“ติ๋ม ทีวีพูล” ยอมรับทำธุรกิจล้มเหลวครั้งแรกในชีวิต เผยลุยดิจิตอล 1 ปีขาดทุนยับพันกว่าล้าน ยืนกรานไม่ปิดธุรกิจหนังสือเพราะเป็นบ่อข้าวบ่อน้ำของลูก ชี้ถ้าเป็นคนอื่นคงโดดตึกตายไปแล้ว มั่นใจไม่ล้มละลาย บอกกว่าศาลจะตัดสินคงมีเงินถึงหมื่นล้านมาจ่ายหนี้แน่นอน เดินหน้าฟ้องกลับ กสทช. พันกว่าล้าน! ประกาศสร้างหอสวดมนต์ คนทำดีต้องได้ดี คนทุกข์ต้องเป็นคนชั่ว!
       
       ถูกสื่อตีข่าวว่าบริษัทขาดทุนกว่า 1,900 ล้านบาทจากการทำธุรกิจทีวีดิจิตอล 2 ช่อง ทั้งช่องไทยทีวี และช่องโลก้า โดยระบุว่าหากกสทช. ยึดแบงค์การันตีจากธนาคารกรุงเทพ ผู้ออกหนังสือค้ำประกันแล้ว “ติ๋ม ทีวีพูล” หรือ “พันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย” เจ้าแม่สื่อบันเทิงยักษ์ใหญ่ของเมืองไทยจะล้มละลายทันที ไม่เหลือแม้กระทั่งบ้านของตนเอง
       
       กระแสแรงแบบนี้ เจ๊ติ๋มคงนิ่งเฉยไม่ได้ ล่าสุดวันนี้ (18 กพ.) ได้ควงทนายส่วนตัว “สุชาติ ชมกุล” และ “วีรวัฒน์ วรรณกุล” มาแถลงด่วนถึงประเด็นร้อน ที่ออฟฟิศทีวีพูล ซอยลาดพร้าว 101 ยอมรับเจ๊งยับแต่ไม่ล้มละลาย กว่าศาลจะตัดสินถึงตอนนั้นตนคงมีเงินถึงหมื่นล้านมาจ่ายหนี้แน่นอน
       
       เจ๊ติ๋มยืนยันว่าเรื่องทั้งหมดตนไม่ได้เป็นฝ่ายผิด ตอนนี้ยื่นเรื่องขอความคุ้มครองกับศาลปกครองอยู่ ขอให้ศาลมีคำสั่งระงับการจ่ายแบงค์การันตี จนกว่าจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด ขอให้ศาลพิพากษาถึงที่สุดก่อนว่าใครจะต้องเป็นคนจ่าย เพราะฟ้องกลับกสทช.พันกว่าล้าน ยืนยันนิตยสารในเครือทีวีพูลจะไม่ปิดเพราะเป็นบ่อข้าวบ่อน้ำของลูกๆ เพราะให้เรียนด้านสื่อมาโดยตรงจากต่างประเทศ และธุรกิจในเครือยังดีอยู่ แต่ไม่ดีเท่าเดิมเพราะระบบเศรษฐกิจปีนี้จะมีอีก 2 เว็บและ 2 เฟซบุ๊กเกิดขึ้นเพราะเฟซบุ๊กที่มีอยู่ไปได้ดีมาก
       
       ยอมรับเป็นโปรเจ็กต์แรกในชีวิตที่ทำแล้วล้มเหลว คนที่ทำดิจิตอลเจ็บตัวหมดทุกราย เพียงแต่ไม่ออกมาพูดกัน ส่วนเรื่องโดนฟ้องถึงขั้นล้มละลายนั้น ตนไม่รู้ว่าจะถึงขั้นนั้นหรือเปล่าเพราะยังอยู่ในการคุ้มครองของศาลปกครอง และกว่าคำตัดสินจะสิ้นสุด ตนคงมีเงินถึงหมื่นล้านแล้ว เพราะระยะเวลาในการฟ้องต้องใช้เวลานานมาก อาจเป็นสิบๆ ปี กว่าจะถึงตอนนั้นตนก็มีเงินจ่ายสบายๆ
       
       ยืนยันไม่เคยไล่พนักงานออก มีแต่บางส่วนที่ขอออกเอง เผยถ้าเป็นคนอื่นคงโดดตึกตายไปแล้ว โดนฟ้องพันกว่าล้าน แต่ตนใช้ธรรมะเข้าช่วย เชื่อตนไม่ได้ทำอะไรผิดเลย และเงินทั้งหมดที่เก็บมาทั้งชีวิตก็มาลงตรงนี้หมด แต่ก็ไม่เคยคิดว่าจะเป็นแบบนี้
       
       ด้านทนายยืนยันเจ๊ติ๋มไม่ต้องจ่ายเงินที่กสทช.เรียกร้อง เพราะตอนนี้เรื่องยังอยู่ในการพิจารณาของศาล ขอให้มีคำพิพากษาออกมาก่อน และถึงจะต้องจ่ายแบงค์ก็การันตีมาแล้ว เอาหลักทรัพย์ไปค้ำประกันสามารถจ่ายได้สบายๆ แต่ผลกระทบจากนี้กับคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด พนักงานทั้งหมดอาจจะเป็นหมื่นล้านใครจะรับผิดชอบ ขอให้รอคำพิพากษาออกมาก่อน
       
       เจ้าแม่สื่อบันเทิงยักษ์ใหญ่ยังเผยอีกว่าตั้งแต่ทำดิจิตอลมา 1 ปีตนขาดทุนพันกว่าล้าน ได้กลับมาเดือนๆ หนึ่งไม่ถึง 3 ล้าน ใครจะไปสู้ไหว รวมแล้วรายได้ 30 ล้าน แต่หายไปพันกว่าล้าน ไปขายเต้าฮวยยังได้มากกว่า ยืนยันยังไงก็ไม่ทิ้งวงการสื่อ เป็นน้ำหล่อเลี้ยงของลูกๆ และต่อไปจะเดินสายให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องธรรมะตามมหาวิทยาลัย เพราะหลังๆ ศึกษาหลักธรรมะเยอะมาก และตนไม่ขอทำงานกับรัฐอีกแล้ว ยกเว้นช่อง 5 ที่ยังทำตามสัญญา แต่ที่อื่นตนไม่เอาอีกแล้ว โดยในวันที่ 23 ก.พ. เวลา 13.00 น. ศาลปกครองนัดไต่สวนเรื่องที่ฟ้องกสทช.
       
       ทนายย้ำมั่นใจในหลักฐานเพราะทุกคนทั้งประเทศก็เห็นอย่างชัดเจนว่าใครเป็นคนผิด แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าจะชนะหรือเปล่า แต่ก็มีเหมือนกันที่รัฐแพ้ และต้องจ่ายเงินเยอะด้วย ยืนยันยังไม่โดนล้มละลาย บอกกว่าจะตัดสินอีกหลายสิบปี กว่าจะถึงตอนนั้นเงินก็คงเพิ่มพูนมากขึ้นกว่านี้เยอะ
       
       เจ๊ติ๋มเปิดใจต่อว่าตนจ่ายงวดแรกไป 300 กว่าล้านแล้ว และค่าอื่นๆ อีก และเป็นช่องที่ผลิตละครมากที่สุด แต่กสทช.ไม่ช่วยสนับสนุน ตอนหนึ่งหมดไปเกือบล้าน แต่คนดูมีแค่หมื่นคนก็ไม่ไหว ทำ 8 เรื่องทั้งหมดแต่ขาดทุนยับ นอกจากนี้ยังเผยว่าอีก 2 ปีจะเอานิตยสารทีวีพูลเข้าตลาดหลักทรัพย์ เพราะยังทำกำไรอยู่ ส่วนก่อนหน้านี้มีคนติดต่อมาขอสัมภาษณ์แต่ตนไม่รับเอง เพราะไม่ว่าง สวดมนต์อยู่ ตอนนี้กำลังเดินหน้าสร้างหอสวดมนต์ คนทำดีต้องได้ดี คนทำบุญต้องดดี มีความสุข คนที่ทุกข์คือคนทำชั่ว

http://manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9590000017783

.....................

เจ๊ติ๋ม เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า บอกฟ้องใช้เวลาเป็นสิบๆปี

คดีทั่วไปนะใช่ แต่กรณี ยึดแบงค์การันตี จัดการได้เลย เจ๊ทำได้แค่ ยื่นขอให้ศาลคุ้มครอง แต่ถ้าศาลไม่คุ้มครองก็จบ

กสทช ก็ยึดได้เลย ธนาคาร กรุงเทพ ก็มีหน้าที ยึดทรัพย์ที่มาค้ำ แล้วก็ขาดทอดตลาด ตามกระบวนการ

เจ๊แกเอาอะไรมาพูด ว่ากว่าคดีจะจบ เป็นสิบๆปี