ผลการศึกษาชี้ว่าชาวอเมริกัน 1 ใน 3 นอนหลับไม่เพียงพอ
ผู้เชี่ยวชาญกระตุ้นให้ชาวอเมริกันปรับวิถีชีวิตเพื่อให้นอนหลับได้อย่างน้อย 7 ชั่วโมงต่อคืน
รายงานประจำสัปดาห์เรื่องการเจ็บป่วยและการเสียชีวิต (Morbidity and Mortality) ของ CDC ชี้ว่าการศึกษานี้ถือเป็นการศึกษาครั้งเเรกที่บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับระยะเวลาการนอนหลับของคนอเมริกันในทั้ง 50 รัฐและในกรุงวอชิงตันดีซี
คุณ Waynes Giles ผู้อำนวยฝ่ายสุขภาพประชากรแห่งสำนักงาน CDC กล่าวว่า ในภาพรวมทั้งประเทศถือว่าชาวอเมริกันนอนหลับไม่เพียงพอ เขากล่าวว่าการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตจะเป็นวิธีที่ช่วยให้คนอเมริกันนอนหลับเพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นการเข้านอนพร้อมๆ กันของสมาชิกในครอบครัว การตื่นนอนพร้อมๆ กันในตอนเช้า ตลอดจนการปิดหรือการห้ามมีเครื่องรับโทรทัศน์ คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือในห้องนอน
สมาคม American Academy of Sleep Medicine and the Sleep Research Society รายงานว่าประชากรวัยผู้ใหญ่อายุตั้งเเต่ 18 – 60 ปี ควรนอนอย่างน้อย 7 ชั่วโมงต่อคืน
การนอนน้อยกว่า 7 ชั่วโมงอาจะเพิ่มความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพหลายอย่าง อาทิ โรคอ้วน เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ เส้นเลือดในสมองอุดตันหรือแตก และความเครียดทางจิตใจ
สำนักงาน CDC ชี้ว่านิสัยการนอนของคนอเมริกันแตกต่างกันไปแล้วแต่สภาพทางภูมิศาสตร์ เชื้อสาย เผ่าพันธุ์ สถานภาพการแต่งงานและการมีงานทำ
คนอเมริกันชนเผ่าในฮาวายและชาวเกาะแปซิฟิกบอกว่านอนน้อยที่สุด โดยเเค่ 54 เปอร์เซ็นต์ชี้ว่านอนนาน 7 ชั่วโมงต่อคืน ส่วนชายอเมริกันเชื้อสายอเมริกาใต้และอเมริกากลางราว 67 เปอร์เซ็นต์นอนนาน 7 ชั่วโมงตามข้อเเนะนำ
รัฐฮาวายมีประชากรวัยผู้ใหญ่จำนวนน้อยที่นอนหลับเพียงพอ ในขณะที่ 72 เปอร์เซ็นต์ของชาวอเมริกันในรัฐดาโกต้าชี้ว่านอนหลับเพียงพอ
สถานภาพด้านการงานก็มีผลกระทบต่อจำนวนชั่วโมงของการนอนหลับ ทางสำนักงาน CDC พบว่ามีคนอเมริกันที่ไม่สามารถทำงานได้ หรือไม่มีงานทำ ราว 51-60 เปอร์เซ็นต์ได้นอนหลับอย่างเพียงพอ เทียบกับ 65 เปอร์เซ็นต์ของชาวอเมริกันที่มีงานทำแต่นอนหลับไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
นอกจากนี้ ผลการศึกษาของสำนักงาน CDC ยังพบด้วยว่า สถานภาพของการแต่งงานก็มีผลต่อการนอนหลับด้วย โดยคนที่อยู่ในสถานภาพแต่งงาน 67 เปอร์เซ็นต์ของผู้เข้าร่วมการสำรวจทั้งหมดบอกว่าได้นอนหลับอย่างเพียงพอ เทียบกับ 62 เปอร์เซ็นต์ของคนที่ไม่เคยเเต่งงานเลย และ 56 เปอร์เซ็นต์ของคนที่หย่าร้าง คู่สมรสเสียชีวิตหรือแยกกันอยู่
ในขณะที่คนอเมริกันจำนวนมากนอนหลับไม่เพียงพอ ผลการศึกษาเมื่อปีค.ศ. 2009 เกี่ยวกับลักษณะการนอนหลับของคนทั่วโลก ที่จัดทำโดยองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organization for Economic Cooperation and Development) หรือ OECD ชี้ว่า มีเฉพาะชาวฝรั่งเศสเท่านั้นที่นอนหลับมากชั่วโมงกว่าชาวอเมริกัน
ส่วนประเทศที่คนนอนหลับน้อยมากที่สุดคือ เกาหลีใต้
(เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน)
http://www.voathai.com/content/sleep-study-tk/3212361.html
ทุกท่านนอนวันละ กี่ ชม. ????
ผลการศึกษาชี้ว่าชาวอเมริกัน 1 ใน 3 นอนหลับไม่เพียงพอ
ผู้เชี่ยวชาญกระตุ้นให้ชาวอเมริกันปรับวิถีชีวิตเพื่อให้นอนหลับได้อย่างน้อย 7 ชั่วโมงต่อคืน
รายงานประจำสัปดาห์เรื่องการเจ็บป่วยและการเสียชีวิต (Morbidity and Mortality) ของ CDC ชี้ว่าการศึกษานี้ถือเป็นการศึกษาครั้งเเรกที่บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับระยะเวลาการนอนหลับของคนอเมริกันในทั้ง 50 รัฐและในกรุงวอชิงตันดีซี
คุณ Waynes Giles ผู้อำนวยฝ่ายสุขภาพประชากรแห่งสำนักงาน CDC กล่าวว่า ในภาพรวมทั้งประเทศถือว่าชาวอเมริกันนอนหลับไม่เพียงพอ เขากล่าวว่าการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตจะเป็นวิธีที่ช่วยให้คนอเมริกันนอนหลับเพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นการเข้านอนพร้อมๆ กันของสมาชิกในครอบครัว การตื่นนอนพร้อมๆ กันในตอนเช้า ตลอดจนการปิดหรือการห้ามมีเครื่องรับโทรทัศน์ คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือในห้องนอน
สมาคม American Academy of Sleep Medicine and the Sleep Research Society รายงานว่าประชากรวัยผู้ใหญ่อายุตั้งเเต่ 18 – 60 ปี ควรนอนอย่างน้อย 7 ชั่วโมงต่อคืน
การนอนน้อยกว่า 7 ชั่วโมงอาจะเพิ่มความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพหลายอย่าง อาทิ โรคอ้วน เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ เส้นเลือดในสมองอุดตันหรือแตก และความเครียดทางจิตใจ
สำนักงาน CDC ชี้ว่านิสัยการนอนของคนอเมริกันแตกต่างกันไปแล้วแต่สภาพทางภูมิศาสตร์ เชื้อสาย เผ่าพันธุ์ สถานภาพการแต่งงานและการมีงานทำ
คนอเมริกันชนเผ่าในฮาวายและชาวเกาะแปซิฟิกบอกว่านอนน้อยที่สุด โดยเเค่ 54 เปอร์เซ็นต์ชี้ว่านอนนาน 7 ชั่วโมงต่อคืน ส่วนชายอเมริกันเชื้อสายอเมริกาใต้และอเมริกากลางราว 67 เปอร์เซ็นต์นอนนาน 7 ชั่วโมงตามข้อเเนะนำ
รัฐฮาวายมีประชากรวัยผู้ใหญ่จำนวนน้อยที่นอนหลับเพียงพอ ในขณะที่ 72 เปอร์เซ็นต์ของชาวอเมริกันในรัฐดาโกต้าชี้ว่านอนหลับเพียงพอ
สถานภาพด้านการงานก็มีผลกระทบต่อจำนวนชั่วโมงของการนอนหลับ ทางสำนักงาน CDC พบว่ามีคนอเมริกันที่ไม่สามารถทำงานได้ หรือไม่มีงานทำ ราว 51-60 เปอร์เซ็นต์ได้นอนหลับอย่างเพียงพอ เทียบกับ 65 เปอร์เซ็นต์ของชาวอเมริกันที่มีงานทำแต่นอนหลับไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
นอกจากนี้ ผลการศึกษาของสำนักงาน CDC ยังพบด้วยว่า สถานภาพของการแต่งงานก็มีผลต่อการนอนหลับด้วย โดยคนที่อยู่ในสถานภาพแต่งงาน 67 เปอร์เซ็นต์ของผู้เข้าร่วมการสำรวจทั้งหมดบอกว่าได้นอนหลับอย่างเพียงพอ เทียบกับ 62 เปอร์เซ็นต์ของคนที่ไม่เคยเเต่งงานเลย และ 56 เปอร์เซ็นต์ของคนที่หย่าร้าง คู่สมรสเสียชีวิตหรือแยกกันอยู่
ในขณะที่คนอเมริกันจำนวนมากนอนหลับไม่เพียงพอ ผลการศึกษาเมื่อปีค.ศ. 2009 เกี่ยวกับลักษณะการนอนหลับของคนทั่วโลก ที่จัดทำโดยองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organization for Economic Cooperation and Development) หรือ OECD ชี้ว่า มีเฉพาะชาวฝรั่งเศสเท่านั้นที่นอนหลับมากชั่วโมงกว่าชาวอเมริกัน
ส่วนประเทศที่คนนอนหลับน้อยมากที่สุดคือ เกาหลีใต้
(เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน)
http://www.voathai.com/content/sleep-study-tk/3212361.html