จขกท เขียนขึ้นมาเพื่อแชร์ประสบการณ์ ซึ่งทำทุกอย่างเสร็จภายใน 3 วัน บอกเลยว่าเหนื่อยและเร่งรีบมาก เสร็จแล้วถึงกับเป็นไข้กันเลยทีเดียว ซึ่งต้องทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ค่ะ
1. ขอใบรับรองโสดของฝ่ายชายที่สถานทูตอิตาลี่ ประจำประเทศไทย
2. นำใบรับรองโสดไปรับรองที่กรมการกงสุล แจ้งวัฒนะ
3. จดทะเบียนสมรส และนำใบ คร. 2 ไปรับรองที่กรมการกงสุล แจ้งวัฒนะ
4. แปลใบ คร. 2 ที่ได้รับรองแล้วจากกรมการกงสุล
5. นำเอกสารไปยื่นที่สถานทูต
6. ขอวีซ่าติดตามคู่สมรส
ภารกิจวันแรก คือ ฝ่ายชายและฝ่ายหญิงต้องไปยื่นคำร้องขอใบรับรองโสดที่สถานทูติอิตาลี่ด้วยตนเองซึ่งต้องทำการนัดก่อน ผ่านทางเว็บไซต์ของสถานทูต บอกเลยนะคะว่าจองยากมาก ทางเว็บไซต์จะเปิดให้จองแค่ช่วงเวลาเที่ยงคืนของประเทศอิตาลี่ ซึ่งตอนที่ จขกท และแฟนจอง เวลาตรงกับเวลาประเทศไทย คือ หกโมงเช้า เราต้องตื่นกันตั้งแต่ตีห้าครึ่งทุกวัน วันที่สามถึงจองได้ค่ะ ถ้าอยากทำทุกอย่างเสร็จภายใน 1 อาทิตย์แนะนำให้จอง วันจันทร์ อังคาร พุธ จะได้ไม่ติด เสาร์ อาทิตย์ค่ะ สำหรับ จขกท จองได้วันพุธค่ะ ซึ่งเป็นอะไรที่ท้าทายมากเพราะต้องทำให้เสร็จภายในวันศุกร์ (หรือถ้าจองไม่ได้จริงๆ สามารถโทรไปจองกับสถานทูตได้เลยค่ะ ทางเจ้าหน้าที่จะเช็ควันที่ว่างให้แล้วใส่ชื่อเราพ่วงท้ายลงไป)
เอกสารที่ต้องใช้ในการยื่นคำร้อง คือ
-พาสปอร์ตของทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง
- ทะเบียนบ้านของฝ่ายชาย
- หนังสือรับรองเงินเดือนฝ่ายชาย
- หนังสือรับรองโสดของฝ่ายชาย ที่ขอมาจาก comune ที่อิตาลี่ (ของแฟนเราเจ้าหน้าที่ขอดูใบนี้ด้วยค่ะ เตรียมไปด้วยก็ดี)
- แนะนำให้ติดใบเกิดฝ่ายหญิงไปด้วยนะคะ เพราะเจ้าหน้าที่จะขอดูค่ะ
เจ้าของกระทู้มีนัดกับสถานทูตวันพุธ ตอน 9 โมงครึ่ง กรอกเอกสารเสร็จก็รอรับเอกสารเสร็จประมาณ 10 โมงครึ่ง ค่าใช้จ่าย 828 บาทค่ะ ใบเสร็จสำคัญมากนะคะ ห้ามทิ้ง เพราะต้องใช้ตอนจดทะเบียนสมรสที่สำนักงานเขตค่ะ เอกสารที่ได้จะมีทั้งภาษาไทยและอิตาเลี่ยน ไม่ต้องเอาไปแปลค่ะ ขั้นตอนนี้สามารถขอเช็ควันว่าง ที่จะมาส่งเอกสารกับเจ้าหน้าที่ได้เลยนะคะ เจ้าหน้าที่ที่สถานทูตน่ารักมากค่ะ จขกท นัดมายื่นเอกสารวันศุกร์ค่ะ
เมื่อได้ใบรับรองโสดของฝ่ายชายแล้ว ต้องนำเอกสารไปรับรองที่สถานกงสุล แจ้งวัฒนะ ชั้น 3 ตึกจะอยู่ติดถนน ตรงป้ายรถเมล์เลยค่ะ บอกละเอียดนิดนึงนะคะเผื่อใครยังไม่เคยไป เพราะแท็กซี่บางคันก็ไม่รู้ และไปส่ง จขกท ผิดที่มาแล้วค่ะ ต้องเสียเวลาและค่าวินมอเตอร์ไซค์กลับมาคนละ 30 บาท เมื่อไปถึงก็ให้ฝ่ายชายกรอกคำร้องพร้อมแนบสำเนาพาสปอร์ต ยื่นให้เจ้าหน้าที่ แล้วเค้าก็จะถามว่ารับแบบด่วนรึเปล่า ถ้าด่วนค่าใช้จ่ายใบละ 400 บาท แบบปรกติ 200 บาท (เพิ่มเติมนิดนึงนะคะ ถ้าต้องการรับเอกสารแบบด่วนต้องยื่นคำร้องก่อนเที่ยงนะคะ ถ้าเลยเที่ยงแล้วต้องมารับเอกสารในวันถัดไปค่ะ) จขกท ไปถึงตอน 11 โมงครึ่ง กว่าจะได้ยื่นก็เที่ยงพอดีเลยค่ะ จขกท เลือกแบบด่วนค่ะ เจ้าหน้าที่ก็จะให้บัตรคิวมา นั่งรอเรียกคิวซักพัก เจ้าหน้าที่ก็จะเรียกไปจ่ายตังค์ค่ะ พอจ่ายตังค์เสร็จก็กลับมานั่งรอเจ้าหน้าที่เรียกให้ไปรับ ใบเสร็จและเงินทอนอีกรอบนึงค่ะ (ใบเสร็จสำคัญมากค่ะ ต้องเก็บไว้ใช้ตอนจดทะเบียนที่สำนักงานเขต) พอไปรับใบเสร็จเจ้าหน้าที่บอกว่าต้องรอ 3-4 ชั่วโมง พอได้ยินคำนี้เจ้าของกระทู้เพลียมากกกกกก แต่ก็ต้องรอเพราะไม่อยากเสียเวลาเดินทางมาอีก แนะนำให้ไปทานข้าวหรือรีแล็กซ์ได้เต็มที่เลยค่ะช่วงนี้เพราะต้องรอนานมากจริงๆ พอทานข้าวเสร็จ จขกท ก็มานั่งรอเรียกคิว หรือถ้าเราไม่แน่ใจว่าของเราเรียกไปแล้วหรือยัง สามารถนำใบเสร็จไปสอบถามเจ้าหน้าที่ที่ ช่องหมายเลข 7-9 จขกท ได้เอกสารประมาณบ่าย 3 กว่าๆ เช็คที่สำนักงานเขตหลักสี่ เห็นว่าปิดทำการ 4 โมงเย็น ยังพอมีเวลาเลยเสี่ยงไปดูค่ะ พอไปถึงสอบถามพนักงานว่าสามารถจดทะเบียนวันนี้ได้มั้ย พนักงานก็แจ้งว่าไม่ได้จริงๆ เพราะ 1 คู่ ต้องใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จขกท ก็เลยขอกรอกเอกสาร และให้เจ้าหน้าที่ตรวจเอกสารไว้รอเลยค่ะ แล้วมารับบัตรคิวในวันพรุ่งนี้แทนค่ะ เสร็จแล้วค่ะสำหรับภารกิจวันที่ 1
ภารกิจวันที่สอง คือการจดทะเบียนสมรส คุณสามีแอบตื่นเต้นนิดหน่อยค่ะ แต่ จขกท เฉยๆ ค่ะ เพราะทุกอย่างรีบเร่งไปหมด คิดแค่ว่าอยากให้รีบเสร็จ สำหรับการจดทะเบียนสมรส จขกท เลือกสำนักงานเขตหลักสี่ค่ะ เพราะใกล้กรมการกงสุล และได้อ่านมาบ้างค่ะว่าที่นี่รับจดทะเบียนสมรสชาวต่างชาติ
เอกสารที่ต้องใช้ในการจดทะเบียนสมรส
- ใบเกิดฝ่ายหญิง
- บัตรประชาชนตัวจริงพร้อมสำเนาฝ่ายหญิง
- ใบรับรองสถานภาพโสดฝ่ายหญิง(ขอได้ที่ที่ว่าการอำเภอทีมีชื่อในทะเบียนบ้าน)
- ใบเปลี่ยนชื่อ (ถ้ามี)
- ใบหย่า (ถ้ามี)
- พาสปอร์ตตัวจริง พร้อมสำเนาฝ่ายชาย
- ใบรับรองสานภาพโสดฝ่ายชาย ที่รับรองแล้วจากกรมการกงสุล
- ใบเสร็จจากสถานทูตอิตาลี
- ใบเสร็จจากกรมการกงสุล (สำหรับใบเสร็จเจ้าหน้าที่จะเก็บไว้เลย ถ้าอยากเก็บหลักฐานไว้ก็สามารถถ่ายเอกสารเก็บไว้ได้เลยค่ะ แต่จริงๆ หลังจากจดทะเบียนก็ไม่ได้ใช้แล้วค่ะ)
- พยาน 2 คน (จขกท ไม่ได้นำพยานไปด้วยเลยรบกวนให้เจ้าหน้าที่หาให้ เสร็จแล้วก็ให้ค่าเสียเวลาไปจำนวนหนึ่งค่ะ)
- ล่าม 1 คน (โชคดีที่เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตหลักสี่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ แฟน จขกท ก็สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ เลยไม่ต้องหาล่ามไปเองค่ะ แต่ในกรณีภาษาอื่นต้องหาล่ามไปเองนะคะ)
จขกท กับแฟน ก็ไปกันตั้งแต่ 8 โมงเช้า เลยค่ะ ไปถึงก็ยื่นเอกสารและรอเจ้าหน้าที่สัมภาษณ์ พอเสร็จเจ้าหน้าที่ก็จะให้ตรวจเอกสารอีกหนึ่งรอบ ถ้าถูกต้องเจ้าหน้าที่ก็จะประทับตราและลงวันที่ แล้วเก็บใส่ซองให้เราเลย เอกสารที่ได้คือ คร. 2 และ คร. 3 ค่าใช้จ่าย 30 บาทเป็นค่ารับรองสำเนา 3 ชุด (ตอนนี้เจ้าหน้าที่จะเอากล่องใส่ทะเบียนสมรสมาให้ดูว่าอยากได้มั้ยหรือจะเอาธรรมดาเราเลือกกล่องค่ะ ค่าเสียหาย 800 บาท แอบแพงนิดนึงแต่ก็อยากเก็บไว้ เพราะเป็นอะไรที่ทำได้ครั้งเดียว คงไม่มีใครอยากกลับมาทำอีกเนอะ) ก่อนออกจากสำนักงานทะเบียน ควรตรวจอีกรอบนึงนะคะ เพราะ จขกท พลาดมาแล้ว เจ้าหน้าที่ลงวันที่ผิด คือเค้าจะลงวันที่หลังเราตรวจเอกสารแล้ว แล้วเก็บใส่กล่องให้เราเลย กว่าจะรู้ตัวก็อยู่กรมการกงสุลแล้ว ต้องเสียเวลากลับมาให้เจ้าหน้าที่แก้ใหม่อีกรอบ
นำใบ คร. 2 ไปรับรองที่กรมการกงสุล จขกท ไปถึงประมาณ 11 โมง ได้เอกสารคืน ประมาณบ่าย 3 โมง เสร็จแล้วก็เอาไปแปลค่ะ ที่กรมการกงสุลจะมีบริการแปลด้วยนะคะอยู่ชั้น 2 แต่ตอนที่ จขกทไปทำ จะมีคนมายืนถามเลยค่ะว่าจะแปลกับเค้ามั้ยใช้เวลาแค่ 2 ชั่วโมง ใบละ 800 บาท ถ้าจะแปลก็ถ่ายเอกสารให้เค้าเลย เค้าจะเอาไปแปลรอ พอเราได้ใบที่รับรองแล้วก็ให้เค้าแปลเพิ่มเติมซึ่งรออีกแค่ 30 นาทีค่ะ จขกท เลือกแปลกับเค้าเพราะไม่อยากรอนานค่ะ เสร็จแล้วค่ะภารกิจวันที่ 2
ภารกิจวันที่สาม คือการยื่นเอกสารที่สถานทูตอิตาลี่ จขกท ไปประมาณ 9 โมงครึ่งค่ะ จริงๆ เจ้าหน้าที่นัดให้มาประมาณ 10 โมงเช้า ถึงเที่ยง แต่เราเลือกที่จะไปก่อนค่ะ เพราะอยากทำให้เสร็จเร็วๆ พอไปถึงก็นั่งรอเจ้า เรียกชื่อ แล้วเจ้าหน้าที่ก็จะให้กรอกเอกสารต่างๆ เช่น สินสมรสจะรวมหรือจะแยกประมาณนี้ค่ะ พอเสร็จเจ้าหน้าที่ก็จะถามว่าต้องการทำวีซ่ามั้ย ถ้าต้องการเจ้าหน้าที่ก็จะออกเอกสารให้อีกหนึ่งใบเพื่อไปยื่นวีซ่าค่ะ พอได้เอกสารสารแล้ว จขกท ก็ไปยื่นวีซ่าทันที
เอกสารที่ต้องใช้ในการขอวีซ่าอิตาลี่
1.พาสปอร์ตตัวจริง พร้อมสำเนาทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง
2. รูปถ่าย พื้นหลังสีขาว 2 นิ้ว 2 ใบ
3. ตั๋วเครื่องบิน (แนะนำให้ใช้แบบอีทิคเก็ตนะคะ เป็นใบจองที่ได้จากเอเจ้นท์ทัวร์ ราคาประมาณ 200-500 บาท แล้วแต่ที่ค่ะ พอวีซ่าผ่านแล้วค่อยไปจองตั๋วจริงค่ะ)
4. ทะเบียนสมรสพร้อมสำเนา
5. ใบ คร. 2 พร้อมสำเนา
6. สำเนาทะเบียนบ้านฝ่ายชายและฝ่ายหญิง (ของฝ่ายหญิงเอาตัวจริงไปด้วยนะคะ เผื่อเจ้าหน้าที่ขอดู
พอไปถึงเจ้าหน้าที่ก็จะให้กรอกเอกสารต่างๆ พิมพ์ลายนิ้วมือ แล้วก็นัดมารับวีซ่าในวันศุกร์หน้าค่ะ ระยะเวลานับจากวันที่ยื่น ก็คือ 7-10 วันค่ะ ค่าใช้จ่ายไม่มีค่ะเพราะเป็นวีซ่าติดตามคู่สมรส วีซ่าที่ได้จะเป็นวีซ่าท่องเที่ยวระยะเวลา 90 วันค่ะ หลังจากนั้นต้องไปทำการขอใบเปอเมสโซ่ ที่อิตาลี่อีกทีนึงค่ะ เสร็จแล้วค่ะสำหรับภารกิจวันสุดท้าย เสร็จเที่ยงตรงพอดีเลย สำหรับใครที่มีข้อสงสัยสามารถหลังไมค์มาสอบถามเพิ่มเติมได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคำถามค่ะขอบคุณ
ขั้นตอนการจดทะเบียนสมรส และทำวีซ่าติดตามสามีชาวอิตาลี่ อย่างละเอียด!!!
1. ขอใบรับรองโสดของฝ่ายชายที่สถานทูตอิตาลี่ ประจำประเทศไทย
2. นำใบรับรองโสดไปรับรองที่กรมการกงสุล แจ้งวัฒนะ
3. จดทะเบียนสมรส และนำใบ คร. 2 ไปรับรองที่กรมการกงสุล แจ้งวัฒนะ
4. แปลใบ คร. 2 ที่ได้รับรองแล้วจากกรมการกงสุล
5. นำเอกสารไปยื่นที่สถานทูต
6. ขอวีซ่าติดตามคู่สมรส
ภารกิจวันแรก คือ ฝ่ายชายและฝ่ายหญิงต้องไปยื่นคำร้องขอใบรับรองโสดที่สถานทูติอิตาลี่ด้วยตนเองซึ่งต้องทำการนัดก่อน ผ่านทางเว็บไซต์ของสถานทูต บอกเลยนะคะว่าจองยากมาก ทางเว็บไซต์จะเปิดให้จองแค่ช่วงเวลาเที่ยงคืนของประเทศอิตาลี่ ซึ่งตอนที่ จขกท และแฟนจอง เวลาตรงกับเวลาประเทศไทย คือ หกโมงเช้า เราต้องตื่นกันตั้งแต่ตีห้าครึ่งทุกวัน วันที่สามถึงจองได้ค่ะ ถ้าอยากทำทุกอย่างเสร็จภายใน 1 อาทิตย์แนะนำให้จอง วันจันทร์ อังคาร พุธ จะได้ไม่ติด เสาร์ อาทิตย์ค่ะ สำหรับ จขกท จองได้วันพุธค่ะ ซึ่งเป็นอะไรที่ท้าทายมากเพราะต้องทำให้เสร็จภายในวันศุกร์ (หรือถ้าจองไม่ได้จริงๆ สามารถโทรไปจองกับสถานทูตได้เลยค่ะ ทางเจ้าหน้าที่จะเช็ควันที่ว่างให้แล้วใส่ชื่อเราพ่วงท้ายลงไป)
เอกสารที่ต้องใช้ในการยื่นคำร้อง คือ
-พาสปอร์ตของทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง
- ทะเบียนบ้านของฝ่ายชาย
- หนังสือรับรองเงินเดือนฝ่ายชาย
- หนังสือรับรองโสดของฝ่ายชาย ที่ขอมาจาก comune ที่อิตาลี่ (ของแฟนเราเจ้าหน้าที่ขอดูใบนี้ด้วยค่ะ เตรียมไปด้วยก็ดี)
- แนะนำให้ติดใบเกิดฝ่ายหญิงไปด้วยนะคะ เพราะเจ้าหน้าที่จะขอดูค่ะ
เจ้าของกระทู้มีนัดกับสถานทูตวันพุธ ตอน 9 โมงครึ่ง กรอกเอกสารเสร็จก็รอรับเอกสารเสร็จประมาณ 10 โมงครึ่ง ค่าใช้จ่าย 828 บาทค่ะ ใบเสร็จสำคัญมากนะคะ ห้ามทิ้ง เพราะต้องใช้ตอนจดทะเบียนสมรสที่สำนักงานเขตค่ะ เอกสารที่ได้จะมีทั้งภาษาไทยและอิตาเลี่ยน ไม่ต้องเอาไปแปลค่ะ ขั้นตอนนี้สามารถขอเช็ควันว่าง ที่จะมาส่งเอกสารกับเจ้าหน้าที่ได้เลยนะคะ เจ้าหน้าที่ที่สถานทูตน่ารักมากค่ะ จขกท นัดมายื่นเอกสารวันศุกร์ค่ะ
เมื่อได้ใบรับรองโสดของฝ่ายชายแล้ว ต้องนำเอกสารไปรับรองที่สถานกงสุล แจ้งวัฒนะ ชั้น 3 ตึกจะอยู่ติดถนน ตรงป้ายรถเมล์เลยค่ะ บอกละเอียดนิดนึงนะคะเผื่อใครยังไม่เคยไป เพราะแท็กซี่บางคันก็ไม่รู้ และไปส่ง จขกท ผิดที่มาแล้วค่ะ ต้องเสียเวลาและค่าวินมอเตอร์ไซค์กลับมาคนละ 30 บาท เมื่อไปถึงก็ให้ฝ่ายชายกรอกคำร้องพร้อมแนบสำเนาพาสปอร์ต ยื่นให้เจ้าหน้าที่ แล้วเค้าก็จะถามว่ารับแบบด่วนรึเปล่า ถ้าด่วนค่าใช้จ่ายใบละ 400 บาท แบบปรกติ 200 บาท (เพิ่มเติมนิดนึงนะคะ ถ้าต้องการรับเอกสารแบบด่วนต้องยื่นคำร้องก่อนเที่ยงนะคะ ถ้าเลยเที่ยงแล้วต้องมารับเอกสารในวันถัดไปค่ะ) จขกท ไปถึงตอน 11 โมงครึ่ง กว่าจะได้ยื่นก็เที่ยงพอดีเลยค่ะ จขกท เลือกแบบด่วนค่ะ เจ้าหน้าที่ก็จะให้บัตรคิวมา นั่งรอเรียกคิวซักพัก เจ้าหน้าที่ก็จะเรียกไปจ่ายตังค์ค่ะ พอจ่ายตังค์เสร็จก็กลับมานั่งรอเจ้าหน้าที่เรียกให้ไปรับ ใบเสร็จและเงินทอนอีกรอบนึงค่ะ (ใบเสร็จสำคัญมากค่ะ ต้องเก็บไว้ใช้ตอนจดทะเบียนที่สำนักงานเขต) พอไปรับใบเสร็จเจ้าหน้าที่บอกว่าต้องรอ 3-4 ชั่วโมง พอได้ยินคำนี้เจ้าของกระทู้เพลียมากกกกกก แต่ก็ต้องรอเพราะไม่อยากเสียเวลาเดินทางมาอีก แนะนำให้ไปทานข้าวหรือรีแล็กซ์ได้เต็มที่เลยค่ะช่วงนี้เพราะต้องรอนานมากจริงๆ พอทานข้าวเสร็จ จขกท ก็มานั่งรอเรียกคิว หรือถ้าเราไม่แน่ใจว่าของเราเรียกไปแล้วหรือยัง สามารถนำใบเสร็จไปสอบถามเจ้าหน้าที่ที่ ช่องหมายเลข 7-9 จขกท ได้เอกสารประมาณบ่าย 3 กว่าๆ เช็คที่สำนักงานเขตหลักสี่ เห็นว่าปิดทำการ 4 โมงเย็น ยังพอมีเวลาเลยเสี่ยงไปดูค่ะ พอไปถึงสอบถามพนักงานว่าสามารถจดทะเบียนวันนี้ได้มั้ย พนักงานก็แจ้งว่าไม่ได้จริงๆ เพราะ 1 คู่ ต้องใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จขกท ก็เลยขอกรอกเอกสาร และให้เจ้าหน้าที่ตรวจเอกสารไว้รอเลยค่ะ แล้วมารับบัตรคิวในวันพรุ่งนี้แทนค่ะ เสร็จแล้วค่ะสำหรับภารกิจวันที่ 1
ภารกิจวันที่สอง คือการจดทะเบียนสมรส คุณสามีแอบตื่นเต้นนิดหน่อยค่ะ แต่ จขกท เฉยๆ ค่ะ เพราะทุกอย่างรีบเร่งไปหมด คิดแค่ว่าอยากให้รีบเสร็จ สำหรับการจดทะเบียนสมรส จขกท เลือกสำนักงานเขตหลักสี่ค่ะ เพราะใกล้กรมการกงสุล และได้อ่านมาบ้างค่ะว่าที่นี่รับจดทะเบียนสมรสชาวต่างชาติ
เอกสารที่ต้องใช้ในการจดทะเบียนสมรส
- ใบเกิดฝ่ายหญิง
- บัตรประชาชนตัวจริงพร้อมสำเนาฝ่ายหญิง
- ใบรับรองสถานภาพโสดฝ่ายหญิง(ขอได้ที่ที่ว่าการอำเภอทีมีชื่อในทะเบียนบ้าน)
- ใบเปลี่ยนชื่อ (ถ้ามี)
- ใบหย่า (ถ้ามี)
- พาสปอร์ตตัวจริง พร้อมสำเนาฝ่ายชาย
- ใบรับรองสานภาพโสดฝ่ายชาย ที่รับรองแล้วจากกรมการกงสุล
- ใบเสร็จจากสถานทูตอิตาลี
- ใบเสร็จจากกรมการกงสุล (สำหรับใบเสร็จเจ้าหน้าที่จะเก็บไว้เลย ถ้าอยากเก็บหลักฐานไว้ก็สามารถถ่ายเอกสารเก็บไว้ได้เลยค่ะ แต่จริงๆ หลังจากจดทะเบียนก็ไม่ได้ใช้แล้วค่ะ)
- พยาน 2 คน (จขกท ไม่ได้นำพยานไปด้วยเลยรบกวนให้เจ้าหน้าที่หาให้ เสร็จแล้วก็ให้ค่าเสียเวลาไปจำนวนหนึ่งค่ะ)
- ล่าม 1 คน (โชคดีที่เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตหลักสี่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ แฟน จขกท ก็สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ เลยไม่ต้องหาล่ามไปเองค่ะ แต่ในกรณีภาษาอื่นต้องหาล่ามไปเองนะคะ)
จขกท กับแฟน ก็ไปกันตั้งแต่ 8 โมงเช้า เลยค่ะ ไปถึงก็ยื่นเอกสารและรอเจ้าหน้าที่สัมภาษณ์ พอเสร็จเจ้าหน้าที่ก็จะให้ตรวจเอกสารอีกหนึ่งรอบ ถ้าถูกต้องเจ้าหน้าที่ก็จะประทับตราและลงวันที่ แล้วเก็บใส่ซองให้เราเลย เอกสารที่ได้คือ คร. 2 และ คร. 3 ค่าใช้จ่าย 30 บาทเป็นค่ารับรองสำเนา 3 ชุด (ตอนนี้เจ้าหน้าที่จะเอากล่องใส่ทะเบียนสมรสมาให้ดูว่าอยากได้มั้ยหรือจะเอาธรรมดาเราเลือกกล่องค่ะ ค่าเสียหาย 800 บาท แอบแพงนิดนึงแต่ก็อยากเก็บไว้ เพราะเป็นอะไรที่ทำได้ครั้งเดียว คงไม่มีใครอยากกลับมาทำอีกเนอะ) ก่อนออกจากสำนักงานทะเบียน ควรตรวจอีกรอบนึงนะคะ เพราะ จขกท พลาดมาแล้ว เจ้าหน้าที่ลงวันที่ผิด คือเค้าจะลงวันที่หลังเราตรวจเอกสารแล้ว แล้วเก็บใส่กล่องให้เราเลย กว่าจะรู้ตัวก็อยู่กรมการกงสุลแล้ว ต้องเสียเวลากลับมาให้เจ้าหน้าที่แก้ใหม่อีกรอบ
นำใบ คร. 2 ไปรับรองที่กรมการกงสุล จขกท ไปถึงประมาณ 11 โมง ได้เอกสารคืน ประมาณบ่าย 3 โมง เสร็จแล้วก็เอาไปแปลค่ะ ที่กรมการกงสุลจะมีบริการแปลด้วยนะคะอยู่ชั้น 2 แต่ตอนที่ จขกทไปทำ จะมีคนมายืนถามเลยค่ะว่าจะแปลกับเค้ามั้ยใช้เวลาแค่ 2 ชั่วโมง ใบละ 800 บาท ถ้าจะแปลก็ถ่ายเอกสารให้เค้าเลย เค้าจะเอาไปแปลรอ พอเราได้ใบที่รับรองแล้วก็ให้เค้าแปลเพิ่มเติมซึ่งรออีกแค่ 30 นาทีค่ะ จขกท เลือกแปลกับเค้าเพราะไม่อยากรอนานค่ะ เสร็จแล้วค่ะภารกิจวันที่ 2
ภารกิจวันที่สาม คือการยื่นเอกสารที่สถานทูตอิตาลี่ จขกท ไปประมาณ 9 โมงครึ่งค่ะ จริงๆ เจ้าหน้าที่นัดให้มาประมาณ 10 โมงเช้า ถึงเที่ยง แต่เราเลือกที่จะไปก่อนค่ะ เพราะอยากทำให้เสร็จเร็วๆ พอไปถึงก็นั่งรอเจ้า เรียกชื่อ แล้วเจ้าหน้าที่ก็จะให้กรอกเอกสารต่างๆ เช่น สินสมรสจะรวมหรือจะแยกประมาณนี้ค่ะ พอเสร็จเจ้าหน้าที่ก็จะถามว่าต้องการทำวีซ่ามั้ย ถ้าต้องการเจ้าหน้าที่ก็จะออกเอกสารให้อีกหนึ่งใบเพื่อไปยื่นวีซ่าค่ะ พอได้เอกสารสารแล้ว จขกท ก็ไปยื่นวีซ่าทันที
เอกสารที่ต้องใช้ในการขอวีซ่าอิตาลี่
1.พาสปอร์ตตัวจริง พร้อมสำเนาทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง
2. รูปถ่าย พื้นหลังสีขาว 2 นิ้ว 2 ใบ
3. ตั๋วเครื่องบิน (แนะนำให้ใช้แบบอีทิคเก็ตนะคะ เป็นใบจองที่ได้จากเอเจ้นท์ทัวร์ ราคาประมาณ 200-500 บาท แล้วแต่ที่ค่ะ พอวีซ่าผ่านแล้วค่อยไปจองตั๋วจริงค่ะ)
4. ทะเบียนสมรสพร้อมสำเนา
5. ใบ คร. 2 พร้อมสำเนา
6. สำเนาทะเบียนบ้านฝ่ายชายและฝ่ายหญิง (ของฝ่ายหญิงเอาตัวจริงไปด้วยนะคะ เผื่อเจ้าหน้าที่ขอดู
พอไปถึงเจ้าหน้าที่ก็จะให้กรอกเอกสารต่างๆ พิมพ์ลายนิ้วมือ แล้วก็นัดมารับวีซ่าในวันศุกร์หน้าค่ะ ระยะเวลานับจากวันที่ยื่น ก็คือ 7-10 วันค่ะ ค่าใช้จ่ายไม่มีค่ะเพราะเป็นวีซ่าติดตามคู่สมรส วีซ่าที่ได้จะเป็นวีซ่าท่องเที่ยวระยะเวลา 90 วันค่ะ หลังจากนั้นต้องไปทำการขอใบเปอเมสโซ่ ที่อิตาลี่อีกทีนึงค่ะ เสร็จแล้วค่ะสำหรับภารกิจวันสุดท้าย เสร็จเที่ยงตรงพอดีเลย สำหรับใครที่มีข้อสงสัยสามารถหลังไมค์มาสอบถามเพิ่มเติมได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคำถามค่ะขอบคุณ