# 11 เกร็ดควรรู้ # ก่อนดู ภาพยนตร์แอนิเมชั่น The Lord of the Rings: The War of the Rohirrim (by Filmaneo)

-
เดอะ ลอร์ด ออฟ เดอะ ริงส์ ศึกแห่งโรฮิริม (หรือโรเฮียร์ริม ก็ไม่รู้ละ) คือภาพยนตร์อนิเมชั่น แนวแฟนตาซี
ที่กำกับโดย นายเคนจิ คามิยามะ (Ghost in the Shell: Stand Alone Complex, Eden of the East)
สตรีชื่อ ฟิลิปปา "โบเยนส์" (Philippa Boyens) ทั้งอำนวยการผลิต และช่วยคิดเรื่องราว
สำหรับหนังที่แปะ ชื่อคนเขียนบท ไว้ตั้ง 4 ราย ได้แก่ เจฟฟรีย์ แอดดิส, วิล แมทธิวส์, ฟีบี้ กิตตินส์, และอาร์ตี้ ปาปาเจอร์จิอู
-
ตัวภาพยนตร์ ถูกประกาศว่าจะสร้าง, ตั้งแต่เมื่อ เดือนมิถุนายน ค.ศ. 2021
กระบวนการ ปลุกปั้นพัฒนา, ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว
เพื่อป้องกัน ไม่ให้สตูดิโอ 'นิวไลน์', สูญเสียลิขสิทธิ์ การดัดแปลงภาพยนตร์จาก นวนิยายของโทลคีน
-
-
-
[1] โบเยนส์เล่าว่า แนวคิดที่จะผลิต, เรื่องราวเกี่ยวกับ 
อภินิหารแหวนครองพิภพ (Lord of the Rings) เป็นอนิเม, ถูกหยิบมาหารือกัน ในหมู่ผู้สร้าง 
ก่อนหน้าจะ ตัดสินใจ ลงมือทำจริงจัง, นานหลายปี
 
-
-
และสิ่งสำคัญ สำหรับโบเยนส์, คือการมองหา สไตล์ของภาพ ที่เหมาะสม
เนื่องจาก เธอต้องการ สิ่งที่ยังดูสมจริง, แต่ไม่รู้สึกแปลกแยก 
จากตัวหนังไตรภาค คนแสดง ของปีเตอร์ แจ็คสัน, มากเกินไป
-
-
-
[2] มีการเสนอว่า ไอเดียเกี่ยวกับเรื่องราว ของภาพยนตร์อนิเมะเรื่องแรกซึ่งอิงจาก นิยายโทลคีน 
ควรจะเอา แบบนั้นดี หรือแบบโน้นดี, เพียบเลยละ
แต่โบเยนส์ ยืนกรานว่า, ควรหยิบ "อาณาจักรโรฮัน" มาเล่น 
เนื่องจาก เธอสัมผัสได้ ว่ามันใช่, และเป็นองค์ประกอบที่ ผู้เคยดูหนัง ของแจ็คสัน คุ้นเคยกันอยู่
-
-
-
[3] เหตุการณ์ใน The War of the Rohirrim, ประจำ ณ ยุคที่ 3 ของมัชฌิมโลก (มิดเดิลเอิร์ธ)
เกิดขึ้น 183 ปี, ก่อนหน้าภาพยนตร์ไตรภาค The Lord of the Rings
ว่าด้วย เฮล์ม แฮมเมอร์แฮนด์ (Helm Hammerhand) กษัตริย์โรฮัน ในตำนาน, และครอบครัว ของพระองค์ 
กับวิบากกรรม ที่พวกเขา ต้องประสบ, เพื่อปกป้อง อาณาจักรของตนจาก 
กองทัพดันเลนดิง (Dunlending) ของชนชาว ดันแลนด์ (Dunland), อันดินแดนตั้งอยู่ ใกล้กับโรฮัน
 
-
-
-
[4] ยุคที่ 3 ของมัชฌิมโลก, คือหนึ่งใน 4 ยุค ซึ่งเจ.อาร์.อาร์.โทลคีน กำหนดไว้แก่ มหากาพย์ของตน
โดยมันเริ่มต้น ตั้งแต่ยัง "ไม่มีโลก" เสียด้วยซ้ำ
เขาระบุว่า องค์อิลูวาทาร์ (Ilúvatar) พระเจ้าสูงสุดเพียงหนึ่งเดียว, เหนี่ยวนำให้ทวยเทพ ประกอบคีตการ (เล่นดนตรี)
แล้วใช้มัน กำหนดทิศทางประวัติศาสตร์ ประจำอาณาเขตที่เหล่า 'บุตรของพระเจ้า' จะอาศัย
-
เกณฑ์วัด "ยุคแรก" ของมัชฌิมโลก จากงานต้นฉบับ ของโทลคีน, ค่อนข้างคลุมเครือ
แต่เชื่อว่า ครอบคลุมเวลา ประมาณ 600 ปี
ยุคที่สอง ยาวราว 3,500 ปี ส่วนยุคที่สาม คือแถว ๆ 3,000 ปี
ยุคสี่เริ่มต้น เมื่อ The Lord of the Rings จบ, และรายละเอียด เกี่ยวกับมัน มีไม่มากนัก
-
-
-
[5] สงครามแห่งโรฮิร์ริม จะอิงจากข้อมูล ที่ประจำ ณ ภาคผนวก (Appendix A), ของนิยาย LOTR
ซึ่งลงรายละเอียด เกี่ยวกับประวัติของ, ผู้ปกครองโรฮัน
โบเยนส์อยาก หลีกเลี่ยงการ นำจอมมาร 'เซารอน' และแหวนเอก, มาเล่นจริงจัง
แต่ใช่ว่า จะถึงขั้น, ละเลยไม่แยแส แม้สักนิด
-
-
-
[6] ในภาคผนวก ส่วนดังกล่าว, ผู้อ่านจะได้เรียนรู้
เกี่ยวกับ เฮล์ม แฮมเมอร์แฮนด์, และเหล่าบุตรทั้ง 3 ของพระองค์ 
อันได้แก่ โอรสอย่าง ฮามา (Háma), ฮาเลธ (Haleth), กับ "ธิดาของเฮล์ม" (Helm's daughter)
ซึ่งปรากฏว่าโทลคีน, เปล่าตั้งชื่อ หรือแจกบทให้ ลูกสาวของเฮล์มผู้นี้
จึงเป็นโอกาสดี ที่ผู้ผลิตหนัง จะหยิบหล่อนมา เป็นตัวละครนำ, เพราะทำอะไรได้ โดยอิสระสูง

-
-
[7] คนทำหนัง ถือวิสาสะ ตั้งชื่อธิดาของเฮล์ม, ว่า "เฮร่า" (Hèra)
ผู้กำกับคามิยามะ อธิบายว่า เฮราเป็นทอมบอย หญิงสาวที่ดุ, แต่ก็มีส่วนเปราะบาง 
และจะได้เติบโต พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ ในฐานะตัวละคร, ระหว่างพยายาม ข้ามผ่านชีวิต ในช่วงสงคราม
-
ด้านโบเยนส์ ชี้แจงว่า, เราไม่ต้องการ ให้เฮราเป็นแค่ เจ้าหญิงนักรบเฉย ๆ 
เลยมองหา แรงบันดาลใจจาก ประวัติศาสตร์จริง ๆ (เช่นเดียวกับที่ โทลคีนมักทำ) 
แล้วประทับใจกับ เอเทลเฟลด (Æthelflæd) เลดี้แห่งเมอร์เซีย และธิดาของ, พระเจ้าอัลเฟรดมหาราช (Alfred the Great)
โดยเอเทลเฟลด เชื้อไม่ทิ้งแถว, เป็นยอดนารี ที่ปกครองเมอร์เซีย ณ ช่วงเวลาซึ่งพวกไวกิ้ง บุกอังกฤษ
-
-
-
[8] ชนวนเหตุของสงคราม ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ตามต้นฉบับโทลคีน, เกิดเมื่อเฟรกา (Freca)
บุรุษผู้มั่งคั่ง ทรงอำนาจ, ครอบครอง ที่ดินกว้างใหญ่
และอ้างว่า มีเชื้อสาย เฟรวีน (Fréawine = กษัตริย์โรฮันในอดีต, ผู้ลือกันว่า พระองค์ก็มีเลือดของ ดันเลนดิงอยู่มาก)
ทำการ สู่ขอเฮร่า, ให้สมรสกับวูฟ (Wulf) ลูกชายของเขา
 
-
-
เฮล์มทักว่า เฟรกา อ้วนขึ้นนา, เฟรกาเลย หยามเฮล์มว่า ท่านก็แก่งั่กละ (อะไรประมาณนั้น)
เฟรกาแสดงความ ไม่รู้ที่ต่ำที่สูง ชัดเจน, เฮล์มจึงพาเฟรกา ออกไปข้างนอก
ไล่ทุกคนไปห่าง ๆ, ใช้หมัด อัดเฟรกา จนหมอบราบคาบแก้ว แล้วก็ตาย หลังจากนั้นไม่นาน
ลือกันว่า พระองค์ได้ฉายา พระหัตถ์ค้อน (แฮมเมอร์แฮนด์), เพราะใช้มือเปล่า ฆ่าเฟรกาเนี่ยแหละ
-
-
-
[9] คามิยามะให้ความสำคัญ ต่องานออกแบบ ตัวละคร
เป้าหมายของเขาคือ ต้องการความสมจริง มากสุด, เท่าที่เป็นไปได้
ขณะที่ไม่ทิ้ง ข้อได้เปรียบ (เอกลักษณ์) ของงานสไตล์อนิเมะ 
-
ตัวอย่างเช่น 1 ในตัวร้ายหลัก อย่างวูฟ, บุตรแห่งเฟรกา
คามิยามะอ้างว่า พวกทีมงานสตรี ต่างบอกว่าหมอนี่หล่อ, เป็นเสียงเดียวกัน
ซึ่งตรงกับ ความตั้งใจในการ สร้างตัวละคร, ให้หลงเหลือเสน่ห์ น่าจ้องมอง
"เพราะเขาจะทำ เรื่องที่เลวร้ายมาก, ดังนั้นอย่างน้อย ก็ควรหน้าตาดี"
 
-
-
-
[10] สาวกมิดเดิลเอิร์ธ (ต่างประเทศ) บางคน, กังวลเรื่อง ความออกทะเล (ไม่ซื่อสัตย์ต่อ ต้นฉบับของโทลคีน)
ตั้งแต่เห็นภาพ มูมาคิล (Mûmakil), สัตว์ขนาดมหึมา อันหน้าตาคล้าย คชสาร
เพราะเดรัจฉาน ชนิดดังกล่าว ควรอาศัยอยู่ใน 'ฮาราด' (Harad) 
ที่ตั้งอยู่ไกล ๆ, เลยจากอาณาจักร และดินแดนทางใต้ แบบ 'กอนดอร์' กับ 'มอร์ดอร์' ลงไปอีก
-
โบเยนส์ยอมรับว่า 'ภาคผนวก' เปล่ากล่าวถึง กองกำลังจากฮาราด, โดยชัดเจน ในเรื่องราวนี้
แต่เรา สามารถอนุมาน ว่าพวกเขา, มีส่วนเกี่ยวข้อง กับศึกแห่งโรฮิริม
เนื่องจากโทลคีน กล่าวถึง (ศัตรูของกอนดอร์), ที่ถ่อมา เพื่อช่วยพวกดันเลนดิง 
และในภาคผนวก ส่วนอื่น ๆ, โทลคีนระบุว่า 
ฮาราดเป็น 1 ใน (ศัตรูของกอนดอร์), ณ ช่วงเวลาดังกล่าว
-
-
-
[11] ระหว่างปลุกปั้น พัฒนาเนื้อหา, ทีมเขียนบท ตัดสินใจว่า
ควรมีผู้บรรยาย (narrator) มาใช้เสียง ช่วยบอกเล่าเรื่องราว อธิบายบริบทต่าง ๆ, ให้เหมือน คนเล่านิทาน
ตัวละคร เอโอวีน (Éowyn) จาก The Lord of the Rings, คือผู้ถูกเลือก
มิแรนดา ออตโท (Miranda Otto) นักแสดงที่เล่นเป็น เอโอวีน
จึงกลับมา เกี่ยวข้อง, เพื่อให้เสียงพากย์ (ภาษาต่างประเทศ) ด้วย
-
-
ที่มาข้อมูลtheoneringslashfilmtolkiengateway
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่