ทรงประกาศธรรม เนื่องด้วยการปลงอายุสังขาร

ภิกษุทั้งหลาย !  ธรรมเหล่าใดที่เราแสดงแล้ว ด้วยปัญญาอันยิ่ง
ธรรมเหล่านั้น พวกเธอพึงเรียนเอาให้ดี พึงเสพให้ทั่ว  พึงเจริญทำให้มาก 
โดยอาการที่พรหมจรรย์   (คือศาสนานี้) จักมั่นคง ตั้งอยู่ได้ตลอดกาลนาน, 
ข้อนั้นจักเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่มหาชน เพื่อความสุขแก่มหาชน,
เพื่ออนุเคราะห์โลก, เพื่อประโยชน์ เพื่อความเกื้อกูล 
เพื่อความสุขแก่ เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย.
ภิกษุทั้งหลาย !  ธรรมเหล่าไหนเล่า ที่เราแสดงแล้วด้วยปัญญาอันยิ่ง ฯลฯ, 
คือ :- สติปัฏฐานสี่ สัมมัปธานสี่ อิทธิบาทสี่ อินทรีย์ห้า พละห้า 
โพชฌงค์เจ็ด   อริยมรรคมีองค์แปด.

ภิกษุทั้งหลาย !  บัดนี้เราจักเตือนท่านทั้งหลายว่า : 
สังขารทั้งหลาย  มีความเสื่อมเป็นธรรมดา  พวกเธอจงให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาทเถิด,
การปรินิพพานของตถาคต จักมีในกาลไม่นานเลย
ตถาคตจักปรินิพพาน โดยกาลล่วงไปแห่งสามเดือนนี้.

สัตว์ทั้งปวง ทั้งที่เป็นคนหนุ่มและคนแก่,
ทั้งที่เป็นคนพาล และบัณฑิต,
ทั้งที่มั่งมีและยากจน
ล้วนแต่มีความตาย เป็นที่ไปถึงในเบื้องหน้า,
เปรียบเหมือนภาชนะดิน ที่ช่างหม้อปั้นแล้ว ทั้งเล็กและใหญ่, 
ทั้งที่สุกแล้วและยังดิบ
ล้วนแต่มีการแตกทำลายเป็นที่สุด  ฉันใด;
ชีวิตแห่งสัตว์ทั้งหลาย  ก็มีความตายเป็นเบื้องหน้า  ฉันนั้น.   
วัยของเราแก่หง่อมแล้ว ชีวิตของเราริบหรี่แล้ว
เราจักละพวกเธอไป สรณะของตัวเองเราได้ทำไว้แล้ว. 
ภิกษุทั้งหลาย !  พวกเธอจงเป็นผู้ไม่ประมาท
มีสติ  มีศีลเป็นอย่างดี
มีความดำริอันตั้งไว้แล้วด้วยดี 
ตามรักษาซึ่งจิตของตนเถิด.
ในธรรมวินัยนี้ ภิกษุใดเป็นผู้ไม่ประมาทแล้ว 
จักละชาติสงสาร  ทำที่สุดแห่งทุกข์ได้.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่