สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ก็ถูกแล้วนี่คะ เด็กอยู่ในการดูแลของผู้ปกครอง การกระทำที่ผิดต่อกฎหมายหรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย ผู้ปกครองก็ต้องรับทราบและรับผิดชอบไปด้วย
ถ้าผู้ปกครองคนไหนไม่อยากให้ตัวเองเดือดร้อน ก็สอนลูกด้วยซิคะ อย่าสักแต่ผลิตลูกออกมาเป็นภาระสังคม
ถ้าออกเป็นกฎหมายหรือบังคับใช้เข้มงวดได้ยิ่งดีค่ะ ขอลงชื่อสนับสนุนด้วยคน ลงทะเบียนได้ทางไหนบอกด้วยนะคะ
ถ้าผู้ปกครองคนไหนไม่อยากให้ตัวเองเดือดร้อน ก็สอนลูกด้วยซิคะ อย่าสักแต่ผลิตลูกออกมาเป็นภาระสังคม
ถ้าออกเป็นกฎหมายหรือบังคับใช้เข้มงวดได้ยิ่งดีค่ะ ขอลงชื่อสนับสนุนด้วยคน ลงทะเบียนได้ทางไหนบอกด้วยนะคะ
ความคิดเห็นที่ 8
พ่อแม่ไทย (บางคน) เคยชินกับการลอยตัวอยู่เหนือปัญหาที่ลูกตัวเองก่อมานานแล้ว เก่งแต่แก้ต่างให้ลูก เกิดเหตุขึ้นก็ใช้เงินแก้ปัญหาอย่างเดียว
แต่ไม่รับผิดชอบต่อสังคม ต่อไปจะได้รู้ว่า จะเอาแต่ผลิตลูกอย่างเดียวไม่ได้แล้ว ต้องสอนให้ได้ด้วย ถ้าสอนไม่เป็น ก็อย่าทำออกมา
หรือไม่ก็ไปทำยังไงก็ได้ไม่ให้ลูกตัวเองออกมาก่อความเดือดร้อน เพราะมันเป็นภาระของคนอื่นเขา
โรงเรียนก็เหมือนกัน ก็รู้อยู่ ปัญหามันเกิดที่โรงเรียน ควรร่วมมือกันหาทางแก้ไขหรือทำอะไรสักอย่าง ไม่ใช่ปล่อยไปจนเกิดเรื่อง
เพราะเวลาเกิดเรื่อง คนที่ซวยไปด้วยคือ ประชาชนที่เขาไม่รู้อิโหน่อิเหน่ บางคนต้องตาย บางคนต้องเสียคนรักเพราะลูกหลง
รุ่นพี่เองก็เหมือนกัน ปลูกฝังอะไรให้น้อง ก็ต้องร่วมรับผิดด้วย เพราะส่วนหนึ่งที่มันเกิดธรรมเนียมแบบนี้ก็เพราะรุ่นพี่นั่นแหละ สั่งสอนกันมา
แต่ไม่รับผิดชอบต่อสังคม ต่อไปจะได้รู้ว่า จะเอาแต่ผลิตลูกอย่างเดียวไม่ได้แล้ว ต้องสอนให้ได้ด้วย ถ้าสอนไม่เป็น ก็อย่าทำออกมา
หรือไม่ก็ไปทำยังไงก็ได้ไม่ให้ลูกตัวเองออกมาก่อความเดือดร้อน เพราะมันเป็นภาระของคนอื่นเขา
โรงเรียนก็เหมือนกัน ก็รู้อยู่ ปัญหามันเกิดที่โรงเรียน ควรร่วมมือกันหาทางแก้ไขหรือทำอะไรสักอย่าง ไม่ใช่ปล่อยไปจนเกิดเรื่อง
เพราะเวลาเกิดเรื่อง คนที่ซวยไปด้วยคือ ประชาชนที่เขาไม่รู้อิโหน่อิเหน่ บางคนต้องตาย บางคนต้องเสียคนรักเพราะลูกหลง
รุ่นพี่เองก็เหมือนกัน ปลูกฝังอะไรให้น้อง ก็ต้องร่วมรับผิดด้วย เพราะส่วนหนึ่งที่มันเกิดธรรมเนียมแบบนี้ก็เพราะรุ่นพี่นั่นแหละ สั่งสอนกันมา
แสดงความคิดเห็น
ชีวิตอยู่อยาก เด็กตีกัน ให้เอาผิดพ่อ-แม่ แล้วพ่อแม่เขาไม่ต้องทำมาหากินหรืออย่างไร?
Nation TV - เว็บไซต์สถานีข่าวอันดับ 1 ของเมืองไทย
"ล่าสุด เมื่อวันที่ 1 มีนาคม ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาธิการ กอศ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ในการประชุมหารือและพิจารณามาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทะเลาะวิวาทของนักเรียน นักศึกษาที่มี พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน ได้หารือกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงยุติธรรมไปหามาตรการแก้ไขปัญหา โดยที่ประชุมได้ขอให้กระทรวงศึกษาธิการเสนอข้อมูลและปัญหาที่เกิดขึ้นและมีข้อเสนอแนะว่า การจะแก้ไขปัญหานักเรียน นักศึกษาทะเลาะวิวาทได้สำเร็จ ควรจะต้องมีกฎหมายเข้ามาดูแลอย่างเข้มข้นทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นว่าควรจะกำหนดมาตรการ 4 ด้าน ได้แก่ ดังนี้
1.มาตรการต่อสถานศึกษา หากพบว่ามีการปล่อยปละละเลยไม่ดูแลเด็กจนมีการก่อเหตุ ก็จะต้องรับผิดชอบ ขณะเดียวกันก็จะมีมาตรการส่งเสริมให้สถานศึกษาดูแลเด็กด้วย
2.มาตรการต่อผู้ปกครอง หากปล่อยให้บุตรหลานไปกระทำความผิดต้องรับผิดชอบด้วยจะบอกว่าไม่รู้เรื่องไม่ได้
3. มาตรการต่อผู้ยุยงส่งเสริม อาทิ รุ่นพี่ ศิษย์เก่า หัวโจก ร้านค้าบริเวณรอบสถานศึกษาที่ยอมให้เก็บอาวุธ ก็จะต้องได้รับโทษทางกฎหมายด้วยและ 4.มาตรการต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เสนอให้เพิ่มอำนาจให้แก่ครูฝ่ายปกครอง หรือสารวัตรนักเรียน สามารถกักตัวเด็กได้เป็นเวลา 6 ชั่วโมงเฉพาะกรณีที่มีการทะเลาะวิวาท หรือหากพบว่าเด็กนัดรวมตัวกันไปก่อเหตุ เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมารับตัวไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไป จากเดิมที่ไม่สามารถทำได้ทั้งนี้ ยังไม่แน่ใจว่าข้อเสนอจะออกมาเป็นกฎหมาย หรือไปปรับแก้กฎเดิมที่ใช้อยู่ ซึ่งกระทรวงยุติธรรมรับเป็นเจ้าภาพในการดำเนินการ"
อ่านต่อที่: http://www.nationtv.tv/main/content/social/378492018/