No comment เรื่องทีมชาติไทย  แต่อยากแชร์คลิปเรื่องระบบโซน และเพรสซิ่ง

เมื่อแผนการเล่นตั้งรับเป็นแนวแบบโซน มาผสมผสานกับ การบีบสูงแบบเพรสซิ่ง จึงนำมาสู่ระบบเพรสซิ่งสูง ด้วยผังการเล่น 4-4-2 อันลือชื่อที่ปฏิวัติวงการฟุตบอลเมื่อปลายยุค 80 โดยจอมแท็คติค อาริโก ซ้าคคี่ เป็นแผนการเล่นที่ทำให้มิลานเข้าสู่การเป็นยอดทีมไร้เทียมทาน และสามารถเล่นได้ทั้งเกมรับเหนียวแน่นและเกมบุกสุดโหดไปพร้อมกัน ซ้าคคี่ยังเป็นคนที่เชื่อแนวคิดแบบโททัลฟุตบอลของฮอลแลนด์ที่ว่านักเตะแต่ละคนต้องสามารถเล่นทดแทนตำแหน่งกันเองในระหว่างเกมได้ และการสลับตำแหน่งและทดแทนเพื่อนที่ออกจากตำแหน่ง และการวิ่งหาตำแหน่งเวลาม่มีบอล ช่วยทั้งรุกและรับ

ลองดูคลิปนี้



อันนี้เป็นภาพรวมๆของการบีบพื้นที่หรือเพรสซิ่งสูงของบาร์ซ่า



และอันนี้ยากที่สุด เป็นผังและระบบการยืนแผงรับ การตั้งโซน การเพรส บีบพื้นที่ การมาร์ค ที่เป็นขั้นสูงของเกมระดับทีมชาติชั้นนำของโลก



ซิมูเลชั่นการแบ่งซ้อมเป็นสามแนว



อันนี้ก็น่าสนใจ เป็นการวิเคราห์ "พื้นที่อันตรายสีแดงในเกมรับ" มาดูกันว่า เวลาแนวรับต้องเผชิญหน้าแบบตัวต่อตัว มีเคล็ดลับยังไงบ้าง




จะตั้งคุมโซน จะเพรส มันผสมๆใช้กันหมดในระหว่างเกมนั่นแหละครับ แต่ว่าจะเน้นตรงไหน พื้นที่นี้จะยังไง นักเตะที่ต้องรับผิดชอบพื้นที่ ใช้กี่คน ศักยภาพเป็นแบบไหน 10 นาทีนี้จะเน้นอะไร 15 นาทีนี้จะเปลี่ยนยังไง 5 นาทีนี้ โค้ชอยากได้อะไร มันก็ขึ้นกับศักยภาพนักเตะหรือคู่แข่งเวลานั้นด้วย บางทีแก้เกมไปออกมาไม่เวิร์คก็เยอะแยะ  

มีตัวอย่างหนึ่งเกี่ยวกับการเพรสซิ่งสูงของกองหน้าใส่กองหลังอีกฝ่าย คือเกมฮอลแลนด์เจอสเปนนัดชิงบอลโลก เปิดครึ่งหลังมา เดอะตุ๊กที่นั่งวิเคราะห์เกมกับผู้บรรยายวิเคราะห์ว่า ฮอลแลนด์น่าจะวางแผนให้พวกแนวรุกเข้าบีบใส่ปูโยล เพราะปูโยลมีจุดอ่อนคือการออกบอลจากเท้าไม่แม่น และจะลนได้เวลาโดนบีบ แล้วก็เป็นจริงอย่างปิยพงษ์ว่าจริงๆ 10 นาทีแรกของครึ่งหลัง ปูโยลเจอแดนหน้าฮอลแลนด์บีบเร็วทำให้ออกบอลเสียจนทีมเกือบเป๋ แต่เดลบอสเก้ออกมาแก้เกมใหม่ ให้ซาบีถอยลงต่ำลงมาช่วยรับบอลใกล้ขึ้น แล้วแก้ลำด้วยการให้ซาบีเอาบอลไปจ่ายยาว ทางฮอลแลนด์เลยต้องแก้เกมใหม่