สวัสดีครับชาวกระทู้ทั้งหลาย วันนี้ผมอยากเล่าประสบการณ์กับ "โรคอกบุ๋ม" ซึ่งผมเคยเป็นอยู่ตั้งแต่เล็ก รวมทั้งวิธีรักษาในประเทศไทยตอนนี้ด้วยครับ
อะไรคือ"อกบุ๋ม" (Pectus Excavatum) และอกโป่ง (Pectus Carinatum)
โรคอกบุ๋ม คือ มีลักษณะที่ตรงกลางหน้าอกยุบลงไปเป็นแอ่ง จากการค้นคว้าของผม จากสื่อinternet กล่าวว่า สาเหตุเกิดจากการที่มีกระดูกอ่อนเจริญเติบโตมากผิดปกติที่บริเวณกระดูกซี่โครงที่อยู่ติดกับกระดูกสันอก (sternum) ทำให้เกิดการดันกระดูกสันอก เข้าไปด้านใน ในบางครั้งกระดูกสันอกอาจยุบจนไปกระทบปอดและหัวใจ จนอาจมีปัญหาอันตราย แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว ผู้ที่เป็นโรคอกบุ๋มสามารถใช้ชีวิตเหมือนคนธรรมดาได้ เพียงแต่อาจมีปัญหาเรื่องความมั่นใจในตัวเอง และกังวลต่อการเข้าสังคม (Social Anxiety)
นอกจากอกบุ๋มแล้ว ยังมีโรคที่คล้ายคลึงกัน อีกอย่างหนึ่ง คือ โรคอกโป่ง (Pectus Carinatum) โดยที่กระดูกสันอกถูกดันออกมา ดูเหมือนมีอะไรนูนๆอยู่ตรงอก
เรื่องของผม
ผมเป็นอกบุ๋มมาตั้งแต่เด็กครับ เป็นโรคอกบุ๋มในเกณฑ์ปานกลาง (ดูจากภาพที่ลิงค์ด้านล่างได้เลยครับ) พอโตมาเรื่อยๆ ย่างเข้าวัยรุ่น ก็เริ่มรู้สึกอายกับการเป็นโรคอกบุ๋ม เวลาเล่นน้ำก็ไม่กล้าถอดเสื้อ เวลาดูตัวเองในกระจกก็จะพยายามเบ่งหน้าอกให้มันดูสวยๆ แต่มันก็ยังดูยุบอยู่พอสมควร ด้วยความสงสัยนี้ ผมเลยไปค้นดูออนไลน์ว่าผมเป็นอะไรกันแน่ และพบว่าผมเป็น Pectus Excavatum เป็นโรคที่เกิดขึ้นอัตราประมาณ 1ใน100-1ใน500 (แสดงว่าตอนนี้ก็คงมีคนไทยที่เป็นคล้ายผมอยู่ไม่น้อย) โดยมีวิธีแก้สำหรับผู้ป่วยหนักทางเดียวคือผ่าตัด ผมยังโชคดี ที่เป็นแค่ในเกณฑ์ปานกลาง เลยไม่จำเป็นต้องผ่า มีชีวิตเหมือนคนทั่วไปได้ แต่ถ้าไม่รักษา ก็คงจะมีปมด้อยอันนี้อยู่ตลอดชีวิต
ตอนผมอายุ 12 ผมอ้อนวอนกับแม่ตลอดว่าอยากผ่า เพราะผ่าตอนอายุยิ่งน้อยยิ่งดี กระดูกจะได้ดัดได้ง่ายๆ (ตอนนั้นผมอยากผ่า Nuss Procedure ที่โรงพยาบาลรามาฯมาก) แต่คุณแม่ก็บอกผมว่ามันเสี่ยงเกินไป ยิ่งผมไม่ได้เป็นรุนแรงก็ไม่ควรไปเสี่ยง
วันหนึ่งผมค้นข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต พบว่าคุณหมอ Dr. Sydney Haje ที่ประเทศบราซิล สามารถรักษาโรคอกบุ๋มได้โดยไม่ต้องผ่าตัด คุณแม่จึงพาผมไปรักษา พร้อมกับคุณหมอคนไทย ที่ผมรู้จักซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกายภาพไปอีกด้วย ผมคิดว่า ตอนนั้นคุณหมอ Haje เกือบจะคนเดียวในโลกที่สามารถรักษา Pectus โดยวิธีกายภาพบำบัด ร่วมกับอุปกรณ์ดัดลำตัว
(และผมเองก็เป็นคนไทยคนแรก และดูจะเป็นคนเดียวที่ได้ไปรักษากับหมอคนนี้ เพราะหลังจากที่ท่านได้รักษาให้ผมแล้ว ประมาณหนึ่งปีต่อมา ก็ได้เสียชีวิต)
ผมต้องออกกำลังกายตามท่าที่คุณหมอสั่งทุกวัน และใส่อุปกรณฺ์ช่วยดัดกระดูก (brace) ที่ลำตัวซึ่งทำขึ้นมาตามขนาดตัวของผม เพราะคนไข้แต่ละคนจะใช้อุปกรณ์นี้ที่มีขนาดและตำแหน่งการใส่ไม่เหมือนกัน แล้วแต่อาการของปัญหา แรกๆต้องใส่วันละ 23 ชั่วโมง (ถอดแค่ตอนอาบน้ำกับว่ายน้ำที่โรงเรียน) เป็นเวลาเกือบ3 เดือน ระหว่างน้ันอกบุ๋มของผมก็ค่อยๆดูดีขึ้นเป็นลำดับ จนสุดท้ายก็แทบจะมองไม่ออก ทำให้ผมดีใจมาก และ อย่างแบ่งปันเรื่องราวของผม เพื่อเป็นประโยชน์กับคนอื่นๆ ซึ่งอาจมีความทุกข์เหมือนที่ผมเคยเป็น ว่าโรคนี้สามารถรักษาได้
วิธีรักษาอกบุ๋ม
มีอยู่สองวิธีครับ การผ่าตัด (Invasive Surgery) และ การทำกายภาพบำบัดร่วมกับการใช้อุปกรณ์ดัดที่ลำตัว (Physical Therapy with Orthotic Brace)
การผ่าตัด เท่าที่ผมค้นคว้า วิธีผ่าตัดที่ไว้ใจได้มีเพียงแค่ Nuss Procedure เท่านั้นครับ เป็นการผ่าตัดที่สามารถใช้กับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ (ถ้าเป็นเด็กจะดีกว่า เนื่องจะกระดูกที่อ่อนจะสามารถดัดได้ง่ายกว่า) โดยที่หมอจะฝังเหล็กงอๆ หนึ่งแท่งไว้ในหน้าอกไว้ดามกระดูกสันอก และปล่อยไว้เป็นเวลาอย่างน้อยสองปีเพื่อที่จะดัดกระดูกสันอกให้เข้าที่ ก่อนที่จะผ่าอีกทีเอาแท่งเหล็กออกครับ
อาจจะเสียวนะครับ
https://www.youtube.com/watch?v=JCrRsgN6aFI
สำหรับเด็กที่ยังไม่โต และเป็นโรคอกบุ๋มรุนแรง (ต่ำกว่า15) การผ่าตัดอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดครับ เพราะว่ากระดูกยังอ่อนและดัดได้ง่าย และไม่ต้องมีวินัยเท่ากับการทำกายภาพ (แต่ก็ต้องทนเจ็บอยู่เป็นเดือน ขึ้นอยู่กับอายุของผู้ป่วยครับ)
ผมคิดว่า การผ่าตัดนั้นมีโอกาสเสี่ยงครับ โดยเฉพาะผู้รักษาที่อายุเกิน 20 ปี กระดูกที่แข็งตัวแล้วจะใช้เวลาดัดอยู่นาน และอาจจะต้องฝังแท่งเหล็กมากกว่าหนึ่งแท่ง และหลังผ่าตัดจะต้องนอนรออยู่ที่รพ.เป็นอาทิตย์ หลังจากนั้นจะไม่สามารถออกกำลังกายได้อีกเป็นเดือน (ห้ามวิ่ง ห้ามยกของหนักเกินสี่กิโล และห้ามขับรถอย่างเด็ดขาด) มิฉะนั้นแท่งเหล็กอาจเคลื่อนที่ได้ (ซึ่งในกรณีนี้อาจจะต้องผ่าอีกรอบ)
ตอนนี้ในไทย ผู้ที่สนใจผ่าตัด ก็ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมจากโรงพยาบาลรามาฯโดยตรง เลยครับ ดูเหมือนจะเป็นที่แรกในอาเซียน และแห่งเดียวในประเทศที่มีหมอชำนาญด้านนี้
กายภาพ คุณหมอ Dr. Sydney Haje จากประเทศบราซิล อธิบายว่ากายภาพบำบัดประกอบไปด้วยสองส่วน ออกกำลังกายเพื่อขยายส่วนอกที่ยุบ และใส่อุปกรณ์ดามหน้าอก (Orthotic Brace) ไว้ข้างนอกเพื่อที่จะให้ซี่โครงคงที่ โดยให้ผมออกกำลังกายทุกวัน ท่าที่ออกกำลังกายหลักๆก็มี:
Reverse Dumbbell Flys
Dumbbell Pullovers
Half Sit Up (ไม่งอตัว)
Pec-Deck (ออกแรงด้วยข้อศอกและอย่าขยับ)
เป่าลูกโป่ง (ขยายปอด)
ให้ทำท่าออกกำลังกายดังกล่าว วันละสองเวลา ท่าละ50 รอบ และเป่าลูกโป่งยามว่าง
ข้อดีแน่ๆ ของการทำกายภาพ ตามความคิดของผม คือไม่ต้องผ่าตัดครับ ไม่ต้องเสี่ยง ยิ่งถ้าอกบุ๋มไม่รุนแรง (เพียงแค่เสียบุคลิกภาพเล็กน้อย) และ ราคาของอุปกรณ์ ก็ถูกกว่าการผ่าตัดหลายเท่า
แต่ข้อเสีย คือ ต้องมีวินัย ในการออกกำลังกาย ปฏิบัติตามที่หมอบอก มิฉะนั้นจะไม่ได้ผลดี เท่าที่ควร ตอนที่ผมทำกาพภาพบำบัดอยู่ ผมต้องออกกำลังกายทุกวัน วันละเกือบชั่วโมง (ไปดูได้ใน
http://www.orthopectus.net/treated-cases/ หมายเลข 2) แล้วยังต้องใส่ อุปกรณ์หน้าตา คล้ายๆกับเกราะดัดสันหลัง เป็นเวลาเกือบสองปีครับ กว่าจะค่อยๆถอด Brace ได้ แล้วใส่เฉพาะตอนอยู่ที่บ้าน
นอกจากนี้ยังมีอีกวิธี คือ การทำศัลยกรรมครับ แต่ผมเห็นว่า ไม่ใช่แก้ปัญหา เพราะกระดูกซี่โครงก็จะยังบุ๋มอยู่อย่างเดิม เพียงแต่ว่ามันดูดีขึ้นเท่านั้น
สำหรับคนที่ไม่ได้เป็นอกบุ๋มอย่างรุนแรง ผมว่าการรักษาโดยไม่ผ่าตัด เช่น กรณีของผม ก็อาจจะเป็นทางเลือกที่น่าพิจารณานะครับ
https://www.youtube.com/watch?v=O_QyVHy2BpU
ยังไงก็แล้วแต่ หากมีใครมีคำถาม อยากเล่าประสบการณ์ ลงไว้ตรงนี้ได้เลยครับ
คลีนิคของคุณหมอ (ดร. ภาริส วงศ์แพทย์)
DBC Spine Clinic & Gym
เวลาทำการ 11.00 - 20.00 น
ทุกวันไม่เว้นวันหยุดเสาร์อาทิตย์
ชั้น 2 ไลฟ์เซนเตอร์ อาคาร คิวเฮ้าส์ลุมพินี
ถนนสาธรใต้ กรุงเทพ 10120
โทรศัพท์ 02 677 7255
อ่านเพิ่ม:
คลีนิคที่ผมไปมาตอนอายุ 12 (ผมเป็นรูปที่2) และรูปของอุปกรณ์ดามหน้าอก (Orthotic Brace)
http://www.orthopectus.net/treated-cases/
คนนี้ก็เคยทำกับหมอ Haje
https://www.youtube.com/watch?v=mcO51ouMEoc
วีดีโออังกฤษ
https://www.youtube.com/watch?v=mcO51ouMEoc
วีดีโอหมอ Haje ภาษาโปรตุเกส ซับอังกฤษ
https://www.youtube.com/watch?v=slXh1r0VcH8
คนนี้ก็เป็นอกบุ๋มเหมือนผมครับ
http://haamor.com/webboard/%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B9%84%E0%B8%9B/594/
วิธีรักษาอกบุ๋ม Pectus Excavatum + ประสบการณ์
อะไรคือ"อกบุ๋ม" (Pectus Excavatum) และอกโป่ง (Pectus Carinatum)
โรคอกบุ๋ม คือ มีลักษณะที่ตรงกลางหน้าอกยุบลงไปเป็นแอ่ง จากการค้นคว้าของผม จากสื่อinternet กล่าวว่า สาเหตุเกิดจากการที่มีกระดูกอ่อนเจริญเติบโตมากผิดปกติที่บริเวณกระดูกซี่โครงที่อยู่ติดกับกระดูกสันอก (sternum) ทำให้เกิดการดันกระดูกสันอก เข้าไปด้านใน ในบางครั้งกระดูกสันอกอาจยุบจนไปกระทบปอดและหัวใจ จนอาจมีปัญหาอันตราย แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว ผู้ที่เป็นโรคอกบุ๋มสามารถใช้ชีวิตเหมือนคนธรรมดาได้ เพียงแต่อาจมีปัญหาเรื่องความมั่นใจในตัวเอง และกังวลต่อการเข้าสังคม (Social Anxiety)
นอกจากอกบุ๋มแล้ว ยังมีโรคที่คล้ายคลึงกัน อีกอย่างหนึ่ง คือ โรคอกโป่ง (Pectus Carinatum) โดยที่กระดูกสันอกถูกดันออกมา ดูเหมือนมีอะไรนูนๆอยู่ตรงอก
เรื่องของผม
ผมเป็นอกบุ๋มมาตั้งแต่เด็กครับ เป็นโรคอกบุ๋มในเกณฑ์ปานกลาง (ดูจากภาพที่ลิงค์ด้านล่างได้เลยครับ) พอโตมาเรื่อยๆ ย่างเข้าวัยรุ่น ก็เริ่มรู้สึกอายกับการเป็นโรคอกบุ๋ม เวลาเล่นน้ำก็ไม่กล้าถอดเสื้อ เวลาดูตัวเองในกระจกก็จะพยายามเบ่งหน้าอกให้มันดูสวยๆ แต่มันก็ยังดูยุบอยู่พอสมควร ด้วยความสงสัยนี้ ผมเลยไปค้นดูออนไลน์ว่าผมเป็นอะไรกันแน่ และพบว่าผมเป็น Pectus Excavatum เป็นโรคที่เกิดขึ้นอัตราประมาณ 1ใน100-1ใน500 (แสดงว่าตอนนี้ก็คงมีคนไทยที่เป็นคล้ายผมอยู่ไม่น้อย) โดยมีวิธีแก้สำหรับผู้ป่วยหนักทางเดียวคือผ่าตัด ผมยังโชคดี ที่เป็นแค่ในเกณฑ์ปานกลาง เลยไม่จำเป็นต้องผ่า มีชีวิตเหมือนคนทั่วไปได้ แต่ถ้าไม่รักษา ก็คงจะมีปมด้อยอันนี้อยู่ตลอดชีวิต
ตอนผมอายุ 12 ผมอ้อนวอนกับแม่ตลอดว่าอยากผ่า เพราะผ่าตอนอายุยิ่งน้อยยิ่งดี กระดูกจะได้ดัดได้ง่ายๆ (ตอนนั้นผมอยากผ่า Nuss Procedure ที่โรงพยาบาลรามาฯมาก) แต่คุณแม่ก็บอกผมว่ามันเสี่ยงเกินไป ยิ่งผมไม่ได้เป็นรุนแรงก็ไม่ควรไปเสี่ยง
วันหนึ่งผมค้นข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต พบว่าคุณหมอ Dr. Sydney Haje ที่ประเทศบราซิล สามารถรักษาโรคอกบุ๋มได้โดยไม่ต้องผ่าตัด คุณแม่จึงพาผมไปรักษา พร้อมกับคุณหมอคนไทย ที่ผมรู้จักซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกายภาพไปอีกด้วย ผมคิดว่า ตอนนั้นคุณหมอ Haje เกือบจะคนเดียวในโลกที่สามารถรักษา Pectus โดยวิธีกายภาพบำบัด ร่วมกับอุปกรณ์ดัดลำตัว
(และผมเองก็เป็นคนไทยคนแรก และดูจะเป็นคนเดียวที่ได้ไปรักษากับหมอคนนี้ เพราะหลังจากที่ท่านได้รักษาให้ผมแล้ว ประมาณหนึ่งปีต่อมา ก็ได้เสียชีวิต)
ผมต้องออกกำลังกายตามท่าที่คุณหมอสั่งทุกวัน และใส่อุปกรณฺ์ช่วยดัดกระดูก (brace) ที่ลำตัวซึ่งทำขึ้นมาตามขนาดตัวของผม เพราะคนไข้แต่ละคนจะใช้อุปกรณ์นี้ที่มีขนาดและตำแหน่งการใส่ไม่เหมือนกัน แล้วแต่อาการของปัญหา แรกๆต้องใส่วันละ 23 ชั่วโมง (ถอดแค่ตอนอาบน้ำกับว่ายน้ำที่โรงเรียน) เป็นเวลาเกือบ3 เดือน ระหว่างน้ันอกบุ๋มของผมก็ค่อยๆดูดีขึ้นเป็นลำดับ จนสุดท้ายก็แทบจะมองไม่ออก ทำให้ผมดีใจมาก และ อย่างแบ่งปันเรื่องราวของผม เพื่อเป็นประโยชน์กับคนอื่นๆ ซึ่งอาจมีความทุกข์เหมือนที่ผมเคยเป็น ว่าโรคนี้สามารถรักษาได้
วิธีรักษาอกบุ๋ม
มีอยู่สองวิธีครับ การผ่าตัด (Invasive Surgery) และ การทำกายภาพบำบัดร่วมกับการใช้อุปกรณ์ดัดที่ลำตัว (Physical Therapy with Orthotic Brace)
การผ่าตัด เท่าที่ผมค้นคว้า วิธีผ่าตัดที่ไว้ใจได้มีเพียงแค่ Nuss Procedure เท่านั้นครับ เป็นการผ่าตัดที่สามารถใช้กับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ (ถ้าเป็นเด็กจะดีกว่า เนื่องจะกระดูกที่อ่อนจะสามารถดัดได้ง่ายกว่า) โดยที่หมอจะฝังเหล็กงอๆ หนึ่งแท่งไว้ในหน้าอกไว้ดามกระดูกสันอก และปล่อยไว้เป็นเวลาอย่างน้อยสองปีเพื่อที่จะดัดกระดูกสันอกให้เข้าที่ ก่อนที่จะผ่าอีกทีเอาแท่งเหล็กออกครับ
อาจจะเสียวนะครับ https://www.youtube.com/watch?v=JCrRsgN6aFI
สำหรับเด็กที่ยังไม่โต และเป็นโรคอกบุ๋มรุนแรง (ต่ำกว่า15) การผ่าตัดอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดครับ เพราะว่ากระดูกยังอ่อนและดัดได้ง่าย และไม่ต้องมีวินัยเท่ากับการทำกายภาพ (แต่ก็ต้องทนเจ็บอยู่เป็นเดือน ขึ้นอยู่กับอายุของผู้ป่วยครับ)
ผมคิดว่า การผ่าตัดนั้นมีโอกาสเสี่ยงครับ โดยเฉพาะผู้รักษาที่อายุเกิน 20 ปี กระดูกที่แข็งตัวแล้วจะใช้เวลาดัดอยู่นาน และอาจจะต้องฝังแท่งเหล็กมากกว่าหนึ่งแท่ง และหลังผ่าตัดจะต้องนอนรออยู่ที่รพ.เป็นอาทิตย์ หลังจากนั้นจะไม่สามารถออกกำลังกายได้อีกเป็นเดือน (ห้ามวิ่ง ห้ามยกของหนักเกินสี่กิโล และห้ามขับรถอย่างเด็ดขาด) มิฉะนั้นแท่งเหล็กอาจเคลื่อนที่ได้ (ซึ่งในกรณีนี้อาจจะต้องผ่าอีกรอบ)
ตอนนี้ในไทย ผู้ที่สนใจผ่าตัด ก็ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมจากโรงพยาบาลรามาฯโดยตรง เลยครับ ดูเหมือนจะเป็นที่แรกในอาเซียน และแห่งเดียวในประเทศที่มีหมอชำนาญด้านนี้
กายภาพ คุณหมอ Dr. Sydney Haje จากประเทศบราซิล อธิบายว่ากายภาพบำบัดประกอบไปด้วยสองส่วน ออกกำลังกายเพื่อขยายส่วนอกที่ยุบ และใส่อุปกรณ์ดามหน้าอก (Orthotic Brace) ไว้ข้างนอกเพื่อที่จะให้ซี่โครงคงที่ โดยให้ผมออกกำลังกายทุกวัน ท่าที่ออกกำลังกายหลักๆก็มี:
Reverse Dumbbell Flys
Dumbbell Pullovers
Half Sit Up (ไม่งอตัว)
Pec-Deck (ออกแรงด้วยข้อศอกและอย่าขยับ)
เป่าลูกโป่ง (ขยายปอด)
ให้ทำท่าออกกำลังกายดังกล่าว วันละสองเวลา ท่าละ50 รอบ และเป่าลูกโป่งยามว่าง
ข้อดีแน่ๆ ของการทำกายภาพ ตามความคิดของผม คือไม่ต้องผ่าตัดครับ ไม่ต้องเสี่ยง ยิ่งถ้าอกบุ๋มไม่รุนแรง (เพียงแค่เสียบุคลิกภาพเล็กน้อย) และ ราคาของอุปกรณ์ ก็ถูกกว่าการผ่าตัดหลายเท่า
แต่ข้อเสีย คือ ต้องมีวินัย ในการออกกำลังกาย ปฏิบัติตามที่หมอบอก มิฉะนั้นจะไม่ได้ผลดี เท่าที่ควร ตอนที่ผมทำกาพภาพบำบัดอยู่ ผมต้องออกกำลังกายทุกวัน วันละเกือบชั่วโมง (ไปดูได้ใน http://www.orthopectus.net/treated-cases/ หมายเลข 2) แล้วยังต้องใส่ อุปกรณ์หน้าตา คล้ายๆกับเกราะดัดสันหลัง เป็นเวลาเกือบสองปีครับ กว่าจะค่อยๆถอด Brace ได้ แล้วใส่เฉพาะตอนอยู่ที่บ้าน
นอกจากนี้ยังมีอีกวิธี คือ การทำศัลยกรรมครับ แต่ผมเห็นว่า ไม่ใช่แก้ปัญหา เพราะกระดูกซี่โครงก็จะยังบุ๋มอยู่อย่างเดิม เพียงแต่ว่ามันดูดีขึ้นเท่านั้น
สำหรับคนที่ไม่ได้เป็นอกบุ๋มอย่างรุนแรง ผมว่าการรักษาโดยไม่ผ่าตัด เช่น กรณีของผม ก็อาจจะเป็นทางเลือกที่น่าพิจารณานะครับ
https://www.youtube.com/watch?v=O_QyVHy2BpU
ยังไงก็แล้วแต่ หากมีใครมีคำถาม อยากเล่าประสบการณ์ ลงไว้ตรงนี้ได้เลยครับ
คลีนิคของคุณหมอ (ดร. ภาริส วงศ์แพทย์)
DBC Spine Clinic & Gym
เวลาทำการ 11.00 - 20.00 น
ทุกวันไม่เว้นวันหยุดเสาร์อาทิตย์
ชั้น 2 ไลฟ์เซนเตอร์ อาคาร คิวเฮ้าส์ลุมพินี
ถนนสาธรใต้ กรุงเทพ 10120
โทรศัพท์ 02 677 7255
อ่านเพิ่ม:
คลีนิคที่ผมไปมาตอนอายุ 12 (ผมเป็นรูปที่2) และรูปของอุปกรณ์ดามหน้าอก (Orthotic Brace)
http://www.orthopectus.net/treated-cases/
คนนี้ก็เคยทำกับหมอ Haje
https://www.youtube.com/watch?v=mcO51ouMEoc
วีดีโออังกฤษ
https://www.youtube.com/watch?v=mcO51ouMEoc
วีดีโอหมอ Haje ภาษาโปรตุเกส ซับอังกฤษ
https://www.youtube.com/watch?v=slXh1r0VcH8
คนนี้ก็เป็นอกบุ๋มเหมือนผมครับ
http://haamor.com/webboard/%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B9%84%E0%B8%9B/594/