ผอ.ยาสูบเผยขึ้นภาษีบุหรี่ทำยอดขายลดลง 3% ถือว่าสูงมากเมื่อเทียบภาษีที่ปรับขึ้น
คาดส่งผลให้ยอดขายลดลง 1 พันล้านบาต่อเดือน เหตุผู้มีรายได้น้อยซื้อลดลง เม.ย.นี้เล็งออกตัวใหม่ราคา 40 บาท เจาะลูกค้าฐานราก
น.ส.ดาวน้อย สุทธินิภาพันธ์ ผู้อำนวยการโรงงานยาสูบ (รยส.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมารัฐบาลได้ปรับขึ้นภาษีบุหรี่ ส่งผลให้ราคาบุหรี่ที่ขายในประเทศปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ภาพรวมของตลาดบุหรี่ภายในประเทศที่มีมูลค่าประมาณ 40,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นปริมาณบุหรี่ประมาณ 32,000 ล้านมวนต่อปี หดตัวลงประมาณ 3% ซึ่งถือเป็นการหดตัวที่สูงมากเมื่อเทียบกับขึ้นภาษีบุหรี่ในครั้งที่ผ่านมา เนื่องจาก รยส.มีส่วนแบ่งการตลาดคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 75-76% ของทั้งตลาด ส่วนผลกระทบในแง่รายได้ของโรงงานยาสูบ คาดว่าน่าจะหดตัวประมาณ 10% หรือมีรายได้ลดลงประมาณ 1,000 ล้านบาทต่อเดือน เนื่องจากพบภายในกลุ่มผู้ค้าและเอเยนต์บางส่วนได้มีการคาดการณ์ว่าบุหรี่จะปรับขึ้นราคาในช่วงเวลาดังกล่าว ทำให้มีการสต๊อกบุหรี่ไว้เป็นจำนวนมาก เมื่อบุหรี่มีการปรับขึ้นราคาแล้วจึงจำเป็นต้องรีบระบายสต๊อกเก่าออกมา ปริมาณการซื้อบุหรี่จาก รยส.ในช่วงนี้จึงลดลงมากเมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา และถือเป็นเรื่องปกติของการปรับขึ้นราคาบุหรี่ทุกครั้ง เพราะทำให้ภาพรวมของตลาดจะเกิดการชะงักงัน หรือภาวะตลาดช็อก ซึ่งจะส่งผลให้ยอดขายบุหรี่ตกไปประมาณ 2-3 เดือน แล้วหลังจากนั้นคาดว่าจะกลับมาเป็นปกติ
น.ส.ดาวน้อยกล่าวว่า นอกจากนี้ การที่ราคาบุหรี่ปรับตัวสูงขึ้น ได้ส่งผลกระทบให้ผู้บริโภคที่มีรายได้น้อย ไม่มีกำลังในการซื้อบุหรี่แบบซองมาสูบได้ เพราะบุหรี่ที่มีอยู่ในตลาดปัจจุบันราคาสูงเกินไป จึงหันไปนิยมซื้อยาเส้นแบบม้วนเองมาสูบแทน รวมทั้งผู้บริโภคบางส่วนยังหันไปเลือกสูบบุหรี่ที่ไม่เสียภาษี บุหรี่ปลอมแปลง และบุหรี่ที่ผิดกฎหมายแทน เพราะมีราคาถูกกว่าในท้องตลาดประมาณ 1 ใน 3 เท่า ทาง รยส.จึงเตรียมออกบุหรี่ยี่ห้อใหม่ในเดือนเมษายนนี้ ในขนาดประมาณ 7.1 มิลลิเมตร (มม.) ซึ่งเป็นขนาดที่เล็กกว่ารุ่นปกติที่มีขนาดประมาณ 7.7 มม. ราคาจำหน่ายประมาณ 40 บาทต่อซอง เพื่อเจาะตลาดผู้บริโภคที่มีรายได้น้อย ให้สามารถซื้อบุหรี่ซองมาสูบได้
น.ส.ดาวน้อยกล่าวว่า นอกจากนี้ ได้จัดสรรงบประมาณวงเงิน 10 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนเงินรางวัลให้แก่เจ้าหน้าที่ภาครัฐ อาทิ กรมสรรพสามิต ศุลกากร ตำรวจ และทหารทั่วประเทศ ที่สามารถจับกุมบุหรี่ต่างประเทศที่ผิดกฎหมายไม่เสียภาษี และบุหรี่ปลอมแปลง จำนวนซองละ 3 บาท หรือหีบละ 1,500 บาท โดยหากจับกุมได้ครบทั้งหีบ หรือ 500 ซอง จะจ่ายเงินรางวัลพิเศษเพิ่มอีก 1,000 บาท รวมเป็นเงิน 2,500 บาท และกรณีที่จับกุมได้ครั้งละ 50 หีบ หรือ 25,000 ซอง ไม่ว่าจะมีตัวผู้ต้องหาหรือไม่มีผู้ต้องหาก็ตาม รยส.จะจ่ายเงินรางวัลพิเศษเพิ่มอีก 50,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 175,000 บาท ซึ่งจะต้องสามารถจับกุมได้ตั้งแต่ 3 หีบขึ้นไป จึงจะเข้าเกณฑ์การจ่ายเงินตามโครงการนี้
Link :
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1456464062
▂ ▃ ▄ ▅ ▆ ▇ █ ผอ.ยาสูบ เผยขึ้นภาษีบุหรี่ทำยอดขายลด3% รายได้วูบเดือนละพันล้าน เล็งออกตัวใหม่40บ.เจาะฐานราก █ ▇ ▆ ▅ ▄ ▃ ▂
ผอ.ยาสูบเผยขึ้นภาษีบุหรี่ทำยอดขายลดลง 3% ถือว่าสูงมากเมื่อเทียบภาษีที่ปรับขึ้น
คาดส่งผลให้ยอดขายลดลง 1 พันล้านบาต่อเดือน เหตุผู้มีรายได้น้อยซื้อลดลง เม.ย.นี้เล็งออกตัวใหม่ราคา 40 บาท เจาะลูกค้าฐานราก
น.ส.ดาวน้อย สุทธินิภาพันธ์ ผู้อำนวยการโรงงานยาสูบ (รยส.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมารัฐบาลได้ปรับขึ้นภาษีบุหรี่ ส่งผลให้ราคาบุหรี่ที่ขายในประเทศปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ภาพรวมของตลาดบุหรี่ภายในประเทศที่มีมูลค่าประมาณ 40,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นปริมาณบุหรี่ประมาณ 32,000 ล้านมวนต่อปี หดตัวลงประมาณ 3% ซึ่งถือเป็นการหดตัวที่สูงมากเมื่อเทียบกับขึ้นภาษีบุหรี่ในครั้งที่ผ่านมา เนื่องจาก รยส.มีส่วนแบ่งการตลาดคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 75-76% ของทั้งตลาด ส่วนผลกระทบในแง่รายได้ของโรงงานยาสูบ คาดว่าน่าจะหดตัวประมาณ 10% หรือมีรายได้ลดลงประมาณ 1,000 ล้านบาทต่อเดือน เนื่องจากพบภายในกลุ่มผู้ค้าและเอเยนต์บางส่วนได้มีการคาดการณ์ว่าบุหรี่จะปรับขึ้นราคาในช่วงเวลาดังกล่าว ทำให้มีการสต๊อกบุหรี่ไว้เป็นจำนวนมาก เมื่อบุหรี่มีการปรับขึ้นราคาแล้วจึงจำเป็นต้องรีบระบายสต๊อกเก่าออกมา ปริมาณการซื้อบุหรี่จาก รยส.ในช่วงนี้จึงลดลงมากเมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา และถือเป็นเรื่องปกติของการปรับขึ้นราคาบุหรี่ทุกครั้ง เพราะทำให้ภาพรวมของตลาดจะเกิดการชะงักงัน หรือภาวะตลาดช็อก ซึ่งจะส่งผลให้ยอดขายบุหรี่ตกไปประมาณ 2-3 เดือน แล้วหลังจากนั้นคาดว่าจะกลับมาเป็นปกติ
น.ส.ดาวน้อยกล่าวว่า นอกจากนี้ การที่ราคาบุหรี่ปรับตัวสูงขึ้น ได้ส่งผลกระทบให้ผู้บริโภคที่มีรายได้น้อย ไม่มีกำลังในการซื้อบุหรี่แบบซองมาสูบได้ เพราะบุหรี่ที่มีอยู่ในตลาดปัจจุบันราคาสูงเกินไป จึงหันไปนิยมซื้อยาเส้นแบบม้วนเองมาสูบแทน รวมทั้งผู้บริโภคบางส่วนยังหันไปเลือกสูบบุหรี่ที่ไม่เสียภาษี บุหรี่ปลอมแปลง และบุหรี่ที่ผิดกฎหมายแทน เพราะมีราคาถูกกว่าในท้องตลาดประมาณ 1 ใน 3 เท่า ทาง รยส.จึงเตรียมออกบุหรี่ยี่ห้อใหม่ในเดือนเมษายนนี้ ในขนาดประมาณ 7.1 มิลลิเมตร (มม.) ซึ่งเป็นขนาดที่เล็กกว่ารุ่นปกติที่มีขนาดประมาณ 7.7 มม. ราคาจำหน่ายประมาณ 40 บาทต่อซอง เพื่อเจาะตลาดผู้บริโภคที่มีรายได้น้อย ให้สามารถซื้อบุหรี่ซองมาสูบได้
น.ส.ดาวน้อยกล่าวว่า นอกจากนี้ ได้จัดสรรงบประมาณวงเงิน 10 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนเงินรางวัลให้แก่เจ้าหน้าที่ภาครัฐ อาทิ กรมสรรพสามิต ศุลกากร ตำรวจ และทหารทั่วประเทศ ที่สามารถจับกุมบุหรี่ต่างประเทศที่ผิดกฎหมายไม่เสียภาษี และบุหรี่ปลอมแปลง จำนวนซองละ 3 บาท หรือหีบละ 1,500 บาท โดยหากจับกุมได้ครบทั้งหีบ หรือ 500 ซอง จะจ่ายเงินรางวัลพิเศษเพิ่มอีก 1,000 บาท รวมเป็นเงิน 2,500 บาท และกรณีที่จับกุมได้ครั้งละ 50 หีบ หรือ 25,000 ซอง ไม่ว่าจะมีตัวผู้ต้องหาหรือไม่มีผู้ต้องหาก็ตาม รยส.จะจ่ายเงินรางวัลพิเศษเพิ่มอีก 50,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 175,000 บาท ซึ่งจะต้องสามารถจับกุมได้ตั้งแต่ 3 หีบขึ้นไป จึงจะเข้าเกณฑ์การจ่ายเงินตามโครงการนี้
Link : http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1456464062