มาแชร์ประสบการณ์สุดสยองขนลุกพุพอง กับการลักพาตัวหญิงสาวไปเรียกค่าไถ่ไกลถึง Fukuoka ด้วยงบประมาณ “23,000บาท” แต่ได้กลับมาเป็นล้านนนน.............
ต้องบอกก่อนเลยว่า ประโยคสุดคลาสสิคของ Pantip คือ นี่เป็นกระทู้แรกของผม และมันก้อเป็นเช่นนั้นจริง
(แต่ไม่แน่ใจว่าจะเป็นกระทู้สุดท้ายหรือเปล่า แฮ่ๆ ) ดังนั้น ถ้าผิดพลาดประการใด รบกวน “ด่าได้” แต่ “ห้ามเร็ว” เพราะ “สำนึกไม่ทัน”
ปล. ยาวมาก พูดเลย อย่าเพิ่งหงุดหงิดก่อนนะแจ๊ะ
ณ เวลา 22.00น. ของคืนหนึ่ง บรรยากาศเงียบสงัด เสียงจิ้งหรีดที่ร้องเป็นทำนอง ไร้เสียงผู้คน อากาศเย็นๆ ช่างเป็นคืนที่น่าจะเป็นฝันหวานของใครหลายๆคน ได้มีเงามืดสีดำน่ากลัวของชายผู้หนึ่งค่อยๆย่างกรายเข้ามาอย่างช้าๆ
และได้ปลดล็อคกุญแจราวกับเป็นบ้านของตัวเอง และเริ่มย่องเข้าบ้านหญิงสาวรายหนึ่ง โดยอาศัยจังหวะที่ไม่มีใครอยู่บ้าน ลักลอบเก็บเสื้อผ้าของเหยื่อ และค่อยๆเข้าไปลักพาตัวหญิงสาวขึ้นรถ หญิงสาวตกใจมาก เลยสู้ใจขาดดิ้น คาราเต้ เทควอนโด้ มวยไทย หย่งชุน นางจัดทุกท่วงท่าดั่งกับว่าเมียพี่บัวขาวเข้าสิง แต่ชายลึกลับผู้นั้นมีไหวพริบที่แรงกล้า รับทุกหมัด โดนทุกทีน ที่นางโถมเข้าใส่ จนนางเหนื่อยไปเอง
(เจ็บชิบ!!) และก็ถึงเวลาที่จะทรมานหญิงสาวอย่างโหดร้ายทารุณ โดยการเอาชอคโคแลตล่อให้กินตลอดทางจนถึงสนามบิน.....
โดยอาวุธในการลงมือคือ:
- Canon
- Fuji XA-2
- Iphone6
- Chocolates
เมื่อถึงสนามบิน นางเริ่มรู้ตัวว่ากำลังโดนลักพาตัว!!
(สงสัยจะเจอช็อคโคแลตรสยาชา) นางรีบยัดช็อคโคแลตใส่ปากหมด แล้วดิ้นรนพยายามจะหนีชายลึกลับผู้นั้นอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ทว่านั่นก็ช้าไปเสียแล้ว.........
นี่คือเหยื่อของทริปนี้
และนี่คือโฉมหน้าคนร้าย
Day1 Bangkok--> Fukuoka--> Oita :
http://ppantip.com/topic/34829929
Day2 Oita--> Yufuin :
http://ppantip.com/topic/34832694
Day3 Oita--> Kitsuki--> Fukuoka :
http://ppantip.com/topic/34836486
Day4 Fukuoka--> Kumamoto :
http://ppantip.com/topic/34842632
Day5 Fukuoka--> Saga :
http://ppantip.com/topic/34846782
Day6,7 Canal City and The end of Kidnapper :
http://ppantip.com/topic/34852976
DAY 1: BANGKOK-->FUKUOKA-->OITA
สนามบินFukuoka เป็นสนามบินใหญ่ในภาค Kyushu ซึ่งผู้คนได้มาใช้บริการอย่างหนาแน่น โดยเฉพาะทัวร์จีนและเกาหลี ที่มาใช้บริการเป็นอย่างมาก หลังจากที่ลงสนามบินมา ก้อรีบลากตัวนางที่งอแงหงุดหงิดเพราะไม่ค่อยได้นอนบนเครื่องบิน
(เสียงกรนคือ!?) ไปซื้อบัตรเบ่ง “5 Days Northern Kyushu pass” ที่สนามบิน ซึ่งบัตรนี้ สามารถเบ่งรถไฟ JR ได้ทั้งคิวชูฝั่งเหนือ ยกเว้น Shinkansen ที่วิ่งผ่าน KOKURA บัตรนี้จะเบ่งไม่ออกทันที ซึ่งอาจต้องเสียเงินเพิ่ม
(แนะนำว่าให้เช็ค conditions ก่อนจะซื้อบัตรนะฮะ)
- ค่าเสียหายในการเบ่ง = 10,000 เยน
- ระยะเวลาในการเบ่ง = 5 วัน
- ความสามารถในการเบ่ง = รถไฟ JR ทุกเส้นของคิวชูฝั่งเหนือ ยกเว้น Shinkasen ที่วิ่งผ่าน KOKURA
วิธีใช้บัตร 5days Northern Kyushu Pass นั้น ใช้ไม่ยาก ตรงทางเข้าที่ต้องใช้บัตรแตะเพื่อเข้าไปในตัวสถานี ด้านข้างจะมีช่องทางพิเศษ และมีเจ้าหน้าที่ในชุดสูทน้ำเงินดูดียืนหล่อคอยตรวจบัตรผู้คนอยู่ นั่นแหล่ะ ที่เราจะเหมือนพี่ชมพู่ อารยาสุดสวย เดินหมุนตัวเข้างานผ่านพรมแดงสีแป๊ดแบบใสๆ แถมเค้ายังโค้งต้อนรับเราพร้อมพูด “ขอบคุณค้าบบ” ให้เรารู้สึกชื่นใจอีกด้วย
การซื้อตั๋วพาสที่สนามบินสามารถบอกให้เค้าออกบัตรจริงให้เราได้เลย ไม่จำเป็นต้องไปทำที่สถานี Hakata แต่ถ้าจะ reserved seat ต้องไปทำเรื่องที่สถานี Hakata (และสถานีใหญ่ใกล้เคียง) แต่เผอิญว่าชอบไปตายเอาดาบหน้า เลยไม่จำเป็นต้องจองที่นั่งแต่อย่างใด
(จริงๆ ทำไม่เป็นT_T )
แต่เราไปมากกว่า 5วัน เลยถอย FUKUOKA TOURIST CITY PASS มาด้วยเลย ซึ่งบัตรนี้มี 2 Class คิอ
- Class A = Fukuoka City ใช้ได้เฉพาะในตัวเมือง Fukuoka เท่านั้น
(ยกเว้นรถไฟของ Nishitetsu)
o ค่าเสียหายในการเบ่ง = 820 เยน
o ระยะเวลาในการเบ่ง = 1 วัน
o ความสามารถในการเบ่ง = รถไฟและรถบัสใน Fukuoka ยกเว้นรถไฟของ Nishitetsu
- Class S = Fukuoka City and Dazaifu ใช้ได้ทั้งตัวเมือง Fukuoka ลากยาวไปถึง Dazaifu
o ค่าเสียหายในการเบ่ง = 1,340
o ระยะเวลาในการเบ่ง = 1 วัน
o ความสามารถในการเบ่ง = รถไฟและรถบัสทุกอย่างใน Fukuoka จนถึง Dazaifu
วิธีใช้ ขูดหาเลข วัน/เดือน/ปี ที่เราจะใช้ได้เลย
(แนะนำ จุดธูปก่อนขูด) แล้วก้อทำตามเหมือนบัตรข้างบนได้เลย ถ้าใครขึ้นรถบัส ก่อนลง ก็ยื่นให้พนักงานขับรถสุดหล่อดูได้เลย
แต่ในแพลนไม่มีไป Dazaifu เลยซื้อ Class A มาใช้ ซึ่ง 5วันแรกเราจะใช้บัตร 5 Days Northern Kyushu Pass ก่อน หลังจากนั้นค่อยใช้ Fukuoka City pass
หลังจากให้เค้าออกบัตรเสร็จ ก้อใช้เหยื่อให้ลากกระเป๋าออกมานั่งรถบัสเข้าไปในเมือง โดยรถบัสจากสนามบินจะไปจอดที่สถานี Hakata Station เลย สะดวกสุดๆ รถบัสเข้าเมืองจะมาจอดป้ายหมายเลข 2 ที่สนามบิน Fukuoka โดยขึ้นประตูตรงกลางรถ รับบัตร ตอนจะลงก็ลงประตูด้านหน้า จ่ายเงินตรงข้างๆคนขับได้เลย ค่าเสียหายในการขึ้นรถบัส 260 เยน/คน ใครไม่มีเศษสามารถแลกในตู้แลกเหรียญได้อยู่ข้างๆพี่คนขับอีกเช่นกัน
ตารางรถบัส คลิ๊ก
https://jik.nishitetsu.jp/route?f_zahyo_flg=0&f_list=0000%2CD11069&t_zahyo_flg=0&t_list=0000%2CL00002&sdate=2016%2F01%2F21&stime_h=03&stime_m=00&stime_flg=1&sort=2&jkn_busnavi=1&syosaiFlg=1&jkn_jigyousha%5B%5D=0001&jkn_jigyousha%5B%5D=0906
โดยวันแรกจะนำเหยื่อไปกบดานที่ จังหวัด Oita ซึ่งเป็นจังหวัดที่เงียบสงบ อากาศดีไม่หนาวมาก คนไม่เยอะพลุกพล่านวุ่นวายมากนัก เหมาะแก่การกักตัวนักแล.....
รถไฟ SONIC883 เป็นรถไฟที่มีเอกลักษณ์แตกต่างจากขบวนอื่นคือ เป็นรถไฟสีน้ำเงินโดดเด่น ที่มีพนักพิงเปนหัวมิกกี้เม้าส์น่ารักฟรุ๊งฟริ๊งมุ๊งมิ๊งสไตล์ดีสนีย์มากๆ ขณะที่กำลังยืนชื่นชมลิ้มรสกลิ่นอายรถไฟขบวนนี้อยู่ นางก็วิ่งเข้าไปในโบกี้โดยไม่ได้ระลึกเลยว่าตัวเองกำลังโดนลักพาตัวอยู่นะเฟร๊ยยยย -*- โชคยังดีที่ชายลึกลับมีความชาญฉลาด ใช้ทักษะ ดึงเป้หลังของนางออกมา และจับทรมานโดยการให้นั่งนอกโบกี้ มองเบาะมิกกี้เม้าส์ตาปริบๆ อย่างแสนสาหัส พร้อมกับทาน ข้าวปั้นกับแซนวิช ซึ่งเป็นการฟิวชั่นที่โคตรไม่ได้เรื่องเลย ฮ่าๆ แต่จำเป็นต้องทาน เพราะว่ารถไฟ Sonic ขบวนนี้ วิ่งไปถึงสถานี Oita ใช้เวลาประมาณ 2ชม. เป็นการกินที่โรแมนติคสุดๆ ยืนกินอาหาร no fusion นอกโบกี้พร้อมวิว 15องศา ผ่านหน้าต่างบานเล็ก และการโยกของรถไฟที่ราวกับยืนบนรถเมล์สาย8........อ้วกครับ T_T
นั่งนอกโบกี้จริงๆฮะ
และแล้วก้อมาถึงจังหวัดโออิตะอันแสนเหน็บหนาว สงบเงียบ มีแต่เสียงนกที่ร้องหาคู่กอดและบินไปพร้อมกัน หลังจากพรรณนาในใจเสร็จก็ให้เหยื่อลากกระเป๋าไปที่กบดาน นางหันมาค้อน แล้วก็ลากกระเป๋าแบบกระฟัดกระเฟี้ยดสุดๆ
(นี่มันจำเลยรักชัดๆ) โดยที่กบดานของเราคือ ที่ Best Western Fino Oita Hotel เป็นโรงแรมเล็กๆ สไตล์หรู ที่ค่อนข้างโด่งดังเพราะมีอยู่หลายที่ทั่วประเทศ ที่จัดสไตล์แบบ Modern เรียบง่าย สงบ ไม่ไกลจากสถานี Oita มากนัก ใช้เวลาเดินแบบสโลว์ไลฟ์ประมาณ 10 นาทีก็ถึง.......
ตึกสีดำข้างหน้าคือ Best Western Fino Oita Hotel
เมื่อมาถึง ก็มี reception สาวแสนสวยน่าตาจิ้มลิ้มชวนให้หยิกแก้ม ออกมายิ้มต้อนรับ เห็นแล้วอยากจะ.......โอ้ยยย!! เหยื่อหยิกพุงจากด้านหลัง ช่างเป็นจิตสังหารที่รุนแรงมาก รีบเช็คอินแล้วรีบขึ้นห้องสิครับ รออะไร??
ห้อง standard สำหรับ 2คน ที่ดูเหมือนจะเล็ก แต่อยู่แล้วอบอุ่นดี อุปกรณ์ของใช้ครบ! เนทมี! และมี tablet เล็กๆที่ไว้อธิบายกติกาการใช้ที่พัก สาธารณูปโภคต่างๆ พร้อมเบอร์ติดต่อ reception สามารถเปลี่ยนภาษาได้ สะดวกสุดๆ
ด้วยความที่ห้องเล็ก และห้องก็อุ่น...อุ่นเกินไป เลยหันไปเปิดแอร์ อ่าวเอ๊ะ นี่เราอยู่ห้องสตรีมหรือไง ร้อนกว่าเดิมอีก เลยจิ้มเบอร์โทรหา reception สาวแสนสวยเสียงใส ให้ขึ้นมาดูแอร์ให้หน่อย ทำไมแอร์ใช้งานไม่ได้ ปรับต่ำสุดแล้วก็ไม่เห็นเย็นขึ้นเลย นางตอบกลับมาด้วยเสียงที่ฟังแล้วรื่นหูว่า “นั่นไม่ใช่แอร์ค่ะ เป็นฮีทเตอร์” เพล้ง!!!! เสียงกระจกนับ 10บาน แตกต่อเนื่องกันเป็นจังหวะป๊อปแดนซ์ แต่หนังหน้าหนาพอควร หน้าแตกแค่นี้ไม่รู้สึกหรอก เลยถามแก้เขิลไปใหม่ว่า “แล้วมีทางไหนที่ทำให้เย็นขึ้นอีกนิดบ้าง เพราะตอนนี้ผมร้อนมากกกกก” เธอหยุดเงียบไปพักหนึ่งเหมือนฉุกคิดอะไรสักอย่าง และเธอก็ใช้น้ำเสียงที่นุ่มนวลรื่นหูตอบกลับมาอีกครั้งว่า “คุณลูกค้าก็เปิดหน้าต่างสิค่ะ” ตูมมมมม!!! เสียงหนังหน้าจากชั้นพื้นผิวด้านในระเบิดด้วยความอาย เอิ่บ พี่ทิ้งผมไว้กลางทางเลยสินะ ดังนั้นขอสรุปสภาพอากาศภายในห้อง ต่ำสุดอยู่ที่ เวลาเดินใกล้หน้าต่าง, สูงสุดอยู่ที่ เวลาห่มผ้าห่มที่โคตรจะหนาของ รร. อากาศแปรปรวนภายในห้อง เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว ระวังสุขภาพด้วย จบพยากรณ์อากาศ....
นางหัวเราะคิกคักเยาะเย้ยอย่างสนุกสนาน โดยหารู้ไม่ว่า ไดร์เป่าผมและที่หนีบผมที่เอามามันใช้งานไม่ได้ เพราะว่า ที่ญี่ปุ่นเค้าปล่อยกระแสไฟแค่ 110v ไดร์เป่าผมไม่มีปัญหา เพราะทาง รร. มีให้ แต่ที่หนีบผมนี่สิ เริ่มต้นที่ 160v หล่อนได้หัวฟูทั้งทริปแน่ อิอิ
(หัวเราะแค่นี้ ก็ดังกว่าแร้ว)........
[CR] ลักพาตัวสาวเรียกค่าไถ่ @ FUKUOKA [Day1]
ต้องบอกก่อนเลยว่า ประโยคสุดคลาสสิคของ Pantip คือ นี่เป็นกระทู้แรกของผม และมันก้อเป็นเช่นนั้นจริง (แต่ไม่แน่ใจว่าจะเป็นกระทู้สุดท้ายหรือเปล่า แฮ่ๆ ) ดังนั้น ถ้าผิดพลาดประการใด รบกวน “ด่าได้” แต่ “ห้ามเร็ว” เพราะ “สำนึกไม่ทัน”
ปล. ยาวมาก พูดเลย อย่าเพิ่งหงุดหงิดก่อนนะแจ๊ะ
ณ เวลา 22.00น. ของคืนหนึ่ง บรรยากาศเงียบสงัด เสียงจิ้งหรีดที่ร้องเป็นทำนอง ไร้เสียงผู้คน อากาศเย็นๆ ช่างเป็นคืนที่น่าจะเป็นฝันหวานของใครหลายๆคน ได้มีเงามืดสีดำน่ากลัวของชายผู้หนึ่งค่อยๆย่างกรายเข้ามาอย่างช้าๆ และได้ปลดล็อคกุญแจราวกับเป็นบ้านของตัวเอง และเริ่มย่องเข้าบ้านหญิงสาวรายหนึ่ง โดยอาศัยจังหวะที่ไม่มีใครอยู่บ้าน ลักลอบเก็บเสื้อผ้าของเหยื่อ และค่อยๆเข้าไปลักพาตัวหญิงสาวขึ้นรถ หญิงสาวตกใจมาก เลยสู้ใจขาดดิ้น คาราเต้ เทควอนโด้ มวยไทย หย่งชุน นางจัดทุกท่วงท่าดั่งกับว่าเมียพี่บัวขาวเข้าสิง แต่ชายลึกลับผู้นั้นมีไหวพริบที่แรงกล้า รับทุกหมัด โดนทุกทีน ที่นางโถมเข้าใส่ จนนางเหนื่อยไปเอง(เจ็บชิบ!!) และก็ถึงเวลาที่จะทรมานหญิงสาวอย่างโหดร้ายทารุณ โดยการเอาชอคโคแลตล่อให้กินตลอดทางจนถึงสนามบิน.....
โดยอาวุธในการลงมือคือ:
- Canon
- Fuji XA-2
- Iphone6
- Chocolates
เมื่อถึงสนามบิน นางเริ่มรู้ตัวว่ากำลังโดนลักพาตัว!! (สงสัยจะเจอช็อคโคแลตรสยาชา) นางรีบยัดช็อคโคแลตใส่ปากหมด แล้วดิ้นรนพยายามจะหนีชายลึกลับผู้นั้นอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ทว่านั่นก็ช้าไปเสียแล้ว.........
นี่คือเหยื่อของทริปนี้
และนี่คือโฉมหน้าคนร้าย
Day1 Bangkok--> Fukuoka--> Oita : http://ppantip.com/topic/34829929
Day2 Oita--> Yufuin : http://ppantip.com/topic/34832694
Day3 Oita--> Kitsuki--> Fukuoka : http://ppantip.com/topic/34836486
Day4 Fukuoka--> Kumamoto : http://ppantip.com/topic/34842632
Day5 Fukuoka--> Saga : http://ppantip.com/topic/34846782
Day6,7 Canal City and The end of Kidnapper : http://ppantip.com/topic/34852976
DAY 1: BANGKOK-->FUKUOKA-->OITA
สนามบินFukuoka เป็นสนามบินใหญ่ในภาค Kyushu ซึ่งผู้คนได้มาใช้บริการอย่างหนาแน่น โดยเฉพาะทัวร์จีนและเกาหลี ที่มาใช้บริการเป็นอย่างมาก หลังจากที่ลงสนามบินมา ก้อรีบลากตัวนางที่งอแงหงุดหงิดเพราะไม่ค่อยได้นอนบนเครื่องบิน(เสียงกรนคือ!?) ไปซื้อบัตรเบ่ง “5 Days Northern Kyushu pass” ที่สนามบิน ซึ่งบัตรนี้ สามารถเบ่งรถไฟ JR ได้ทั้งคิวชูฝั่งเหนือ ยกเว้น Shinkansen ที่วิ่งผ่าน KOKURA บัตรนี้จะเบ่งไม่ออกทันที ซึ่งอาจต้องเสียเงินเพิ่ม (แนะนำว่าให้เช็ค conditions ก่อนจะซื้อบัตรนะฮะ)
- ค่าเสียหายในการเบ่ง = 10,000 เยน
- ระยะเวลาในการเบ่ง = 5 วัน
- ความสามารถในการเบ่ง = รถไฟ JR ทุกเส้นของคิวชูฝั่งเหนือ ยกเว้น Shinkasen ที่วิ่งผ่าน KOKURA
วิธีใช้บัตร 5days Northern Kyushu Pass นั้น ใช้ไม่ยาก ตรงทางเข้าที่ต้องใช้บัตรแตะเพื่อเข้าไปในตัวสถานี ด้านข้างจะมีช่องทางพิเศษ และมีเจ้าหน้าที่ในชุดสูทน้ำเงินดูดียืนหล่อคอยตรวจบัตรผู้คนอยู่ นั่นแหล่ะ ที่เราจะเหมือนพี่ชมพู่ อารยาสุดสวย เดินหมุนตัวเข้างานผ่านพรมแดงสีแป๊ดแบบใสๆ แถมเค้ายังโค้งต้อนรับเราพร้อมพูด “ขอบคุณค้าบบ” ให้เรารู้สึกชื่นใจอีกด้วย
การซื้อตั๋วพาสที่สนามบินสามารถบอกให้เค้าออกบัตรจริงให้เราได้เลย ไม่จำเป็นต้องไปทำที่สถานี Hakata แต่ถ้าจะ reserved seat ต้องไปทำเรื่องที่สถานี Hakata (และสถานีใหญ่ใกล้เคียง) แต่เผอิญว่าชอบไปตายเอาดาบหน้า เลยไม่จำเป็นต้องจองที่นั่งแต่อย่างใด (จริงๆ ทำไม่เป็นT_T )
แต่เราไปมากกว่า 5วัน เลยถอย FUKUOKA TOURIST CITY PASS มาด้วยเลย ซึ่งบัตรนี้มี 2 Class คิอ
- Class A = Fukuoka City ใช้ได้เฉพาะในตัวเมือง Fukuoka เท่านั้น (ยกเว้นรถไฟของ Nishitetsu)
o ค่าเสียหายในการเบ่ง = 820 เยน
o ระยะเวลาในการเบ่ง = 1 วัน
o ความสามารถในการเบ่ง = รถไฟและรถบัสใน Fukuoka ยกเว้นรถไฟของ Nishitetsu
- Class S = Fukuoka City and Dazaifu ใช้ได้ทั้งตัวเมือง Fukuoka ลากยาวไปถึง Dazaifu
o ค่าเสียหายในการเบ่ง = 1,340
o ระยะเวลาในการเบ่ง = 1 วัน
o ความสามารถในการเบ่ง = รถไฟและรถบัสทุกอย่างใน Fukuoka จนถึง Dazaifu
วิธีใช้ ขูดหาเลข วัน/เดือน/ปี ที่เราจะใช้ได้เลย (แนะนำ จุดธูปก่อนขูด) แล้วก้อทำตามเหมือนบัตรข้างบนได้เลย ถ้าใครขึ้นรถบัส ก่อนลง ก็ยื่นให้พนักงานขับรถสุดหล่อดูได้เลย
แต่ในแพลนไม่มีไป Dazaifu เลยซื้อ Class A มาใช้ ซึ่ง 5วันแรกเราจะใช้บัตร 5 Days Northern Kyushu Pass ก่อน หลังจากนั้นค่อยใช้ Fukuoka City pass
หลังจากให้เค้าออกบัตรเสร็จ ก้อใช้เหยื่อให้ลากกระเป๋าออกมานั่งรถบัสเข้าไปในเมือง โดยรถบัสจากสนามบินจะไปจอดที่สถานี Hakata Station เลย สะดวกสุดๆ รถบัสเข้าเมืองจะมาจอดป้ายหมายเลข 2 ที่สนามบิน Fukuoka โดยขึ้นประตูตรงกลางรถ รับบัตร ตอนจะลงก็ลงประตูด้านหน้า จ่ายเงินตรงข้างๆคนขับได้เลย ค่าเสียหายในการขึ้นรถบัส 260 เยน/คน ใครไม่มีเศษสามารถแลกในตู้แลกเหรียญได้อยู่ข้างๆพี่คนขับอีกเช่นกัน
ตารางรถบัส คลิ๊ก https://jik.nishitetsu.jp/route?f_zahyo_flg=0&f_list=0000%2CD11069&t_zahyo_flg=0&t_list=0000%2CL00002&sdate=2016%2F01%2F21&stime_h=03&stime_m=00&stime_flg=1&sort=2&jkn_busnavi=1&syosaiFlg=1&jkn_jigyousha%5B%5D=0001&jkn_jigyousha%5B%5D=0906
โดยวันแรกจะนำเหยื่อไปกบดานที่ จังหวัด Oita ซึ่งเป็นจังหวัดที่เงียบสงบ อากาศดีไม่หนาวมาก คนไม่เยอะพลุกพล่านวุ่นวายมากนัก เหมาะแก่การกักตัวนักแล.....
รถไฟ SONIC883 เป็นรถไฟที่มีเอกลักษณ์แตกต่างจากขบวนอื่นคือ เป็นรถไฟสีน้ำเงินโดดเด่น ที่มีพนักพิงเปนหัวมิกกี้เม้าส์น่ารักฟรุ๊งฟริ๊งมุ๊งมิ๊งสไตล์ดีสนีย์มากๆ ขณะที่กำลังยืนชื่นชมลิ้มรสกลิ่นอายรถไฟขบวนนี้อยู่ นางก็วิ่งเข้าไปในโบกี้โดยไม่ได้ระลึกเลยว่าตัวเองกำลังโดนลักพาตัวอยู่นะเฟร๊ยยยย -*- โชคยังดีที่ชายลึกลับมีความชาญฉลาด ใช้ทักษะ ดึงเป้หลังของนางออกมา และจับทรมานโดยการให้นั่งนอกโบกี้ มองเบาะมิกกี้เม้าส์ตาปริบๆ อย่างแสนสาหัส พร้อมกับทาน ข้าวปั้นกับแซนวิช ซึ่งเป็นการฟิวชั่นที่โคตรไม่ได้เรื่องเลย ฮ่าๆ แต่จำเป็นต้องทาน เพราะว่ารถไฟ Sonic ขบวนนี้ วิ่งไปถึงสถานี Oita ใช้เวลาประมาณ 2ชม. เป็นการกินที่โรแมนติคสุดๆ ยืนกินอาหาร no fusion นอกโบกี้พร้อมวิว 15องศา ผ่านหน้าต่างบานเล็ก และการโยกของรถไฟที่ราวกับยืนบนรถเมล์สาย8........อ้วกครับ T_T
นั่งนอกโบกี้จริงๆฮะ
และแล้วก้อมาถึงจังหวัดโออิตะอันแสนเหน็บหนาว สงบเงียบ มีแต่เสียงนกที่ร้องหาคู่กอดและบินไปพร้อมกัน หลังจากพรรณนาในใจเสร็จก็ให้เหยื่อลากกระเป๋าไปที่กบดาน นางหันมาค้อน แล้วก็ลากกระเป๋าแบบกระฟัดกระเฟี้ยดสุดๆ (นี่มันจำเลยรักชัดๆ) โดยที่กบดานของเราคือ ที่ Best Western Fino Oita Hotel เป็นโรงแรมเล็กๆ สไตล์หรู ที่ค่อนข้างโด่งดังเพราะมีอยู่หลายที่ทั่วประเทศ ที่จัดสไตล์แบบ Modern เรียบง่าย สงบ ไม่ไกลจากสถานี Oita มากนัก ใช้เวลาเดินแบบสโลว์ไลฟ์ประมาณ 10 นาทีก็ถึง.......
ตึกสีดำข้างหน้าคือ Best Western Fino Oita Hotel
เมื่อมาถึง ก็มี reception สาวแสนสวยน่าตาจิ้มลิ้มชวนให้หยิกแก้ม ออกมายิ้มต้อนรับ เห็นแล้วอยากจะ.......โอ้ยยย!! เหยื่อหยิกพุงจากด้านหลัง ช่างเป็นจิตสังหารที่รุนแรงมาก รีบเช็คอินแล้วรีบขึ้นห้องสิครับ รออะไร??
ห้อง standard สำหรับ 2คน ที่ดูเหมือนจะเล็ก แต่อยู่แล้วอบอุ่นดี อุปกรณ์ของใช้ครบ! เนทมี! และมี tablet เล็กๆที่ไว้อธิบายกติกาการใช้ที่พัก สาธารณูปโภคต่างๆ พร้อมเบอร์ติดต่อ reception สามารถเปลี่ยนภาษาได้ สะดวกสุดๆ
ด้วยความที่ห้องเล็ก และห้องก็อุ่น...อุ่นเกินไป เลยหันไปเปิดแอร์ อ่าวเอ๊ะ นี่เราอยู่ห้องสตรีมหรือไง ร้อนกว่าเดิมอีก เลยจิ้มเบอร์โทรหา reception สาวแสนสวยเสียงใส ให้ขึ้นมาดูแอร์ให้หน่อย ทำไมแอร์ใช้งานไม่ได้ ปรับต่ำสุดแล้วก็ไม่เห็นเย็นขึ้นเลย นางตอบกลับมาด้วยเสียงที่ฟังแล้วรื่นหูว่า “นั่นไม่ใช่แอร์ค่ะ เป็นฮีทเตอร์” เพล้ง!!!! เสียงกระจกนับ 10บาน แตกต่อเนื่องกันเป็นจังหวะป๊อปแดนซ์ แต่หนังหน้าหนาพอควร หน้าแตกแค่นี้ไม่รู้สึกหรอก เลยถามแก้เขิลไปใหม่ว่า “แล้วมีทางไหนที่ทำให้เย็นขึ้นอีกนิดบ้าง เพราะตอนนี้ผมร้อนมากกกกก” เธอหยุดเงียบไปพักหนึ่งเหมือนฉุกคิดอะไรสักอย่าง และเธอก็ใช้น้ำเสียงที่นุ่มนวลรื่นหูตอบกลับมาอีกครั้งว่า “คุณลูกค้าก็เปิดหน้าต่างสิค่ะ” ตูมมมมม!!! เสียงหนังหน้าจากชั้นพื้นผิวด้านในระเบิดด้วยความอาย เอิ่บ พี่ทิ้งผมไว้กลางทางเลยสินะ ดังนั้นขอสรุปสภาพอากาศภายในห้อง ต่ำสุดอยู่ที่ เวลาเดินใกล้หน้าต่าง, สูงสุดอยู่ที่ เวลาห่มผ้าห่มที่โคตรจะหนาของ รร. อากาศแปรปรวนภายในห้อง เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว ระวังสุขภาพด้วย จบพยากรณ์อากาศ....
นางหัวเราะคิกคักเยาะเย้ยอย่างสนุกสนาน โดยหารู้ไม่ว่า ไดร์เป่าผมและที่หนีบผมที่เอามามันใช้งานไม่ได้ เพราะว่า ที่ญี่ปุ่นเค้าปล่อยกระแสไฟแค่ 110v ไดร์เป่าผมไม่มีปัญหา เพราะทาง รร. มีให้ แต่ที่หนีบผมนี่สิ เริ่มต้นที่ 160v หล่อนได้หัวฟูทั้งทริปแน่ อิอิ (หัวเราะแค่นี้ ก็ดังกว่าแร้ว)........