นายเหมี่ยว เหวย รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศจีน เปิดเผยว่า ด้วยการยกระดับศักยภาพและเทคโนโลยี การปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมจีนในช่วง 5 ปีที่ผ่านมานั้น เดินมาถูกทางแล้วจีนสามารถลดกำลังผลิตที่ล้าสมัยในอุตสาหกรรมเหล็กได้มากถึง 91 ล้านตัน เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมเหล็กกล้าที่ลดได้ถึง 94.8 ล้านตันในช่วงปี 2554-2558
สำหรับอุตสาหกรรมซีเมนต์นั้น มีการลดกำลังการผลิต 640 ล้านตัน ขณะที่อุตสาหกรรมอลูมินัมปรับลดลง 2 ล้านตัน
อุตสาหกรรมเหล่านี้ได้มีการเก็บสะสมสินค้าไว้ในคลังก่อนที่เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง ทุกวันนี้ความต้องการโลหะดังกล่าวได้หดตัวลงทั้งในและต่างประเทศ จนส่งผลให้บริษัทเหล่านี้มีกำไรลดลง และทำให้ทางรัฐบาลออกแผนลดกำลังการผลิตส่วนเกิน โดยคณะรัฐมนตรีจีนได้ประกาศเมื่อช่วงต้นเดือนนี้ว่า กำลังการผลิตเหล็กกล้าดิบจะถูกปรับลดลง 100 ล้านตัน แตะ 150 ล้านตันในช่วง 5 ปีข้างหน้า
นายเหมี่ยว เปิดเผยว่า ขณะที่ตลาดกำลังหาทางกำจัดกำลังการผลิตส่วนเกิน ก็ได้มีการลงทุนอย่างหนักเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีด้วยเช่นกัน ซึ่งช่วยยกระดับการพัฒนาอุตสาหกรรมไปอีกขั้น
เมื่อปี 2554-2558 บริษัทจีนได้มีการลงทุนเป็นเงินมากถึง 37.5 ล้านล้านหยวน (5.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในการพัฒนาระบบและอุปกรณ์ ซึ่งมากกว่าเมื่อช่วงปี 2549-2553 ถึง 2.7 เท่า
นอกจากนี้ อุตสาหกรรมยังใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยอัตราการใช้พลังงานและน้ำสำหรับผลผลิตภาคอุตสาหกรรมทุก 10,000 หยวนนั้น ปรับตัวลดลง 25% และ 35% ตามลำดับในช่วง 5 ปีนับตั้งแต่ปลายปี 2553
อ่านต่อได้ที่ :
http://www.ryt9.com/s/iq29/2370081
เมื่ออุตสาหกรรมเหล็กจีนเริ่มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น
สำหรับอุตสาหกรรมซีเมนต์นั้น มีการลดกำลังการผลิต 640 ล้านตัน ขณะที่อุตสาหกรรมอลูมินัมปรับลดลง 2 ล้านตัน
อุตสาหกรรมเหล่านี้ได้มีการเก็บสะสมสินค้าไว้ในคลังก่อนที่เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง ทุกวันนี้ความต้องการโลหะดังกล่าวได้หดตัวลงทั้งในและต่างประเทศ จนส่งผลให้บริษัทเหล่านี้มีกำไรลดลง และทำให้ทางรัฐบาลออกแผนลดกำลังการผลิตส่วนเกิน โดยคณะรัฐมนตรีจีนได้ประกาศเมื่อช่วงต้นเดือนนี้ว่า กำลังการผลิตเหล็กกล้าดิบจะถูกปรับลดลง 100 ล้านตัน แตะ 150 ล้านตันในช่วง 5 ปีข้างหน้า
นายเหมี่ยว เปิดเผยว่า ขณะที่ตลาดกำลังหาทางกำจัดกำลังการผลิตส่วนเกิน ก็ได้มีการลงทุนอย่างหนักเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีด้วยเช่นกัน ซึ่งช่วยยกระดับการพัฒนาอุตสาหกรรมไปอีกขั้น
เมื่อปี 2554-2558 บริษัทจีนได้มีการลงทุนเป็นเงินมากถึง 37.5 ล้านล้านหยวน (5.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในการพัฒนาระบบและอุปกรณ์ ซึ่งมากกว่าเมื่อช่วงปี 2549-2553 ถึง 2.7 เท่า
นอกจากนี้ อุตสาหกรรมยังใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยอัตราการใช้พลังงานและน้ำสำหรับผลผลิตภาคอุตสาหกรรมทุก 10,000 หยวนนั้น ปรับตัวลดลง 25% และ 35% ตามลำดับในช่วง 5 ปีนับตั้งแต่ปลายปี 2553
อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2370081