คำสอนในพระพุทธศาสนา ที่พระสงฆ์ไม่ว่าท่านจะเทศน์ผ่านยูทิวป์ ให้ดาวน์โหลดจากเว็บ หรือ พิมพ์หนังสือขายหรือแจก
ท่านพยายามสอนให้ คนทั่วไป สันโดษ เห็นแจ้งในทุกข์ เพื่อให้เกิดสุข รู้ทันจิตและการเปลี่ยนแปลงของจิต ที่มีการเกิด ตั้งอยู่ ดับไป
แต่สิ่งที่ผมพบในข่าว กลับพบว่า ท่านเหล่านั้น หรือ ลูกศิษย์วัด เหล่านั้น
นิยมในพุทธพาณิชย์ สร้างพระ ขายพระ (รวมถึงวัดสังฆราชองค์เก่า) ลูกศิษย์ที่สร้างพระขาย ขับรถยุโรปป้ายแดง
ส่วนวัดพระธรรมกายที่ผมเคยทำบุญด้วย ทางบ้านญาติที่เคยเป็นผู้ติดต่อกับผู้นำบุญโดยตรง ก็โดนผู้นำบุญปฏิเสธ
เนื่องจากทางเราไม่สามารถทำบุญ แผ่นหินที่จะสร้างภายในวัด เดินแม้ตอนกลางวันก็ไม่ร้อนจำนวนหลายหมื่นบาทได้ (เพราะ ยอดขายที่ร้านแย่ลง)
ทั้งหมดทั้งปวง ทำให้ผม ตั้งแต่เล็ก นิยมตักบารตพระ กลายเป็น หันมาสนใจในคำสอนมากกว่า
แต่หลังจากนั้น ก็พบว่า พระที่สอน กลับไม่สามารถปฏิบัติได้ ตามคำที่พวกเค้าสอน
แย่ยิ่งกว่านั้น ในกรณีปัจจุบัน ตำแหน่ง พระสังฆราชา
กลายเป็นเรื่อง "สิทธิ์" ว่านิกายนี้คราวที่แล้วได้ คราวนี้ต้องเป็นของนิกายนี้บ้าง
พระสงฆ์ ที่ท่านขึ้นไปได้ถึงจุดนั้น ทำไมท่านกลับยึดมั่นถือมั่นในตำแหน่งมากขึ้นละ
ทำไมท่านไม่ "สละ" "ละ" "เลิก"
ไม่สันโดษ ไม่พอใจกับความสุขเล็กๆ
กลับพบเจอ แต่ พระ ที่สะสมทรัพย์ ไม่มีวันพอ (เช่น เณร ที่บินหนีไป ตปท. พร้อมทรัพย์สิน เพชรพลอยมากมาย แล้ว มหาเถระฯ ก็ไม่ทำไร)
อย่างพระ ระดับ เจ้าคุณฯ ที่บ้านญาติรู้จัก ก็กลายเป็นมีการเส้นสาย ว่า ลูกศิษย์ ของตน ต้องไปเป็นเจ้าอาวาสที่วันในท้องถิ่นของตน
กุฏิในวัดดังนั้น เป็นสิทธิ์ของ เจ้าคุณฯ ดังนั้น พระรูปอื่นที่ไม่ใช้ลูกศิษย์ หรือ สายท่าน ก็ไม่มีสิทธิ์มาอาศัย
กุฏิวัดพระทอง ใจกลางกรุง ก็กลายเป็นแหล่ง เช่าพระ ขายพระ โดนมี "สีกา" เป็นคนจัดการ อยู่ในกุฏิ ที่ติดแอร์ ปิดสนิท (เหมาะสมไหม)
นี่มันอะไร นี่มันอะไร
สุดท้าย ถ้าหลายท่านในนี้จะมาบอกว่า ต้องปฏิบัติ ต้องสันโดษ ต้องไม่โลภ โกรธ หลง
ผมว่า ผมหมดศรัทธา
ผมไม่ได้ทำบุญกับวัด มานานมากแล้ว ไม่ใส่บาตร แต่ยังคงภาวนาในบทสวดมนต์ที่ตนทำแล้วสบายใจ
ผมเบื่อภาพ พระ กปปส. เบื่อภาพ พระ ฝ่ายที่อยากดันเจ้านายตัวเองให้เป็นสังฆราช
ผมเบื่อภาพ พระเพศที่สาม ที่ทำตัวไม่เหมาะสมลงสื่อสังคมออนไลน์ ไม่ว่าจะโชว์กล้าม หรือ โชว์สาว (ถ้าเป็นก็สึกออกมาเหอะ โชว์กล้าม โชว์สาวไม่เป็นไร)
ผมเบื่อภาพ ที่พระสงฆ์ ไปเรียน ตปท. ไม่ว่าอินเดีย เมกาฯ อังกฤษ กลับมาแล้ว ก็ได้แต่เข้าสังคม คุย ภาษา ตปท. ไม่เห็นหัวคนไทย
ทุกวันนี้ ผมทำมาหากิน เพื่อตัวเอง ครอบครัว ผมพยายามห่างวัด แต่ไม่ห่างจากคำสอนของพระพุทธเจ้า
ทุกวันนี้ ถ้าเสื่อม ก็เสื่อม เพราะ มหาเถระสมาคม ท่านไม่ทำอะไร ท่านอุเบกขา
ถ้าท่านไม่ทำอะไรให้มากกว่านี้ มันจะกลายเป็นว่า ท่านเป็นเหตุของความเสื่อมทั้งปวง ทั้งๆที่ท่านมีอำนาจจัดการ
ลงโทษให้เด็ดขาด พระที่รับเงิน พระที่สร้างพระขาย พระที่เก็บทรัพย์สิน พระที่เป็นเพศที่สาม
ความในใจก็ระบายไปแล้ว ลาก่อน พุทธศาสนาในไทย
ผมรู้สึกว่า การกระทำของพระสงฆ์ในปัจจุบัน มันขัดแย้งกับคำสอนในพระพุทธศาสนาไปทุกที คนยิ่งใกล้วัด กลับทำตัวห่างวัด
ท่านพยายามสอนให้ คนทั่วไป สันโดษ เห็นแจ้งในทุกข์ เพื่อให้เกิดสุข รู้ทันจิตและการเปลี่ยนแปลงของจิต ที่มีการเกิด ตั้งอยู่ ดับไป
แต่สิ่งที่ผมพบในข่าว กลับพบว่า ท่านเหล่านั้น หรือ ลูกศิษย์วัด เหล่านั้น
นิยมในพุทธพาณิชย์ สร้างพระ ขายพระ (รวมถึงวัดสังฆราชองค์เก่า) ลูกศิษย์ที่สร้างพระขาย ขับรถยุโรปป้ายแดง
ส่วนวัดพระธรรมกายที่ผมเคยทำบุญด้วย ทางบ้านญาติที่เคยเป็นผู้ติดต่อกับผู้นำบุญโดยตรง ก็โดนผู้นำบุญปฏิเสธ
เนื่องจากทางเราไม่สามารถทำบุญ แผ่นหินที่จะสร้างภายในวัด เดินแม้ตอนกลางวันก็ไม่ร้อนจำนวนหลายหมื่นบาทได้ (เพราะ ยอดขายที่ร้านแย่ลง)
ทั้งหมดทั้งปวง ทำให้ผม ตั้งแต่เล็ก นิยมตักบารตพระ กลายเป็น หันมาสนใจในคำสอนมากกว่า
แต่หลังจากนั้น ก็พบว่า พระที่สอน กลับไม่สามารถปฏิบัติได้ ตามคำที่พวกเค้าสอน
แย่ยิ่งกว่านั้น ในกรณีปัจจุบัน ตำแหน่ง พระสังฆราชา
กลายเป็นเรื่อง "สิทธิ์" ว่านิกายนี้คราวที่แล้วได้ คราวนี้ต้องเป็นของนิกายนี้บ้าง
พระสงฆ์ ที่ท่านขึ้นไปได้ถึงจุดนั้น ทำไมท่านกลับยึดมั่นถือมั่นในตำแหน่งมากขึ้นละ
ทำไมท่านไม่ "สละ" "ละ" "เลิก"
ไม่สันโดษ ไม่พอใจกับความสุขเล็กๆ
กลับพบเจอ แต่ พระ ที่สะสมทรัพย์ ไม่มีวันพอ (เช่น เณร ที่บินหนีไป ตปท. พร้อมทรัพย์สิน เพชรพลอยมากมาย แล้ว มหาเถระฯ ก็ไม่ทำไร)
อย่างพระ ระดับ เจ้าคุณฯ ที่บ้านญาติรู้จัก ก็กลายเป็นมีการเส้นสาย ว่า ลูกศิษย์ ของตน ต้องไปเป็นเจ้าอาวาสที่วันในท้องถิ่นของตน
กุฏิในวัดดังนั้น เป็นสิทธิ์ของ เจ้าคุณฯ ดังนั้น พระรูปอื่นที่ไม่ใช้ลูกศิษย์ หรือ สายท่าน ก็ไม่มีสิทธิ์มาอาศัย
กุฏิวัดพระทอง ใจกลางกรุง ก็กลายเป็นแหล่ง เช่าพระ ขายพระ โดนมี "สีกา" เป็นคนจัดการ อยู่ในกุฏิ ที่ติดแอร์ ปิดสนิท (เหมาะสมไหม)
นี่มันอะไร นี่มันอะไร
สุดท้าย ถ้าหลายท่านในนี้จะมาบอกว่า ต้องปฏิบัติ ต้องสันโดษ ต้องไม่โลภ โกรธ หลง
ผมว่า ผมหมดศรัทธา
ผมไม่ได้ทำบุญกับวัด มานานมากแล้ว ไม่ใส่บาตร แต่ยังคงภาวนาในบทสวดมนต์ที่ตนทำแล้วสบายใจ
ผมเบื่อภาพ พระ กปปส. เบื่อภาพ พระ ฝ่ายที่อยากดันเจ้านายตัวเองให้เป็นสังฆราช
ผมเบื่อภาพ พระเพศที่สาม ที่ทำตัวไม่เหมาะสมลงสื่อสังคมออนไลน์ ไม่ว่าจะโชว์กล้าม หรือ โชว์สาว (ถ้าเป็นก็สึกออกมาเหอะ โชว์กล้าม โชว์สาวไม่เป็นไร)
ผมเบื่อภาพ ที่พระสงฆ์ ไปเรียน ตปท. ไม่ว่าอินเดีย เมกาฯ อังกฤษ กลับมาแล้ว ก็ได้แต่เข้าสังคม คุย ภาษา ตปท. ไม่เห็นหัวคนไทย
ทุกวันนี้ ผมทำมาหากิน เพื่อตัวเอง ครอบครัว ผมพยายามห่างวัด แต่ไม่ห่างจากคำสอนของพระพุทธเจ้า
ทุกวันนี้ ถ้าเสื่อม ก็เสื่อม เพราะ มหาเถระสมาคม ท่านไม่ทำอะไร ท่านอุเบกขา
ถ้าท่านไม่ทำอะไรให้มากกว่านี้ มันจะกลายเป็นว่า ท่านเป็นเหตุของความเสื่อมทั้งปวง ทั้งๆที่ท่านมีอำนาจจัดการ
ลงโทษให้เด็ดขาด พระที่รับเงิน พระที่สร้างพระขาย พระที่เก็บทรัพย์สิน พระที่เป็นเพศที่สาม
ความในใจก็ระบายไปแล้ว ลาก่อน พุทธศาสนาในไทย