ายให้กับผู้อ่าน/คนดู
การฆ่าล้างฮาร์ดโฮมซึ่งเพิ่มเข้ามาในซีรีส์
กระทั่งตำนานและคำทำนาย ก็ยังชี้ไปในทางเดียวกันว่าจะต้องมีมหาศึกใหญ่เกิดขึ้น
มาดูตำนานกันก่อน
ตำนานทางเวสเทอรอส: ปัจฉิมวีรบุรุษ(Last Hero) เดินทางเข้าป่าตามหากุมารไพร พรรคพวกล้มตายจนเหลือเขาเพียงผู้เดียว และพอค้นพบเหล่ากุมาร เขาก็ได้รับความช่วยเหลือจนพลิกกลับมามีชัยเหนืออมนุษย์และก่อตั้งหน่วยพิทักษ์ราตรีขึ้น
ตำนานทางอาชชาย: อาชชายตั้งอยู่ทางตะวันออกจนตกแผนที่อย่างเป็นทางการไปแล้วเสียอีก แต่ที่นี่มีเหตุการณ์กลางคืนที่ยาวมากๆ แบบเดียวกับราตรีอนันต์ในเวสเทอรอส อาซอร์ อาฮายพยายามตีดาบขึ้นมาต่อสู้กับความมืดดังกล่าว เขาพยายามตีดาบขึ้นมา 3 หน
- หนแรกใช้เวลาตี 30 วัน 30 คืน แต่พอชุบแข็งในน้ำ มันก็แตกเป็นเสี่ยง
- หนที่สองใช้เวลา 50 วัน 50 คืน เขาจับสิงโตมาแทงดาบเข้าไปเพื่อชุบแข็ง มันก็แตกเช่นกัน
- หนสุดท้ายเขาใช้เวลา 100 วัน 100 คืน และเรียกนิซ่านิซ่าน้องสาวมา สั่งให้เธอเปลือยอก แล้วแทงดาบทะลุหัวใจทั้งเป็น วิญญาณของเธอหลอมรวมเข้ากับดาบ ก่อกำเนิดเป็นไลท์บริงเกอร์ ดาบสีแดงอันเป็นสัญลักษณ์แห่งมหาวีรบุรุษ หอกสมิงชัดๆ
อาซอร์ อาฮายแทงดาบทะลุหัวใจเจี่ยเหมย... เอ้ย นิซ่านิซ่า
ไม่มีใครรู้ว่าทั้งสองตำนานเกี่ยวข้องกันรึเปล่า แต่ขอแทรกเกร็ดเล็กน้อย GRRM ยืนยันด้วยตัวเอง ว่าโลกในเรื่องนี้ เป็นทรงกลม ประกอบกับเมืองอี้ติ (Yi Ti)... เมืองใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวใน The World of Ice and Fire ซึ่งตั้งอยู่ทางเหนือของอาชชาย ปรากฏว่าในเมืองนี้ มี ราตรีอนันต์ (Long Night) เช่นเดียวกับเวสเทอรอส จักรพรรดิ์แห่งอี้ติ สร้างป้อมทั้งห้า(Five Forts)ขึ้นเพื่อป้องกันการรุกรานจากสิงโตราตรี(Lion of Night) มันช่างคล้ายผากำแพงกับอมนุษย์เสียนี่กระไร หรือว่าสิงโตราตรีจะเป็นเผ่าเดียวกับอมนุษย์... ศัตรูที่อาซอร์ อาฮายต่อสู้ด้วย ก็คือสิงโตราตรีนี่แหละ
... แล้วที่บอกว่าอาซอร์ อาฮาย จับสิงโตมาแทงดาบเพื่อชุบแข็ง หรือว่า...?
น้ำเงิน คือป่าผีสิงนอกผากำแพง ส่วนสีเขียว คือป้อมทั้งห้า... ในเมื่อ GRRM ยืนยันแล้วว่าโลกนั้นเป็นทรงกลม หรือว่าทั้ง 2 แห่งนั้นจริงๆ แล้วอาจจะต่อกันขึ้นไปทางเหนือ ทำนองเดียวกับขั้วโลกเหนือของเรา?
...
....
.....
เอาละครับมาดูคำทำนายกันบ้างดีกว่า เมลิแซนเดอร์เชื่อมากๆ ว่าสงครามแต่ก่อนเก่า จะต้องเกิดขึ้นอีกครั้งโดยมีอาซอร์ อาฮายผู้กลับชาติมาเกิด เป็นผู้นำทัพมนุษย์ใหญ่ต่อสู้กับอมนุษย์ กระทั่งคำพูดของตัวละครหลายๆ ตัวไม่ว่าจะจอน สโนว์หรือสแตนนิส ล้วนพูดทำนองว่าอมนุษย์คือบิ๊กบอสของเรื่องนี้กันทั้งนั้น
“ศัตรูตั้งแต่ยุคโบราณ เป็นศัตรูเพียงพวกเดียวที่มีความหมาย” สแตนนิส - ผจญพายุดาบ
“พวกเราเห็นโฉมหน้าศัตรูที่แท้จริงของเรามาแล้ว โฉมหน้าซีดขาวไร้ชีวิตที่มีดวงตาสีฟ้าเรืองรอง” จอน - มังกรร่อนระบำ
และอีกมากมายที่ทำให้ทุกคนคาดว่าต้องมีสงครามระหว่างมนุษย์และอมนุษย์เป็นอย่างแน่แท้ที่สุด
ซึ่ง... สมมุติว่าถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ นวนิยาย/ซีรีส์นี้ก็คงไม่ได้ต่างจากนิยายแฟนตาซีอื่นๆ... อมนุษย์คือผู้ร้าย มนุษย์คือพระเอก มนุษย์ต้องลืมความขัดแย้งและรวมพลังกัน ทั้งเดนี จอน สแตนนิส แลนนิสเตอร์ สตาร์ค ฯลฯ เดนีนำมังกรไฟมาพ่นไฟเผา จอน ทีเรียนอาจจะขี่มังกรที่เหลือกันคนละตัว หรือแบรนอาจจะสิงสักตัวหนึ่ง เกิดมหาศึกครั้งสุดท้ายเพื่อขับไล่อมนุษย์และนำความสงบสุขกลับมาสู่มวลมนุษยชาติ จะชั่วคราวหรือถาวรก็ตามแต่
แต่ทว่า...
“ผมให้สัมภาษณ์มาหลายครั้งแล้วว่าผมอยากให้นิยายของผมคาดเดาไม่ออก”
--- George R.R. Martin ในบทสัมภาษณ์กับ CNN
ก่อนหน้านี้ GRRM มีการฆ่าตัวละครอย่างคาดไม่ถึงไปมากมายหลายคน ซึ่งหลายคนคิดว่าอาจจะเป็นการบังหน้าเบี่ยงเบนความสนใจก็ได้ เพราะคนดูจะพุ่งเป้าไปที่การตายของตัวละครที่ตนชอบ โดยไม่ทันเฉลียวใจการหักมุมของการดำเนินเรื่องในสเกลใหญ่กว่านั้น
นอกจากนั้น เป็นไปได้ว่า GRRM อาจจะอาศัยงานเขียนของโทลคีนเป็นต้นแบบ เพื่อ “ฉีกแนว” ออกมา เช่นบทสัมภาษณ์บทนี้
“การปกครองเป็นเรื่องยาก นี่คงเป็นคำตอบของผมที่มีต่อ(นวนิยาย)ของโทลคีน แม้ผมจะนับถือเขามากแต่ก็มีเรื่องที่ผมอยากหาคำตอบ ลอร์ดออฟเดอะริงส์นำปรัชญาของยุคอัศวินมาใช้เต็มตัว นั่นคือ ถ้าพระราชาเป็นคนดี ดินแดนก็จะเจริญรุ่งเรือง แต่พอเราศึกษาประวัติศาสตร์จริงๆ มันไม่ได้ง่ายแบบนั้น โทลคีนอาจจะบอกว่าอารากอร์นสถาปนาเป็นพระราชาผู้ทรงธรรมและปรีชาสามารถ ครองราชย์อย่างร่มเย็นเป็นร้อยปี แต่โทลคีนไม่ได้คิดโจทย์เหล่านี้ไว้ เช่น นโยบายการเก็บภาษีของอารากอร์นเป็นยังไง? เขายังคงรักษาจำนวนพลทหารและเหล่าทัพไว้อย่างเดิมมั้ย? เขาแก้ปัญหาอุทกภัยหรือปัญหาขาดแคลนอาหารอย่างไร? แล้วออร์คตั้งเยอะตั้งแยะที่เหลืออยู่ล่ะ? ตอบสงครามจบ เซารอนอาจจะหายไปแล้ว แต่ออร์คไม่ได้หายไปด้วย พวกมันยังอาศัยอยู่ในภูเขาอยู่เลย เขาตัดสินใจฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และออกไล่ล่าพวกมันไม่เว้นแม้แต่ทารกรึเปล่า?”
GRRM --- บทสัมภาษณ์กับ Rolling Stone
ผลก็คือ โรเบิร์ตทำอาณาจักรเป็นหนี้เละเทะ ราชบัลลังค์มีแต่หนอนบ่อนไส้ ... และเดเนอริสประสบปัญหามากมายในการครองอ่าวค้าทาส มีคนตายไม่เว้นแต่ละวัน
และยังมีอันนี้
“ผมเลื่อมใสโทลคีนมาก จริงๆ ไม่ได้ล้อเล่น เขามีอิทธิพลต่อผมมาก ลอร์ดออฟเดอะริงส์ที่เขาแต่งเปรียบเหมือนจุดสุดยอดที่นิยายแฟนตาซีทุกเรื่องที่เขียนขึ้นหลังจากนั้นล้วนต้องการปีนป่ายให้ถึง และเป็นต้นแบบของนิยายแฟนตาซีทุกเรื่องในยุคปัจจุบัน แต่มันก็มีหลายๆ อย่าง เช่น คอนเซปต์ของจอมมาร, คนดีสู้กับคนเลว, ธรรมะปะทะอธรรม, หัวข้อเหล่านี้โทลคีนนำมาใช้ได้อย่างไร้ที่ติ แต่พอนักแต่งรุ่นหลังนำมาใช้บ้าง เรื่องราวกลับจะออกเป็นการ์ตูนเกินไปซะงั้น เราไม่จำเป็นต้องมีจอมมารเพิ่มอีกแล้ว ไอ้ของแบบ ‘เอ้า นี่คนดีในชุดขาว ส่วนนี่ผู้ร้ายในชุดดำ’ เราไม่ได้อยากได้อะไรแบบนั้น ผู้ที่ร้ายน่าเกลียดน่ากลัวทำตัวชั่วร้ายแบบนั้น”
GRRM --- บทสัมภาษณ์กับ Assignment X
ในลอร์ดออฟเดอะริงส์ มีเซารอนเป็นจอมมาร ซึ่งมนุษย์ เอลฟ์ และดวาร์ฟต้องรวมตัวกันรบครั้งใหญ่ในตอนท้าย จนได้มาซึ่งชัยชนะและความสงบสุขของมิดเดิ้ลเอิร์ธ ถ้า GRRM จงใจฉีกแนวจากนั้นจริงๆ ละก็ อาจจะแปลว่า A Song of Ice and Fire... ไม่ใช่ศึกระหว่างดีกับชั่ว และความสงบสุขคงไม่ได้มาด้วยการทำสงคราม
หรือว่าอมนุษย์ ไม่ใช่ผู้ร้าย?
ลองมาดูกันซิว่าพวกมันอะไรยังไงบ้าง
- ผิวขาว ตาเรืองรองสีฟ้า
- อมนุษย์ไปไหน ที่นั่นจะหนาว... หรือกลับกัน? ถ้าความหนาวแผ่ไปที่ไหน อมนุษย์ถึงจะไปที่นั่นได้?
- ฆ่าคน... ใช่ ฆ่าคนแน่นอน แต่ไม่ได้ฆ่าดะไปหมด พวกมันไม่ได้จู่โจมคนเถื่อนแต่เพียงต้อนพวกเขาให้อพยพลงใต้ แต่พอหน่วยพิทักษ์ราตรีกรีฑาขึ้นเหนือ อมนุษย์ถึงกับยกทัพใหญ่จู่โจม ฮาร์ดโฮมตามหนังสือ ก็เป็นจุดที่คนเถื่อน “ถอยไป” จากผากำแพง
- สมสู่กับมนุษย์ จากเรื่องเล่าของยายแนน และตำนานพระราชารัตติกาล
- ขโมยเด็ก จากเรื่องเล่าของยายแนน
- นำเด็กไปเปลี่ยนเป็นพวกตัวเอง จากที่เห็นในซีรีส์
- กลัวไฟ ดังนั้นน่าจะกลัวมังกร
- ถ้าสัมผัสศพ ศพนั้นจะกลายเป็นผีดิบ อมนุษย์สร้างผีดิบจำนวนมากมายเหมือนกำลังสร้างกองทัพ สามารถทำผีดิบจากซากสัตว์ได้ด้วย
- มีชีวิต... ตอนแซมแทงมันด้วยแก้วมังกร เราได้เห็นแล้วว่ามันมีเลือด ลุง GRRM เองก็มีกล่าวไว้ว่าพวกมันไม่ตาย แค่แตกต่าง งดงาม เป็นชีวิตอีกประเภทนึง
- ไม่ใช่แค่มีภาษาสื่อสารกันได้ พวกมันยังหัวเราะและกรีดร้องแสดงความเจ็บปวดได้ด้วย
- สามารถสร้างสิ่งต่างๆ ขึ้นจากน้ำแข็ง
ข้อสุดท้ายมาร์กไว้ก่อนเดี๋ยวจะมาพูดถึงกันต่อ
รวมๆ แล้วพวกมันไม่ใช่ปีศาจอย่างที่ตัวละครหลายๆ ตัวว่า มันมีปัญญา มีอารมณ์ มีความรู้สึก หรืออาจถึงขั้นมีอารยธรรมเป็นของตัวเองเลยก็ได้ และที่สำคัญคือ มันมีชีวิต มีชีวิตแน่นอนไม่ใช่ซากศพแบบที่ตัวละครหลายๆ คนให้คำจำกัดความ
แถมพวกมันยังสามารถสื่อสารกับมนุษย์ได้ด้วย ดังที่มีตัวอย่างให้เห็นแล้วในกรณีคราสเตอร์ คราสเตอร์เรียกอมนุษย์เป็นเทพเจ้าและบอกว่าเทพเจ้าคุ้มครองเขาอยู่ และเราเรียนรู้ในเวลาต่อมาว่าคราสเตอร์ยกลูกชายให้อมนุษย์ แสดงว่าต้องมีการพูดคุยตกลงกันระหว่างทั้ง 2 ฝ่าย
ในซีรีส์ พวกมันเหมือนจะเอาตัวเด็กไปเปลี่ยนให้เป็นเหมันตภูติ ในหนังสือ เมียคนหนึ่งของคราวเตอร์เรียกอมนุษย์ว่า “พวกลูกชายของคราสเตอร์”...
คราสเตอร์ต้องไม่ใช่คนเดียวที่ทำอย่างนี้แน่ๆ ดินแดนนอกผากำแพงกว้างใหญ่ไพศาลมาก และในหนังสือกล่าวว่ายังมีคนเถื่อนเผ่าอื่นๆ อีกที่เคารพบูชาเทพหิมะและน้ำแข็ง
นั่นอาจจะเป็นวิธีขยายพันธุ์ของอมนุษย์กระมัง?
(มีต่อ)