หนทางแห่งความรัก
.
ขณะที่เรายังเป็นหนุ่มเป็นสาวอยู่ จำเป็นมากไหมที่จะต้องมีใครสักคนมารักเรา จำเป็นไหมที่เราจะต้องรู้ซึ้งถึงความหมายของคำว่า “รัก” แต่สำหรับฉันแล้ว ฉันเชื่องว่าพวกเราส่วนมากไม่รู้จักรัก และไม่เคยได้รับความรักด้วยซ้ำ ฉันคิดว่าจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องเจาะลึกเข้าไปในปัญหาเรื่องความรักนี้และพยายามเข้าใจมันในขณะที่เรายังมีอายุน้อยอยู่ เผื่อว่าบางทีเราอาจมีจิตใจละเอียดอ่อนพอที่จะหยั่งรู้ถึงความรัก รู้ถึงคุณลักษณะของมันรู้ถึงความหอมหวานของมัน เผื่อว่าเราโตขึ้น ความรักนั้นจะยังคงหลงเหลืออยู่ ไม่ถูกทำลายลงจนหมดสิ้น ดังนั้น จึงขอให้เรามาลองพิจารณาถึงปัญหาเรื่องความรักนี้
.
ความรักหมายถึงอะไร มันเป็นเพียงความเพ้อฝัน เป็นอุดมคติ หรือว่าเป็นบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ไกลจนสุดเอื้อมหรือว่าความรักอาจสัมผัสรับรู้ได้โดยเราแต่ละคน ในวินาทีอันแสนมหัศจรรย์ของวันทุกวัน การมีใจเมตตาสงสาร มีความเข้าอกเข้าใจ การช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังผล การไปดูแลเอาใจใส่ต้นไม้หรือสุนัข การแสดงความสงสารต่อชาวบ้าน มีใจกว้างต่อมิตรสหาย ต่อเพื่อนบ้าน เหล่านี้คือสิ่งที่เราเรียกว่าความรักใช่หรือไม่ ความรักคือสภาวะที่ไร้ความโกรธใดๆ จะมีแต่การให้อภัยตลอดกาลใช่หรือไม่ เป็นไปได้ไหมที่เราจะรู้ซึ้งถึงเรื่องของความรักในขณะที่เรายังหนุ่มยังสาว
.
ในขณะที่เรายังหนุ่มยังสาวอยู่ พวกเราหลายคนได้มีประสบการณ์ในเรื่องนี้มาแล้ว เช่น การออกไปช่วยเหลือชาวบ้าน ช่วยสุนัข ช่วยคนจนหรือคนที่หมดที่พึ่ง สิ่งเหล่านี้แสดงออกถึงการรับใช้ผู้อื่นอย่างสม่ำเสมอมิใช่หรือ เราอาจใช้เวลาส่วนหนึ่งในแต่ละวันคอยช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอดูแลสวน ดูแลต้นไม้ คอยช่วยเหลือในบ้าน เพื่อว่าเมื่อเธอเติบโตขึ้นเธอจะได้รู้ว่า ความรู้สึกรักอย่างธรรมชาตินั้นเป็นอย่างไร มันจะเกิดขึ้นเองโดยไม่ต้องอาศัยการบีบบังคับ ไม่ต้องอาศัยแรงกระตุ้น และไม่หวังผล เธอจะมีคุณลักษณะของความรักที่แท้จริงเช่นนี้ได้หรือไม่
.
ความรักความเห็นใจที่แท้จริงไม่อาจแสดงออกด้วยอาการเสแสร้งเธอจะต้องใช้อารมณ์ความรู้สึกอันละเอียดอ่อนมาสัมผัสมัน ทั้งผู้ปกครองทั้งพ่อแม่และครูอาจารย์จะต้องระลึกรู้และสัมผัสถึงความรู้สึกนี้ด้วย ผู้คนส่วนมากมักขาดความรักที่แท้ เขาหมกมุ่นอยู่แต่เรื่องความก้าวหน้ามากเกินไป กังวลอยู่แต่สิ่งที่ตนปรารถนา สนใจอยู่แต่วิชาความรู้ ห่วงใยอยู่แต่ความสำเร็จ เขาให้ความสำคัญอย่างยิ่งใหญ่แก่สิ่งที่เขาทำ สิ่งที่เขาปรารถนา ซึ่งในที่สุดแล้วสิ่งเหล่านั้นจะหวนกลับมาทำลายเขาลงอย่างสิ้นเชิง
.
ในขณะที่เธอยังเยาว์อยู่นับว่าเป็นงานสำคัญมาก ที่จะช่วยดูแลห้องให้ผู้อื่น ดูแลต้นไม้ที่เธอได้ปลูกเอง ไปช่วยเหลือพยาบาลเพื่อนที่เจ็บป่วย เมื่อทำได้ดังนั้นความสงสารเห็นใจอันลึกล้ำ ความผูกพัน ความใจกว้างก็จะบังเกิดขึ้น ความใจกว้างอันแท้จริงมิใช่อยู่ที่จิตใจเท่านั้น มันทำให้เธอเข้าร่วมทุกข์สุขกับคนบางคนได้ในเรื่องทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยพียงใด ถ้าเธอยังไม่มีอารมณ์ความรู้สึกแห่งความรัก ความใจกว้าง ความกรุณา ความอ่อนโยน ในขณะที่เธอยังเป็นหนุ่มเป็นสาวอยู่ละก็ เมื่อเธอแก่ตัวขึ้น เธอจะมีสิ่งเหล่านี้ได้ยากมาก แต่ถ้าเริ่มสั่งสมขึ้นมาเสียตั้งแต่บัดนี้บางทีเธออาจจะปลุกความรู้สึกชนิดนี้ให้บังเกิดขึ้นกับคนอื่นๆ ได้อีกด้วย
.
การที่จะมีความเห็นอกเห็นใจและความรักได้ จำเป็นจะต้องสลัดหลุดพ้นออกจากความกลัวเสียก่อน แต่เธอคงรู้อยู่แก่ใจแล้วว่าการที่จะเติบโตขึ้นในโลกนี้โดยปราศจากความกลัวเป็นสิ่งที่ยากมาก และการกระทำอะไรลงไปโดยปราศจากแรงผลักดันแห่งตัณหาก็เป็นสิ่งที่ยากพอๆกัน พวกผู้ใหญ่ไม่เคยคิดถึงปัญหาเรื่องความกลัวนี้เลย หรือถ้าเคยคิด ก็เพียงแต่คิดในแง่ของนามธรรมที่ไม่แจ่มชัด โดยไม่พยายามนำมาปฏิบัติทดลองจริงๆ ในชีวิตประจำวัน เธอยังเยาว์มาก เธอเฝ้ามอง เฝ้าถามไถ่ เฝ้าเรียนรู้ แต่ถ้าเธอไม่ได้เห็นและไม่เข้าใจว่าอะไรที่ทำให้เกิดความกลัวขึ้นแล้ว เธอก็จะกลับกลายเป็นเหมือนพวกผู้ใหญ่เหล่านั้น เหมือนกับวัชพืชที่ซุกซ่อนตัวเองอยู่ในที่อับ ความกลัวจะเติบโตขึ้น แผ่ขยายออกและบดบังญาณทัศนะของเธอ เธอจะต้องรับรู้ถึงสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นรอบๆ และภายในตัวเอง รู้ว่าครูพูดอย่างไร พ่อแม่ประพฤติอย่างไร และเธอตอบสนองไปเช่นไร ในที่สุดความกลัวก็จะถูกค้นพบและเธอก็อาจเข้าใจมันได้
.
พวกผู้ใหญ่ส่วนมากคิดว่า ระเบียบกฎเกณฑ์บางอย่างเป็นสิ่งจำเป็นเธอรู้หรือไม่ว่าระเบียบกฎเกณฑ์เหล่านี้คืออะไร มันคือวิธีการที่จะทำให้เธอต้องฝืนใจทำบางสิ่งบางอย่างที่เธอไม่อยากจะทำ ที่ใดมีระเบียบกฎเกณฑ์ที่นั่นก็มีความกลัว ดังนั้น ระเบียบกฎเกณฑ์จึงไม่ใช่หนทางแห่งความรักนี่เป็นเหตุผลที่ว่าระเบียบทุกชนิดเป็นสิ่งที่คนหลีกเลี่ยง ระเบียบคือการบังคับ เป็นการกดขี่ให้เธอทำบางสิ่งบางอย่างที่เธอไม่อาจเข้าใจ หรือกระตุ้นให้ทำโดยเสนอรางวัลเป็นเครื่องล่อ ถ้าเธอยังไม่เข้าใจอะไรก็จงอย่าทำและอย่ายอมให้คนอื่นมาบังคับให้ทำ จงถามเพื่อขอคำอธิบาย อย่าดันทุรังทำไปโดยยังไม่รู้ แต่จงพยายามค้นหาความจริงแห่งเรื่องราว เพื่อว่าความกลัวจะได้ไม่กล้าเข้ามายึดครองจิตใจ และทำให้ใจของเธออ่อนไหวไขว้เขว
.
หากเธอยังไม่เข้าใจและถูกบังคับให้กระทำโดยอำนาจของผู้สูงวัยกว่านั่นเท่ากับเป็นการบีบบังคับจิตใจของเธอเอง เมื่อนั้นความกลัวก็เกิดขึ้นความกลัวจะติดตามเธอไปเหมือนกับเงาจนตลอดชีวิต จึงนับว่าเป็นสิ่งสำคัญมากที่เธอไม่ควรทำตามระเบียบกฎเกณฑ์บางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นกฎเกณฑ์ทางด้านความคิดหรือการกระทำ มีแต่พวกผู้ใหญ่เท่านั้นที่สามารถคิดในเรื่องระเบียบเท่านั้น เขาต้องการให้เธอทำสิ่งที่เรียกกันว่าความดีกระบวนการที่นำมาใช้ควบคุมให้เธอทำดีนั้น ก็คือกระบวนการที่ทำลายความรู้สึกนึกคิดของเธอ ทำลายความสามารถในการเข้าใจ และยังทำลายความรักลงอีกด้วย การปฏิเสธที่จะไม่ทำตามคำขู่หรือการบีบบังคับนี้ออกจะยาก ด้วยโลกที่แวดล้อมตัวเราอยู่นี้แข็งแกร่งมาก แต่ถ้าเรายอมเข้าไปอยู่ในโลกนั้น และทำอะไรต่ออะไรโดยที่ตัวเราเองก็ยังไม่เข้าใจ เธอก็จะเริ่มเกิดความเคยชินที่จะทำอะไรโดยไม่ยอมใช้สมอง ไม่ยอมคิดอะไรเลย และเมื่อนั้นการที่จะหลุดพ้นออกมาจากโลกนั้นก็เป็นสิ่งที่ยากเข็ญยิ่งนัก
.
เมื่อเธออยู่ในโรงเรียน ควรจะเลือกเอาอย่างไหน ระหว่างการมีคนควบคุมดูแลพร้อมด้วยระเบียบกฎเกณฑ์ หรือการได้รับการสนับสนุนจากครูให้มาถกเถียงปัญหาต่างๆ ร่วมกัน เข้าให้ถึงแก่นของปัญหา และพยายามเข้าใจมัน เพื่อว่าเมื่อเธอเติบโตเป็นผู้ใหญ่และออกไปดำรงชีวิตอยู่ในโลกจะได้สามารถเผชิญกับปัญหาในโลกได้อย่างไม่ย่อท้อด้วยเชาว์ปัญญา ไหวพริบ และสติ เธอไม่อาจจะมีเชาว์ปัญญาอันลึกซึ้งได้ หากยังมีความกลัวชนิดใดชนิดหนึ่งอยู่ ความกลัวมีแต่จะทำให้เธอโง่งม มันจะบิดเบือนธรรมชาติดั้งเดิมของเธอ มันทำลายเปลวเพลิงแห่งความเห็นอกเห็นใจ ความสงสาร ความใจกว้าง ความนิยมชมชื่น และความรัก ฉะนั้น จงอย่ายอมเข้าไปอยู่ใต้กรอบของระเบียบกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่คอยมาควบคุมความประพฤติ แต่จงแสวงหา ซึ่งหมายความว่าเธอจะต้องหาเวลามานั่งถามตัวเองตั้งปัญหาตั้งขอสงสัย และครูเองก็ควรจะมีเวลาพอที่จะมาทำเช่นเดียวกันนี้ด้วย และหากไม่มีเวลาจริงๆ ก็ควรจะหาเวลาให้ได้
.
ความกลัวเป็นต้นตอแห่งความหลอกลวงฉ้อฉล มันเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความเสื่อมทราม การเป็นอิสระจากความกลัวเป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่าการสอบไล่ใดๆ หรือปริญญาทางการศึกษาใดๆ เสียอีก
.
CR กฤษณมูรติพูดจากหนังสือแด่หนุ่มสาว
กฤษณมูรติ - หนทางแห่งความรัก
.
ขณะที่เรายังเป็นหนุ่มเป็นสาวอยู่ จำเป็นมากไหมที่จะต้องมีใครสักคนมารักเรา จำเป็นไหมที่เราจะต้องรู้ซึ้งถึงความหมายของคำว่า “รัก” แต่สำหรับฉันแล้ว ฉันเชื่องว่าพวกเราส่วนมากไม่รู้จักรัก และไม่เคยได้รับความรักด้วยซ้ำ ฉันคิดว่าจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องเจาะลึกเข้าไปในปัญหาเรื่องความรักนี้และพยายามเข้าใจมันในขณะที่เรายังมีอายุน้อยอยู่ เผื่อว่าบางทีเราอาจมีจิตใจละเอียดอ่อนพอที่จะหยั่งรู้ถึงความรัก รู้ถึงคุณลักษณะของมันรู้ถึงความหอมหวานของมัน เผื่อว่าเราโตขึ้น ความรักนั้นจะยังคงหลงเหลืออยู่ ไม่ถูกทำลายลงจนหมดสิ้น ดังนั้น จึงขอให้เรามาลองพิจารณาถึงปัญหาเรื่องความรักนี้
.
ความรักหมายถึงอะไร มันเป็นเพียงความเพ้อฝัน เป็นอุดมคติ หรือว่าเป็นบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ไกลจนสุดเอื้อมหรือว่าความรักอาจสัมผัสรับรู้ได้โดยเราแต่ละคน ในวินาทีอันแสนมหัศจรรย์ของวันทุกวัน การมีใจเมตตาสงสาร มีความเข้าอกเข้าใจ การช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังผล การไปดูแลเอาใจใส่ต้นไม้หรือสุนัข การแสดงความสงสารต่อชาวบ้าน มีใจกว้างต่อมิตรสหาย ต่อเพื่อนบ้าน เหล่านี้คือสิ่งที่เราเรียกว่าความรักใช่หรือไม่ ความรักคือสภาวะที่ไร้ความโกรธใดๆ จะมีแต่การให้อภัยตลอดกาลใช่หรือไม่ เป็นไปได้ไหมที่เราจะรู้ซึ้งถึงเรื่องของความรักในขณะที่เรายังหนุ่มยังสาว
.
ในขณะที่เรายังหนุ่มยังสาวอยู่ พวกเราหลายคนได้มีประสบการณ์ในเรื่องนี้มาแล้ว เช่น การออกไปช่วยเหลือชาวบ้าน ช่วยสุนัข ช่วยคนจนหรือคนที่หมดที่พึ่ง สิ่งเหล่านี้แสดงออกถึงการรับใช้ผู้อื่นอย่างสม่ำเสมอมิใช่หรือ เราอาจใช้เวลาส่วนหนึ่งในแต่ละวันคอยช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอดูแลสวน ดูแลต้นไม้ คอยช่วยเหลือในบ้าน เพื่อว่าเมื่อเธอเติบโตขึ้นเธอจะได้รู้ว่า ความรู้สึกรักอย่างธรรมชาตินั้นเป็นอย่างไร มันจะเกิดขึ้นเองโดยไม่ต้องอาศัยการบีบบังคับ ไม่ต้องอาศัยแรงกระตุ้น และไม่หวังผล เธอจะมีคุณลักษณะของความรักที่แท้จริงเช่นนี้ได้หรือไม่
.
ความรักความเห็นใจที่แท้จริงไม่อาจแสดงออกด้วยอาการเสแสร้งเธอจะต้องใช้อารมณ์ความรู้สึกอันละเอียดอ่อนมาสัมผัสมัน ทั้งผู้ปกครองทั้งพ่อแม่และครูอาจารย์จะต้องระลึกรู้และสัมผัสถึงความรู้สึกนี้ด้วย ผู้คนส่วนมากมักขาดความรักที่แท้ เขาหมกมุ่นอยู่แต่เรื่องความก้าวหน้ามากเกินไป กังวลอยู่แต่สิ่งที่ตนปรารถนา สนใจอยู่แต่วิชาความรู้ ห่วงใยอยู่แต่ความสำเร็จ เขาให้ความสำคัญอย่างยิ่งใหญ่แก่สิ่งที่เขาทำ สิ่งที่เขาปรารถนา ซึ่งในที่สุดแล้วสิ่งเหล่านั้นจะหวนกลับมาทำลายเขาลงอย่างสิ้นเชิง
.
ในขณะที่เธอยังเยาว์อยู่นับว่าเป็นงานสำคัญมาก ที่จะช่วยดูแลห้องให้ผู้อื่น ดูแลต้นไม้ที่เธอได้ปลูกเอง ไปช่วยเหลือพยาบาลเพื่อนที่เจ็บป่วย เมื่อทำได้ดังนั้นความสงสารเห็นใจอันลึกล้ำ ความผูกพัน ความใจกว้างก็จะบังเกิดขึ้น ความใจกว้างอันแท้จริงมิใช่อยู่ที่จิตใจเท่านั้น มันทำให้เธอเข้าร่วมทุกข์สุขกับคนบางคนได้ในเรื่องทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยพียงใด ถ้าเธอยังไม่มีอารมณ์ความรู้สึกแห่งความรัก ความใจกว้าง ความกรุณา ความอ่อนโยน ในขณะที่เธอยังเป็นหนุ่มเป็นสาวอยู่ละก็ เมื่อเธอแก่ตัวขึ้น เธอจะมีสิ่งเหล่านี้ได้ยากมาก แต่ถ้าเริ่มสั่งสมขึ้นมาเสียตั้งแต่บัดนี้บางทีเธออาจจะปลุกความรู้สึกชนิดนี้ให้บังเกิดขึ้นกับคนอื่นๆ ได้อีกด้วย
.
การที่จะมีความเห็นอกเห็นใจและความรักได้ จำเป็นจะต้องสลัดหลุดพ้นออกจากความกลัวเสียก่อน แต่เธอคงรู้อยู่แก่ใจแล้วว่าการที่จะเติบโตขึ้นในโลกนี้โดยปราศจากความกลัวเป็นสิ่งที่ยากมาก และการกระทำอะไรลงไปโดยปราศจากแรงผลักดันแห่งตัณหาก็เป็นสิ่งที่ยากพอๆกัน พวกผู้ใหญ่ไม่เคยคิดถึงปัญหาเรื่องความกลัวนี้เลย หรือถ้าเคยคิด ก็เพียงแต่คิดในแง่ของนามธรรมที่ไม่แจ่มชัด โดยไม่พยายามนำมาปฏิบัติทดลองจริงๆ ในชีวิตประจำวัน เธอยังเยาว์มาก เธอเฝ้ามอง เฝ้าถามไถ่ เฝ้าเรียนรู้ แต่ถ้าเธอไม่ได้เห็นและไม่เข้าใจว่าอะไรที่ทำให้เกิดความกลัวขึ้นแล้ว เธอก็จะกลับกลายเป็นเหมือนพวกผู้ใหญ่เหล่านั้น เหมือนกับวัชพืชที่ซุกซ่อนตัวเองอยู่ในที่อับ ความกลัวจะเติบโตขึ้น แผ่ขยายออกและบดบังญาณทัศนะของเธอ เธอจะต้องรับรู้ถึงสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นรอบๆ และภายในตัวเอง รู้ว่าครูพูดอย่างไร พ่อแม่ประพฤติอย่างไร และเธอตอบสนองไปเช่นไร ในที่สุดความกลัวก็จะถูกค้นพบและเธอก็อาจเข้าใจมันได้
.
พวกผู้ใหญ่ส่วนมากคิดว่า ระเบียบกฎเกณฑ์บางอย่างเป็นสิ่งจำเป็นเธอรู้หรือไม่ว่าระเบียบกฎเกณฑ์เหล่านี้คืออะไร มันคือวิธีการที่จะทำให้เธอต้องฝืนใจทำบางสิ่งบางอย่างที่เธอไม่อยากจะทำ ที่ใดมีระเบียบกฎเกณฑ์ที่นั่นก็มีความกลัว ดังนั้น ระเบียบกฎเกณฑ์จึงไม่ใช่หนทางแห่งความรักนี่เป็นเหตุผลที่ว่าระเบียบทุกชนิดเป็นสิ่งที่คนหลีกเลี่ยง ระเบียบคือการบังคับ เป็นการกดขี่ให้เธอทำบางสิ่งบางอย่างที่เธอไม่อาจเข้าใจ หรือกระตุ้นให้ทำโดยเสนอรางวัลเป็นเครื่องล่อ ถ้าเธอยังไม่เข้าใจอะไรก็จงอย่าทำและอย่ายอมให้คนอื่นมาบังคับให้ทำ จงถามเพื่อขอคำอธิบาย อย่าดันทุรังทำไปโดยยังไม่รู้ แต่จงพยายามค้นหาความจริงแห่งเรื่องราว เพื่อว่าความกลัวจะได้ไม่กล้าเข้ามายึดครองจิตใจ และทำให้ใจของเธออ่อนไหวไขว้เขว
.
หากเธอยังไม่เข้าใจและถูกบังคับให้กระทำโดยอำนาจของผู้สูงวัยกว่านั่นเท่ากับเป็นการบีบบังคับจิตใจของเธอเอง เมื่อนั้นความกลัวก็เกิดขึ้นความกลัวจะติดตามเธอไปเหมือนกับเงาจนตลอดชีวิต จึงนับว่าเป็นสิ่งสำคัญมากที่เธอไม่ควรทำตามระเบียบกฎเกณฑ์บางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นกฎเกณฑ์ทางด้านความคิดหรือการกระทำ มีแต่พวกผู้ใหญ่เท่านั้นที่สามารถคิดในเรื่องระเบียบเท่านั้น เขาต้องการให้เธอทำสิ่งที่เรียกกันว่าความดีกระบวนการที่นำมาใช้ควบคุมให้เธอทำดีนั้น ก็คือกระบวนการที่ทำลายความรู้สึกนึกคิดของเธอ ทำลายความสามารถในการเข้าใจ และยังทำลายความรักลงอีกด้วย การปฏิเสธที่จะไม่ทำตามคำขู่หรือการบีบบังคับนี้ออกจะยาก ด้วยโลกที่แวดล้อมตัวเราอยู่นี้แข็งแกร่งมาก แต่ถ้าเรายอมเข้าไปอยู่ในโลกนั้น และทำอะไรต่ออะไรโดยที่ตัวเราเองก็ยังไม่เข้าใจ เธอก็จะเริ่มเกิดความเคยชินที่จะทำอะไรโดยไม่ยอมใช้สมอง ไม่ยอมคิดอะไรเลย และเมื่อนั้นการที่จะหลุดพ้นออกมาจากโลกนั้นก็เป็นสิ่งที่ยากเข็ญยิ่งนัก
.
เมื่อเธออยู่ในโรงเรียน ควรจะเลือกเอาอย่างไหน ระหว่างการมีคนควบคุมดูแลพร้อมด้วยระเบียบกฎเกณฑ์ หรือการได้รับการสนับสนุนจากครูให้มาถกเถียงปัญหาต่างๆ ร่วมกัน เข้าให้ถึงแก่นของปัญหา และพยายามเข้าใจมัน เพื่อว่าเมื่อเธอเติบโตเป็นผู้ใหญ่และออกไปดำรงชีวิตอยู่ในโลกจะได้สามารถเผชิญกับปัญหาในโลกได้อย่างไม่ย่อท้อด้วยเชาว์ปัญญา ไหวพริบ และสติ เธอไม่อาจจะมีเชาว์ปัญญาอันลึกซึ้งได้ หากยังมีความกลัวชนิดใดชนิดหนึ่งอยู่ ความกลัวมีแต่จะทำให้เธอโง่งม มันจะบิดเบือนธรรมชาติดั้งเดิมของเธอ มันทำลายเปลวเพลิงแห่งความเห็นอกเห็นใจ ความสงสาร ความใจกว้าง ความนิยมชมชื่น และความรัก ฉะนั้น จงอย่ายอมเข้าไปอยู่ใต้กรอบของระเบียบกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่คอยมาควบคุมความประพฤติ แต่จงแสวงหา ซึ่งหมายความว่าเธอจะต้องหาเวลามานั่งถามตัวเองตั้งปัญหาตั้งขอสงสัย และครูเองก็ควรจะมีเวลาพอที่จะมาทำเช่นเดียวกันนี้ด้วย และหากไม่มีเวลาจริงๆ ก็ควรจะหาเวลาให้ได้
.
ความกลัวเป็นต้นตอแห่งความหลอกลวงฉ้อฉล มันเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความเสื่อมทราม การเป็นอิสระจากความกลัวเป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่าการสอบไล่ใดๆ หรือปริญญาทางการศึกษาใดๆ เสียอีก
.
CR กฤษณมูรติพูดจากหนังสือแด่หนุ่มสาว