ณัฐชา ไม่หวั่นเพจดังปั่นไม่หยุด มั่นใจฐานเสียงเข้าใจ ฝ่ายตรงข้ามใช้วิธีสกปรกโจมตี
https://www.matichon.co.th/politics/news_4343192
ณัฐชา ไม่หวั่นเพจดังปั่นไม่หยุด มั่นใจฐานเสียงเข้าใจ ฝ่ายตรงข้ามใช้วิธีสกปรกโจมตี
เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม นาย
ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์กับมติชนออนไลน์ กล่าวถึงเพจ
วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร ที่นำข้อมูลออกมาโจมตีทั้งพรรค และตัวส.ส.ของพรรค ว่า เป็นเรื่องปกติ อีกทั้งข้อมูลที่ทางเพจนำมาก็ไม่ใช่ข้อมูลในเชิงลึกอะไร ส่วนเรื่องกระข่าวว่าเพจดังกล่าวมีไอโอหรือคนที่เกี่ยวข้องอยู่เบื้องหลังนั้น ตนยังไม่มีข้อมูลในเรื่องนี้
นาย
ณัฐชา กล่าวว่า ก็ปกติ เราโดนโจมตีอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นพรรคอนาคตใหม่แล้ว ส่วนการโจมตีต่าง ๆ อันไหนที่เป็นข้อมูล ข้อเท็จจริง ก็ถือว่าเป็นการตรวจสอบจากฝั่งตรงข้าม แต่ถ้าเกิดอันไหนเป็นข้อมูลที่บิดเบือนหรืออะไรต่าง ๆ เชื่อว่าพี่น้องประชาชนก็สามารถตรวจสอบ หรือคัดกรองได้อยู่แล้ว เราไม่ได้กังวลอะไร
“
ถ้าทำอยู่บนพื้นฐานข้อมูล ข้อเท็จจริง ถูกต้องที่อะไรต่าง ๆ ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแรงที่ช่วยกันตรวจสอบ ก็สามารถทำได้” นายณัฐชา กล่าว
เมื่อถามว่า การที่พรรคถูกโจมตีแบบนี้ กังวลว่าจะส่งผลต่อฐานคะแนนเสียงในการเลือกตั้งในอนาคตหรือไม่ นาย
ณัฐชา กล่าวว่า ไม่มี เพราะเชื่อว่าพี่น้องประชาชนที่เป็นฐานเสียง และเป็นกลุ่มที่สนับสนุนพรรค เขาจะเข้าใจอยู่แล้วว่า การโจมตีจากขั้วตรงข้าม หรือการใช้วิธีสกปรกต่าง ๆ เขารับได้
นาย
ณัฐชา กล่าวว่า พี่น้องประชาชนที่เจอข่าวหรืออะไรต่าง ๆ ก็ต่างให้กำลังใจ และถือว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่เข้ามาตรวจสอบ ถ้ายิ่งมาจากหลาย ๆ ฝ่ายก็ยิ่งดี เพราะมันเป็นพรรคการเมืองที่ต้องให้พี่น้องประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมอยู่แล้ว ถ้าอยู่บนพื้นฐานของข้อมูล ข้อเท็จจริงไม่มีปัญหาเลย
'โรม' เดินหน้าบี้ 'นายกฯ' ปมตั๋วตํารวจ หาช่องดําเนินการทางกฎหมาย
https://voicetv.co.th/read/1QnK29eZz
'โรม' เดินหน้าบี้ 'นายกฯ' ปมหลุดพูดตั๋วตํารวจ หาช่องดําเนินการทางกฎหมาย ชี้คําพูดมัดตัวดิ้นไม่หลุด ให้รอดูนําอภิปรายซักฟอกหรือไม่ รับเอาผิดเสนอชื่อถอดถอนยาก
จากกรณีที่
เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ไปประชุมร่วมกับ สส.พรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน และได้พูดถึงการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบและในระบบ ซึ่งจะมีการประชุมร่วมกันระหว่างนายอำเภอกับนายตํารวจระดับผู้กำกับการ ก่อนจะกล่าวว่า “
ผู้กำกับใหม่ ซึ่งผมมั่นใจว่าคงมีผู้ผิดหวัง มากกว่าผู้สมหวังในห้องนี้ ที่ขอตำแหน่งไป เพราะรู้สึกว่าเยอะเหลือเกิน แต่ก็มีไม่น้อยที่ได้สมหวัง” จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์
ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.
รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีดังกล่าวว่า ขณะนี้กำลังรวบรวมข้อมูล ยอมรับว่ารอบนี้ทำงานยากขึ้น เพราะตนอภิปรายเรื่องตั๋วมาหลายครั้ง บางครั้งคนที่กระทำความผิดก็มีการปรับตัวจนทำให้การตรวจสอบยากขึ้น แต่จากหลักฐานที่นายกฯ พูด มั่นใจว่าดิ้นไม่หลุด เรื่องนี้ผิดกฎหมายแน่นอน และต้องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบพิจารณา คำพูดดังกล่าวมัดตัวนายกรัฐมนตรีไปแล้ว
ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวยังอยู่ในกระบวนการของพรรคที่ต้องคุยกันว่าจะดำเนินการทางกฎหมายอย่างไร ส่วนจะดำเนินการเมื่อไหร่นั้นยังไม่สรุป แต่ไม่ช้าแน่นอน เพราะเราให้เวลากับนายกฯ ด้วยการตั้งกระทู้ถามในสภาจนถึงที่สุดแล้ว แต่เมื่อนายกฯ ไม่มาชี้แจงหรือให้เหตุผลอะไร ก็ต้องพิจารณาในส่วนกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะนําประเด็นดังกล่าวไปใช้ในการอภิปรายไม่ใว้วางใจหรือไม่
รังสิมันต์ กล่าวว่า ขอให้รอดู เพราะฝ่ายที่ต้องอภิปรายต้องเตรียมข้อมูลไว้ก่อน คงไม่สามารถระบุได้ว่าจะอภิปรายเรื่องอะไรบ้าง ทั้งนี้ การอภิปรายไม่ใช่หยิบเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่ต้องมองภาพรวม และดูว่ามีพยานหลักฐานในเรื่องอื่นมากน้อยแค่ไหน
เมื่อถามว่า เรื่องดังกล่าวจะส่งผลให้นาย
เศรษฐา หลุดจากตําแหน่งนายกฯ หรือไม่
รังสิมันต์ กล่าวว่า อยู่ที่การโหวตในสภา แต่ยอมรับว่าการใช้เรื่องนี้เพื่อให้สภาลงมติถอดถอน
เศรษฐา ออกจากตําแหน่งนายกฯ เป็นสิ่งที่ท้าทายมาก เพราะตนไม่แน่ใจว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะนําไปสู่จุดนั้นได้มากน้อยแค่ไหน ใครที่รู้ตัวก็อาจจะชิงลาออกหรือทําให้ตัวเองพ้นจากตําแหน่งไปก่อน ยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย แต่อย่างน้อยมันคือการฟ้องประชาชนให้เห็นว่าประเทศนี้เกิดอะไรขึ้น ทําให้ประชาชนได้รู้ว่าคนที่มาเป็นผู้นำรัฐบาลเป็นอย่างไร สุดท้ายแล้ว ถ้านายกฯ ไม่สามารถตอบข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านหรือชี้แจงต่อประชาชนได้ ก็ไม่ใช่แค่การพ้นจากตำแหน่ง แต่คือการประหารชีวิตทางการเมือง
ชัชชาติ ชวนคนกรุงเทพ ตรวจสุขภาพฟรี 1 ล้านคน วันที่ 24 ธ.ค. นี้
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8021612
ชัชชาติ ชวนคนกรุงเทพ ตรวจสุขภาพฟรี 1 ล้านคน วันที่ 24 ธ.ค. นี้ เช่น โรคเบาหวาน หัวใจ หลอดเลือดสมอง สมองเสื่อม วัณโรคปอด มะเร็งปากมดลูก จอประสาทตา
นาย
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า งานตลาดนัดสุขภาพ Bangkok Health Market ครั้งที่ 3 และ Kick off Health Screenings 1,000,000 คน ในวันที่ 24 ธ.ค. เวลา 07.00 – 14.00 น. ณ ลานคนเมือง เป็นการยกคาราวานการบริการและดูแลสุขภาพมารวมไว้ครบเป็นที่แรก และจัดโปรแกรม Health Screenings ตรวจคัดกรองสุขภาพใกล้บ้าน ฟรี 1,000,000 คน เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับคนกรุงเทพฯ
โดยประชาชนสามารถมารับบริการตรวจคัดกรองโรคยอดฮิตของคนเมือง เช่น โรคเบาหวาน หัวใจ หลอดเลือดสมอง ภาวะสมองเสื่อม ตรวจวัณโรคปอด มะเร็งปากมดลูก จอประสาทตา ตรวจหาการติดเชื้อ HIV ด้วยตนเอง ประเมินสุขภาพจิต
สำหรับคนพิการ มีบริการพิเศษ โดยการประเมินความพิการและออกบัตรให้ได้เลย หรือจะมาลงทะเบียนรับเบี้ยผู้พิการ และเปลี่ยนสิทธิผู้พิการก็ทำได้ นอกจากนี้ยังมีโซน Entertainment การแสดงบนเวที และการแสดงชมรมผู้สูงอายุ เล่นเกมตอบคำถามสุขภาพ แจกของ สินค้าสุขภาพ อาหาร เครื่องดื่ม ของดี 50 เขตด้วย
โดยงานนี้นอกจากการตรวจคัดกรองสุขภาพประชาชนแล้วยังจะได้เห็นถึงความเข้มแข็งของการทำงานในการดูแลสุขภาพไร้รอยต่อ ตั้งแต่ที่บ้าน โรงพยาบาล จนกลับสู่ชุมชน โดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น Motorlance, Commulance แอพพลิเคชัน หมอ กทม. UMSC และอื่น ๆ โดยความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน
การยาสูบฯ โอด 7 ปีทรุดหนัก กำไรเหลือซอง 30 สต. คนหันสูบยาเส้นแทน
https://www.dailynews.co.th/news/3017189/
พิษปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ ยาสูบโอด 7 ปีทรุดหนัก กำไรเหลือซอง 30 สต. คนหันสูบยาเส้นแซงหน้าบุหรี่ถูกกฎหมายแล้ว แถมโดนบุหรี่เถื่อน-ไฟฟ้าแย่งตลาด
นาย
ภูมิจิตต์ พงษ์พันธุ์งาม ผู้ว่าการการยาสูบแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์ธุรกิจยาสูบในประเทศ นับตั้งแต่มีการปรับโครงสร้างภาษี เมื่อปี 60-66 พบว่า ได้ทำให้การยาสูบได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยมียอดขายลดลงจาก 2.8 หมื่นล้านมวนในปี 60 เหลือ 1.4 หมื่นล้านมวนในปี 66 ขณะที่กำไรต่อซองลดจาก 6.49 บาทต่อซอง เหลือ 0.18-0.30 สตางค์ และมีผลกำไรลดจาก 9,343 ล้านบาทต่อปี เหลือล่าสุด 219 ล้านบาท
ทั้งสาเหตุมาจากการปรับขึ้นภาษีบุหรี่ ทำให้ราคาบุหรี่ในประเทศที่ถูกกฎหมายแพงขึ้น ส่งผลให้มีบุหรี่เถื่อนลักลอบเข้ามาแย่งตลาด เพราะราคาถูกกว่า ขายเพียงซอง 20-30 บาท ต่ำกว่าบุหรี่ทั่วไปที่ซอง 65-70 บาท อีกทั้งคนรุ่นใหม่ยังหันไปซื้อบุหรี่ไฟฟ้า วัดได้จากบุหรี่ไฟฟ้าทั่วโลกเติบโตขึ้น 6.4% ต่อปี และที่สำคัญ กลุ่มคนมีรายได้น้อยหันไปสูบยาเส้นทดแทน เห็นได้จากยอดขายยาเส้นมวนเอง เติบโตกว่า 1 เท่าตัว จาก 1.2 หมื่นล้านมวน เป็น 2.8 หมื่นล้านมวน แซงหน้ายอดขายบุหรี่ ที่ขายที่ 2.68 หมื่นล้านมวนไปแล้ว หลังจากวงการยาเส้น มีการพัฒนาเครื่องมวนยาเส้นและใส่ก้นกรองได้เอง ทำให้โดยรวมราคาถูกกว่าบุหรี่ 3 เท่าตัว หลังรัฐบาลมีการตั้งภาษียาเส้นต่ำกว่าบุหรี่หลายเท่าตัว
ดังนั้น แนวทางต่อไป การยาสูบฯ เตรียมเสนอรัฐบาล และกรมสรรพสามิต พิจารณาการปรับโครงสร้างยาสูบครั้งใหญ่ เพื่อให้การยาสูบอยู่รอดได้ โดยว่าจ้างนักวิชาการ ศึกษาการปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่ให้เป็นธรรม จากปัจจุบันที่มีการเก็บภาษีด้านปริมาณ และมูลค่าอีก 25-42% โดยจะได้ข้อสรุปใน 2 เดือนนี้ รวมถึงการพิจารณาแก้กฎหมาย พ.ร.บ.ยาสูบ เช่น รับจ้างผลิตบุหรี่เพื่อจำหน่ายในประเทศได้ หลังจากโรงงานยาสูบในปัจจุบัน มีกำลังการผลิตเหลือส่วนเกินเหลือจำนวนมาก
ขณะเดียวกัน การยาสูบฯ ได้ปรับโครงสร้างโมเดลธุรกิจ โดยหันพึ่งพารายได้จากการส่งออกบุหรี่มากขึ้น โดยเฉพาะตลาดเมียนมา และกัมพูชา ที่บุหรี่ไทยได้รับความนิยมสูงอยู่ รวมถึงปรับแผนตลาดใหม่ เช่น การออกบุหรี่ยี่ห้อใหม่ การลดราคาบุหรี่รุ่นเดิม เพื่อช่วงชิงตลาดกลับคืน หลังจากที่ผ่านมาการยาสูบฯ สูญเสียส่วนแบ่งตลาดจากเคยสูง 79% เหลือเพียง 52% นอกจากนี้ จะเพิ่มรายได้จากการบริหารทรัพย์สิน เช่น การเปิดเช่าระยะยาวที่ดินที่มีกว่า 4,000 ไร่ รวมถึงการแยกให้โรงพิมพ์ และโรงพยาบาล บริหารจัดการหารายได้เลี้ยงตัวเองได้ ส่วนแนวทางการรับซื้อใบยาสูบจากชาวไร่ ยสท. ยังมีความยินดีที่จะรับซื้อช่วยเหลือชาวไร่อย่างต่อเนื่อง โดยมีโควตาการรับซื้อใบยาเวอร์ยิเนีย 4.73 ล้านกิโลกรัม ใบยาเบอร์เลย์ 7.1 ล้านกิโลกรัม และใบยาเตอร์กิช 2 ล้านกิโลกรัม ขณะเดียวกันเสนอสรรพสามิตในการขอเงินชดเชยจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ช่วยชาวไร่ 89 ล้านบาท
“
ปัญหาบุหรี่เถื่อน บุหรี่ผิดกฎหมาย เป็นปัญหาระดับประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ ที่มีปริมาณการสูบบุหรี่เถื่อนมากกว่า 70% ของการสูบบุหรี่ทั้งหมดในจังหวัดภาคใต้ จากการวิเคราะห์บุหรี่ผิดกฎหมายในภาคใต้ ด้วยข้อมูลการจัดเก็บรายได้ภาษี อบจ. ตั้งแต่ปีงบประมาณ 63-66 โดยสำนักป้องกันบุหรี่ผิดกฎหมาย การยาสูบแห่งประเทศไทย พบว่ารายได้จากการเก็บภาษี อบจ. ทั้งบุหรี่ไทยและบุหรี่ต่างประเทศ ใน 14 จังหวัดภาคใต้ มี 670 ล้านบาท คิดเป็น 7.9 % ของรายได้จากการเก็บภาษี อบจ. ทั้งประเทศ เมื่อแยกเป็นรายปี พบว่าแนวโน้มการจัดเก็บภาษีบุหรี่ อบจ. ลดลงทุกจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้”
JJNY : 5in1 ณัฐชาไม่หวั่นเพจ│'โรม'เดินหน้าบี้ปมตั๋วตํารวจ│ชัชชาติชวนตรวจสุขภาพฟรี│การยาสูบฯ โอด│มลพิษในอากาศจีนแย่ลง
https://www.matichon.co.th/politics/news_4343192
ณัฐชา ไม่หวั่นเพจดังปั่นไม่หยุด มั่นใจฐานเสียงเข้าใจ ฝ่ายตรงข้ามใช้วิธีสกปรกโจมตี
เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์กับมติชนออนไลน์ กล่าวถึงเพจ วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร ที่นำข้อมูลออกมาโจมตีทั้งพรรค และตัวส.ส.ของพรรค ว่า เป็นเรื่องปกติ อีกทั้งข้อมูลที่ทางเพจนำมาก็ไม่ใช่ข้อมูลในเชิงลึกอะไร ส่วนเรื่องกระข่าวว่าเพจดังกล่าวมีไอโอหรือคนที่เกี่ยวข้องอยู่เบื้องหลังนั้น ตนยังไม่มีข้อมูลในเรื่องนี้
นายณัฐชา กล่าวว่า ก็ปกติ เราโดนโจมตีอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นพรรคอนาคตใหม่แล้ว ส่วนการโจมตีต่าง ๆ อันไหนที่เป็นข้อมูล ข้อเท็จจริง ก็ถือว่าเป็นการตรวจสอบจากฝั่งตรงข้าม แต่ถ้าเกิดอันไหนเป็นข้อมูลที่บิดเบือนหรืออะไรต่าง ๆ เชื่อว่าพี่น้องประชาชนก็สามารถตรวจสอบ หรือคัดกรองได้อยู่แล้ว เราไม่ได้กังวลอะไร
“ถ้าทำอยู่บนพื้นฐานข้อมูล ข้อเท็จจริง ถูกต้องที่อะไรต่าง ๆ ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแรงที่ช่วยกันตรวจสอบ ก็สามารถทำได้” นายณัฐชา กล่าว
เมื่อถามว่า การที่พรรคถูกโจมตีแบบนี้ กังวลว่าจะส่งผลต่อฐานคะแนนเสียงในการเลือกตั้งในอนาคตหรือไม่ นายณัฐชา กล่าวว่า ไม่มี เพราะเชื่อว่าพี่น้องประชาชนที่เป็นฐานเสียง และเป็นกลุ่มที่สนับสนุนพรรค เขาจะเข้าใจอยู่แล้วว่า การโจมตีจากขั้วตรงข้าม หรือการใช้วิธีสกปรกต่าง ๆ เขารับได้
นายณัฐชา กล่าวว่า พี่น้องประชาชนที่เจอข่าวหรืออะไรต่าง ๆ ก็ต่างให้กำลังใจ และถือว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่เข้ามาตรวจสอบ ถ้ายิ่งมาจากหลาย ๆ ฝ่ายก็ยิ่งดี เพราะมันเป็นพรรคการเมืองที่ต้องให้พี่น้องประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมอยู่แล้ว ถ้าอยู่บนพื้นฐานของข้อมูล ข้อเท็จจริงไม่มีปัญหาเลย
'โรม' เดินหน้าบี้ 'นายกฯ' ปมตั๋วตํารวจ หาช่องดําเนินการทางกฎหมาย
https://voicetv.co.th/read/1QnK29eZz
'โรม' เดินหน้าบี้ 'นายกฯ' ปมหลุดพูดตั๋วตํารวจ หาช่องดําเนินการทางกฎหมาย ชี้คําพูดมัดตัวดิ้นไม่หลุด ให้รอดูนําอภิปรายซักฟอกหรือไม่ รับเอาผิดเสนอชื่อถอดถอนยาก
จากกรณีที่ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ไปประชุมร่วมกับ สส.พรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน และได้พูดถึงการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบและในระบบ ซึ่งจะมีการประชุมร่วมกันระหว่างนายอำเภอกับนายตํารวจระดับผู้กำกับการ ก่อนจะกล่าวว่า “ผู้กำกับใหม่ ซึ่งผมมั่นใจว่าคงมีผู้ผิดหวัง มากกว่าผู้สมหวังในห้องนี้ ที่ขอตำแหน่งไป เพราะรู้สึกว่าเยอะเหลือเกิน แต่ก็มีไม่น้อยที่ได้สมหวัง” จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์
ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีดังกล่าวว่า ขณะนี้กำลังรวบรวมข้อมูล ยอมรับว่ารอบนี้ทำงานยากขึ้น เพราะตนอภิปรายเรื่องตั๋วมาหลายครั้ง บางครั้งคนที่กระทำความผิดก็มีการปรับตัวจนทำให้การตรวจสอบยากขึ้น แต่จากหลักฐานที่นายกฯ พูด มั่นใจว่าดิ้นไม่หลุด เรื่องนี้ผิดกฎหมายแน่นอน และต้องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบพิจารณา คำพูดดังกล่าวมัดตัวนายกรัฐมนตรีไปแล้ว
ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวยังอยู่ในกระบวนการของพรรคที่ต้องคุยกันว่าจะดำเนินการทางกฎหมายอย่างไร ส่วนจะดำเนินการเมื่อไหร่นั้นยังไม่สรุป แต่ไม่ช้าแน่นอน เพราะเราให้เวลากับนายกฯ ด้วยการตั้งกระทู้ถามในสภาจนถึงที่สุดแล้ว แต่เมื่อนายกฯ ไม่มาชี้แจงหรือให้เหตุผลอะไร ก็ต้องพิจารณาในส่วนกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะนําประเด็นดังกล่าวไปใช้ในการอภิปรายไม่ใว้วางใจหรือไม่ รังสิมันต์ กล่าวว่า ขอให้รอดู เพราะฝ่ายที่ต้องอภิปรายต้องเตรียมข้อมูลไว้ก่อน คงไม่สามารถระบุได้ว่าจะอภิปรายเรื่องอะไรบ้าง ทั้งนี้ การอภิปรายไม่ใช่หยิบเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่ต้องมองภาพรวม และดูว่ามีพยานหลักฐานในเรื่องอื่นมากน้อยแค่ไหน
เมื่อถามว่า เรื่องดังกล่าวจะส่งผลให้นายเศรษฐา หลุดจากตําแหน่งนายกฯ หรือไม่ รังสิมันต์ กล่าวว่า อยู่ที่การโหวตในสภา แต่ยอมรับว่าการใช้เรื่องนี้เพื่อให้สภาลงมติถอดถอน เศรษฐา ออกจากตําแหน่งนายกฯ เป็นสิ่งที่ท้าทายมาก เพราะตนไม่แน่ใจว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะนําไปสู่จุดนั้นได้มากน้อยแค่ไหน ใครที่รู้ตัวก็อาจจะชิงลาออกหรือทําให้ตัวเองพ้นจากตําแหน่งไปก่อน ยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย แต่อย่างน้อยมันคือการฟ้องประชาชนให้เห็นว่าประเทศนี้เกิดอะไรขึ้น ทําให้ประชาชนได้รู้ว่าคนที่มาเป็นผู้นำรัฐบาลเป็นอย่างไร สุดท้ายแล้ว ถ้านายกฯ ไม่สามารถตอบข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านหรือชี้แจงต่อประชาชนได้ ก็ไม่ใช่แค่การพ้นจากตำแหน่ง แต่คือการประหารชีวิตทางการเมือง
ชัชชาติ ชวนคนกรุงเทพ ตรวจสุขภาพฟรี 1 ล้านคน วันที่ 24 ธ.ค. นี้
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8021612
ชัชชาติ ชวนคนกรุงเทพ ตรวจสุขภาพฟรี 1 ล้านคน วันที่ 24 ธ.ค. นี้ เช่น โรคเบาหวาน หัวใจ หลอดเลือดสมอง สมองเสื่อม วัณโรคปอด มะเร็งปากมดลูก จอประสาทตา
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า งานตลาดนัดสุขภาพ Bangkok Health Market ครั้งที่ 3 และ Kick off Health Screenings 1,000,000 คน ในวันที่ 24 ธ.ค. เวลา 07.00 – 14.00 น. ณ ลานคนเมือง เป็นการยกคาราวานการบริการและดูแลสุขภาพมารวมไว้ครบเป็นที่แรก และจัดโปรแกรม Health Screenings ตรวจคัดกรองสุขภาพใกล้บ้าน ฟรี 1,000,000 คน เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับคนกรุงเทพฯ
โดยประชาชนสามารถมารับบริการตรวจคัดกรองโรคยอดฮิตของคนเมือง เช่น โรคเบาหวาน หัวใจ หลอดเลือดสมอง ภาวะสมองเสื่อม ตรวจวัณโรคปอด มะเร็งปากมดลูก จอประสาทตา ตรวจหาการติดเชื้อ HIV ด้วยตนเอง ประเมินสุขภาพจิต
สำหรับคนพิการ มีบริการพิเศษ โดยการประเมินความพิการและออกบัตรให้ได้เลย หรือจะมาลงทะเบียนรับเบี้ยผู้พิการ และเปลี่ยนสิทธิผู้พิการก็ทำได้ นอกจากนี้ยังมีโซน Entertainment การแสดงบนเวที และการแสดงชมรมผู้สูงอายุ เล่นเกมตอบคำถามสุขภาพ แจกของ สินค้าสุขภาพ อาหาร เครื่องดื่ม ของดี 50 เขตด้วย
โดยงานนี้นอกจากการตรวจคัดกรองสุขภาพประชาชนแล้วยังจะได้เห็นถึงความเข้มแข็งของการทำงานในการดูแลสุขภาพไร้รอยต่อ ตั้งแต่ที่บ้าน โรงพยาบาล จนกลับสู่ชุมชน โดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น Motorlance, Commulance แอพพลิเคชัน หมอ กทม. UMSC และอื่น ๆ โดยความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน
การยาสูบฯ โอด 7 ปีทรุดหนัก กำไรเหลือซอง 30 สต. คนหันสูบยาเส้นแทน
https://www.dailynews.co.th/news/3017189/
พิษปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ ยาสูบโอด 7 ปีทรุดหนัก กำไรเหลือซอง 30 สต. คนหันสูบยาเส้นแซงหน้าบุหรี่ถูกกฎหมายแล้ว แถมโดนบุหรี่เถื่อน-ไฟฟ้าแย่งตลาด
นายภูมิจิตต์ พงษ์พันธุ์งาม ผู้ว่าการการยาสูบแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์ธุรกิจยาสูบในประเทศ นับตั้งแต่มีการปรับโครงสร้างภาษี เมื่อปี 60-66 พบว่า ได้ทำให้การยาสูบได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยมียอดขายลดลงจาก 2.8 หมื่นล้านมวนในปี 60 เหลือ 1.4 หมื่นล้านมวนในปี 66 ขณะที่กำไรต่อซองลดจาก 6.49 บาทต่อซอง เหลือ 0.18-0.30 สตางค์ และมีผลกำไรลดจาก 9,343 ล้านบาทต่อปี เหลือล่าสุด 219 ล้านบาท
ทั้งสาเหตุมาจากการปรับขึ้นภาษีบุหรี่ ทำให้ราคาบุหรี่ในประเทศที่ถูกกฎหมายแพงขึ้น ส่งผลให้มีบุหรี่เถื่อนลักลอบเข้ามาแย่งตลาด เพราะราคาถูกกว่า ขายเพียงซอง 20-30 บาท ต่ำกว่าบุหรี่ทั่วไปที่ซอง 65-70 บาท อีกทั้งคนรุ่นใหม่ยังหันไปซื้อบุหรี่ไฟฟ้า วัดได้จากบุหรี่ไฟฟ้าทั่วโลกเติบโตขึ้น 6.4% ต่อปี และที่สำคัญ กลุ่มคนมีรายได้น้อยหันไปสูบยาเส้นทดแทน เห็นได้จากยอดขายยาเส้นมวนเอง เติบโตกว่า 1 เท่าตัว จาก 1.2 หมื่นล้านมวน เป็น 2.8 หมื่นล้านมวน แซงหน้ายอดขายบุหรี่ ที่ขายที่ 2.68 หมื่นล้านมวนไปแล้ว หลังจากวงการยาเส้น มีการพัฒนาเครื่องมวนยาเส้นและใส่ก้นกรองได้เอง ทำให้โดยรวมราคาถูกกว่าบุหรี่ 3 เท่าตัว หลังรัฐบาลมีการตั้งภาษียาเส้นต่ำกว่าบุหรี่หลายเท่าตัว
ดังนั้น แนวทางต่อไป การยาสูบฯ เตรียมเสนอรัฐบาล และกรมสรรพสามิต พิจารณาการปรับโครงสร้างยาสูบครั้งใหญ่ เพื่อให้การยาสูบอยู่รอดได้ โดยว่าจ้างนักวิชาการ ศึกษาการปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่ให้เป็นธรรม จากปัจจุบันที่มีการเก็บภาษีด้านปริมาณ และมูลค่าอีก 25-42% โดยจะได้ข้อสรุปใน 2 เดือนนี้ รวมถึงการพิจารณาแก้กฎหมาย พ.ร.บ.ยาสูบ เช่น รับจ้างผลิตบุหรี่เพื่อจำหน่ายในประเทศได้ หลังจากโรงงานยาสูบในปัจจุบัน มีกำลังการผลิตเหลือส่วนเกินเหลือจำนวนมาก
ขณะเดียวกัน การยาสูบฯ ได้ปรับโครงสร้างโมเดลธุรกิจ โดยหันพึ่งพารายได้จากการส่งออกบุหรี่มากขึ้น โดยเฉพาะตลาดเมียนมา และกัมพูชา ที่บุหรี่ไทยได้รับความนิยมสูงอยู่ รวมถึงปรับแผนตลาดใหม่ เช่น การออกบุหรี่ยี่ห้อใหม่ การลดราคาบุหรี่รุ่นเดิม เพื่อช่วงชิงตลาดกลับคืน หลังจากที่ผ่านมาการยาสูบฯ สูญเสียส่วนแบ่งตลาดจากเคยสูง 79% เหลือเพียง 52% นอกจากนี้ จะเพิ่มรายได้จากการบริหารทรัพย์สิน เช่น การเปิดเช่าระยะยาวที่ดินที่มีกว่า 4,000 ไร่ รวมถึงการแยกให้โรงพิมพ์ และโรงพยาบาล บริหารจัดการหารายได้เลี้ยงตัวเองได้ ส่วนแนวทางการรับซื้อใบยาสูบจากชาวไร่ ยสท. ยังมีความยินดีที่จะรับซื้อช่วยเหลือชาวไร่อย่างต่อเนื่อง โดยมีโควตาการรับซื้อใบยาเวอร์ยิเนีย 4.73 ล้านกิโลกรัม ใบยาเบอร์เลย์ 7.1 ล้านกิโลกรัม และใบยาเตอร์กิช 2 ล้านกิโลกรัม ขณะเดียวกันเสนอสรรพสามิตในการขอเงินชดเชยจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ช่วยชาวไร่ 89 ล้านบาท
“ปัญหาบุหรี่เถื่อน บุหรี่ผิดกฎหมาย เป็นปัญหาระดับประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ ที่มีปริมาณการสูบบุหรี่เถื่อนมากกว่า 70% ของการสูบบุหรี่ทั้งหมดในจังหวัดภาคใต้ จากการวิเคราะห์บุหรี่ผิดกฎหมายในภาคใต้ ด้วยข้อมูลการจัดเก็บรายได้ภาษี อบจ. ตั้งแต่ปีงบประมาณ 63-66 โดยสำนักป้องกันบุหรี่ผิดกฎหมาย การยาสูบแห่งประเทศไทย พบว่ารายได้จากการเก็บภาษี อบจ. ทั้งบุหรี่ไทยและบุหรี่ต่างประเทศ ใน 14 จังหวัดภาคใต้ มี 670 ล้านบาท คิดเป็น 7.9 % ของรายได้จากการเก็บภาษี อบจ. ทั้งประเทศ เมื่อแยกเป็นรายปี พบว่าแนวโน้มการจัดเก็บภาษีบุหรี่ อบจ. ลดลงทุกจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้”