ใครที่คิดว่าอาหารเวียดนามมีแต่แหนมเนือง ก็ไม่แปลกเพราะเจ้าของกระทู้ก็รู้แต่ว่ามี ก๋วยจั๊บญวณ เพิ่มมาอีกแค่ 1 เมนูเท่านั้น
และแน่นอนว่าอาหารเวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศอาหารที่ไม่คิดจะไปทาน เพราะสารพัดเมนูล้วนมีแต่ผัก
ผักห่อผักแกล้มผัก สารพัดผัก จึงเป็น 1 ประเภทอาหารที่มักจะมองข้ามไป
หากไม่ต้องการที่จะอัพ Instagram สวยๆเพื่อบอกว่าฉันกินคลีนนะ หรืออยากใส่แฮทแทคสวยๆว่า #Healthyfood
เพียงแค่นั้นก็รู้สึกได้ถึงความผอม
แต่ต้องบอกว่าความคิดที่ว่าอาหารเวียดนามมี 2 เมนูและมีแต่ผักนั้น
ก็ต้องเปลี่ยนไปเมื่อได้มีโอกาสมารู้จักกับหลากหลายเมนูและกรรมวิธีการทานของอาหารแต่ละชนิด
บอกเลยว่า Story แน่นโดยได้รับคำแนะนำการทานเมนูต่างๆ
จึงทำให้รู้ว่า โห อาหารเวียดนามก็เป็นเมนูที่น่าสนใจได้มากถึงเพียงนี้
ซึ่งในวันนี้มีโอกาสได้มาลิ้มรสเวียดนามแท้ๆที่ ร้าน @เถวี่ยน (Thuyen)
ซึ่งจริงๆเป็นร้านที่ผ่านบ่อยเหมือนกันแต่ไม่ได้สนใจเพราะเป็นทางลัดจากเอกมัยไปสุขุมวิท 71
สไตล์ร้านนี้จะตกแต่งแบบขาวดำ มีโซนบ้านและสวนหน้าบ้าน ให้ความรู้สึกแบบ Fine & Dining
แค่บรรยากาศร้านก็ดูแตกต่างจากร้านอาหารเวียดนามทั่วไปแล้ว
เห็นเค้าบอกว่ามีเสิร์ฟไวน์ด้วย พร้อมฟังเพลงชิลๆ คลอระหว่างทานอาหาร
สวนหน้าบ้านก็เต็มไปด้วยต้นไม้และใบเตยที่ปลูกเองเพื่อนำมาเป็นน้ำใบเตย
เสิร์ฟให้ลูกค้า หอมหวานกลมกล่อม
ส่วนในเรื่องของอาหารนั้นมาเริ่มที่เมนูแรกที่เราคุ้นเคยกันก่อน เรียกได้ว่าเป็น Signature ของอาหารเวียดนามกันเลยทีเดียว
“แหนมเนือง”
ซึ่งที่ร้านนี้จะเสิร์ฟมาในถ้วยให้ทานเป็นคำๆ ซึ่งง่ายต่อการตักเครื่องต่างๆใส่เข้าไปอย่างแน่นหนา
ทั้งมะม่วง กล้วยดิบ พริก และเส้นขนมจีน ราดด้วยน้ำจิ้มสูตรพิเศษ ที่ไม่เหมือนที่เคยชิมมาจริงๆ
รสชาติกลมกล่อมไม่รู้สึกว่าน้ำจิ้มหวานเลี่ยน เหมือนร้านอื่นๆ หม่ำเข้าไปทีเดียวทั้งคำ
พร้อมตามด้วยผักสดที่เสิร์ฟให้ฟรีแบบไม่อั้น
มาต่อเมนูที่ 2 กับบุ๋นจ่า ซึ่งประกอบไปด้วยปอเปี๊ยดทอด หมูสามชั้นย่าง
หมูสับย่างเหมือนเนื้อเบอเกอร์ และขนมจีน เมนูนี้มีความน่าสนใจในเรื่องของวิธีการกิน
โดยเริ่มแรกร้านจะเสิร์ฟน้ำซุปและฝานหัวไชเท้าใส่ไว้ในซุป และมีอีกถาดข้างๆ
แน่นอนว่าพอมาถึงเราก็คีบหมูตามด้วยขนมจีนและซดซุปต่อเพื่อความคล่องคอ
แต่ผิด!! วิธีการทานบุ๋นจ่าที่ถูกต้องคือต้องนำปอเปี๊ยดทอด หมูสามชั้นย่าง
และหมูสับย่างลงไปแช่ทิ้งไว้ในน้ำซุปก่อนเพื่อให้น้ำซุปละลายความเค็มและความหวานจากตัวหมูต่างๆ
หลังจากนั้นตามด้วยผักลงไปและ บุ๋น หรือขนมจีนนั้นเอง ปรุงรสด้วย พริก กระเทียม และบีบมะนาว
ความรู้สึกแรกนี่คิดรสชาติไม่ออก ขนมจีนมันจะไม่เละหรอกินในน้ำซุป แต่หลังจากได้ทานแล้วนั้น
บอกเลยว่า อร่อย! น้ำซุปรสเปรี้ยว หอมมะนาวและรสชาติเค็มๆหวานๆจากหมู
ทานพร้อมขนมจีนและน้ำซุป คือดี บอกเลยจานนี้ห้ามพลาด!!
เมนูถัดไป บอกเลยว่าไม่ได้หาทานได้ง่ายๆ โดยปกติแล้วต้องเสิร์ฟในสถานทูตเท่านั้น
กับเมนูที่ 3 ที่ชื่อว่า "จ่าก๋า ลาหว่อง" เมนูในตำนานของชาวเวียดนาม
ซึ่งเป็นการคลุกเคล้าระหว่างผักต่างๆ พร้อมปลาหมักเครื่องเทศ
ราดซอสสูตรพิเศษและแน่นอนว่าต้องเสิร์ฟพร้อมกับขนมจีนนั่นเอง
จานนี้ก็ยังมีกรรมวิธีการทานอีกแน่นอนโดยเริ่มแรกยกหม้อที่จุดไฟร้อนๆ พร้อมผักและเนื้อปลาเครื่องเทศในกระทะ
หลังจากนั้นผัดให้เข้ากันดีราดซอสลงไปเป็นอันเสร็จ สีสันจัดจ้าน นี่นะหรืออาหารเวียดนาม บอกตรงๆไม่เคยรู้จักมาก่อน
การทานนั้นคือนำจ่าก๋า ลาหว่องที่ผัดเสร็จแล้วราดลงไปบนขนมจีนแล้วคลุกให้เข้ากันเป็นอันเสร็จ
พร้อมทาน รสชาติหอมเครื่องเทศมาก พุ่งเตะจมูกเข้ามาเลยระหว่างทาน
พร้อมเนื้อปลาที่มาเป็นชิ้นๆ เข้ากับขนมจีนได้ดี ใครที่ชอบแนวเครื่องเทศหอมๆ
บอกเลยจานนี้ไม่ควรพลาดด้วยประการใดๆทั้งปวง
เมนูที่ 4 ยังคงอยู่ที่ปลา ชื่นชอบเมนูนี้เป็นพิเศษ กับปลาห่อใบตองย่าง
หรือหน้าตาแบบห่อหมกบ้านเรานี่แหละ เสิร์ฟมาในใบตองห่อ เปิดมาทีกลิ่นตลบอบอวล
แต่ที่เลิฟเมนูนี้เป็นพิเศษเพราะเมื่อคีบชิ้นปลาเข้าปากแล้ว เนื้อปลาช่างเด้ง กรุบกรอบ
เต็มปากเต็มคำดีเหลือเกิน ไม่ใช่เนื้อปลาเละตั้งแต่ตอนยังคีบไม่เข้าปาก แถมมีกลิ่นหอมๆ
รสชาติจัดจ้านนิดๆ ทานคู่กับเส้นหมี่ขาวที่เสิร์ฟมาข้างๆ เอาไปเลย 5 ดาว เราชอบเมนูนี้
เมนูที่ 5 เรียกได้ว่าเป็นเมนูคู่บ้านคู่เมืองของเขาเหมือนผัดกระเพราบ้านเรานี่แหละ
ขายอยู่ตามข้างทางถ้าเรียกให้ดูดีก็คืออาหารสตรีทของชาวเวียดนามนั่นคือ
"บุ๋นบ่อ" (ขนมจีนราดเนื้อ/หมูย่างตะไคร้ Top ด้วย หอมเจียว พริก และผักต่างๆ)
ก่อนทานให้เติมซอสแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน
ว่าไปก็เหมือนบิบิมบับของเกาหลีเหมือนกันแต่จะได้รสชาติเผ็ดนิด หวานเค็ม กินจานเดียวจบ
หากใครอย่างสั่งเป็นอาหารเวียดนามจานเดียวก็ต้องไม่พลาด บุ๋นบ่อ นี่แนะนำนะ แปลกดี
นอกจากอาหารเวียดนามแท้ๆ ก็ยังมีอาหารเวียดนามฟิวชั่น
เอาใจคนที่อยากมีทางเลือกอื่นในการทานอาหารเวียดนามบ้างเราก็ขอแนะนำสองเมนูนี้
กับ เสต๊กปลาแซลมอนต้มเค็ม เนื้อปลาแซลมอนมาแบบชิ้นโตๆ
ราดด้วยซอสสไตล์เวียดนามและเครื่องเคียงที่แน่นอนว่าต้องมีส่วนประกอบของขนมจีนให้ได้ลิ้มรสกัน
หรือจะเป็นหอยเชลล์ย่างแบบเวียดนามที่เสิร์ฟหอยมาเป็นตัวๆ กินคำเดียวรับรองจุใจเนื้อหอยมาเน้นๆ
ทานเล่นๆเป็นออเดิร์ฟได้ดีทีเดียว
แถมอีกเมนูเป็น ปากหม้อญวณ สอดไส้หมูสับกับต้นหอม ห่อแป้งนึ่ง โรยด้วยหอมเจียว
ทานพร้อมหมูยอคำโต ราดน้ำจิ้ม มาแบบเต็มชิ้นเต็มคำ รับรองว่าถูกอกถูกใจอย่างแน่นอน
มาที่จานสุดท้ายของของคาวกันบ้างกับ ขาแกะอบตะไคร้ ฟินมากกก
หอมเนื้อแกะ นุ่ม และไม่มีกลิ่นเหม็นมากวนใจ
ขนาดมันฝรั่งที่เคียงมาข้างๆยังอร่อยพูดเลย ชอบจริงจังและขาแกะดูดีขนาดนี้
ราคาเพียงแค่ 450 บาทเท่านั้นคือสั่งได้เลยไม่เจ็บปวดเท่าไหร่
และแน่นอนว่าต้องปิดท้ายด้วยของหวาน เวียดนามสไตล์
นั่นคือกล้วยทอดราดไซรัปโปะด้วยไอศกรีมวานิลลา
ไซรัปที่ร้านนี้ไม่หวานมากแถมยังหอมกลิ่นวานิลลา ทอดแป้งได้กรอบนอก
ฉ่ำเนื้อกล้วยข้างใน เนื้อไอศกรีมก็ดี ดีมากจริงๆ
ปิดท้ายไปแบบฟินๆกับเมนูกล้วยหอมทอดนี้
ไหนมีใครเคยทานทุกเมนูที่ว่ามาของอาหารเวียดนามนี้ครบแล้วบ้าง
ถ้าใครเคยทานครบแล้วถือว่าเป็นคนเวียดนามได้เลย
เพราะเอาจริงๆ รู้จักแทบไม่ถึงครึ่งของเมนูที่ลองทานในวันนี้
แต่เมื่อได้ลิ้มรสไปแล้วก็รู้สึกว่าจริงๆอาหารเวียดนามก็เป็นอาหารที่น่าสนใจอยู่เหมือนกัน
แถมเมื่อทานเสร็จยังรู้สึกถึงความเฮลตี้ถ้าไม่นับเนื้อแกะจานสุดท้ายที่ฟาดไปหมดเกลี้ยง
และความรู้สึกที่เป็นบ้านแบบนี้ทำให้ผู้ใหญ่ คุณพ่อคุณแม่ชอบมาก
นั่งสบายให้ความรู้สึกแบบเป็นบ้าน แถมอาหารแต่ละอย่างก็คลอเรสเตอรอลไม่สูง
รวมถึงราคาที่ส่วนใหญ่ก็อยู่ที่ 150-200 บาทซึ่งถือว่าไม่แพงเลยสำหรับย่านเอกมัย
ต่อไปถ้าเกิดอยากทานอะไรคงไม่พ้นร้านนี้ที่คุณพ่อคุณแม่คุณย่าและคุณป้าๆทั้งหลาย
ต้องรีเควสขึ้นมาอย่างแน่นอน
หากใครมองหาอาหารเวียดนามแท้ๆ แบบต้นตำรับลองมาทานร้านนี้กันนะคะ
ขอแนะนำเลย นี่ที่บ้านเป็นขาประจำไปแล้ว
[CR] 10 เมนูอาหารเวียดนามของแท้ @เถวี่ยน (Thuyen) เคยทานกันหรือยัง?
และแน่นอนว่าอาหารเวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศอาหารที่ไม่คิดจะไปทาน เพราะสารพัดเมนูล้วนมีแต่ผัก
ผักห่อผักแกล้มผัก สารพัดผัก จึงเป็น 1 ประเภทอาหารที่มักจะมองข้ามไป
หากไม่ต้องการที่จะอัพ Instagram สวยๆเพื่อบอกว่าฉันกินคลีนนะ หรืออยากใส่แฮทแทคสวยๆว่า #Healthyfood
เพียงแค่นั้นก็รู้สึกได้ถึงความผอม
แต่ต้องบอกว่าความคิดที่ว่าอาหารเวียดนามมี 2 เมนูและมีแต่ผักนั้น
ก็ต้องเปลี่ยนไปเมื่อได้มีโอกาสมารู้จักกับหลากหลายเมนูและกรรมวิธีการทานของอาหารแต่ละชนิด
บอกเลยว่า Story แน่นโดยได้รับคำแนะนำการทานเมนูต่างๆ
จึงทำให้รู้ว่า โห อาหารเวียดนามก็เป็นเมนูที่น่าสนใจได้มากถึงเพียงนี้
ซึ่งในวันนี้มีโอกาสได้มาลิ้มรสเวียดนามแท้ๆที่ ร้าน @เถวี่ยน (Thuyen)
ซึ่งจริงๆเป็นร้านที่ผ่านบ่อยเหมือนกันแต่ไม่ได้สนใจเพราะเป็นทางลัดจากเอกมัยไปสุขุมวิท 71
สไตล์ร้านนี้จะตกแต่งแบบขาวดำ มีโซนบ้านและสวนหน้าบ้าน ให้ความรู้สึกแบบ Fine & Dining
แค่บรรยากาศร้านก็ดูแตกต่างจากร้านอาหารเวียดนามทั่วไปแล้ว
เห็นเค้าบอกว่ามีเสิร์ฟไวน์ด้วย พร้อมฟังเพลงชิลๆ คลอระหว่างทานอาหาร
สวนหน้าบ้านก็เต็มไปด้วยต้นไม้และใบเตยที่ปลูกเองเพื่อนำมาเป็นน้ำใบเตย
เสิร์ฟให้ลูกค้า หอมหวานกลมกล่อม
ส่วนในเรื่องของอาหารนั้นมาเริ่มที่เมนูแรกที่เราคุ้นเคยกันก่อน เรียกได้ว่าเป็น Signature ของอาหารเวียดนามกันเลยทีเดียว
“แหนมเนือง”
ซึ่งที่ร้านนี้จะเสิร์ฟมาในถ้วยให้ทานเป็นคำๆ ซึ่งง่ายต่อการตักเครื่องต่างๆใส่เข้าไปอย่างแน่นหนา
ทั้งมะม่วง กล้วยดิบ พริก และเส้นขนมจีน ราดด้วยน้ำจิ้มสูตรพิเศษ ที่ไม่เหมือนที่เคยชิมมาจริงๆ
รสชาติกลมกล่อมไม่รู้สึกว่าน้ำจิ้มหวานเลี่ยน เหมือนร้านอื่นๆ หม่ำเข้าไปทีเดียวทั้งคำ
พร้อมตามด้วยผักสดที่เสิร์ฟให้ฟรีแบบไม่อั้น
มาต่อเมนูที่ 2 กับบุ๋นจ่า ซึ่งประกอบไปด้วยปอเปี๊ยดทอด หมูสามชั้นย่าง
หมูสับย่างเหมือนเนื้อเบอเกอร์ และขนมจีน เมนูนี้มีความน่าสนใจในเรื่องของวิธีการกิน
โดยเริ่มแรกร้านจะเสิร์ฟน้ำซุปและฝานหัวไชเท้าใส่ไว้ในซุป และมีอีกถาดข้างๆ
แน่นอนว่าพอมาถึงเราก็คีบหมูตามด้วยขนมจีนและซดซุปต่อเพื่อความคล่องคอ
แต่ผิด!! วิธีการทานบุ๋นจ่าที่ถูกต้องคือต้องนำปอเปี๊ยดทอด หมูสามชั้นย่าง
และหมูสับย่างลงไปแช่ทิ้งไว้ในน้ำซุปก่อนเพื่อให้น้ำซุปละลายความเค็มและความหวานจากตัวหมูต่างๆ
หลังจากนั้นตามด้วยผักลงไปและ บุ๋น หรือขนมจีนนั้นเอง ปรุงรสด้วย พริก กระเทียม และบีบมะนาว
ความรู้สึกแรกนี่คิดรสชาติไม่ออก ขนมจีนมันจะไม่เละหรอกินในน้ำซุป แต่หลังจากได้ทานแล้วนั้น
บอกเลยว่า อร่อย! น้ำซุปรสเปรี้ยว หอมมะนาวและรสชาติเค็มๆหวานๆจากหมู
ทานพร้อมขนมจีนและน้ำซุป คือดี บอกเลยจานนี้ห้ามพลาด!!
เมนูถัดไป บอกเลยว่าไม่ได้หาทานได้ง่ายๆ โดยปกติแล้วต้องเสิร์ฟในสถานทูตเท่านั้น
กับเมนูที่ 3 ที่ชื่อว่า "จ่าก๋า ลาหว่อง" เมนูในตำนานของชาวเวียดนาม
ซึ่งเป็นการคลุกเคล้าระหว่างผักต่างๆ พร้อมปลาหมักเครื่องเทศ
ราดซอสสูตรพิเศษและแน่นอนว่าต้องเสิร์ฟพร้อมกับขนมจีนนั่นเอง
จานนี้ก็ยังมีกรรมวิธีการทานอีกแน่นอนโดยเริ่มแรกยกหม้อที่จุดไฟร้อนๆ พร้อมผักและเนื้อปลาเครื่องเทศในกระทะ
หลังจากนั้นผัดให้เข้ากันดีราดซอสลงไปเป็นอันเสร็จ สีสันจัดจ้าน นี่นะหรืออาหารเวียดนาม บอกตรงๆไม่เคยรู้จักมาก่อน
การทานนั้นคือนำจ่าก๋า ลาหว่องที่ผัดเสร็จแล้วราดลงไปบนขนมจีนแล้วคลุกให้เข้ากันเป็นอันเสร็จ
พร้อมทาน รสชาติหอมเครื่องเทศมาก พุ่งเตะจมูกเข้ามาเลยระหว่างทาน
พร้อมเนื้อปลาที่มาเป็นชิ้นๆ เข้ากับขนมจีนได้ดี ใครที่ชอบแนวเครื่องเทศหอมๆ
บอกเลยจานนี้ไม่ควรพลาดด้วยประการใดๆทั้งปวง
เมนูที่ 4 ยังคงอยู่ที่ปลา ชื่นชอบเมนูนี้เป็นพิเศษ กับปลาห่อใบตองย่าง
หรือหน้าตาแบบห่อหมกบ้านเรานี่แหละ เสิร์ฟมาในใบตองห่อ เปิดมาทีกลิ่นตลบอบอวล
แต่ที่เลิฟเมนูนี้เป็นพิเศษเพราะเมื่อคีบชิ้นปลาเข้าปากแล้ว เนื้อปลาช่างเด้ง กรุบกรอบ
เต็มปากเต็มคำดีเหลือเกิน ไม่ใช่เนื้อปลาเละตั้งแต่ตอนยังคีบไม่เข้าปาก แถมมีกลิ่นหอมๆ
รสชาติจัดจ้านนิดๆ ทานคู่กับเส้นหมี่ขาวที่เสิร์ฟมาข้างๆ เอาไปเลย 5 ดาว เราชอบเมนูนี้
เมนูที่ 5 เรียกได้ว่าเป็นเมนูคู่บ้านคู่เมืองของเขาเหมือนผัดกระเพราบ้านเรานี่แหละ
ขายอยู่ตามข้างทางถ้าเรียกให้ดูดีก็คืออาหารสตรีทของชาวเวียดนามนั่นคือ
"บุ๋นบ่อ" (ขนมจีนราดเนื้อ/หมูย่างตะไคร้ Top ด้วย หอมเจียว พริก และผักต่างๆ)
ก่อนทานให้เติมซอสแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน
ว่าไปก็เหมือนบิบิมบับของเกาหลีเหมือนกันแต่จะได้รสชาติเผ็ดนิด หวานเค็ม กินจานเดียวจบ
หากใครอย่างสั่งเป็นอาหารเวียดนามจานเดียวก็ต้องไม่พลาด บุ๋นบ่อ นี่แนะนำนะ แปลกดี
นอกจากอาหารเวียดนามแท้ๆ ก็ยังมีอาหารเวียดนามฟิวชั่น
เอาใจคนที่อยากมีทางเลือกอื่นในการทานอาหารเวียดนามบ้างเราก็ขอแนะนำสองเมนูนี้
กับ เสต๊กปลาแซลมอนต้มเค็ม เนื้อปลาแซลมอนมาแบบชิ้นโตๆ
ราดด้วยซอสสไตล์เวียดนามและเครื่องเคียงที่แน่นอนว่าต้องมีส่วนประกอบของขนมจีนให้ได้ลิ้มรสกัน
หรือจะเป็นหอยเชลล์ย่างแบบเวียดนามที่เสิร์ฟหอยมาเป็นตัวๆ กินคำเดียวรับรองจุใจเนื้อหอยมาเน้นๆ
ทานเล่นๆเป็นออเดิร์ฟได้ดีทีเดียว
แถมอีกเมนูเป็น ปากหม้อญวณ สอดไส้หมูสับกับต้นหอม ห่อแป้งนึ่ง โรยด้วยหอมเจียว
ทานพร้อมหมูยอคำโต ราดน้ำจิ้ม มาแบบเต็มชิ้นเต็มคำ รับรองว่าถูกอกถูกใจอย่างแน่นอน
มาที่จานสุดท้ายของของคาวกันบ้างกับ ขาแกะอบตะไคร้ ฟินมากกก
หอมเนื้อแกะ นุ่ม และไม่มีกลิ่นเหม็นมากวนใจ
ขนาดมันฝรั่งที่เคียงมาข้างๆยังอร่อยพูดเลย ชอบจริงจังและขาแกะดูดีขนาดนี้
ราคาเพียงแค่ 450 บาทเท่านั้นคือสั่งได้เลยไม่เจ็บปวดเท่าไหร่
และแน่นอนว่าต้องปิดท้ายด้วยของหวาน เวียดนามสไตล์
นั่นคือกล้วยทอดราดไซรัปโปะด้วยไอศกรีมวานิลลา
ไซรัปที่ร้านนี้ไม่หวานมากแถมยังหอมกลิ่นวานิลลา ทอดแป้งได้กรอบนอก
ฉ่ำเนื้อกล้วยข้างใน เนื้อไอศกรีมก็ดี ดีมากจริงๆ
ปิดท้ายไปแบบฟินๆกับเมนูกล้วยหอมทอดนี้
ไหนมีใครเคยทานทุกเมนูที่ว่ามาของอาหารเวียดนามนี้ครบแล้วบ้าง
ถ้าใครเคยทานครบแล้วถือว่าเป็นคนเวียดนามได้เลย
เพราะเอาจริงๆ รู้จักแทบไม่ถึงครึ่งของเมนูที่ลองทานในวันนี้
แต่เมื่อได้ลิ้มรสไปแล้วก็รู้สึกว่าจริงๆอาหารเวียดนามก็เป็นอาหารที่น่าสนใจอยู่เหมือนกัน
แถมเมื่อทานเสร็จยังรู้สึกถึงความเฮลตี้ถ้าไม่นับเนื้อแกะจานสุดท้ายที่ฟาดไปหมดเกลี้ยง
และความรู้สึกที่เป็นบ้านแบบนี้ทำให้ผู้ใหญ่ คุณพ่อคุณแม่ชอบมาก
นั่งสบายให้ความรู้สึกแบบเป็นบ้าน แถมอาหารแต่ละอย่างก็คลอเรสเตอรอลไม่สูง
รวมถึงราคาที่ส่วนใหญ่ก็อยู่ที่ 150-200 บาทซึ่งถือว่าไม่แพงเลยสำหรับย่านเอกมัย
ต่อไปถ้าเกิดอยากทานอะไรคงไม่พ้นร้านนี้ที่คุณพ่อคุณแม่คุณย่าและคุณป้าๆทั้งหลาย
ต้องรีเควสขึ้นมาอย่างแน่นอน
หากใครมองหาอาหารเวียดนามแท้ๆ แบบต้นตำรับลองมาทานร้านนี้กันนะคะ
ขอแนะนำเลย นี่ที่บ้านเป็นขาประจำไปแล้ว