เลือกสถานปฏิบัติธรรมดีๆ นะครับ.. เข้มมาฆะ-ทหารพรึบ พุทธมณฑล

กระทู้ข่าว
เพื่อไม่ให้ชีวิตและจิตใจติดขัด.. ปีนี้บางสถานที่ควรหลีกเลี่ยงครับ

http://daily.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdNakl4TURJMU9RPT0

ก๊อปไม่กรอง...

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9216 ข่าวสดรายวัน


เข้มมาฆะ-ทหารพรึบ พุทธมณฑล

พศ.แจงแค่ปฏิบัติธรรม คณะสงฆ์ซัดกลุ่มใส่ร้าย หวังสกัดกั้นสมเด็จช่วง

รูป
พุทธมณฑล - ทหารตั้งด่านตรวจสอบรถยนต์เข้าออกพุทธมณฑล จ.นคร ปฐมเข้มงวด เพื่อดูแลการเดินทางมาปฏิบัติธรรมของกลุ่มพระสงฆ์ในวันมาฆบูชา และเฝ้าระวังการลอบสร้างสถานการณ์ต่างๆ เมื่อวันที่ 20 ก.พ.

ทหารเข้มรอบพุทธมณฑล-วันมาฆ บูชา สำนักพุทธฯ ยันแค่สงฆ์รวมตัวปฏิบัติธรรมวันสำคัญโดยทำมาทุกปี-ไม่มีนัยยะอื่นแอบแฝง ด้านอธิบดีดีเอสไอเผยวัดปากน้ำฯยังไม่ประสานขอคืนรถโบราณ หากจะคืนจริงพร้อมส่งจนท.ไปรับ-แต่จะลุยคดีต่อ เล็งถกกำหนดวันสอบสมเด็จช่วงในสัปดาห์หน้า กรณีลายเซ็นเป็นผู้ครอบครองรถโบราณ ขณะที่ฝ่ายกม.วัดปากน้ำฯ ระบุดีเอสไอยังไม่ติดต่อมา ปัดสมเด็จช่วงไม่อยากรับรถ-ห้ามพระลูกวัดให้ข้อมูล ส่วนคณะสงฆ์เสวนาทิศทางพระพุทธศาสนา โต้ 2 นิกายขัดแย้งกัน อัดพระรูปหนึ่งร่วมฆราวาสสร้างความขัดแย้ง วอนรัฐไปเบรกฝ่ายสร้างปัญหา ยันสงฆ์ไม่ออกมาชุมนุมวันมาฆบูชา เหตุรอคำตอบจากรบ. ซัดบางกลุ่มโยงสมเด็จช่วงกับธรรมกาย-หวังใส่ร้ายสร้างมลทิน ให้ขึ้นตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชไม่ได้

เมื่อวันที่ 20 ก.พ. พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงกระแสข่าวเจ้าหน้าที่ดีเอสไอจะเดินทางไปรับคืนรถโบราณของกลาง ยี่ห้อเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทะเบียน ขม 99 กรุงเทพฯ ของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ซึ่งจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์วัดปากน้ำฯ ว่า ตนทราบจากข่าวสารที่มีการเผยแพร่ว่าทางฝ่ายกฎหมายของวัดปากน้ำฯ มีความประสงค์จะคืนรถโบราณคันดังกล่าวให้ดีเอสไอ แต่ในส่วนของดีเอสไอนั้น ทางวัดปากน้ำฯ ยังไม่ได้ประสานมาอย่างเป็นทางการ แต่หากทางวัดมีความประสงค์จะคืนรถโบราณจริง ดีเอสไอก็พร้อมจะส่งพนักงานสอบสวนไปรับรถของกลางมา แต่เมื่อคืนรถแล้ว คดีในส่วนอื่นก็ยังดำเนินไป โดยยืนยันว่าดีเอสไอดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา สามารถตรวจสอบและชี้แจงให้สังคมรับทราบได้ทุกขั้นตอน

พ.ต.อ.ไพสิฐกล่าวต่อว่า ส่วนสัปดาห์หน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษในเรื่องการตรวจสอบรถโบราณของสมเด็จช่วง จะประชุมกำหนดทิศทางและวางแนวทางการทำงานหลังจากนี้ พร้อมทั้งจะทำหนังสือประสานไปยังวัดปากน้ำฯ เพื่อขอเข้าสอบปากคำสมเด็จช่วง กรณีปรากฏลายเซ็นเป็นผู้ครอบครองรถโบราณคันดังกล่าวด้วย ส่วนจะเป็นวันและเวลาใดนั้น ต้องรอให้วัดระบุมา นอกจากนี้ในที่ประชุมจะพิจารณาด้วยว่าจะส่งหนังสือเชิญบุคคลที่เกี่ยว ข้องกับการดำเนินการเรื่องเอกสารเกี่ยวกับรถคันดังกล่าวมาสอบปากคำด้วย

ขณะที่นายศุภภัทร์พจน์ นิติศศธร ฝ่ายกฎหมาย วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กล่าวว่า ดีเอสไอยังไม่ได้ประสานมายังวัดปากน้ำฯ เพื่อกำหนดวันเข้าสอบปากคำสมเด็จช่วง ในฐานะที่ท่านเป็นผู้ครอบครองรถยนต์โบราณที่นำเข้าและจดประกอบผิดกฎหมายตามที่ดีเอสไอแถลง ส่วนกรณีที่ท่านเปรยว่าไม่อยากรับรถยนต์คันดังกล่าวไว้แล้ว และสั่งพระลูกวัดห้ามพูดหรือให้ข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง หลวงพ่อสมเด็จท่านไม่เคยเปรยอะไรเลยทั้งสิ้น ขณะเดียวกันวันนี้ที่วัดปากน้ำฯ ท่านก็ปฏิบัติศาสนกิจเช่นเดิม คือ ทำวัตร สวดมนต์ และออกมาสนทนาธรรมกับญาติโยม

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับการตรวจสอบรถโบราณ ยี่ห้อเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทะเบียน ขม 99 กรุงเทพฯ ซึ่งมีชื่อของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วง เป็นผู้ครอบครองนั้น พนักงานสอบสวนได้จัดกลุ่มผู้ต้องสงสัยที่มีส่วนร่วมในรถโบราณคันดังกล่าวเป็น 4 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.กลุ่มผู้นำเข้าเครื่องยนต์ ตัวถังและอะไหล่ทั้งหมด 2.กลุ่มนำรถไปประกอบขึ้นใหม่ 3.กลุ่มนำเอกสารไปจดกับกรมสรรพสามิต ซึ่งในวันที่ดีเอสไอแถลงข่าวถึงผลการตรวจสอบรถโบราณคันดังกล่าวเมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้ปรากฏชื่อของนายชลัช เป็นผู้ดำเนินการนำเอกสารชุดประกอบรถยนต์ไปชำระภาษีสรรพสามิต และ 4.กลุ่มนำเอกสารไปจดกับกรมการขนส่งทางบก ซึ่งในกลุ่มนี้ก็เช่นกัน ในวันที่ดีเอสไอแถลงผลการตรวจสอบรถก็พบว่านายชลัช เป็นผู้ว่าจ้างนาย สมนึกในการนำรถยนต์ไปจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก ทั้งนี้ จากการแบ่งกลุ่มผู้ต้องสงสัยดังกล่าว ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างประสานผู้เกี่ยวข้องกับกลุ่มเหล่านี้เข้าให้ปากคำ

ด้านนายชยพล พงษ์สีดา รอง ผอ. สำนัก งานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) เปิดเผยว่า วันนี้ที่พุทธมณฑล เปิดโครงการปฏิบัติธรรมอย่างเป็นทางการ โดยสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สมศักดิ์ อุปสโม) เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม นำพระสงฆ์ในเขตปกครอง 1,250 รูป มาปฏิบัติธรรม เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ส่วนที่มีการระบุเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองสั่งจับตาการชุมนุมของพระสงฆ์ในวันมาฆบูชานั้น ยืนยันเป็นเพียงการรวมตัวของพระสงฆ์ เพื่อปฏิบัติธรรมในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เท่านั้น ซึ่งปฏิบัติติดต่อกันมาทุกปี เป็นเรื่องปกติธรรมดา ไม่มีนัยยะอื่นแอบแฝง ส่วนบรรยากาศโดยทั่วไป มีพุทธศาสนิกชนทยอยเดินทางมาทำบุญตามปกติ โดยทางเข้า-ออกพุทธมณฑล มีทหารคอยตรวจตราความเรียบร้อยตลอดเวลา ส่วนในวันที่ 21 ก.พ. เวลา 15.00 น. พระเจ้า วรวงศ์ เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จไปประทานรางวัลเสาอโศกแก่ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา 146 รูป/คน ที่หอประชุมพุทธมณฑล

รูป
พุทธมณฑล - ทหารตั้งด่านตรวจสอบรถยนต์เข้าออกพุทธมณฑล จ.นครปฐม อย่างเข้มงวด เพื่อดูแลการเดินทางมาปฏิบัติธรรมของกลุ่มพระสงฆ์ในช่วงเทศกาลวันมาฆบูชา และเฝ้าระวังการลอบสร้างสถานการณ์ต่างๆ เมื่อวันที่ 20 ก.พ.

ที่ห้องประชุมอาคารสุชีพ ปุญญานุภาพ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (มมร.) อ.ศาลายา จ.นครปฐม พระเทพวิสุทธิกวี (เกษม สัญญโต) ประธานศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย (ศพศ.) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชาธิวาส กล่าวภายในงานสัมมนาหัวข้อ "ทิศ ทางพระพุทธศาสนา ในสถานการณ์ปัจจุบัน" โดยมีพระสอนศีลธรรม ครูสอนวิชาพระพุทธศาสนา ผู้บริหาร โรงเรียนพระปริยัติธรรม และประชาชนทั่วไปร่วมงานกว่า 200 คนว่า คณะสงฆ์ 2 ฝ่ายระหว่างธรรมยุตกับมหานิกายทุกระดับไม่ได้มีความขัดแย้งกัน ที่สังคมมองว่าคณะสงฆ์มีความขัดแย้ง เพราะมีพระรูปหนึ่งที่ไม่ถือว่าเป็นคณะสงฆ์ได้ร่วมกับฆราวาสมาขัดแย้งกับคณะสงฆ์ หากคณะสงฆ์มีความขัดแย้งจะสามารถแก้กันภายในได้ ถึงอยู่ด้วยกันมา แต่ขณะนี้คณะสงฆ์กำลังถูกแทงด้วยหอก คนที่จับหอกก็พอทราบว่าเป็นใคร แต่เบื้องหลังผู้สั่งการยังไม่ทราบ ปัญหานี้โดยส่วนตัวมองว่าภาครัฐน่าจะเข้ามาช่วยแก้ปัญหา โดยไปทำความเข้าใจกับฝ่ายที่สร้างปัญหาให้เขาหยุดการกระทำ หากขอร้องกันไม่ได้ต้องใช้มาตรการสั่งห้ามใช้สื่อและใช้สถานที่ราชการ มาพาดพิงคณะสงฆ์ หากแก้ไขได้ปัญหาจะทุเลา

"สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ไม่รู้มีกรรมเก่าตั้งแต่อดีตชาติหรือไม่ จะขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราชยังมีผู้มาขัดแย้ง แต่ก็เข้าใจได้แม้พระพุทธเจ้ายังมีผู้ต้องการแย่งตำแหน่ง ดังนั้นท่านคงต้องใช้ขันติธรรมสู้ ส่วนวันที่ 22 ก.พ.นี้ พระสงฆ์จะออกมาชุมนุมหรือไม่ คงไม่ออกมา เพราะรัฐบาลรับเงื่อนไขของคณะสงฆ์ไปดำเนินการแล้ว ส่วนก่อนหน้านี้ที่พระสงฆ์ออกมาชุมนุมนั้น เพื่อต้องการให้รัฐบาลทราบว่า ปัญหาบ้านเมืองไม่ได้มีอยู่แค่นี้ คณะสงฆ์กำลังมองว่านี่คือกระบวนการล้มพระพุทธศาสนา ที่เป็นสถาบันหลักของคนไทย ดังนั้นเราต้องศึกษาปัญหาที่เคยบกพร่องในอดีตและมองปัจจุบัน เพื่อมองอนาคตว่าจะตั้งหลักอย่างไร ให้สังคมไทยอยู่ได้โดยไม่ต้องตกเป็นทาสของใคร" พระเทพวิสุทธิกวีกล่าว

ด้านพระราชญาณกวี (สุวิทย์ ปิยวิชโช) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก กล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในคณะสงฆ์ขณะนี้ ไม่รู้ว่าเป็นแผนการของใคร เพราะเห็นแต่ปลายหอกที่ทิ่มแทง แต่ไม่เห็นผู้จับด้ามหอก จึงต้องย้อนไปช่วงที่สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศวิหาร ได้รับการสถาปนาแต่งตั้งเป็นสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 เมื่อวันที่ 21 เม.ย. 2532 ระหว่างที่พระองค์ดำรงตำแหน่งกว่า 30 ปีนั้น ได้เกิดเหตุการณ์ใหญ่เกี่ยวกับคณะสงฆ์ถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกเกิดหลังจากการสถาปนาไม่นาน ในเดือนพ.ค.2532 มหาเถรสมาคม (มส.) ประกาศบัพพาชนีย กรรม (ขับสงฆ์ออกจากหมู่) ต่อพระโพธิรักษ์ สำนักสันติอโศก ซึ่งเหมือนเป็นการลงโทษประหาร แต่ไม่ตาย เพราะแยกตัวออกไปตั้งอีกลัทธิก่อน ต่อมาเหตุการณ์ครั้งที่ 2 เมื่อสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระลิขิตให้พระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาส วัดพระธรรมกาย ต้องอาบัติปาราชิก เหมือนสั่งประหาร แต่ฆ่าไม่ตายเช่นเดียวกัน ต่อมาทั้ง 2 องค์กรนี้ กลับขยายตัวใหญ่โตเพิ่มขึ้น จนต้องนำการเมืองเข้ามาแทรก

พระราชญาณกวีกล่าวต่อว่า บุคคลบางกลุ่มโยงสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ให้ไปเกี่ยวพันกับวัดพระธรรมกาย เพื่อใส่ร้ายให้ท่านมีมลทิน และขึ้นสู่ตำแหน่งสมเด็จสังฆราชไม่ได้ นี่เป็นการกระทำที่มากเกินไปหรือไม่ ขณะเดียวกันสถานะของมส.ตอนนี้ ทำไมจึงถูกคนดูหมิ่นดูแคลนมากเหลือเกิน อาตมาในฐานะผู้อยู่ภายใต้การปกครองของมหาเถรฯ รู้สึกไม่สบายใจ ขณะนี้มหาเถรฯ มีมติอะไรออกมาคนขัดแย้งหมด ดังนั้นเพื่อไม่ให้สถานการณ์ลุกลาม หากใครที่ต้องการปฏิรูปกิจการคณะสงฆ์ให้ร่างเป็นหนังสือและนำไปกราบเรียนมหาเถรฯ โดยตรง หากท่านปรารถนาดีไม่จำเป็นต้องโพนทะนาผ่านสื่อ

ที่ถนนข้าวสาร น.ส.อัจฉราวดี วงศ์สกล ประธานมูลนิธิโนอิ้งบุดด้า เพื่อปกป้องพระพุทธศาสนา และนักปฏิบัติธรรมกว่า 300 คน เดินทางมารวมตัวกันที่ถนนข้าวสาร เพื่อรณรงค์ปกป้องพระพุทธศาสนา พร้อมเรียกร้องให้ชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหยุดสนับสนุนและซื้อขายสัญลักษณ์ของพระพุทธ เจ้า ซึ่งถือเป็นการลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์และบ่อนทำลายพุทธศาสนา

หน้า 1
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่