เรือดำน้ำอรหันต์ (Arihant) ขนาด 6,000 ตัน เรือดำน้ำติดอาวุธของอินเดียกำลังเข้าสู่ช่วงการทดสอบขั้นสุดท้าย ซึ่งจะทำให้อินเดียกลายเป็นประเทศที่ 6 ที่มีเรือดำน้ำติดอาวุธนิวเคลียร์ไว้ประจำการ โดยเรือดำน้ำดังกล่าวเตรียมเข้าประจำการกับกองทัพเรือของอินเดีย ขณะเดียวกันก็อยู่ภายใต้สายบังคับการโดยตรงของหน่วยงานสั่งการอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดิ นั่งเป็นประธาน

โครงการเรือดำน้ำอรหันต์ ถือเป็นโครงการออกแบบและสร้างเรือดำน้ำชุดแรกของอินเดีย ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1980 ด้วยความช่วยเหลือจากสหภาพโซเวียต และตัวโครงการต้องหยุดชะงักหลายครั้ง ก่อนที่จะเข้าใกล้ความสำเร็จในยุคปัจจุบัน โดยนอกจากเรือดำน้ำอรหันต์แล้ว อินเดียยังมีเรือดำน้ำที่ขับเคลื่อนด้วยพลังนิวเคลียร์ ซึ่งอินเดียเช่ามาจากรัสเซียเป็นเวลา 10 ปีมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์

เรือดำน้ำอรหันต์ ขณะอยู่ในระหว่างการสร้างที่อู่ต่อเรือวิสาขะพัฒนาม เมื่อเดือน พ.ย. 2015

การเข้าประจำการของเรือดำน้ำดังกล่าว จะส่งให้อินเดียเป็นประเทศที่ 3 ที่สามารถยิงอาวุธนิวเคลียร์ได้จากทั้งภาคพื้นดิน ทางทะเล และทางอากาศ ซึ่งมีเพียงสหรัฐและรัสเซียเท่านั้นที่สามารถทำได้ โดยหากอินเดียประสบความสำเร็จก็อาจจะทำให้จีนต้องเร่งพัฒนาอาวุธทางทะเล และให้ความช่วยเหลือประเทศพันธมิตรที่มีนิวเคลียร์ในครอบครองอย่างเกาหลีเหนือ และปากีสถาน ให้มีอาวุธชนิดเดียวกันไว้ในครอบครอง

ทั้งนี้ อินเดียและจีน ต่างยึดนโยบาย "ไม่ใช้อาวุธนิวเคลียร์ก่อน" และมีอาวุธไว้ในครอบครองก็เพื่อขู่คู่กรณีไม่ให้เกิดการเผชิญหน้ากัน แต่ทั้งปากีสถานและเกาหลีเหนือ ซึ่งเชื่อว่ามีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครองเช่นกัน ไม่ได้ยอมรับนโยบายดังกล่าว ทำให้เกิดความกังวลถึงการสะสมอาวุธนิวเคลียร์เพื่อถ่วงดุลกันในภูมิภาค โดยช่วงปีที่ผ่านมา ปากีสถานบรรลุข้อตกลงกับจีนในการซื้อเรือดำน้ำ 8 ลำ ซึ่งสามารถนำไปติดหัวรบนิวเคลียร์ได้ ขณะที่เกาหลีเหนือก็อ้างว่า ได้ทำการทดสอบเรือดำน้ำที่สามารถยิงอาวุธนิวเคลียร์และพัฒนาหัวรบนิวเคลียร์สำหรับการยิงมิสไซลส์แล้ว

ที่มา > ประชาชาติธุรกิจ คอลัมภ์ เกาะกระแสโลก