ไม่รู้ทำไมเหมือนกันนะครับ คนไทยเราไม่ชอบที่จะพิสูจน์ในเรื่องต่างๆ แต่ชอบที่จะวิพากษ์วิจารณ์ซะมากกว่า โดยข้อมูลที่เอามาวิจารณ๋์ ด่า เหน็บแนม ก็มาจากที่เคยได้ฟังมาบ้างล่ะ อ่านมาบ้างล่ะ คนนั้นเล่า คนนี่เล่า ซึ่งข้อมูลที่เป็นความจริง จริงๆ แล้วมันเป็นยังไงก็ไม่รู้
ที่ผมมาตั้งกระทู้นี้ เพื่ออยากจะพูดบ้าง ในเรื่องของวัดพระธรรมกาย(ชื่อที่ถูกต้อง) ผมเองก็เพิ่งจะได้เข้าวัดอย่างจริงๆ จังๆ เมื่อประมาณ 10 ปีได้ โดยเริ่มจากการที่อาจารย์ชวนไปทำบุญ นั่งสมาธิ ก่อนหน้าที่จะมาลงเอยที่วัดพระธรรมกาย ก้ได้ไปปฏิบัติธรรมหลายที่มา ไม่ว่าจะเป็น ยุวพุทธฯ วัดสังฆทาน มหาจุฬา วัดระฆัง ฯลฯ และวัดสุดท้ายที่อาจารย์ชวนมาก็คือวัดนี้
คือจะด่ากันผมก็ไม่มีสิทธิ์ไปว่าอะไรใครได้หรอกครับ เพียงแต่ว่า ผมอยากให้ทุกๆ ท่านได้ลองมาพิสูจน์ ลองมาค้นหาความจริงดูว่า ไอ้ข้อมูลที่เรารู้ๆ กันอยู่เนี้ย"แท้ หรือ เทียม" บางคนด่าซะแบบว่าแค้นกันมาแต่ชาติปางก่อน
ขอเถอะนะครับ.. ผมว่าศาสนาพุทธเราถ้าไม่มีการเผยแผ่เชิงรุกในแบบของวัดพระธรรมกายแบบนี้ การขยายงานด้านพระพุทธศาสนาก้จะอุดอู้ สุดท้ายก้อาจจะอันตธานสลายหายไปในยุดที่เรายังมีชีวิตก็ได้นะครับ ลองคิดดูให้ดีแล้วกันนะครับ ประตูวัดพระธรรมกายเปิดต้อนรับทุกคนที่จะเข้าไปครับ ไม่ว่าจะเข้าไปทำบุย เข้าไปจับผิด เข้าไปหาข้อมูล เข้าไปเก็บภาพบรรยากาศ เข้าไปปฏิบัติธรรม วัดไม่เคยแบ่งชนชั้น ไม่เคยกรีดกันใครซักคน มาแบบไหน คนที่วัดพระธรรมกายก็ยกมือไหว้ต้อนรับเป็นอย่างดีครับและก็ไม่ใช่เพิ่งทำ เค้าเป็นประเพณีสืบต่อกันมากว่า 40 ปี แล้วครับ
อะไรต่อมิอะไรหลายๆ อย่างก้ได้รูปแบบมาจากวัดพระธรรมกายครับ ไม่ว่าจะเป็น "วันนี้วันพระ" "สาธุ อนุโทนาบุญ" "สื่อการเทศน์สอน" "การจัดการอบรม" "โครงการอุปสมบทหมู่" และก้อีกหลายๆ อย่าง เราควรจะดีใจนะครับ ที่วัดต่างๆ หันมาสนใจในกาจัดกิจกรรมเพื่อดึงคนเข้าวัดให้มากขึ้น และเน้นการจัดพิธีกรรมต่างๆ ที่เรียบง่าย ไม่มีมหรสพ ทำให้พิธีกรรมดูศักดิ์สิทธิ์
ขอบคุรทุกท่านที่อ่านมาจนจบนะครับ อย่างไรก็ตาม ลองมาพิสูจน์ก่อนดีกว่าครับ ไม่ใช่ด่าเพื่อความสะใจ หรือเพราะฟังจากใครเค้ามาอีกที!! จะเป็นบาปติดตัวไปเปล่าๆ ครับ สวัสดีครับ...
ลองมาพิสูจน์ก่อนดีกว่ามั้ย ไม่ใช่ด่าเพื่อความสะใจ หรือเพราะฟังจากใครเค้ามาอีกที!!
ที่ผมมาตั้งกระทู้นี้ เพื่ออยากจะพูดบ้าง ในเรื่องของวัดพระธรรมกาย(ชื่อที่ถูกต้อง) ผมเองก็เพิ่งจะได้เข้าวัดอย่างจริงๆ จังๆ เมื่อประมาณ 10 ปีได้ โดยเริ่มจากการที่อาจารย์ชวนไปทำบุญ นั่งสมาธิ ก่อนหน้าที่จะมาลงเอยที่วัดพระธรรมกาย ก้ได้ไปปฏิบัติธรรมหลายที่มา ไม่ว่าจะเป็น ยุวพุทธฯ วัดสังฆทาน มหาจุฬา วัดระฆัง ฯลฯ และวัดสุดท้ายที่อาจารย์ชวนมาก็คือวัดนี้
คือจะด่ากันผมก็ไม่มีสิทธิ์ไปว่าอะไรใครได้หรอกครับ เพียงแต่ว่า ผมอยากให้ทุกๆ ท่านได้ลองมาพิสูจน์ ลองมาค้นหาความจริงดูว่า ไอ้ข้อมูลที่เรารู้ๆ กันอยู่เนี้ย"แท้ หรือ เทียม" บางคนด่าซะแบบว่าแค้นกันมาแต่ชาติปางก่อน
ขอเถอะนะครับ.. ผมว่าศาสนาพุทธเราถ้าไม่มีการเผยแผ่เชิงรุกในแบบของวัดพระธรรมกายแบบนี้ การขยายงานด้านพระพุทธศาสนาก้จะอุดอู้ สุดท้ายก้อาจจะอันตธานสลายหายไปในยุดที่เรายังมีชีวิตก็ได้นะครับ ลองคิดดูให้ดีแล้วกันนะครับ ประตูวัดพระธรรมกายเปิดต้อนรับทุกคนที่จะเข้าไปครับ ไม่ว่าจะเข้าไปทำบุย เข้าไปจับผิด เข้าไปหาข้อมูล เข้าไปเก็บภาพบรรยากาศ เข้าไปปฏิบัติธรรม วัดไม่เคยแบ่งชนชั้น ไม่เคยกรีดกันใครซักคน มาแบบไหน คนที่วัดพระธรรมกายก็ยกมือไหว้ต้อนรับเป็นอย่างดีครับและก็ไม่ใช่เพิ่งทำ เค้าเป็นประเพณีสืบต่อกันมากว่า 40 ปี แล้วครับ
อะไรต่อมิอะไรหลายๆ อย่างก้ได้รูปแบบมาจากวัดพระธรรมกายครับ ไม่ว่าจะเป็น "วันนี้วันพระ" "สาธุ อนุโทนาบุญ" "สื่อการเทศน์สอน" "การจัดการอบรม" "โครงการอุปสมบทหมู่" และก้อีกหลายๆ อย่าง เราควรจะดีใจนะครับ ที่วัดต่างๆ หันมาสนใจในกาจัดกิจกรรมเพื่อดึงคนเข้าวัดให้มากขึ้น และเน้นการจัดพิธีกรรมต่างๆ ที่เรียบง่าย ไม่มีมหรสพ ทำให้พิธีกรรมดูศักดิ์สิทธิ์
ขอบคุรทุกท่านที่อ่านมาจนจบนะครับ อย่างไรก็ตาม ลองมาพิสูจน์ก่อนดีกว่าครับ ไม่ใช่ด่าเพื่อความสะใจ หรือเพราะฟังจากใครเค้ามาอีกที!! จะเป็นบาปติดตัวไปเปล่าๆ ครับ สวัสดีครับ...