โดยปกติแล้วผมเดินมักจะเดินทางด้วยเครื่องบินอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น การบินไทย แอร์เอเชีย Delta หรือสายการบินอื่นๆ เรื่องเกิดเมื่อผมได้รับเชิญชวนให้ไปร่วมงานแต่งที่ภูเก็ตในวันที่ 20 เดือน กุมภาพันธ์ 2016 ทางเจ้าภาพก็ทำการจองตั๋วเครื่องบินพร้อมชำระเงินเรียบร้อยและได้ FWD อีเมล์ Booking Confirmation มาให้ ซึ่งวันเวลาที่ออกตั๋วคือวันที่ 9 เดือนมกราคม 2016 เมื่อได้รับอีเมล์ผมก็ทำการปริ้นหมายเลขออกมาเพื่อที่จะเอาไปเป็นหลักฐานการเชคอิน
เมื่อกำหนดการงานแต่งใกล้เข้ามา และถึงเวลาที่ต้องเดินทางไปร่วมยินดีกับคู่บาวสาวแล้ว ผมก็ได้อาบน้ำแต่งตัวพร้อมเดินทางไปยังสนามบินดอนเมือง รถติดมาก แต่ก็ยังไปถึงก่อนเวลาขึ้นเครื่อง 1 ชั่วโมงครึ่ง ระหว่างเดิมทางไปที่สนามบิน ก็มีข้อความเข้า บอกว่าเทียวบิน Delay จะบินช้ากว่ากำหนด ซึ่งผมก็ไม่ได้ว่าอะไร เมื่อไปถึงสนามบินก็ให้แท็กซี่ไปส่งที่ Terminal 2 ตามคำแนะนำที่ถูกส่งมาพร้อมกับอีเมล์
เรื่องเกิดเมื่อผมเข้าไปเชคอินที่เค้าเตอร์ ผมก้อได้ยื่นตั๋วให้พนักงานตรวจพร้อมนำกระเป๋าเดินทางขึ้นชั่งน้ำหนัก พนักงานที่เค้าเตอร์จึงขอให้ผมแสดงบัตรเครดิตที่ใช้ในการชำระค่าตั๋ว ผมก็บอกกับพนักงานว่า ตั๋วนี้พี่สาวเป็นคนจองและจ่ายค่าตั๋วให้ ตอนที่จองพี่สาวยังอยู่อเมริกาอยู่เลย ผมไม่มีบัตรเครดิตเค้ามาให้ดูหรอก พนักงานก็ยืนกรานจะขอดูบัตรเครติดพี่สาวอย่างเดียว ตอนนั้นเริ่มโมโหแล้ว เลยถามไปว่าตั๋วใบนั้นยังไม่ได้จ่ายหรือป่าว พนักงานก็บอกว่าจ่ายแล้ว ผมก็เลยถามว่า ถ้าจ่ายแล้วทำไมผมจะเชคอินไม่ได้ พนักงานก็ยังถามหาบัตรเคติดอีกรอบ ผมก็บอกเค้าไปว่าทำไมในอีเมล์ไม่เห็นแจ้งว่าคนที่ชำระด้วยบัตรเครดิตต่างประเทศต้องเป็นคนมาเชคอินด้วย สุดท้ายคือต้องเอาตั๋วไป refund แล้วให้ซื้อตั๋วใบใหม่แต่เที่ยวบินเดิม
ส่วนตั๋วของน้องสาวพี่สาวก็เป็นคนจองและจ่ายให้เป็นตั๋วของ แอร์เอเชีย เชคอินได้ปกติ ไม่ถามหาบัตรเครดิตคนจ่ายเลย สมมุติว่าตอนนั้นผมไม่มีเงินก็คือ ผมต้องกลับบ้านใช่ไหม
เมื่อได้ตั๋วใหม่ผมก็ไปเชคอินอีกรอบ แต่ไม่ใช่เค้าเตอร์เดิม เชคอินเสร็จก็กดโหวตในเรื่องการแก้ไขปัญหา ว่า แย่สุดๆ
โมโหสุด เพราะในอีเมล์แจ้งแค่ว่า ไปเชคอินที่เค้าเตอร์ใช้แค่ หมายเลขการจอง และบัตรประชาชน ซึ่งผมก็เตรียมไปแต่นั้นจริงๆ คิดว่าจะไปพักผ่อนแบบสบายใจในวันหยุดยาว แต่ก็ดันมีเรื่องให้โมโหก่อนจนได้
ถ้าคุณรู้ว่าเวลาลูกค้าไปเชคแล้วไม่ได้จ่ายด้วยบัตรเครดิตที่ออกในประเทศไทย ทำไมคุณไม่แจ้งเตือนตอนที่เค้าจ่ายเงินหน้าเว็บว่า เค้าต้องเป็นคนไปส่งผู้โดยสารด้วย การบวนการเก็บเงินนี่เร็วมาก แต่เวลาคืนเงินต้องรอเป็นเดือนสองเดือน
เรื่องนี้ผิดทั้งสองฝ่ายคือ พี่สาวผิดที่ไม่อ่าน FAQ ส่วนสายการบินผิดตรงที่เมื่อผู้โดยสารชำระด้วยบัตรเครดิตต่างประเทศแล้วไม่มีการส่งคำแนะนำหรือคำเตื่อนมาที่อีเมล์ว่าเจ้าของบัตรเครดิตจะต้องร่วมเดินทางด้วย หรือมาแสดงบัตรเครดิตที่ใช้ในการชำระเงิน ณ เคาน์เตอร์เช็คอิน
จากเรื่องที่เกิดขึ้นก็อยากจะขอเตือนเพื่อนๆที่อยู่ต่างประเทศแล้วไม่ได้ใช้บัตรเครดิตที่ออกในประเทศไทยชำระค่าจองตั๋วให้คนรู้จัก อย่าจองตั๋วกับสายการบินนี้เด็ดขาด ถ้าจะจองคุณต้องมาส่งและยืนยันตัวตนที่เค้าเตอร์เชคอินด้วย
ยังไงก็ฝากเรื่องนี้ถึงทีมงาน “นกแอร์” ด้วยว่าเมื่อลูกค้าชำระด้วยบัตรต่างประเทศควรขึ้นข้อความเดือนเค้าด้วยว่าเค้าต้องเป็นคนมาส่ง ไม่ใช่ไล่ลูกค้าไปซื้อตั๋วใหม่แบบนี้ หรือไม่ก็ทำแบบสายการบินอื่น ตั๋วเค้าก็จ่ายแล้ว จะมาเชคอะไรอีก รู้อยู่กว่ากลัวเอาบัตรคนอื่นมาจ่าย แต่คุณควรจะมีวิธีแก้ไขปัญหาที่ดีกว่านี้ ดูแอร์เอเชียเป็นตัวอย่างซะบ้าง
ประสบการ์ณแย่ๆ กับ “นกแอร์”
เมื่อกำหนดการงานแต่งใกล้เข้ามา และถึงเวลาที่ต้องเดินทางไปร่วมยินดีกับคู่บาวสาวแล้ว ผมก็ได้อาบน้ำแต่งตัวพร้อมเดินทางไปยังสนามบินดอนเมือง รถติดมาก แต่ก็ยังไปถึงก่อนเวลาขึ้นเครื่อง 1 ชั่วโมงครึ่ง ระหว่างเดิมทางไปที่สนามบิน ก็มีข้อความเข้า บอกว่าเทียวบิน Delay จะบินช้ากว่ากำหนด ซึ่งผมก็ไม่ได้ว่าอะไร เมื่อไปถึงสนามบินก็ให้แท็กซี่ไปส่งที่ Terminal 2 ตามคำแนะนำที่ถูกส่งมาพร้อมกับอีเมล์
เรื่องเกิดเมื่อผมเข้าไปเชคอินที่เค้าเตอร์ ผมก้อได้ยื่นตั๋วให้พนักงานตรวจพร้อมนำกระเป๋าเดินทางขึ้นชั่งน้ำหนัก พนักงานที่เค้าเตอร์จึงขอให้ผมแสดงบัตรเครดิตที่ใช้ในการชำระค่าตั๋ว ผมก็บอกกับพนักงานว่า ตั๋วนี้พี่สาวเป็นคนจองและจ่ายค่าตั๋วให้ ตอนที่จองพี่สาวยังอยู่อเมริกาอยู่เลย ผมไม่มีบัตรเครดิตเค้ามาให้ดูหรอก พนักงานก็ยืนกรานจะขอดูบัตรเครติดพี่สาวอย่างเดียว ตอนนั้นเริ่มโมโหแล้ว เลยถามไปว่าตั๋วใบนั้นยังไม่ได้จ่ายหรือป่าว พนักงานก็บอกว่าจ่ายแล้ว ผมก็เลยถามว่า ถ้าจ่ายแล้วทำไมผมจะเชคอินไม่ได้ พนักงานก็ยังถามหาบัตรเคติดอีกรอบ ผมก็บอกเค้าไปว่าทำไมในอีเมล์ไม่เห็นแจ้งว่าคนที่ชำระด้วยบัตรเครดิตต่างประเทศต้องเป็นคนมาเชคอินด้วย สุดท้ายคือต้องเอาตั๋วไป refund แล้วให้ซื้อตั๋วใบใหม่แต่เที่ยวบินเดิม
ส่วนตั๋วของน้องสาวพี่สาวก็เป็นคนจองและจ่ายให้เป็นตั๋วของ แอร์เอเชีย เชคอินได้ปกติ ไม่ถามหาบัตรเครดิตคนจ่ายเลย สมมุติว่าตอนนั้นผมไม่มีเงินก็คือ ผมต้องกลับบ้านใช่ไหม
เมื่อได้ตั๋วใหม่ผมก็ไปเชคอินอีกรอบ แต่ไม่ใช่เค้าเตอร์เดิม เชคอินเสร็จก็กดโหวตในเรื่องการแก้ไขปัญหา ว่า แย่สุดๆ
โมโหสุด เพราะในอีเมล์แจ้งแค่ว่า ไปเชคอินที่เค้าเตอร์ใช้แค่ หมายเลขการจอง และบัตรประชาชน ซึ่งผมก็เตรียมไปแต่นั้นจริงๆ คิดว่าจะไปพักผ่อนแบบสบายใจในวันหยุดยาว แต่ก็ดันมีเรื่องให้โมโหก่อนจนได้
ถ้าคุณรู้ว่าเวลาลูกค้าไปเชคแล้วไม่ได้จ่ายด้วยบัตรเครดิตที่ออกในประเทศไทย ทำไมคุณไม่แจ้งเตือนตอนที่เค้าจ่ายเงินหน้าเว็บว่า เค้าต้องเป็นคนไปส่งผู้โดยสารด้วย การบวนการเก็บเงินนี่เร็วมาก แต่เวลาคืนเงินต้องรอเป็นเดือนสองเดือน
เรื่องนี้ผิดทั้งสองฝ่ายคือ พี่สาวผิดที่ไม่อ่าน FAQ ส่วนสายการบินผิดตรงที่เมื่อผู้โดยสารชำระด้วยบัตรเครดิตต่างประเทศแล้วไม่มีการส่งคำแนะนำหรือคำเตื่อนมาที่อีเมล์ว่าเจ้าของบัตรเครดิตจะต้องร่วมเดินทางด้วย หรือมาแสดงบัตรเครดิตที่ใช้ในการชำระเงิน ณ เคาน์เตอร์เช็คอิน
จากเรื่องที่เกิดขึ้นก็อยากจะขอเตือนเพื่อนๆที่อยู่ต่างประเทศแล้วไม่ได้ใช้บัตรเครดิตที่ออกในประเทศไทยชำระค่าจองตั๋วให้คนรู้จัก อย่าจองตั๋วกับสายการบินนี้เด็ดขาด ถ้าจะจองคุณต้องมาส่งและยืนยันตัวตนที่เค้าเตอร์เชคอินด้วย
ยังไงก็ฝากเรื่องนี้ถึงทีมงาน “นกแอร์” ด้วยว่าเมื่อลูกค้าชำระด้วยบัตรต่างประเทศควรขึ้นข้อความเดือนเค้าด้วยว่าเค้าต้องเป็นคนมาส่ง ไม่ใช่ไล่ลูกค้าไปซื้อตั๋วใหม่แบบนี้ หรือไม่ก็ทำแบบสายการบินอื่น ตั๋วเค้าก็จ่ายแล้ว จะมาเชคอะไรอีก รู้อยู่กว่ากลัวเอาบัตรคนอื่นมาจ่าย แต่คุณควรจะมีวิธีแก้ไขปัญหาที่ดีกว่านี้ ดูแอร์เอเชียเป็นตัวอย่างซะบ้าง