อตีตา ตอนอวสาน อ่านไป น้ำตาก็ไหลไป

กระทู้สนทนา
http://www.thairath.co.th/ent/novel/arteta/ch17

          วันนี้หลังจากช่วงเช้าทำงานเสร็จ บ่าย ๆ ไม่ค่อยมีงานเราก็เลยมานั่งอ่านเรื่องย่อตอนสุดท้ายอตีตา
หน้าจอ PC เปิดไฟล์งาน Excel ใหญ่เต็มหน้าจอเลย แต่เปิด IE หน้าจอเล็ก ๆ ไว้มุมล่างซ้าย อิอิ แล้วก็นั่งจ้องอ่าน
เรื่องย่อตอนสุดท้าย ลูกพี่คงคิดว่าเรามีสมาธิในการทำแหล่ะ
          คือแบบว่า อ่านไปน้ำตาก็ซึมไป แต่ฉากที่คิดว่า ฟีคสุด ๆ น่าจะเป็น ฉากนี้

=========== ตัดมาบางตอน==========
"ท่านศรีห่วงว่ากระผมและคนอื่นจักตาย มิห่วงตัวเองฤา ท่านศรีต่างหากที่ต้องหาทางกลับสวรรค์ไปหาแม่ แลน้อง”

ศิโรตม์มองเมืองใจแล้วอึดอัดใจมาก แทบร้องไห้ด้วยความรู้สึกประดังประเด

“ฉันคิดถึงแม่ คิดถึงนายรส แต่หัวใจฉันตอนนี้เป็นคนบางระจันไปแล้วเมืองใจ เทวดาบ้าอะไรวะ ช่วยอะไรใครไม่ได้เลย”

“ได้สิขอรับ กระผมได้เพื่อนตาย ดีกว่าได้เทวดาเป็นไหนๆ”

สองหนุ่มสบตากัน เมืองใจจับไหล่ศิโรตม์และตอบหนักแน่นว่า

“ใช่...นายคือเพื่อนฉัน ฉันทิ้งนายไม่ได้”

“ขอบน้ำใจขอรับ”

ศิโรตม์มองเมืองใจแล้วอดใจไม่ได้ โผกอดเขาด้วยความซึ้งใจ “ฉันรักนายว่ะ รู้ไหม ตลอดชีวิตฉันไม่เคยมีเพื่อนแท้แบบนายเลย”

เมืองใจหน้าตื่นผลักศิโรตม์ออกห่าง “ท่านศรีทำเช่นนี้มิได้ขอรับ อายชาวบ้าน”

ศิโรตม์ชะงักแล้วยิ้มแหะๆ เมืองใจสีหน้าขรึมหันหลังเดินจากไป ไม่ได้ยินเสียงศิโรตม์บ่นพึมพำไล่หลังว่า

“ขอโทษนะเมืองใจ...ลืมไป ผู้ชายสมัยนี้เขาไม่กอดกันนี่นา”


ooooooo

หลังจากสูญเสียพ่อไปอย่างไม่มีวันกลับ จันกะพ้อจับดาบฝึกซ้อมการต่อสู้อย่างหนักเพื่อรอวันแก้แค้นให้พ่อและแม่

ผู้หญิงอีกหลายคนก็เช่นกัน ลุกขึ้นมาฝึกซ้อมดาบ ถึงคราวต้องไม่งอมืองอเท้า หากข้าศึกรุกล้ำเข้ามาทุกคนต้องสู้ยิบตา กาหลงคิดเช่นนั้นเหมือนกัน จึงซ้อมดาบอย่างเอาเป็นเอาตายเกือบพลาดฟันโดนจันกะพ้อ

“เกือบไปแล้วกาหลง เจ้าเกือบฟันเจ้าจันแล้ว”

“พี่เมืองใจ...ข้าไม่ได้ตั้งใจ”

“ข้ารู้”
============================//////

          พออ่านถึงบทนี้ เรานั่งมโน อมยิ้มแบบมีความสุขยังไงไม่รู้ 5555 รักกันจริงๆ ได้ไหมอ่ะ ให้ผู้หญิง เก้งกวาง ทั้งหลาย รวมทั้งผมด้วย เสียดายเล่นๆ คริคริ แต่ฉากที่เศร้าที่สุดและคงจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่อีก คือ ตอนท้าย เศร้ามาก


=========== ตัดมาบางตอน==========
ทันใด ควันเริ่มหนาลมพัดคล้ายพายุเข้าหน้าทั้งสองหนุ่ม ศิโรตม์ยกมือกางบังลมและเรียกหาเมืองใจว่าอยู่ไหน เมืองใจเองก็เรียกท่านศรีสวนไปมา
พริบตานั้น! วงแหวนประตูมิติค่อยๆเปิดจากกลุ่มควัน ศิโรตม์เห็นพระธรรมโชติเด่นชัด ได้ยินท่านบอกว่าหมดเวลาของเจ้าแล้ว

“ไม่! ผมไม่กลับ”

ศิโรตม์หันไปเจอเมืองใจที่ส่งยิ้มเศร้า ทั้งรักและอาลัย แต่จำต้องบอกว่าอภัยให้ตนด้วย ท่านศรีเพื่อนตายของตน

“อะไร...ทำไม...”

ศิโรตม์พูดไม่ทันขาดคำ เมืองใจผลักเขาเข้าสู่วงแหวนมิตินั้น ดาบในมือเขาหลุดลงกับพื้น!

พลันที่หน้าเวทีการแสดง ร่างศิโรตม์กระเด็นกลิ้งลงมาที่พื้น ศิรสวิ่งนำทั้งกลุ่มขึ้นไปด้วยความตกใจ

ศิโรตม์ตะลึงมองเวทีท่ามกลางหมอกควัน เห็นเมืองใจยืนสง่า เขาร่ำร้องจะไปหา แต่ถูกพวกศิรสฉุด

รั้งไว้ ลติกาคล้ายจะได้สบตากับเมืองใจ ทันใดข้าศึกห้าหกคนเข้ามารุมล้อมเมืองใจ ศิโรตม์โวยวายจะแล่นเข้าไปช่วยเพื่อนแต่ไม่สำเร็จ

เมืองใจก้มเก็บดาบของศิโรตม์แล้วหันไปสู้กับข้าศึกด้วยดาบสองมืออย่างไม่หวั่น แต่แล้วถูกรุมแทงจากดาบข้าศึกทุกทิศทาง ศิโรตม์เห็นเต็มสองตา ตะโกนสุดเสียง ตกใจสุดขีด

“เมืองใจ!!”

============================//////

           มีคำถามครับ ถ้าคุณเป็นศิโรฒม์ ได้ย้อนมิติกลับไปในอดีต ได้สู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับเพื่อนตายเพื่อปกป้องแผ่นดิน และคิดว่าตัวเองเป็นคนบางระจันไปแล้ว
ถึงคราวที่ต้องตัดสินใจครั้งสำคัญว่าจะอยู่สู้จนตัวเองต้องตายตามเมืองใจไป หรือว่าจะถอนตัวตัดสินใจกลับมายังโลกปัจจุบันของตน ท่านจะเลือกข้อไหนครับ ถ้าหากพระอาจารย์ธรรมโชติไม่ดึงคุณย้อนกลับโลกปัจจุบัน

          ถ้าเป็นผมนะ ก็คงตัดสินใจเหมือนศิโรตม์สู้และตายไปพร้อมกับเมืองใจเพื่อนรักของเขา  ( แต่ในโลกปัจจุบันนี้ เพื่อนที่ทำงานแทงผมข้างหลังจนพุ่น สะบัดสะบอมเลย 5555 แบบนี้ไม่เอานะ เชิญคุณตายไปคนเดียวเลย ) จบ สวัสดี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่