สวัสดีเพื่อนๆชาวก้นครัวอีกครั้งนะคะ
วันนี้มีเมนูแบบทำไม่ยากมาแนะนำ ใช่ค่ะ ไม่ยากเลยเพราะเราไปซื้อมา และมาอุ่นแค่นั้นเอง 55555555555
เมนูนั้นก็คือ เกี๊ยวซ่าในตำนาน "เกี๊ยวซ่าไดมารู" รูรูรูรู (กรุณาทำเสียงเอคโค)
จริงๆเราเองเคยเล็งไว้ตั้งแต่เห็นเริ่มมาวางขายใหม่ๆที่ Makro แต่เพิ่งได้ลองจริงๆก็เมื่อเดือนที่แล้วนี้เองค่ะ
คือซื้อมาไหว้บรรพบุรุษตอนตรุษจีนน่ะค่ะ
ออกตัวก่อนว่าเราเองไม่ใช่แฟนพันธ์แท้เกี๊ยวซ่า แต่คุณนายแม่นั้นชอบทานแบบสุดๆ ทานมาทุกยี่ห้อแล้ว
ฉะนั้นเราจึงขอให้คะแนนด้วยลิ้นของคุณนายแม่ละกันนะคะ
พร่ำมานานมาดูของจริงๆกันดีกว่า แท่นแทน
ที่วางขายมีขนาดนี้ขนาดเดียว ราคา 190 บาท
มีการันตีจากเชลชวนชิม และ เปิบพิสดาร อายุหลังผลิตไว้ได้หนึ่งปีช่องแช่แข็ง
ในราคา 199 เราจะได้มาในจำนวน 30 ชิ้น ตกชิ้นละ 6.33 บาท
ส่วนผสมคร่าวๆ
คำแนะนำในการอุ่น และเก็บรักษา
ชื่อผู้ผลิตและจัดจำหน่าย
เปิดกล่องมาจะเห็นขนาดจริง ขนาดของไดมารูจะใหญ่กว่ายี่ห้ออื่น ขนาดเท่าตามร้านอาหารญี่ปุ่น
และก็มาถึงขั้นตอนการอุ่น จากข้างกล่องเขาจะแนะนำให้ให้เข้าไมโครเวฟหรือนาบน้ำมัน แต่เราจะใช้วิธีอื่นนั่นก็คือ การทอดด้วยน้ำค่ะ
ขั้นตอน
1. เตรียมกระทะ แนะนำว่าเป็นกระทะเคลือบจะดีกว่ากระทะทั่วไป
เพื่อป้องกันแป้งติดก้นกระทะ เปิดไฟกลางจากนั้นก็ใส่น้ำมันในปริมาณเล็กน้อย
2. นำกระดาษอเนกประสงค์ที่ใช้กับอาหารได้ทาน้ำมันให้ทั่วกระทะ
3. นำเกี๊ยวซ่าที่วางไว้จนนิ่มเล็กน้อยวางเรียงลงไปบนกระทะ
4. เทน้ำตามลงไปให้เต็มพื่นที่กระทะแต่ไม่ต้องมาก
5. จากนั้นให้ปิดฝา
6. ใช้เวลาเพียงไม่นานนะคะ ต้องหมั่นคอยเปิดฝาดูว่าน้ำแห้งหรือยัง หากแห้งแล้วให้เปิดฝาออกเลย
คำแนะนำ หากเราเทน้ำมากเกินไปก็เทน้ำออกสักหน่อยก็ได้ค่ะ
7. วางทิ้งไว้ต่ออีกหน่อย (ที่เห็นไหม้ที่เปลือกอันนั้น พอดีมันไปโดนฝาที่ปิดเลยไหม้นิดหน่อยน่ะค่ะ)
8. พลิกมันขึ้นมาดู อันนี้ยังเหลืองไม่ได้ที่ก็วางลงไปต่อ
เมื่อได้ที่แล้วก็นำเรียงลงจานได้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
มาถึงขั้นตอนสุดท้าย นั่นคือการชิม!
แบ่งเป็นสองคำ คำแรกทานโดยไม่จิ้มจิ้กโฉว รสจะเค็มหวานนิด คำที่สองทานกับจิ้กโฉวก็จะกำลังดี แต่เครื่องนับว่าแน่นใช้ได้
ทั้งเนื้อและกระหล่ำปลีมาในสัดส่วนพอดี เมื่ออุ่นด้วยวิธีนี้ได้รสชุ่มฉ่ำของไส้ด้วย
แต่อย่างที่บอกล่ะค่ะ ว่าเราไม่ไม่ใช่แฟนพันธ์แท้เกี๊ยวซ่า ฉะนั้นจึงส่งไม้ต่อให้คุณนายแม่ได้ลองชิม
ผลปรากฎว่าคุณนายแม่ยกนิ้วให้ค่ะ นับว่าถูกปากคุณนายท่านมากทีเดียว
ซึ่งหลังจากนั้นเป็นตันมา ทุกวันนี้ก็เลยต้องซื้อติดตู้ไว้ให้คุณนายตลอด 55555555555
ปกติเราจะไม่ชอบฟันธงอาหารชนิดใดว่าอร่อยหรือไม่ เพราะความอร่อยของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
แต่เราชอบใช้คำว่า "ถูกปาก" หรือ "ถูกลิ้น" มากกว่า
ฉะนั้นเราจึงขอให้คะแนนเกี๋ยวซ่าไดมารูนั้นถูกปากเราดีค่ะ
จขกท.จึงขอจบการรีวิวมาด้วยประการฉะนี้ ใครสนใจก็ลองหามาทานกันดูนะคะ
แนะนำเพิ่มเติม ได้ลองถามพี่สาวที่อยู่ญี่ปุ่นเรื่องน้ำจิ้ม แนะนำให้ใช้ซีอิ๊วญี่ปุ่น (โชยุ) ผสมกับ น้ำส้มสายชูญี่ปุ่นในอัตราส่วน 3:7
และอาจเพิ่มกับรายูที่เป็นน้ำมันสีแดง คล้ายๆน้ำมันพริกเผา ถ้าอยากกินเผ็ดก็เพิ่มพริกป่น(อิจิมิ) ลงไป พี่สาวบอกว่าคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไม่ค่อยซื้อน้ำจิ้มหรือซอสเกี๋ยวซ่า มักจะผสมเอง
แก้ไข - แก้ราคา ลงผิดไป 9 บาท เพิ่มคำแนะนำในการอุ่น เพิ่มการทำน้ำจิ้ม
[CR] [รีวิว] เกี๊ยวซ่าไดมารู อร่อยที่บ้านแบบไม่ต้องเลี้ยวเข้าร้านอาหารญี่ปุ่น
วันนี้มีเมนูแบบทำไม่ยากมาแนะนำ ใช่ค่ะ ไม่ยากเลยเพราะเราไปซื้อมา และมาอุ่นแค่นั้นเอง 55555555555
เมนูนั้นก็คือ เกี๊ยวซ่าในตำนาน "เกี๊ยวซ่าไดมารู" รูรูรูรู (กรุณาทำเสียงเอคโค)
จริงๆเราเองเคยเล็งไว้ตั้งแต่เห็นเริ่มมาวางขายใหม่ๆที่ Makro แต่เพิ่งได้ลองจริงๆก็เมื่อเดือนที่แล้วนี้เองค่ะ
คือซื้อมาไหว้บรรพบุรุษตอนตรุษจีนน่ะค่ะ
ออกตัวก่อนว่าเราเองไม่ใช่แฟนพันธ์แท้เกี๊ยวซ่า แต่คุณนายแม่นั้นชอบทานแบบสุดๆ ทานมาทุกยี่ห้อแล้ว
ฉะนั้นเราจึงขอให้คะแนนด้วยลิ้นของคุณนายแม่ละกันนะคะ
พร่ำมานานมาดูของจริงๆกันดีกว่า แท่นแทน
ที่วางขายมีขนาดนี้ขนาดเดียว ราคา 190 บาท
มีการันตีจากเชลชวนชิม และ เปิบพิสดาร อายุหลังผลิตไว้ได้หนึ่งปีช่องแช่แข็ง
ในราคา 199 เราจะได้มาในจำนวน 30 ชิ้น ตกชิ้นละ 6.33 บาท
ส่วนผสมคร่าวๆ
คำแนะนำในการอุ่น และเก็บรักษา
ชื่อผู้ผลิตและจัดจำหน่าย
เปิดกล่องมาจะเห็นขนาดจริง ขนาดของไดมารูจะใหญ่กว่ายี่ห้ออื่น ขนาดเท่าตามร้านอาหารญี่ปุ่น
และก็มาถึงขั้นตอนการอุ่น จากข้างกล่องเขาจะแนะนำให้ให้เข้าไมโครเวฟหรือนาบน้ำมัน แต่เราจะใช้วิธีอื่นนั่นก็คือ การทอดด้วยน้ำค่ะ
ขั้นตอน
1. เตรียมกระทะ แนะนำว่าเป็นกระทะเคลือบจะดีกว่ากระทะทั่วไป
เพื่อป้องกันแป้งติดก้นกระทะ เปิดไฟกลางจากนั้นก็ใส่น้ำมันในปริมาณเล็กน้อย
2. นำกระดาษอเนกประสงค์ที่ใช้กับอาหารได้ทาน้ำมันให้ทั่วกระทะ
3. นำเกี๊ยวซ่าที่วางไว้จนนิ่มเล็กน้อยวางเรียงลงไปบนกระทะ
4. เทน้ำตามลงไปให้เต็มพื่นที่กระทะแต่ไม่ต้องมาก
5. จากนั้นให้ปิดฝา
6. ใช้เวลาเพียงไม่นานนะคะ ต้องหมั่นคอยเปิดฝาดูว่าน้ำแห้งหรือยัง หากแห้งแล้วให้เปิดฝาออกเลย
คำแนะนำ หากเราเทน้ำมากเกินไปก็เทน้ำออกสักหน่อยก็ได้ค่ะ
7. วางทิ้งไว้ต่ออีกหน่อย (ที่เห็นไหม้ที่เปลือกอันนั้น พอดีมันไปโดนฝาที่ปิดเลยไหม้นิดหน่อยน่ะค่ะ)
8. พลิกมันขึ้นมาดู อันนี้ยังเหลืองไม่ได้ที่ก็วางลงไปต่อ
เมื่อได้ที่แล้วก็นำเรียงลงจานได้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
มาถึงขั้นตอนสุดท้าย นั่นคือการชิม!
แบ่งเป็นสองคำ คำแรกทานโดยไม่จิ้มจิ้กโฉว รสจะเค็มหวานนิด คำที่สองทานกับจิ้กโฉวก็จะกำลังดี แต่เครื่องนับว่าแน่นใช้ได้
ทั้งเนื้อและกระหล่ำปลีมาในสัดส่วนพอดี เมื่ออุ่นด้วยวิธีนี้ได้รสชุ่มฉ่ำของไส้ด้วย
แต่อย่างที่บอกล่ะค่ะ ว่าเราไม่ไม่ใช่แฟนพันธ์แท้เกี๊ยวซ่า ฉะนั้นจึงส่งไม้ต่อให้คุณนายแม่ได้ลองชิม
ผลปรากฎว่าคุณนายแม่ยกนิ้วให้ค่ะ นับว่าถูกปากคุณนายท่านมากทีเดียว
ซึ่งหลังจากนั้นเป็นตันมา ทุกวันนี้ก็เลยต้องซื้อติดตู้ไว้ให้คุณนายตลอด 55555555555
ปกติเราจะไม่ชอบฟันธงอาหารชนิดใดว่าอร่อยหรือไม่ เพราะความอร่อยของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
แต่เราชอบใช้คำว่า "ถูกปาก" หรือ "ถูกลิ้น" มากกว่า
ฉะนั้นเราจึงขอให้คะแนนเกี๋ยวซ่าไดมารูนั้นถูกปากเราดีค่ะ
จขกท.จึงขอจบการรีวิวมาด้วยประการฉะนี้ ใครสนใจก็ลองหามาทานกันดูนะคะ
แนะนำเพิ่มเติม ได้ลองถามพี่สาวที่อยู่ญี่ปุ่นเรื่องน้ำจิ้ม แนะนำให้ใช้ซีอิ๊วญี่ปุ่น (โชยุ) ผสมกับ น้ำส้มสายชูญี่ปุ่นในอัตราส่วน 3:7
และอาจเพิ่มกับรายูที่เป็นน้ำมันสีแดง คล้ายๆน้ำมันพริกเผา ถ้าอยากกินเผ็ดก็เพิ่มพริกป่น(อิจิมิ) ลงไป พี่สาวบอกว่าคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไม่ค่อยซื้อน้ำจิ้มหรือซอสเกี๋ยวซ่า มักจะผสมเอง
แก้ไข - แก้ราคา ลงผิดไป 9 บาท เพิ่มคำแนะนำในการอุ่น เพิ่มการทำน้ำจิ้ม